10 สูตรหมูสามชั้น อ้วนไม่กลัว กลัวไม่ได้กิน

วันที่ 7 เมษายน 2564  29,611 Views (0 รีวิว)

เอาใจคนรัก “หมูสามชั้น” กันหน่อย ไม่ว่าจะเนื้อสัมผัสนุ่มๆ เด้งๆ จากการต้ม หรือถ้าทอดก็จะได้ความกรุบกรอบ แต่จะด้วยกรรมวิถีแบบไหน ‘หมูสามชั้น’ ก็ยังเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่หลายคนเทใจให้รัวๆ ใครอยากได้สูตรหมูสามชั้นอร่อยๆ เร่เข้ามาทางนี้

★ 1. ข้าวผัดกิมจิสามชั้นกระทะร้อน ★

ข้าวผัดกิมจิสามชั้นกระทะร้อน

ข้าวผัดกิมจิสามชั้นที่เพิ่มชีสเพื่อเสริมอรรถรสในการกินให้ฟินยิ่งขึ้น

ส่วนผสม

  • หมูสามชั้นหั่นชิ้นเล็ก 1/2 ถ้วย
  • กิมจิผักกาดขาว  100 กรัม
  • โคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวญี่ปุ่น 1 1/2 ถ้วย
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  • ต้นหอมหั่นท่อน 2 ต้น
  • แคลิฟอร์เนีย พิซซ่า เบลน ชีส (มอสซาเรลล่า 80%, เชดดาร์ 10%, โปรโวโลน 10%)    1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ผัดหมูสามชั้นกับน้ำมันพอสุก ใส่กิมจิและโคชูจัง ผัดให้เข้ากัน
  2. ใส่ข้าว ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาล โรยต้นหอม ผัดให้เข้ากัน ตักใส่กระทะร้อน
  3. ใส่แคลิฟอร์เนีย พิซซ่า เบลน ชีส พอชีสเริ่มละลายยกลง เสิร์ฟร้อนๆ

★ 2. หมูสามชั้นตุ๋น ตง ปอ โย่ ★

หมูสามชั้นตุ๋น “ตง ปอ โย่”

หมูสามชั้นตุ๋นจนเปื่อยนุ่ม ใส่ชะเอมเทศ และใส่เหล้าจีน 2 ชนิดเพื่อทำให้มีกลิ่นหอม กินคู่กับหัวไช้เท้า

ส่วนผสม (สำหรับ 4-6 ที่)

  • หมูสามชั้น    1-2  กิโลกรัม
  • เหล้าขาวจีนทำจากกุหลา 1,000     มิลลิลิตร
  • ต้นหอมญี่ปุ่น   2-3  ต้น
  • ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำตาลกรวด และชะเอมเทศอย่างละเล็กน้อย
  • น้ำสต๊อกหมูและไก่
  • หัวไช้เท้าหั่นแว่นหนา

วิธีทำ

  1. หั่นหมูสามชั้นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 3 × 3 นิ้ว ต้มหมูพร้อมกับส่วนผสมทั้งหมดในหม้อใบใหญ่ใช้ไฟอ่อนนาน 5 ชั่วโมงจนน้ำงวดเหลือครึ่งหนึ่งเก็บไว้เป็นซอส ชิมให้มีรสหวานนำ เค็มตาม
  2. ต้มหัวไช้เท้าในน้ำสต๊อกจนนิ่ม จัดใส่จาน วางหมูสามชั้น ราดซอส

★ 3. ปลาเค็มต้มหมูสามชั้นแบบไหหลวม ★

ปลาเค็มต้มหมูสามชั้นแบบไหหลวม

หมูสามชั้นจี่หอมๆ พร้อมต้มกับปลาเค็ม ขิงแผ่น พริกแห้ง และรากผักชี ปรุงรสด้วยน้ำมันหอยและเหล้ามิริน

