ข้าวผัดไข่เค็ม เครื่องปรุง ข้าว 3 ถ้วย ไข่เค็มดิบ 2+4 ฟอง ไข่ไก่ 2 ฟอง ผงลาบเหนือ 2-3 ช้อนชา กุนเชียง 1 คู่ หั่นแว่นหรือเต๋าเล็ก ทอดให้สุก กระเทียมสับ 1 หัว หอมหัวใหญ่หั่นเส้น 1 หัว เซเลรีหั่นแว่น 1 ก้าน แครอตหั่นเต๋าจิ๋ว 1/2 ถ้วย ซีอิ๊วจีน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายตามชอบ ต้นหอม ผักชี น้ำมันหมู วิธีทำ ทอดกุนเชียงให้สุก พักไว้ ตอกไข่เค็มดิบ 2 ฟอง แยกไข่แดงออก คลุกไข่ขาวกับข้าว ส่วนไข่แดงหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตอกไข่ไก่ 2 ฟอง คลุกกับข้าวในข้อ 2 ใส่น้ำมันหมูพอสมควรลงในกระทะ รอให้น้ำมันร้อน ใส่ข้าวลงไปผัด ระวังอย่าให้ข้าวจับตัว ไข่ดิบช่วยให้ข้าวกระจายตัวอยู่แล้ว เมื่อข้าวสุกส่งกลิ่นหอม ใส่กุนเชียงที่ทอดแล้วและน้ำตาลทรายลงไปผัดนิดหน่อยเพื่อให้รสกลมกล่อม ตักข้าวขึ้นมาพักไว้ ใส่น้ำมันหมูแล้วใส่กระเทียมตอนน้ำมันเย็น เจียวกระเทียมแค่พอสุก ใส่ผงลาบเหนือของตราแซบทะล้าลงไปผัดจนหอม ถ้าชอบเผ็ดก็ใส่มากหน่อย ใส่หอมหัวใหญ่ แครอต เซเลรี และไข่แดงเค็มลงไปผัดพอสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วจีนชื่อฉูปัง และน้ำตาลทรายเล็กน้อย ใส่ข้าวที่ผัดไว้ลงไปคลุกให้เข้ากัน เหยาะพริกไทย ตักใส่ภาชนะ โรยต้นหอม ผักชี เตรียมรับประทาน ทอดไข่เค็มเท่าจำนวนคนที่จะรับประทาน เวลาจะทอดไข่เค็มให้ตั้งน้ำมันค่อนข้างร้อนแต่ไฟกลาง เทไข่ใส่ 1 ฟอง ปิดฝากระทะทันที พอสิ้นเสียงระเบิดก็เปิดฝา ตักไข่ขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ถ้าจะให้เมนูนี้ยิ่งอร่อยควรรับประทานกับไข่เค็มราดซอสมะขาม

  เมื่อประมาณ 70-80 ปีที่แล้ว ของว่างหรืออาหารทานเล่นของไทยที่ทำด้วยข้าวเจ้ามีหลายชนิด เช่น ข้าวปิ้ง ข้าวทอด ข้าวหลามเค็ม เป็นต้น แต่ปัจจุบันอาหารว่างเหล่านี้หาทานแทบไม่ได้แล้วนอกจากทำทานตามบ้าน   นอกจากข้าวปิ้งแล้วยังมีข้าวทอด ซึ่งมักจะห่อด้วยแป้งเปาะเปี๊ยะและพับเป็นรูปซองจดหมาย ฉบับนี้เราจะทำข้าวปิ้งกัน ข้าวปิ้งเมนูนี้ส่วนผสมหลักมีข้าว น้ำพริกกะปิ และหมูหวาน พอคลุกรวมกันแล้วจะห่อด้วยใบตองนำไปปิ้งจะได้ข้าวร้อนๆ หอมกรุ่น   เวลาทานจะเสิร์ฟพร้อมน้ำพริกกะปิ ซึ่งแต่ละบ้านมักจะมีสูตรประจำบ้านอยู่แล้ว ควรตำให้มากสักหน่อยเพราะเมื่อนำไปคลุกข้าวแล้วยังต้องตักใส่ถ้วยเสิร์ฟสำหรับให้เติม พร้อมกับหอมแดงซอย หมูหวาน มะนาว และพริกขี้หนู เพื่อช่วยเพิ่มรสตามชอบ และควรต้องมีแกงจืดด้วย จะเป็นแกงจืดฟัก แกงจืดตำลึงก็ได้เพื่อช่วยให้คล่องคอขึ้น   ใครที่ชอบกินข้าวกับน้ำพริก ข้าวปิ้งนี้จะอร่อยและหอมกลิ่นใบตองชวนทานขึ้นอีก   หมูหวาน ส่วนผสม หมูสามชั้น 500 กรัม หอมแดงซอย 150 กรัม น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ พริกไทย 1 ช้อนชา วิธีทำ ต้มหมูสามชั้นในน้ำพอท่วมจนหมูสุก หั่นเป็นชิ้นกว้าง 1 เซนติเมตร หนา 1/4 เซนติเมตร ใส่หมูที่หั่นแล้วกลับไปในน้ำที่ต้ม เติมน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทราย เคี่ยวไฟอ่อนๆ จนน้ำเริ่มงวด ใส่น้ำมะขามเปียก หอมแดงซอย และพริกไทย ชิมรสให้จัด หวานนำตามด้วยเค็ม ตั้งไฟต่อ พอน้ำงวด ปิดไฟ ข้าวปิ้ง ส่วนผสม ข้าวหุงสุก (หุงให้แห้ง) 5 ถ้วย น้ำพริกกะปิ ประมาณ3/4 ถ้วย หมูหวาน ประมาณ 1 ถ้วย (หรือมากกว่าถ้าชอบ) ไข่ (ตีให้เข้ากัน)4 ฟอง ใบตองเช็ดให้สะอาด ไม้กลัด วิธีทำ คลุกข้าว (ควรเป็นข้าวร้อนๆ) กับน้ำพริกกะปิ หมูหวาน ไข่ และกระเทียมเจียว คลุกให้เข้ากัน ตักข้าวใส่ใบตอง พับให้สนิท กลัดไม้กลัด ปิ้งไฟอ่อนๆ จนใบตองเหลืองเกรียม ตักน้ำพริกกะปิ หมูหวาน กระเทียมเจียว  กุ้งแห้งตำ และหอมแดงซอยใส่ถ้วยไว้สำหรับเสิร์ฟ แกะใบตองออก วางข้าวใส่จาน ทานกับหอมแดงซอย ถ้าชอบรสจัดเพิ่มน้ำพริกกะปิ หมูหวาน กระเทียมเจียว มะนาว หรือพริกตามชอบ

