ทุกครั้งที่เราพบกับคุณหลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามพรานฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ HappyMate เหมือนเข็มเวลาเดินย้อนกลับ เพราะคุณหลิงมักปรากฏตัวด้วยใบหน้าสวยสดชื่นและสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งล้วนมาจากการดูแลตัวเองผ่านอาหารที่ดีและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

คุณหลิงเล่าว่าตอนนี้มีความสุขกับการกิน Whole Food, Plant-Based Vegan คืออาหารจากพืชที่ไม่แปรรูป โดยไม่มีผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่กว่าจะเจอการกินที่เหมาะกับตัวเอง คุณหลิงผ่านมาแล้วหลายรูปแบบ จากวัยรุ่นที่โตในอเมริกา ชอบกินอาหารฟาสต์ฟู้ด ก้าวเข้าสู่โลกอาหารสุขภาพครั้งแรกตอนเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย


“หลิงได้รู้จักคำว่าออร์แกนิคครั้งแรกตอนไปเดินงานแฟร์ชื่อ Natural Food Expo ในแอลเอกับคุณป้าชาวมาเลเซีย ซึ่งทำธุรกิจสินค้าและอาหารเพื่อสุขภาพในมาเลเซียอยู่แล้ว ในงานหลิงได้เจอหนังสือชื่อ A New World ที่ทำให้ได้รู้ว่าโครงสร้างของมนุษย์ถูกออกแบบมาให้กินผักไม่ใช่เนื้อสัตว์ ซึ่งยังเก็บไว้ถึงทุกวันนี้ค่ะ”

ในงานเดียวกันคุณหลิงได้พบกับคุณแพทรีเซีย ลูกสาวเจ้าของแบรนด์แอปเปิลไซเดอร์ Bragg ผู้หญิงอายุ 70 ปีที่กินมังสวิรัติและสดใสเบิกบานจากภายใน จุดประกายเรื่องการกินมังสวิรัติ และงดเนื้อสัตว์อย่างจริงจังในวันที่เห็นการทุบหัวปลาเข้าโดยบังเอิญ

คุณหลิงแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวให้ฟังต่อว่า ในสมัยนั้นแม้จะงดเนื้อสัตว์แต่ยังกินนมและไข่ ไม่ยอมกินไขมันดีเพราะห่วงเรื่องอ้วน ด้วยการกินแบบสุดโต่งเป็นเวลาหลายปี ผลที่ตามมาคือร่างกายไม่แข็งแรง ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ถึงขั้นประจำเดือนขาดไปหลายเดือน เธอจึงปรับการกินด้วยการกลับมากินเนื้อสัตว์อีกครั้ง (แต่ยังรักการกินผักเหมือนเดิม) ควบคู่กับการออกกำลังกาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องสู้กับภูมิแพ้และโรคไทรอยด์เป็นพิษ จากนั้นคุณหลิงทดลองกินคีโตฯ หรือการกินแบบ Low Carb, High Fat อยู่ปีกว่า แล้วพบว่าไม่เหมาะกับร่างกาย แม้จะผอมไวในช่วงแรก แต่ในระยะยาวหากกินคาร์บเกินเพียงเล็กน้อยก็ทำให้น้ำหนักขึ้นได้

“หนึ่งเดือนก่อนโควิด โชคดีว่าไปเจอกับช่องยูทูบของผู้หญิงคนหนึ่ง เขาเคยเป็นโรคเกี่ยวกับมดลูกและผ่านการกินมาหลายแนว รวมถึงคีโตฯ ด้วย แต่ตอนนี้เขากินแบบมีความสุข หุ่นดี เพราะกินแพลนต์เบส ตอนแรกหลิงยังไม่กล้านะ จากที่เคยตัดคาร์บให้มากินคาร์บเป็นหลัก แต่เขาบอกว่ามันฝรั่งกินได้ เราก็ตัดสินใจลอง จังหวะเดียวกับโควิดระบาด ต้องกักตัวอยู่บ้าน เราเลยทำอาหารกินเอง ปรากฏว่าได้ผล ดีใจที่สุดคือเราไม่ต้องอดอาหารแล้ว ไม่ต้องมานั่งนับแคลอรี เวลาเล่นโยคะรู้สึกว่าประสิทธิภาพของร่างกายดีกว่าตอนกินคีโตฯ กล้ามเนื้อสร้างเร็วกว่า สุขภาพโดยรวมดีขึ้น จากวันนั้นจนถึงวันนี้ หลิงกิน Plant-Based, Whole Food Vegan โดยไม่มีเนื้อสัตว์เลย รู้สึกว่ากล้ามเนื้อดีขึ้น ผิวดีขึ้น ระบบขับถ่ายดี และกินอิ่ม 3 มื้อ

“หลิงพูดเสมอว่าคนที่จะกินแพลนต์เบสต้องกินโปรตีนให้ถึง จะกินแต่ผักไม่ได้ อย่างไขมันหลิงยังกินอยู่ แต่กินแบบ Whole Food ส่วนโปรตีนหลิงจะเน้นการกินเทมเป้และถั่วเปลือกอ่อน เช่น ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วขาว ถั่วลูกไก่”

Her Daily Meals : ทุกเช้าคุณหลิงจะเริ่มต้นวันด้วยการดื่มแอปเปิลไซเดอร์วินีการ์ จากนั้นยืดเส้นยืดสายด้วยการเล่นโยคะ มื้อเช้าต้องมีเทมเป้ 1 ชิ้นใหญ่ ทาซอสที่ชอบแล้วนำไปย่าง กินคู่ผักสด และน้ำมันมะกอกที่ลดการอักเสบของร่างกาย มื้อกลางวันเป็นเมนูง่ายๆ อย่างถั่วขาวต้มมิโซะใส่สาหร่ายและเห็ด มื้อเย็นเน้นถั่วกับผัก อาจเป็นแรปผักกับเทมเป้ หรือนำถั่วมาทำแกงเขียวหวาน ลาบ รวมถึงเมนูเด็ดอย่างมะตะบะเทมเป้ อาจาดจากแอปเปิลไซเดอร์กับน้ำตาลมะพร้าว
ส่วนวันไหนจำเป็นต้องกินอาหารนอกบ้าน คุณหลิงบอกว่าเคล็ดลับง่ายๆ คือเตรียมเทมเป้ใส่กล่องพกไปกินก่อนมื้ออาหาร จะได้อิ่มแบบสบายใจ
Did You Know? จากการพบกันครั้งแรกในงาน Natural Food Expo หลายปีต่อมาคุณหลิงได้เป็นผู้นำเข้าและผู้แทนจำหน่าย Bragg Apple Cider Vinegar น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิลออร์แกนิคจากสหรัฐอเมริกาเพียงรายเดียวในประเทศไทย (www.bragg.com)
Tag:
HappyMate, อาหารเพื่อสุขภาพ, อาหารแพลนต์เบส
ความคิดเห็น