ส่วนผสม

  • หมูสามชั้นอย่างดี 400 กรัม (หั่นประมาณ 1 นิ้ว)
  • (หมักหมูกับน้ำปลา เกลือ น้ำมันหอย อย่างละเล็กน้อย)
  • ปลาสีเสียดเค็มแห้งสนิทประมาณ 100 กรัม (ใส่มากกว่านี้ได้ หั่นชิ้นกว้าง 1 นิ้ว)
  • น้ำซุปหรือน้ำเปล่าปริมาณท่วมปลาและหมูอย่างเหมาะสม
  • น้ำมันหอย 1  ช้อนชา
  • ผงชูรส 1/4 ช้อนชา (ถ้าใช้น้ำซุปไม่ต้องใส่)
  • เหล้ามิรินแท้ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่แต่เติมน้ำตาลทรายลงไปแทนเล็กน้อย)
  • ขิงยาวประมาณ 2 1/2 นิ้ว 1 แง่ง (หั่นเป็นแผ่นครึ่งหนึ่ง ซอยครึ่งหนึ่ง)
  • มะเขือเทศท้อ 1 ผล (ผ่า 8)
  • พริกแห้งทอด 4-5 เม็ด (ไม่ใส่ก็ได้)
  • พริกไทยและผักชีสำหรับโรยหน้า

ส่วนผสมเครื่องตำ

  • พริกไทยเม็ด 1 1/2 ช้อนชา
  • กระเทียมไทย 10 กลีบ
  • รากผักชี 2 ราก

วิธีทำ

  1. หั่นและหมักหมู สับปลาเค็มแล้วเอาไปย่างหรืออบให้เหลืองหอม
  2. ตำพริกไทย กระเทียม รากผักชีให้ละเอียด
  3. จี่หมูสามชั้นด้วยกระทะเทฟลอน ควรใช้กระทะอย่างดีนะคะเพราะเราใช้ไฟค่อนข้างแรง อย่ากลับหมูไปมา ทิ้งไว้ให้ไหม้นิดๆ จึงค่อยกลับข้าง จี่ให้ข้างนอกสุกก็ใช้ได้
  4. ตั้งหม้อน้ำซุปให้เดือดพล่าน ใส่เครื่องที่ตำไว้ ใส่หมู ปลาเค็ม ขิงแผ่น พริกแห้ง เรามีรากผักชีเหลือก็เลยใส่ลงไปด้วย ใส่น้ำมันหอยและเหล้ามิริน
  5. ต้มไฟอ่อนต่ออีกประมาณ 45 นาที หมูเปื่อยกำลังดี ถ้าหมูแก่ต้องต้มนานกว่านี้ ชิมและปรับรสให้อร่อย ปลาที่ใช้วันนี้เค็มกำลังดี ไม่ได้เติมอะไรอีกเลย
  6. เราทดลองใส่มะเขือเทศลงไปต้มจนนุ่มปรากฏว่าอร่อยขึ้นและสีสวยด้วย สรุปว่าใส่มะเขือเทศตามลงไป
  7. ตักใส่ชามโรยด้วยขิงซอย พริกไทย ผักชี แอบโรยตะไคร้สดซอยลงไปด้วยก็หอมดีเหมือนกัน แต่ไม่จำเป็น เมนูนี้กินร้อนๆ อร่อยมาก

★ 4. หมูฮ้อง ★

หมูฮ้อง

หมูสามชั้นเนื้อนุ่ม ละลายในปากเพราะตุ๋นจนได้ที่ หอมกลิ่นเครื่องเทศเข้าเนื้อ มีรสหวานนิดๆ และเค็มหน่อยๆ

ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่)