  ข้าวขยำสูตรนี้นำข้าวไปขยำกับไข่ไก่ให้เป็นสีเหลืองสวยและผัดจนมีกลิ่นหอม อร่อยแบบเต็มอิ่มด้วยเนื้อปู ใส่เครื่องอย่างหอมแดง กระเทียม และผักชีให้มีกลิ่นหอมชวนกิน เติมรสจัดจ้านลงตัวด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) ข้าวหอมมะลิ 3 ถ้วย ไข่ไก่ (ไข่แดง) 1 ฟอง น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนชา เนื้อปูนึ่ง 200 กรัม หอมแดงซอย 3/4 ถ้วย กระเทียมซอย 1/4 ถ้วย ผักชีเด็ดใบประมาณ 2 ต้น น้ำจิ้มซีฟู้ด หอมแดงซอย กระเทียมซอย พริกขี้หนูซอย ผักชี และผักสลัด สำหรับเสิร์ฟ ส่วนผสมน้ำขยำ น้ำปลา 1 ช้อนชา | น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา | น้ำมะนาว 2 ช้อนชา | พริกขี้หนูซอย 3-4 เม็ด ผสมให้เข้ากัน วิธีทำ ขยำข้าวกับไข่แดงให้เข้ากันจนข้าวมีสีเหลืองทั่ว ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้พอร้อน ใส่ข้าวลงผัดให้มีกลิ่นหอม และไข่สุก ตักขึ้นใส่ชามผสม ใส่เนื้อปูลงไปในข้าวเล็กน้อย ใส่หอมแดงซอย กระเทียมซอย และน้ำขยำ ใช้มือขยำข้าวและเครื่องคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ผักชี เคล้าเบาๆ ตักข้าวใส่จาน วางเนื้อปูที่เหลือบนข้าว วางหอมแดง กระเทียม พริกขี้หนูซอย ผักชี และผักสลัดไว้รอบจาน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด

  โปเก ปลาดิบหั่นเต๋าปรุงรสสไตล์ฮาวาย สูตรนี้ใช้แซลมอนเกรดซาชิมิ ปรุงรสด้วยโชยุและน้ำมันงาให้มีกลิ่นหอม วางสลับชั้นกับข้าวญี่ปุ่นเม็ดสั้นนุ่มหนึบ และอะโวคาโดสุกรสมัน   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) ข้าวญี่ปุ่น 2 ถ้วย แซลมอนหั่นเต๋า 300 กรัม อะโวคาโดหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 2 ผล งาขาวคั่ว และผงโรยข้าวญี่ปุ่นสำหรับโรยหน้า ส่วนผสมซอส โชยุ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ | น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ | มิริน 2 ช้อนโต๊ะ | น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว 1 ช้อนโต๊ะ | น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ | ขิงขูด 1 ช้อนชา วิธีทำ ผสมส่วนผสมซอสให้เข้ากัน ตักซอสใส่แซลมอนประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ เคล้าเบาๆ ให้เข้ากัน พักไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที วางพิมพ์วงกลมขนาดประมาณ 3 นิ้วบนจาน ตักข้าวใส่และกดเบาๆ ให้ข้าวอยู่ทรง ตักแซลมอนปรุงรสใส่พิมพ์ ตักอะโวคาโดใส่ ยกพิมพ์ออก โรยด้วยงาขาวและผงโรยข้าวตามชอบ

  ข้าวผัดกะเพราคลุกรสเผ็ดจัดจ้าน หอมกลิ่นของเบคอนและกะเพรา ตัดรสให้นวลละมุนขึ้นด้วยการโรยชีสและอบจนชีสละลาย เมนูอร่อยที่เหมาะกับวันหยุด   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) ข้าวหอมมะลิ 2 ถ้วย คุกแฮม 3 แผ่น เบคอน 3 แผ่น ใบกะเพราซอย 1/2 ถ้วย กระเทียมสับ 4 กลีบ พริกสับ 4-5 เม็ด น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ส่วนผสมสำหรับโรยหน้า ชีสมอซซาเรลลาขูด 1/2 ถ้วย | ชีสพาร์เมซานขูด 1/4 ถ้วย | เบคอนทอดกรอบ 1/4 ถ้วย | ใบกะเพราทอดกรอบ 1/4 ถ้วย วิธีทำ ผัดเบคอนในกระทะ (ไม่ต้องใส่น้ำมัน) ให้เบคอนพอเหลือง และมีน้ำมันออก ใส่แฮม และกระเทียมลงผัดให้พอมีกลิ่นหอม ใส่พริกและข้าวลงผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย ชิมและปรุงรสเพิ่มได้ตามชอบ ใส่ใบกะเพราซอย ผัดให้เข้ากันจนมีกลิ่นหอม ตักขึ้นใส่ชามสำหรับอบ โรยชีสทั้ง 2 ชนิดให้ทั่ว นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-20 นาทีจนชีสเป็นสีเหลืองสวย ยกลง โรยหน้าด้วยเบคอนทอดกรอบ และใบกะเพราทอดกรอบ

