สำหรับแฟนรายการมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์คงรู้จักและหรือเคยเชียร์ผู้เข้าแข่งขันมากความสามารถอย่าง “จ๋า-น้ำทิพย์ ภูศรี” ที่โชว์ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ให้เราคอยเฝ้าหน้าจอทั้งในซีซันที่ 2 และมาสเตอร์เชฟ ออลสตาร์ ไทยแลนด์ ที่เธอคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศมาครองได้อย่างภาคภูมิ แต่ตอนนี้อดีตช่างซ่อมรถยนต์ที่ทำตามความฝันในห้องครัวได้สำเร็จกำลังก้าวเข้ามาสู่โลกใหม่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟซึ่งเธอหลงเสน่ห์เข้าอย่างจัง

ด้วยความหลงใหลในรสชาติของเมล็ดกาแฟและจังหวะชีวิตที่อาจเรียกได้ว่า Good Time, Good People ประกอบกับความตั้งใจอยากเรียนรู้ด้าน Food & Beverage ไปควบคู่กัน เธอจึงร่วมปลุกปั้นคาเฟ่แรกของตัวเองร่วมกับ 2 สาวเพื่อนสนิท เพื่อสะท้อนตัวตนความเป็น “นักปรุง” ที่ไม่ได้เก่งแค่ทำอาหาร แต่ยังเชี่ยวชาญในการทำกาแฟและเครื่องดื่มต่างๆ ไม่แพ้กัน

“การทำร้านนี้ (Reflect Café) คือการเปิดให้คนอื่นเข้ามาสัมผัสตัวตนอีกด้านของจ๋าและเพื่อนๆ ผ่านกาแฟและเครื่องดื่ม รวมทั้งเราก็ได้สัมผัสตัวตนหรือประสบการณ์ของลูกค้าหรือคนอื่นที่สะท้อนกลับมาหาเราในช่วงเวลาต่างๆ ในแต่ละวันเช่นกัน หลายคนมักถามว่าทำไมไม่เปิดร้านอาหารไปเลย แต่ด้วยจังหวะชีวิตทุกอย่างเลยขอเริ่มต้นกับคาเฟ่เล็กๆ นี้ก่อน

“ที่สำคัญเราหลงใหลเสน่ห์ของกาแฟเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว ยิ่งได้เรียนรู้ศึกษาลงลึกรายละเอียดทั้งเรื่องการเลือกเมล็ด การสกัดกาแฟวิธีต่างๆ ก็ยิ่งสนใจและอยากนำความเป็นนักปรุงของเรามาใช้ในโลกของกาแฟเหมือนกัน ทุกเมนูคือผ่านการคิด ผ่านความตั้งใจของเราทุกขั้นตอน ตั้งแต่การใช้เมล็ดกาแฟแบบเฮาส์ออริจินที่ต้องคิดมาแล้วว่าเหมาะกับเมนูอะไร เรียกว่า 1 เมนู 1 เมล็ดกาแฟ เพราะเราเชื่อว่าเมล็ดกาแฟแต่ละชนิดมีเอกลักษณ์ที่ต่างกัน โดยไม่ต้องนำมาเบลนด์ผสมเลย

“หรือการใช้ Robot Espresso Maker เครื่องทำกาแฟแบบแมนวลที่ต้องใช้แรงกดของคนในการสกัดช็อตกาแฟออกมา ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องกับคน รวมทั้งหน้าตาและการนำเสนอของแต่ละเมนู หรือขนมอย่างพานนาคอตตาข้าวคั่วที่คั่วด้วยข้าวเหนียวแท้ๆ เหมือนตอนแข่งรอบไฟนอลในรายการ นี่คือสิ่งที่เราคิดและออกแบบด้วยตัวเอง”

แม้จะหันมาทุ่มเทให้กับโลกของกาแฟอย่างเต็มที่ในตอนนี้ แต่จ๋ายืนยันว่าเธอไม่ใช่นักชงกาแฟหรือบาริสตามืออาชีพ แต่ยังคงเป็น “นักปรุง” ที่นำศาสตร์ในการทำอาหารและความเป็นนักกินดื่มมาสร้างสรรค์กาแฟที่ดีที่สุดในแบบของตัวเองต่อไป

“ทุกวันนี้เราก็ยังศึกษาโลกของการกินและดื่มซึ่งไม่ว่าอย่างไรก็อยู่คู่มนุษย์เสมอมา ส่วนตัวเมื่อมาเป็นคนปรุงกาแฟ จ๋าก็ไม่จำกัดหรือตีกรอบตัวเอง ถ้าหยุดกินหรือดื่ม เราก็ไม่สามารถสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ได้ เราต้องเปิดใจ ลองทุกอย่างให้เต็มที่ จะไม่จำกัดว่ามีเมนูโปรดตายตัวหรือจะกินแค่เมนูนี้เท่านั้น แต่ก็ยังมีร้านที่ชอบไปคือ Kaizen Coffee แถวเอกมัย และ h____dining ซอยสุขุมวิท 38 ทั้ง 2 ร้านมีทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่เราสนใจ เรียกว่าเป็นร้านในฝันเลย

“ในอนาคตจ๋าคงเปิดร้านอาหารที่มีกาแฟและเครื่องดื่มดีๆ ไปพร้อมกัน อาจเป็นการจับคู่อาหารกับเครื่องดื่มที่หลากหลาย หรืออาจจะค้นพบรสชาติหรือแรงบันดาลใจมาทำเมนูใหม่ๆ เรียกว่ากาแฟเป็นหนึ่งในอาวุธลับของจ๋าก็คงได้ (ยิ้ม)”

เอื้อเฟื้อสถานที่ : ร้าน Reflect Café โครงการเจ้าคุณวิลล่า ถนนเจ้าคุณทหาร กรุงเทพฯ โทร. 09-2247-3239
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ : “Reflect Café” คาเฟ่สวยแห่งลาดกระบังที่พร้อมเสิร์ฟกาแฟดีฝีมือ “จ๋า มาสเตอร์เชฟ”

Tag: Interview, จ๋า น้ำทิพย์ ภูศรี, มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์