  • หมูสามชั้น  2  กิโลกรัม
  • กระเทียมบุบ 1/3 ถ้วย
  • รากผักชีซอย  1/4 ถ้วย
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • อบเชยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • โป๊ยกั๊กป่น  1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำหวาน 6 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลมะพร้าว 2  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำสต๊อกไก่ 1  ลิตร
  • ซีอิ๊วขาว 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. หั่นเนื้อหมูสามชั้นเป็นชิ้นหนาขนาด 2 × 2 นิ้ว หมักกับกระเทียม รากผักชี พริกไทย อบเชย โป๊ยกั๊ก และซีอิ๊วดำหวาน หมักไว้ข้ามคืน
  2. ใส่หมูลงในหม้อ เติมน้ำสต๊อกไก่ให้พอท่วม ต้มไฟแรงจนเดือด จากนั้นลดไฟให้อ่อนลง ต้มจนงวดลง 1/4 เติมน้ำสต๊อกไก่ที่เหลือ ต้มนาน 1 1/2 ชั่วโมงจนหมูนุ่ม ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย และซีอิ๊วขาว คนให้น้ำตาลละลายและน้ำขลุกขลิก พร้อมเสิร์ฟ

★ 5. หมูสามชั้นทอดน้ำปลา ★

หมูสามชั้นทอดน้ำปลา

หมูสามชั้นหมักกับน้ำปลาดี ใส่แป้งเพื่อให้ทอดง่ายขึ้น น้ำมันจะไม่กระเด็น กินกับน้ำจิ้มแจ่ว กิมจิมาโย และซัลซา

ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่)

  • หมูสามชั้น 2 เส้น
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งทอดกรอบ 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเย็นจัด 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันรำข้าวสำหรับทอด

ส่วนผสมและวิธีทำแจ่ว

  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 2-3 ช้อนชา ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ และหอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ ผสมทุกอย่างคนให้เข้ากัน

ส่วนผสมและวิธีทำกิมจิมาโย

  • กิมจิสับหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ มายองเนส 3/4 ถ้วย และน้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ผสมทุกอย่างคนให้เข้ากัน

ส่วนผสมและวิธีทำซัลซา

  • เนื้อมะเขือเทศหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 2 ผล ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูสีเขียวสับ 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 2 ช้อนชา น้ำตาลทรายและเกลือป่นเล็กน้อย ผสมทุกอย่างคนให้เข้ากัน

วิธีทำ

  1. ใช้มีดปลายแหลมหรือส้อมจิ้มหนังหมูให้ทั่ว หมักหมูสามชั้นกับน้ำปลาในอ่างผสมไว้นาน 1 ชั่วโมง
  2. ใส่แป้งทอดกรอบและน้ำเย็นจัดลงในอ่างผสม ขยำให้เข้ากันกับหมูสามชั้น ทอดในน้ำมันร้อนท่วมจนเหลืองกรอบทั้งชิ้น ตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นชิ้น
  3. เสิร์ฟพร้อมแจ่ว กิมจิมาโย และซัลซา

★ 6. หมูสามชั้นกับมันแกวและซอสผักชี ★

หมูสามชั้นกับมันแกวและซอสผักชี

หมูสามชั้นซูวีดนานจนเนื้อนุ่ม ทาด้วยซอสถั่วเน่าและย่างจนหอม กินกับมันแกวย่างราดด้วยซอสผักชี

ส่วนผสมและวิธีทำหมูสามชั้น

  • หมูสามชั้นเอาหนังออก 1 กิโลกรัม
  • รากผักชี 100 กรัม
  • น้ำตาลมะพร้าว 100 กรัม
  • น้ำส้มสายชูหมักจากข้าวหอมมะลิ 60 กรัม
  • เม็ดพริกไทยดำ 20 กรัม
  • เกลือ 20 กรัม
  • หมักหมูสามชั้นกับส่วนผสมทั้งหมด ใส่ถุงสุญญากาศ ต้มในเครื่องซูวีดที่อุณหภูมิ 72 องศาเซลเซียส นาน 12 ชั่วโมง

ส่วนผสมทำซอสผักชี

  • ใบผักชี 160 กรัม ผักโขม 100 กรัม น้ำเปล่า น้ำแข็ง เกลือและ แซนแทนกัม (Xanthan Gum) อย่างละเล็กน้อย

วิธีทำซอสผักชี

  1. ลวกผักชีและผักโขมในน้ำเดือดนาน 10 วินาที ตักขึ้นใส่น้ำเย็นจัดผสมน้ำแข็งทันที
  2. ปั่นผักชี ผักโขมกับน้ำและน้ำแข็งจนเนื้อเนียนละเอียด ใส่แซนแทนกัมให้เนื้อข้น ปรุงรสด้วยเกลือ