  ข้าวห่อสาหร่ายเมนูกินง่ายใส่ไส้ได้หลากหลายตามชอบ นอกจากม้วนเป็นโรลแบบที่คุ้นเคยแล้ว ยังใช้วิธีห่อและพับคล้ายซองจดหมาย ห่อเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมแล้วตัดเป็นชิ้นใส่กล่อง พกพาได้สะดวก   ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) สาหร่ายโนริแผ่นสำหรับห่อข้าว 4 แผ่น ข้าวญี่ปุ่น 3 ถ้วย น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเล 1 ช้อนชา ส่วนผสมไส้หมูบุลโกกิ สันคอหมูสไลซ์บาง 400 กรัม | ซอสบุลโกกิ 1/4 ถ้วย | กิมจิ 1/4 ถ้วย | แตงกวาซอยยาว 1/4 ถ้วย | แครอตซอยยาว 1/4 ถ้วย | น้ำมันพืชสำหรับผัดเล็กน้อย ส่วนผสมไส้ทูน่า ทูน่าในน้ำมันพืช 1 กระป๋อง | มายองเนส 1/4 ถ้วย | ไข่กุ้ง 3 ช้อนชา | เซเลรีหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1/4 ถ้วย วิธีทำ ตักข้าวญี่ปุ่นหุงสุกร้อนๆ ใส่ชามผสมปรุงรสด้วยน้ำมันงา และเกลือ เคล้าเบาๆ ให้เข้ากัน พักไว้ให้เย็น ทำไส้หมูบุลโกกิโดยหมักสันคอหมูสไลซ์กับซอสบุลโกกิพักไว้ประมาณ 30 นาที ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย พอกระทะร้อนใส่หมูหมักลงผัดจนสุก ตักขึ้นพักไว้ ทำไส้ทูน่าโดยบีบน้ำมันออกจากทูน่า ใส่มายองเนส และเซเลรีลงคนผสมให้เข้ากัน ใส่ไข่กุ้ง คนเบาๆ ให้เข้ากัน ปูพลาสติกแร็ปบนเขียง วางสาหร่ายในแนวทแยงให้มุมสาหร่ายหันเข้าหาตัวโดยหงายด้านหยาบขึ้น ตักข้าวใส่ตรงกลางให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 3-4 นิ้ว เกลี่ยข้าวให้แบน กดให้แนบกับสาหร่าย ตักไส้หมูบุลโกกิวางบนข้าว วางกิมจิ แตงกวาและแครอตซอย ตักข้าวใส่อีกชั้นแล้วเกลี่ยให้เท่ากัน พับสาหร่ายจากมุมล่างขึ้นไปตรงกลาง พับมุมซ้าย ขวา และพับมุมบนปิดลงมาเหมือนซองจดหมาย ห่อด้วยพลาสติกแร็ปที่รองไว้ให้แน่น พักไว้ ไส้ทูน่าทำแบบเดิมโดยชั้นแรกเป็นข้าว ตักไส้ทูน่าใส่ ประกบด้วยข้าว และห่อตามขั้นตอนเดิม เมื่อจะเสิร์ฟใช้มีดคมๆ จุ่มน้ำเล็กน้อยให้พอเปียก ตัดครึ่งข้าวห่อสาหร่าย ดึงแผ่นพลาสติกออก เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง เช่น กิมจิ หรือผักดองตามชอบ

  ข้าวต้มแห้งซีฟู้ดเสิร์ฟคู่กับน้ำซุปกระดูกหมู ใส่ไชเท้าและปลาหมึกแห้ง กลิ่นหอม รสกลมกล่อม และน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวสูตรเด็ด   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) ข้าวหอมมะลิหุงสุก 2 ถ้วย กุ้งแชบ๊วย 2-4 ตัว ปลาหมึกกล้วยหั่นแว่น 6 ชิ้น เนื้อปลาเก๋าหั่นชิ้น 6 ชิ้น ไข่ออนเซ็น 2 ฟอง กระเทียมเจียว ตั้งฉ่าย และขึ้นฉ่ายซอยสำหรับโรยหน้า ส่วนผสมน้ำซุป กระดูกหมู 300 กรัม | หัวไชเท้าหั่นแว่น 1 หัว | ปลาหมึกแห้งหั่นชิ้นยาว 1/2 ตัว ส่วนผสมและวิธีทำน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว ขิงแก่สับ 1 ช้อนชา | กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ | เต้าเจี้ยว 1/4 ถ้วย | พริกขี้หนูซอย 5-6 เม็ด | น้ำมะนาว 2 1/2 ช้อนโต๊ะ | น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา | น้ำซุปเล็กน้อย ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน วิธีทำ ทำน้ำซุปโดยต้มน้ำให้เดือด ลวกกระดูกหมูแล้วเทน้ำออก ใส่น้ำให้ท่วมหมู ใส่หัวไชเท้า และปลาหมึกแห้ง ต้มไฟแรงจนเดือด แล้วลดไฟอ่อน ต้มนาน 1-2 ชั่วโมง (เติมน้ำได้) จนน้ำซุปใส ชิมและปรุงรสด้วยเกลือหรือซีอิ๊วขาวได้ตามชอบ ตักข้าวใส่ถ้วย ลวกซีฟู้ดทั้งหมดในน้ำเดือด ตักขึ้นจัดวางบนข้าว วางไข่ออนเซ็น โรยกระเทียมเจียว ตั้งฉ่าย และขึ้นฉ่ายซอย เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปและน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว

  ข้าวหุงรวมมิตรนิยมรับประทานในฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากเป็นฤดูของผักหัวต่างๆ และเห็ดในญี่ปุ่น รสชาติของข้าวมาจากเครื่องปรุงรสพื้นฐานที่ผสมไปในน้ำหุงข้าว ส่วนผสมที่ใส่ลงไปหุงกับข้าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ   ส่วนผสม ข้าวญี่ปุ่น 350 กรัม เห็ดหอมแห้ง 3 ดอก แครอตหั่นเต๋า 60 กรัม คอนยักกุหั่นเต๋า 70 กรัม เต้าหู้ทอดหั่นเต๋า 2 แผ่น โกโบหั่นเต๋า 50 กรัม หน่อไม้ต้มซอย 50 กรัม น้ำสต๊อกดาชิ 350 มิลลิลิตร มิริน 2 ช้อนโต๊ะ สาเก 2 ช้อนโต๊ะ โชยุ 2 ช้อนชา งาขาวคั่ว สำหรับเสิร์ฟ ต้นหอมซอย สำหรับเสิร์ฟ วิธีทำ ล้างเห็ดหอมแห้งผ่านน้ำแล้วแช่ให้นุ่มดี บีบน้ำออก แล้วหั่นเต๋า หั่นคอนยักกุเป็นชิ้นเล็กใส่หม้อ ใส่น้ำให้ท่วม ตั้งไฟพอเดือด ยกออกจากเตา สะเด็ดน้ำ พักไว้ ตั้งน้ำร้อนนำเต้าหู้ทอดลงไปต้มเพื่อล้างน้ำมันจากการทอดเต้าหู้ที่ติดอยู่ สะเด็ดน้ำ บีบน้ำส่วนเกินออกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หั่นโกโบเป็นเต๋าเล็กๆ แช่ในน้ำสะอาด ผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อยประมาณ 5 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้สีคล้ำ สะเด็ดน้ำ ล้างข้าวญี่ปุ่นจนน้ำใสดี สะเด็ดน้ำใส่ลงในหม้อหุงข้าว พักไว้ 10 นาที เติมน้ำสต๊อกดาชิ มิริน สาเก และโชยุ จัดเรียงคอนยักกุ เต้าหู้ทอด เห็ดหอม แครอต โกโบ และหน่อไม้ต้มลงบนหน้าข้าว หุงจนสุกดี เมื่อข้าวสุกดีตักออกใส่ชามผสมใบใหญ่ เคล้าให้ส่วนผสมกระจายทั่วข้าวดี ตักเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยงาขาวคั่ว และต้นหอม

  เวลาที่มีเป็ดย่างหรือหมูแดงเหลืออยู่ เราจะหุงข้าวพิลาฟแบบง่ายๆ ปรุงเป็นข้าวพิลาฟหน้าเป็ดย่างหมูแดง   เครื่องปรุง ข้าวประมาณ 500 กรัม น้ำเปล่าประมาณ 750 มิลลิลิตร ซุปก้อนรสไก่หรือหมู 2 ก้อน หอมหัวใหญ่ 1 หัว กระเทียมบุบ 2-3 กลีบ น้ำมันหมูหรือไก่ 1 ช้อนโต๊ะ เนยแท้ 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทย | แซฟฟรอน (ถ้าไม่มีใช้ดอกคำฝอย) เครื่องเทศฝรั่ง เช่น โพรวองซ์หรือไทม์ เป็ดย่าง และ/หรือหมูแดง ซอสญี่ปุ่น เช่น เทอริยากิ ผักชีสำหรับโรยหน้า วิธีทำข้าวพิลาฟ ผสมน้ำกับซุปก้อน ใส่พริกไทยนิดหน่อย ชิมและปรุงเพิ่มจนได้รสอร่อย ซาวข้าวให้สะอาด เกรอะเอาน้ำออก ผัดหอมหัวใหญ่กับกระเทียมในน้ำมันผสมเนยจนสุกใส ใส่ข้าวลงไปผัดจนเห็นเป็นไตเล็กๆ ขาวๆ ใส่เครื่องเทศสมุนไพรที่เตรียมไว้ ผัดจนข้าวเป็นไตขาวเล็กๆ หุงข้าวที่ผัดไว้กับน้ำสต๊อกในหม้อหุงข้าวแบบธรรมดาๆ ใส่น้ำสต๊อกแล้วคนเบาๆ จะใช้น้ำน้อยกว่าการหุงข้าวปกตินิดหน่อย หุงไปได้ครึ่งทางให้ใช้พายไม้กลับข้าวก้นหม้อขึ้นเอาข้างบนลง หุงต่อจนสุก เทข้าวใส่กะละมัง คนเบาๆ ให้ทั่ว ชิมรสดูอีกครั้ง ข้าวจะอร่อยแต่รสไม่จัด ที่สำคัญคือหอมมาก วิธีทำข้าวอบ ตั้งกระทะเทฟลอน ใส่เนยลงไป 2 ช้อนโต๊ะ พอเนยละลาย เทให้เนยเคลือบทั่วกระทะ เทเนยที่เหลือใส่ถ้วย ตักข้าวพิลาฟใส่กระทะเท่าที่ต้องการ หั่นเป็ดย่างคลุกกับซอสเป็ดย่าง แนบกระทะร้อนๆ ให้เป็ดหอม วางเป็ดบนด้านหนึ่งของข้าว หั่นหมูแดงบางๆ คลุกกับซอสหมูแดงและซอสอื่นๆ เช่น เทอริยากิ นาบกระทะพอให้หมูหอม วางให้ปิดหน้าข้าวอีกด้านหนึ่ง ราดหน้าด้วยเนยที่ละลายไว้ ปิดฝากระทะ ตั้งบนเตา เปิดไฟอ่อนๆ เปลี่ยนจุดสัมผัสไปเรื่อยๆ จนข้าวร้อนระอุ ส่งกลิ่นหอม โรยพริกไทยและผักชี ข้าวพิลาฟนี้ทำหน้าอื่นๆ เช่น ไก่ย่าง ปลาแซลมอนย่างก็อร่อยค่ะ

