ทำเอาหัวใจคนรักงานดีไซน์ละลายไปเลย สำหรับเมนู MELTED MODERN armchair ของร้าน Kintaam ที่นำเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Mid-Century มาย่อส่วน เปลี่ยนเบาะเป็นไอศกรีม ประกบด้วยบิสกิตบางกรอบแทนฐานเก้าอี้ นี่เป็นเหตุผลที่เราต้องไปเคาะประตูร้านไอศกรีมบนถนนจันทน์ และคุยกับคุณน้ำทิพย์ ไชยจินดา ว่าด้วยเรื่องความหวานเย็นและไอเดียที่เธอใส่ลงไปในเมนู

เชิญทุกคน “กินตาม” อัธยาศัย
“Kintaam” อ่านว่า “กินตาม” เป็นร้านไอศกรีมแซนด์วิชจากจังหวัดเชียงใหม่ที่คุณน้ำทิพย์เฉลยว่ามาจาก “กินตามอัธยาศัย” ซึ่งเป็นคำติดปากของที่บ้าน ให้ทุกคนทำสิ่งที่ชอบได้ตามอัธยาศัย จนมาเป็นชื่อร้านไอศกรีมแซนด์วิชที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ เพราะเจ้าของร้านแสนเก๋คนนี้เรียนจบด้านภาพยนตร์และทำงานเป็น Editor มาก่อน

จุดเริ่มต้นของ “กินตาม” เกิดขึ้นช่วงโควิด-19 ในเดือนเมษาฯ หน้าร้อน คุณน้ำทิพย์ชวนคุณแม่ลงมือทำไอศกรีมกินเองที่บ้านและพบว่าอร่อยเกินคาด “ที่เราทำเป็นไอศกรีมแซนด์วิชเพราะทิพย์ชอบทำขนม ก็เลยคิดต่อว่าจะทำอย่างไรให้ไอศกรีมไม่น่าเบื่อ เลยมาลงตัวที่ไอศกรีมแซนด์วิช ให้จับคู่ไอศกรีมกับขนมปัง บิสกิต บราวนี่ โมจิได้หลากหลายตามอัธยาศัยของเรา”

เมื่อได้ไอศกรีมที่ชอบแล้วคุณน้ำทิพย์ก็ชวนคุณน้ำอบ พี่สาวซึ่งถนัดด้านงานดีไซน์มาทำแบรนดิงแล้วเริ่มขายแบบเดลิเวอรี ก่อนจะทวีความจริงจังขึ้นเมื่อไปออกบูทในงาน Bangkok Design Week ไอศกรีมของ 2 พี่น้องขายดีแบบคิวยาวเหยียด เป็นสัญญาณว่าถึงเวลามีหน้าร้านของตัวเองที่กรุงเทพฯ เสียที

Made In Chiang Mai
ไอศกรีมของกินตามเบสเป็นไอศกรีมนม เนื้อนุ่มหนึบ และพยายามใช้วัตถุดิบของเชียงใหม่ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นนมสด เลมอน รวมถึงใช้ชาไทยจากเชียงราย คุณน้ำทิพย์อธิบายว่าถ้าเป็นไอศกรีมที่หน้าร้านเธอจะทำรสชาติที่เข้าใจง่าย แต่เมื่อไหร่ที่คอลแลบกับแบรนด์ต่างๆ ไอศกรีมจะออกมาสุดเหวี่ยง “เราเคยทำกับแบรนด์สกินแคร์ Clarins โจทย์ที่ได้รับมาคือดับเบิลเซรั่มที่มีส่วนผสมของสมุนไพร พอเราได้เห็นลิสต์ส่วนผสมแล้วก็ทำออกมาเป็นไอศกรีมที่เข้ากัน คือถ้าทำเพื่อขายหน้าร้านอาจจะยากหน่อย แต่พอเป็นรสชาติที่ทำในอีเวนต์คนก็เปิดใจ ก่อนหน้านี้เราทำไอศกรีมสบู่กับแบรนด์หนึ่งของสวีเดน เขาก็เล่าว่าส่วนประกอบในสบู่ของเขามีอะไรบ้าง เราก็จินตนาการแล้วทำไอศกรีมออกมาเป็นรูปสบู่วางบนถาดไม้ พอส่งไปให้แบรนด์ชิม เขาก็บอกว่านี่มันสบู่นี่นา (หัวเราะ)”

MELTED MODERN armchair เก้าอี้ตัวนี้กินได้
“ไอศกรีมเก้าอี้เป็นการจับ 2 สิ่งจากคนละฝั่งมาเจอกันแล้วเกิดเป็นสิ่งใหม่ คอลแลบกับร้านเฟอร์นิเจอร์ midcen.modern ของพี่ชาย มานั่งเลือกกันว่าจะถ่ายทอดออกมาเป็นชิ้นไหน โต๊ะ ตู้ เตียง โคมไฟ สุดท้ายมาจบที่เก้าอี้ที่เป็นไอคอนของยุค Mid-Century เอาบิสกิตมาเป็นขา ส่วนเบาะเป็นไอศกรีม ก่อนหน้านี้คิดจะทำหลายชิ้นเป็นห้องนั่งเล่นเลยดีไหม แต่สุดท้ายเราก็เลือกสิ่งที่ชัดเจนที่สุด”

สิ่งที่ยากไม่ใช่ไอศกรีม แต่เป็นการนำบิสกิตที่แตกหักง่าย มาขัดกันเป็นขาเก้าอี้ให้มุมพอดีกัน โดยไม่ต้องทาน้ำตาลหรือหยอดไซรัป ทุกออร์เดอร์ใส่กล่องบรรจุเฟอร์นิเจอร์จำลองไซส์จิ๋ว แถมแปะสติกเกอร์ Fragile ให้ขนส่งอย่างระมัดระวังด้วย

เวลามีวันละลาย
ก่อนบอกลากัน คุณน้ำทิพย์บอกเราว่าการเปิดร้านไอศกรีมทำให้เธอรู้ว่าเวลาเป็นเรื่องสำคัญ “ลูกค้าจะถามว่าไอศกรีมอยู่ได้นานไหมคะ ถ้าซื้อกลับบ้านอยู่ข้างนอกได้กี่นาที ทั้งๆ ที่ปกติแล้วเราอาจไม่ได้คิดเรื่องนี้ เราเป็นคนทำก็ต้องระมัดระวังเหมือนกัน เสน่ห์ของไอศกรีมคือมันมีเวลาของมัน เราซื้อไอศกรีม 1 แท่ง ถ้ามัวแต่ไปทำอย่างอื่น ไอศกรีมก็จะละลายไป เหมือนเวลาในชีวิตของเรา”

ตามไปกินไอศกรีมของ “กินตาม” ได้ที่ร้านหน้าโรงแรมพิงค์พยอม จังหวัดเชียงใหม่ และที่ถนนจันทน์ หรือแวะซื้อจากตู้ไอศกรีมที่ร้านหอมด่วน เอกมัย และโรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ แถมปีนี้เราจะได้เห็น Kintaam ไปคอลแลบกับแบรนด์ชุดว่ายน้ำด้วย

หน้าตาไอศกรีมจะออกมาแบบไหน อยากเห็นแล้วสิ

Tag: Special Guest, คาเฟ่เชียงใหม่, ร้านไอศกรีม, ไอศกรีม