ส่วนผสมทำซอสถั่วเน่า

  • น้ำสต๊อกหมู 500 กรัม ถั่วเน่าปิ้ง 150 กรัม พริกแดงเม็ดใหญ่ย่าง 50 กรัม กระเทียม 50 กรัม รากผักชี 150 กรัม น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม น้ำส้มสายชูหมักจากข้าวหอมมะลิ 100 กรัม น้ำปลา 100 กรัม ขิงอ่อนสไลซ์บาง 50 กรัม

วิธีทำซอสถั่วเน่า

  1. ต้มส่วนผสมทั้งหมดในหม้อด้วยไฟเบานาน 2 ชั่วโมง ตักรากผักชีและขิงออก
  2. ปั่นส่วนผสมทั้งหมดจนเนื้อเนียนเป็นซอส ชิมและปรุงรส

ส่วนผสมทำมันแกวย่าง

  • มันแกวทั้งเปลือก 500 กรัม น้ำมะนาว 25 กรัม เกลือ 2.5 กรัม

วิธีทำมันแกวย่าง

  1. ย่างมันแกวด้วยไฟอ่อนนาน 2-3 ชั่วโมงจนเปลือกดำและมันแกวสุก ลอกเปลือกออก หั่นมันแกวเป็นชิ้นเล็ก

วิธีเสิร์ฟ

  1. ย่างหมูสามชั้น ระหว่างย่างทาด้วยซอสถั่วเน่าให้หมูเป็นคาราเมล ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว
  2. ย่างมันแกวอีกครั้ง จัดใส่จาน ราดซอสผักชี
  3. วางหมูสามชั้นบนจาน วางหนังหมูกรอบ โรยผงถั่วเหลือง

★ 7. สามชั้นต้มผัดน้ำพริกเผา ★

สามชั้นต้มผัดน้ำพริกเผา

หมูสามชั้นต้มที่เหลือจากการทำหมูกรอบผัดกับน้ำพริกเผา ใส่กระเทียม และพริกขี้หนูสวนเพื่อเพิ่มความเผ็ดร้อน

ส่วนผสม (สำหรับ 3 ที่)

  • หมูสามชั้นต้มสุก 500 กรัม
  • พริกขี้หนู 10 เม็ด
  • กระเทียมกลาง 5 กลีบ
  • หอมหัวใหญ่ซอย 1/2 หัว
  • พริกหวานแดงหั่นชิ้นใหญ่ 1/4 ลูก
  • พริกหวานเหลืองหั่นชิ้นใหญ่ 1/4 ลูก
  • ต้นหอมหั่นท่อน 2 ต้น
  • น้ำพริกเผา 2 1/2  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 1/2   ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. หั่นหมูสามชั้นต้มเป็นชิ้นใหญ่เตรียมไว้ ตำพริกขี้หนูกับกระเทียมเข้าด้วยกันพอแหลก
  2. ผัดพริกกระเทียมที่ตำไว้กับน้ำมันให้หอม ใส่หมูสามชั้นลงผัดให้เหลือง ใส่หอมหัวใหญ่และพริกหวาน 
  3. ใส่น้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำ ผัดให้เข้ากัน
  4. ใส่ต้นหอมหั่นท่อน ผัดเร็วๆ ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมข้าวร้อนๆ

★ 8. จอผักกาด ★

จอผักกาด

หมูสามชั้น ซี่โครงหมู ต้มกับผักกวางตุ้งที่มีดอกสีเหลือง ทางเหนือเรียกว่า “ผักกาดจ้อน” ใส่เครื่องแกงและน้ำส้มมะขามลงไปด้วย