  ชวนทำเมนูมื้อเช้าสไตล์ญี่ปุ่น สะดวกทำง่ายแถมอิ่มสบายท้อง ไม่ต้องทอดน้ำมันแค่ย่างให้สุกหอม อร่อยได้ทุกเพศทุกวัย   ส่วนผสม (สำหรับ 5 ชิ้น) สาหร่ายแผ่นตัดขนาดเท่าชีสแผ่น 5  แผ่น ชีสแผ่น 5 แผ่น ฮอตดอก 5 ชิ้น ข้าวญี่ปุ่นหุงสุก 3 ถ้วย เกลือป่น  1/2 ช้อนชา พริกไทยป่น  1/2  ช้อนชา โชยุ 2 ช้อนโต๊ะ มิริน 1 ช้อนโต๊ะ งาขาวและงาดำ 2 ช้อนชา วิธีทำ ปรุงรสข้าวโดยผสมข้าวกับเกลือและพริกไทย คลุกให้เข้ากัน เตรียมไว้ เรียงชีสโดยวางแผ่นชีส สาหร่าย วางชีสอีกแผ่นประกบกัน เตรียมไว้ ใส่ฮอตดอกแล้วม้วน เตรียมไว้ แผ่ข้าวบนพลาสติกที่รองด้วยเสื่อม้วนข้าว วางไส้กรอกห่อชีสแล้วห่อให้แน่น เสียบไม้ เตรียมไว้ ตั้งกระทะทาน้ำมันบางๆ พอร้อน วางข้าวห่อลงย่าง ทาด้านนอกด้วยโชยุผสมมิรินบางๆ โรยงา ย่างจนเหลืองหอม จัดใส่จาน เสิร์ฟกับซอสตามชอบ

  โจ๊กชามนี้ได้กลิ่นหอมและรสหวานของปูทะเล ข้าวหอมมะลิใหม่ต้มกับน้ำซุปที่เคี่ยวจากเปลือกกุ้งจนเนื้อโจ๊กนุ่มละมุนลิ้น ได้รสอร่อยจากทะเลเต็มๆ   ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) ปูทะเล 2 ตัว ข้าวหอมมะลิใหม่ 1 ถ้วย น้ำต้มเปลือกกุ้งหรือน้ำสต๊อกปลา 2 1/2-3 ถ้วย ขิงหั่นแว่น 3-4 ชิ้น เกลือทะเลสำหรับปรุงรสเล็กน้อย ขิงซอย ต้นหอมซอย และพริกไทยป่นสำหรับเสิร์ฟ วิธีทำ ต้มข้าวกับน้ำสต๊อกให้ข้าวสุกประมาณ 70% ปิดฝาไว้สักครู่ ล้างปู สับเป็นชิ้น เก็บมันปูไว้ ต้มข้าวให้เดือด ใส่ขิงหั่นแว่น ปู กระดองปู และมันปู ปรุงรสด้วยเกลือ (เติมน้ำเพิ่มได้ตามชอบ) ต้มจนสุกทั้งหมด ปิดฝาไว้สักครู่ ตักใส่ชาม โรยขิงซอย ต้นหอมซอย และพริกไทยป่น

18 ปีที่แล้ว ร้านพรีโก (Prego) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเหนือของหาดเฉวง หาดชื่อดังของเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถือเป็นร้านอิตาลีร้านแรกและร้านเดียวที่เสิร์ฟเมนูอิตาเลียนดั้งเดิมด้วยวัตถุดิบคุณภาพดีส่งตรงมาจากกรุงเทพฯ ด้วยความแตกต่างจากร้านทั่วไปในยุคนั้นทำให้ Prego กลายเป็นร้านยอดฮิตของเกาะจนลูกค้าต้องต่อแถวยาว เชฟมาร์โก้ย้อนความหลังให้เราฟังถึงร้านที่เขาปั้นมากับมือ   ในเดือนธันวาคมนี้ พรีโกก็ถือโอกาสมาเปิดสาขาที่สองที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท ให้คนกรุงเทพฯได้ลองลิ้มชิมรสอิตาเลียนต้นตำรับ โดย เชฟมาร์โก้ บอสกายอินี่ (Marco Boscaini) Corporate Chef for Prego Project ผู้ปลุกปั้นร้าน Prego มาตั้งแต่แรกเริ่มเป็นผู้กำกับรสชาติ     เชฟมาร์โก้บอกว่า เราอาจจะนึกภาพสมุยเมื่อ 18 ปีที่แล้วไม่ออก พูดง่ายๆ คือสมุยเวลานั้นทำเอาเชฟตกใจไม่น้อย เพราะยังไม่มีร้านไหนเสิร์ฟอาหารอิตาเลียนดีๆ ตรงตามตำรับเลย และยังไม่มีบริษัทนำเข้าวัตถุดิบคุณภาพดีส่งไปสมุย แม้จะมีอุปสรรคแต่เชฟก็แก้ไขได้เพราะเคยทำงานที่กรุงเทพฯ และรู้จักบริษัทนำเข้าวัตถุดิบเป็นอย่างดี เชฟจึงสั่งทั้งเนื้อ ชีส ไวน์ ฯลฯ ให้บินตรงมายังสนามบินสมุย และเชฟเป็นผู้ขับรถไปรับด้วยตัวเอง   ร้านพรีโกทั้งที่สมุยและกรุงเทพฯ เสิร์ฟอาหารอิตาเลียนต้นตำรับ เป็นเมนูอิตาเลียนที่เราคุ้นเคย ซึ่งเห็นแล้วรู้จักทันที ส่วนพิซซาจะทำสไตล์โรมันที่เนื้อแป้งบาง กรอบ และถ้าอยากลองแซนด์วิชสไตล์อิตาเลียนก็ต้องมาช่วงเช้า เชฟอธิบายถึงอาหารของร้านพรีโกให้เราได้แอบกลืนน้ำลาย   ส่วนจานที่เชฟบอกว่าห้ามพลาดคือ ริซอตโตทรัฟเฟิล สูตรนี้ใช้ข้าวพันธุ์เฉพาะของอิตาลีที่เรียกว่า อาร์บอริโอ (Arborio Rice) ที่มีเม็ดอ้วนสั้น ครีมมี่ ใส่ชีสตาเล็จโจ (Taleggio Cheese) ชีสเนื้อนุ่ม เปลือกบาง กลิ่นหอม ผัดด้วยความใส่ใจ ค่อยๆ เติมน้ำสต็อกและหมั่นคนจนข้าวสุกแบบที่เรียกว่า Al Dente คือเมื่อเคี้ยวแล้วเนื้อหนึบ แต่ไม่แข็ง ใส่ทรัฟเฟิลบดส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ถือเป็นจานปราบเซียนที่ต้องใช้ประสบการณ์ในการทำออกมาให้อร่อย   ใครอยากลองริซอตโตและอาหารอิตาเลียนต้นตำรับ ตามไปกันได้เลยที่ประตูน้ำ              ริซอตโตเห็ดทรัฟเฟิลดำ (Risotto Taleggio e Tartufo) ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) ข้าวริซอตโต (Arborio Rice) 100  กรัม ชีสตาเล็จโจขูด (Taleggio Cheese)  60 กรัม ทรัฟเฟิลบด (Truffle Paste)  40 กรัม หอมหัวใหญ่สับ 10 กรัม เนยจืด 10 กรัม น้ำมันมะกอก  5 กรัม พาร์สลีย์สับ 30 กรัม ชีสพาร์เมซานขูด  30 กรัม น้ำสต็อกไก่ 2  ถ้วย ไวน์ขาว 2 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเล และพริกไทยดำสำหรับปรุงรส วิธีทำ ใส่น้ำมันมะกอก และเนยในหม้อสำหรับผัด ใส่หอมหัวใหญ่และข้าวลงผัดประมาณ 2 นาที จนน้ำมันเคลือบเมล็ดข้าว และหอมหัวใหญ่สุกใส ใส่ไวน์ขาว ตั้งไฟต่อจนไวน์ระเหย ค่อยๆ เติมน้ำสต็อก ผัดต่ออีกประมาณ 15 นาที จนข้าวเริ่มสุก (Al dente) ยกลง ใส่ชีสตาเล็จโจ คนให้เข้ากัน และใส่ทรัฟเฟิลบด ชีสพาร์เมซาน เนย และคนต่อให้เข้ากันประมาณ 1 นาที ชิมและปรุงรสเพิ่มด้วยเกลือ และพริกไทย ใส่พาร์สลีย์ และตักใส่จานเสิร์ฟ

  ซอสแกงกะหรี่ทำเองได้ง่ายๆ สไตล์วีแกน ใช้ผักรสหวาน เช่น แครอต หอมหัวใหญ่ ได้รสเปรี้ยวหอมจากแอปเปิลเคี่ยวกับผงกะหรี่ เพิ่มรสด้วยมิโซะ และโชยุ จะได้ซอสแกงกะหรี่รสธรรมชาติอร่อยกลมกล่อม กลิ่นหอม ราดบนข้าวญี่ปุ่น กินกับนัตเก็ต Plant-Based จานเดียวอิ่ม   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) นัตเก็ต Plant-based 10 ชิ้น ข้าวญี่ปุ่น ผักสลัด แรดิชสไลซ์ และผักดองสำหรับเสิร์ฟ น้ำมันพืชสำหรับทอดและผัด ส่วนผสมซอสแกงกะหรี่ หอมหัวใหญ่ขูด 1/2 ถ้วย แครอตขูด 1/2 ถ้วย แอปเปิลเขียวขูด 1/2 ถ้วย กระเทียมขูด 2 ช้อนโต๊ะ มิโซะ 2 ช้อนโต๊ะ โชยุ 1-2 ช้อนโต๊ะ ผงกะหรี่ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่าประมาณ 1 ถ้วย เกลือทะเล และพริกไทยบดสำหรับปรุงรส น้ำมันพืชสำหรับผัด วิธีทำ ทอดนัตเก็ต Plant-based ในน้ำมันร้อนท่วมให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ ทำซอสโดยผัดหอมหัวใหญ่กับน้ำมันเล็กน้อยจนสุกนุ่ม ใส่กระเทียมขูด แครอตขูด ผัดต่อให้แครอตสุกนุ่ม ระหว่างผัดค่อยๆ เติมน้ำเพื่อให้ผักสุกเร็ว ใส่แอปเปิลเขียวขูด และผงกะหรี่ ปรุงรสด้วยโชยุ มิโซะ เติมน้ำให้พอท่วม และเดือดทั่ว เมื่อผักนุ่มแล้วนำไปปั่นจนได้ซอสละเอียด เทใส่หม้อต้มต่อ สักครู่ ชิมรส ใส่เกลือ และพริกไทยตามชอบ วางนัตเก็ตทอดบนข้าวญี่ปุ่น ราดซอสแกงกะหรี่ เสิร์ฟพร้อมกับผักสลัด แรดิชสไลซ์ และผักดอง

  เมนูนี้เป็นข้าวอบที่หอมอร่อย ใช้เครื่องแกงสำเร็จรูปตรา Mother’s Recipe ค่ะ หม้อหุงข้าวควรจะเป็นแบบ Dummy 101 คือแบบโง่ๆ ไม่ต้องมีปุ่มสั่งการมากมาย   ส่วนผสม ข้าวหอมมะลิเก่า 500 กรัม (ซาวและเกรอะให้สะเด็ดน้ำ) น้ำสต๊อก 800 มิลลิลิตร ซีอิ๊วจีนฉูปัง 1 ช้อนโต๊ะ แม็กกี้ 2 ช้อนชา ผงเครื่องแกงเนื้อมาซาลา 1 ช้อนโต๊ะ เนยแข็ง (Cheese) เช่น บรี เชดดาร์ มอซซาเรลลา อย่างหนึ่งอย่างใด หรือผสมกัน เบคอน 100 กรัม กุนเชียง 2 อัน มะเขือเทศแห้งอมเปรี้ยวอมหวาน 1/4 ถ้วย (ดอยคำ) แทนด้วยลูกเกดได้ เนย 2 ช้อนโต๊ะ หอมหัวใหญ่ซอย 1 หัว กระเทียมสับ 1 หัว ก้านเซเลรี หรือก้านขึ้นฉ่ายซอย 1/4 ถ้วย รากผักชี 2 ราก พริกไทยเล็กน้อย ไก่ย่าง หรือเป็ดย่าง  วิธีทำ ซอยเบคอน เจียวพอเหลือง ไม่ต้องกรอบ หั่นกุนเชียงเป็นวงตามขวาง ใส่น้ำแค่เสมอกับกุนเชียง ต้มไปเรื่อยๆ พอน้ำแห้งก็ทอดต่อให้ไหม้นิดๆ มีกลิ่นหอม ใช้น้ำมันที่เจียวเบคอน (ไม่ต้องหมด) เจียวกระเทียมพอเริ่มเหลือง ใส่เนย (Butter) และหอมหัวใหญ่ ผัดจนสุกใส ใส่เครื่องปรุงและส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด (ยกเว้นข้าวและน้ำสต๊อก) ระหว่างที่ผัดค่อยๆ เติมน้ำสต๊อกกันไหม้ ผัดจนหอม ใส่ข้าวลงผัด ผัดพอให้รอบๆ เมล็ดข้าวเริ่มสุก ตักข้าวใส่หม้อหุงข้าว ใส่น้ำสต๊อกที่เหลือทั้งหมดลงไป หุงข้าวไปประมาณครึ่งทางใช้ทัพพีไม้พลิกข้าวในหม้อ ทำอย่างเบามือ อย่าให้เมล็ดข้าวหัก หุงต่อจนข้าวสุก ตักข้าวใส่โถดินหรือถาดอบเท่าที่จะรับประทาน ปิดหน้าข้าวด้วยไก่ย่างหรือเป็ดย่าง โรยเนยแข็ง ส่งเข้าอบไฟบนจนเนยละลายประมาณ 10 นาที ตั้งโต๊ะกันได้เลย เหยาะแม็กกี้หน่อยก็อร่อยดี (ถ้ามีปืนพ่นไฟก็เป่าให้ชีสละลาย ไม่ต้องเข้าเตาอบ) อาจาดและเครื่องปรุงอาจาด แครอตขูดเป็นเส้นขนาดใหญ่ 1 ถ้วย, หอมแดงซอย 1/4 ถ้วย, เซเลรีหั่นขวาง 1/2 ถ้วย, น้ำส้มสายชู, เกลือ, น้ำตาล, น้ำจิ้มซีฟู้ด

  ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่) ข้าวบาร์เลย์ต้มสุกประมาณ 80 % 1 ถ้วย หอมหัวใหญ่สับ 1/2 หัว น้ำมะเขือเทศประมาณ 1 ถ้วย มะเขือเทศเชอร์รีย่าง 6 ผล มะเขือเทศซันดรายหั่นเส้น 2 ช้อนโต๊ะ กุ้งลายเสือ 4-6 ตัว กระเทียมซอย 1 กลีบ น้ำมันมะกอกสำหรับผัด อิตาเลียนพาร์สลีย์สับเล็กน้อย เกลือทะเลและพริกไทยดำบดหยาบสำหรับปรุงรส วิธีทำ ย่างกุ้งกับกระเทียมและน้ำมันมะกอกให้สุกเหลือง ตักขึ้น พักไว้ ใช้กระทะใบเดิม ผัดหอมหัวใหญ่กับน้ำมันมะกอกพอสุกนุ่ม ใส่ข้าวบาร์เลย์ มะเขือเทศซันดราย น้ำมะเขือเทศ และมะเขือเทศเชอร์รีย่าง ผัดจนงวด ชิมและปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ตักใส่จาน วางกุ้งย่าง โรยอิตาเลียนพาร์สลีย์สับ

  มื้อเช้าคู่ใจอย่างโจ๊กร้อนๆ เนื้อข้าวนุ่มนวลกินอร่อย เพิ่มรสชาติให้แตกต่างง่ายๆ ด้วยท็อปปิงอย่างเบคอนทอดและถั่วลิสงทอด คลุกรวมกันได้รสเค็มๆ หอมๆ ก็พร้อมสำหรับยามเช้าแล้ว   ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) ข้าวสำหรับทำโจ๊ก 1 1/2 ถ้วย กระดูกเล้ง 1/2 กิโลกรัม น้ำประมาณ 4 ถ้วย เกลือทะเล 1 ช้อนชา ท็อปปิง : เบคอนทอด ถั่วลิสงเม็ดเล็กทอด ปาท่องโก๋หั่นแล้วทอด หมูหย็องฉีกฝอย ขิงซอย และต้นหอมซอย วิธีทำ                                                                                                         ลวกกระดูกเล้ง จากนั้นต้มกับน้ำ 4 ถ้วย ใส่ข้าวลงต้มจนสุกนิ่ม ใส่เกลือ ตักข้าวใส่หม้อใบเล็ก ใส่น้ำให้ข้นหรือใสได้ตามชอบ โรยหน้าด้วยเบคอนทอดสับหยาบๆ คลุกกับถั่วลิสงทอด ปาท่องโก๋ทอด หมูหย็อง ขิงซอย และต้นหอมซอย โรยพริกไทยป่นตามชอบ วางเบคอนทอดเป็นแผ่นพาดบนชาม

  ข้าวหน้าไก่กับไข่ หรือข้าวแม่ลูกผูกพัน เมนูคู่ครัวง่ายๆ ที่คุณแม่ชาวญี่ปุ่นจะทำให้ลูกกินเป็นประจำ ส่วนผสมหลักมีเนื้อไก่ ไข่ และเครื่องปรุงรสหลักของญี่ปุ่นอย่างดาชิ โชยุ และมิรินเท่านั้น   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) สะโพกไก่หั่นชิ้นบางพอดีคำ 2 ชิ้น หอมหัวใหญ่สไลซ์ 1 หัว ไข่ไก่ตีพอเข้ากัน 2 ฟอง น้ำดาชิ 1/2 ถ้วย มิริน 1 1/2 ช้อนโต๊ะ สาเก 1 1/2 ช้อนโต๊ะ โชยุ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชา ข้าวญี่ปุ่นสำหรับเสิร์ฟ ต้นหอมซอย สาหร่ายโนริหั่นเส้น และพริกป่นญี่ปุ่น (Shichimi Togarashi) สำหรับโรยหน้า วิธีทำ ผสมน้ำดาชิ มิริน สาเก โชยุ และน้ำตาล คนให้น้ำตาลละลาย พักไว้ ใช้กระทะแบนใบเล็ก ใส่หอมหัวใหญ่ เนื้อไก่ และส่วนผสมน้ำดาชิที่เตรียมไว้ให้พอท่วมไก่ ตั้งไฟแรงปานกลาง พอเดือดลดไฟเบา ช้อนฟองออก ปิดฝาไว้ 5 นาทีจนไก่สุก ชิมรสและปรุงเพิ่มตามชอบ เทไข่ใส่ ปิดฝาไว้สักครู่จนไข่สุกตามชอบ เทราดบนข้าว โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและสาหร่ายหั่นเส้น เสิร์ฟพร้อมพริกป่นญี่ปุ่น

  ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) ข้าว 3  ถ้วย กุ้ง ปลาหมึก ปลาแซลมอน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำอย่างละ 1/2 ถ้วย กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำจิ้มซีฟู้ด 2-3 ช้อนโต๊ะ ผักชีซอย 1-2 ต้น เกลือเล็กน้อย น้ำมันพืชสำหรับผัด ไข่ปลาแซลมอนสำหรับโรยหน้า  ผักสลัด มะเขือเทศเชอร์รี และน้ำจิ้มซีฟู้ดสำหรับเสิร์ฟ วิธีทำ รวนซีฟู้ด (แยกแต่ละชนิด) แล้วตักขึ้น พักไว้ เจียวกระเทียมสับพอหอม ใส่ข้าวลงผัด ใส่เกลือ ผัดสักครู่จนเมล็ดข้าวร่วน ใส่ผักชี ผัดให้เข้ากัน ใส่น้ำจิ้มซีฟู้ด ผัดให้ทั่ว ใส่ซีฟู้ดที่ผัดไว้ ผัดจนสุกหอม ตักใส่จาน โรยด้วยไข่ปลาแซลมอน เสิร์ฟพร้อมผักสลัด มะเขือเทศเชอร์รี และน้ำจิ้มซีฟู้ด

  ข้าวไข่ข้นเห็นชื่อก็น่ากินแล้ว ข้าวราดไข่ข้นนุ่มๆ เสิร์ฟกับผัดกะเพราปลากระป๋องที่รสชาติลงตัวทั้งเผ็ด เค็ม หวาน กลมกล่อม   ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่) ข้าวสวย 1 ถ้วย ปลาซาดีนในซอสมะเขือเทศ 1 กระป๋อง ไข่ไก่ 2 ฟอง พริกขี้หนูเขียวแดง 5 เม็ด ใบกะเพรา 1/2 ถ้วย กระเทียมกลีบใหญ่ 3 กลีบ ซอสหอยนางรม 2 ช้อนชา ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา เกลือป่น 1/4 ช้อนชา พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา นมข้นจืด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ทำไข่ข้นโดยตีไข่ไก่ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ใส่นมข้นจืด คนให้เข้ากัน ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน 1/2 ช้อนโต๊ะ พอน้ำมันร้อนใส่ส่วนผสมไข่ คนพอไข่เริ่มสุก ตักราดบนข้าว ใส่น้ำมันที่เหลือ ใส่พริกขี้หนูกระเทียมตำรวมกันลงผัดให้หอมๆ ใส่เนื้อปลาซาดีน (ไม่เอาน้ำซอส) ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส น้ำตาล ผัดยีเนื้อปลาให้แตกเล็กน้อย   ใส่ใบกะเพรา ผัดให้หอม ตักราดข้างๆ ข้าวสวย โรยใบกะเพรากรอบ   

  อาหารเกาหลีเมนูสุดฮิตที่คนรักชีสสามารถทำกินเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน อย่างเมนูข้าวผัดกิมจิที่เพิ่มชีสช่วยเพิ่มอรรถรสในการกินให้ฟินไปเลย   ส่วนผสม หมูสามชั้นหั่นชิ้นเล็ก 1/2 ถ้วย กิมจิผักกาดขาว  100 กรัม โคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะ ข้าวญี่ปุ่น 1 1/2 ถ้วย ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา ต้นหอมหั่นท่อน 2 ต้น แคลิฟอร์เนีย พิซซ่า เบลน ชีส (มอสซาเรลล่า 80%, เชดดาร์ 10%, โปรโวโลน 10%)    1/2 ถ้วย น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ผัดหมูสามชั้นกับน้ำมันพอสุก ใส่กิมจิและโคชูจัง ผัดให้เข้ากัน ใส่ข้าว ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาล โรยต้นหอม ผัดให้เข้ากัน ตักใส่กระทะร้อน ใส่แคลิฟอร์เนีย พิซซ่า เบลน ชีส พอชีสเริ่มละลายยกลง เสิร์ฟร้อนๆ