ส่วนผสม

  • ผักกวางตุ้ง  800 กรัม
  • ซี่โครงหมู 1 เส้น (300 กรัม)
  • หมูสามชั้น 1 เส้น (300 กรัม)
  • ต้นหอม  2 ต้น
  • ผักชีต้นอวบ 1 ต้น
  • ผักชีลาว 10  กิ่ง
  • น้ำมะขามเปียก
  • น้ำปลาร้า (อีสาน)
  • งบน้ำอ้อยหรือน้ำตาลปี๊บ
  • เกลือ
  • น้ำปลา
  • พริกแห้งทอด
  • น้ำเปล่า

ส่วนผสมน้ำพริก

  • กระเทียมไทย 15 กลีบ (20 กรัม)
  • หอมแดง 2 หัว (50กรัม)
  • ถั่วเน่าแผ่นผิงไฟ 1 แผ่น (ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่)
  • กะปิผิงไฟ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ทำน้ำพริกโดยตำกระเทียม หอมแดง กะปิ และถั่วเน่าให้แหลก
  2. ทอดพริกให้พอง
  3. หั่นผักทุกอย่างเตรียมไว้
  4. เอาหม้อตั้งไฟ ใส่เครื่องที่ตำไว้ ผัดไฟปานกลางให้กะปิโดนความร้อนจะได้กลิ่นหอม ผัดแห้งๆ ไม่ต้องใส่น้ำหรือน้ำมัน ปาดไปทั่วๆ ก้นหม้อ ผัดครู่เดียวแค่กะปิส่งกลิ่นหอมก็พอ อย่าให้ไหม้
  5. ใส่หมูทั้ง 2 อย่างลงไปรวนในหม้อ ผัดพอให้ผิวนอกสุก ใส่น้ำให้ท่วม ประมาณ 2 นิ้ว ต้มไฟแรงๆ ให้น้ำเดือด ปรุงรสด้วยเกลือ งบน้ำอ้อยหรือน้ำตาลปี๊บดีๆ น้ำปลา น้ำปลาร้า (ใช้ของอีสานเพราะชอบมากกว่าของเหนือ) น้ำมะขามเปียก ชิมรสให้ถูกปาก จะไม่เปรี้ยวแบบต้มยำนะคะ เคี่ยวไฟอ่อนประมาณครึ่งชั่วโมง
  6. ใส่ผักกวางตุ้งที่เตรียมไว้ เคี่ยวจนผักและหมูนุ่ม เติมต้นหอม ผักชี และผักชีลาว รวมทั้งพริกทอด ต้มไปด้วยกันครู่เดียวก็ตักใส่ชามรับประทานได้ (คนเหนือจะแยกพริกไว้กินแนม)

★ 9. หมูสามชั้นผัดซีอิ๊วและสาเก ★

หมูสามชั้นผัดซีอิ๊วและสาเก

หมูสามชั้นสไลซ์บาง ผัดกับซอสโชยุผสมสาเกและมิริน  หอมกลิ่นขิงอ่อนๆ กินกับข้าวสวยร้อนๆ และขิงดอง

ส่วนผสม (สำหรับ 1-2 ที่)

  • หมูสามชั้นสไลซ์บาง 300 กรัม
  • น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
  • สาเก 1 ช้อนโต๊ะ
  • โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ
  • มิริน 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมหัวใหญ่ขนาดกลางซอยบาง 1 หัว
  • กระเทียมสไลซ์ 2-3 กลีบ
  • ขิงขูด 1 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวญี่ปุ่นและขิงดองเค็มสำหรับเสิร์ฟ
  • น้ำมันพืชเล็กน้อย

วิธีทำ

  1. หั่นหมูสามชั้นเป็นชิ้นขนาด 1-2 นิ้ว ผัดในกระทะสักครู่ (ไม่ต้องใส่น้ำมัน) ตักขึ้น พักไว้
  2. ผสมน้ำ สาเก โชยุ และมิรินเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
  3. เจียวกระเทียมกับน้ำมันพอหอม ใส่หอมหัวใหญ่ลงผัดให้สุกใสเป็นสีน้ำตาล ใส่หมูสามชั้นที่ผัดไว้และส่วนผสมโชยุ ผัดสักครู่ให้มีน้ำขลุกขลิก ชิมรส (เพิ่มรสได้ตามชอบ) ใส่ขิงขูด ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟทันที
  4. ตักราดข้าว เสิร์ฟพร้อมขิงดอง

★ 10. หมูกรอบ ★

หมูกรอบ

ถึงแม้ว่าการทำหมูกรอบจะใช้เวลานานสักหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน

ส่วนผสม

  • หมูสามชั้นวัยละอ่อน หนังบาง มันน้อย 1-2 กิโลกรัม
  • เกลือพอสมควร
  • น้ำปลาประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ (แล้วแต่ปริมาณหมู)
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่ชอบก็ละได้)
  • น้ำส้มสายชูเล็กน้อย

วิธีทำ

  1. ล้างหมูสามชั้นให้สะอาด ตัดเป็นชิ้นเท่าๆ กัน อาจจะยาวประมาณ 3 นิ้ว
  2. ต้มในหม้อ ใส่ตั้งแต่น้ำเย็น พอน้ำเดือดเติมเกลือ ชิมให้ได้รสเค็มพอเหมาะ คอยช้อนฟอง ต้มนานเท่าที่จำเป็น ถ้าหมูวัยกระเตาะก็ต้มแค่ 20 นาที ถ้าหมูแก่หน่อยก็ต้ม 40 นาที ถ้าหมูวัยกลางสุกรก็ปล่อยไว้ที่เขียง อย่าพาเข้าบ้าน ตักชิ้นหมูขึ้นมา ส่วนน้ำต้มหมูเอาไปทำแกงจืดได้
  3. บั้งหนังหมูเป็นลายข้าวหลามตัด บั้งให้ถี่ ห่างแค่ 3 มิลลิเมตร บั้งลึกเท่าความหนาของหนัง (อันนี้สำคัญนะคะ บั้งบางไปจะหนืด บั้งลึกไปจะไม่สวย)
  4. ทาเนื้อหมูด้วยเกลือ น้ำปลา น้ำมันหอย และผงพะโล้ ทาหนังหมูด้วยน้ำส้มสายชู จัดใส่กล่องให้ด้านหนังโผล่ขึ้นมา ไม่ต้องปิดเพื่อให้หนังแห้ง แช่ตู้เย็นไว้อย่างน้อย 1 คืน
  5. วันรุ่งขึ้น เอาหมูวางเรียงในหม้อ ปิดอบด้วยฝาครอบเทอร์โบ ตั้งอุณหภูมิแค่ 125 องศาฟาเรนไฮต์ อบจนหนังหมูแห้งใสประมาณ 90-120 นาที หรือพอขอบๆ เริ่มเปลี่ยนสี เอาออกมาวางผึ่งให้เย็น
  6. ตั้งกระทะแบบจีน ใส่น้ำมันกะแค่พอท่วมหนังหมู รอจนน้ำมันร้อน เอาหมูอบที่เย็นสนิทแล้วใส่ตะแกรง วางด้านหนังลงหาน้ำมัน หย่อนตะแกรงลงให้หนังหมูโดนน้ำมัน จะได้ยินเสียงหนังหมูแตกตัวอย่างไพเราะ แต่น้ำมันไม่กระเด็นเลย ทอดรอบละ 3-4 นาที หนังหมูก็จะฟู อย่าให้เหลืองจัด เพราะเราจะทอดอีกครั้ง พักไว้ให้เย็น หยิบออกมาเท่าที่จะใช้ผัด ที่เหลือเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา เวลาจะกินค่อยทอดอีกครั้ง ยิ่งเก็บไว้นานจะยิ่งกรอบ ไม่ต้องปิดฝากล่องนะคะ หมูจะแห้งไปเรื่อยๆ และเดี๋ยวเรามาดูกันว่าหมูกรอบที่ทำเก็บไว้นั้นจะสามารถนำไปทำอาหารจานอร่อยอื่นๆ อะไรได้อีก

Tag : รวมเมนูอร่อย, หมูกรอบ

เรื่องโดย

คะแนนและรีวิว


0.0 จาก 5

ให้คะแนนและเขียนรีวิว

ยังไม่มีรีวิว

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed