ย้อนไปเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน คอลัมน์ Food in Biz เคยได้รับเกียรติสัมภาษณ์ คุณปุ้ม-สุชาดา สถาปิตานนท์ School Director หรือครูใหญ่ของ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต โรงเรียนสอนการประกอบอาหารระดับโลก ในครั้งนั้นเราได้พูดถึงประเด็นฟู้ดเทรนด์ที่กราฟชี้ไปในทิศทางเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วันนี้คลื่นความนิยมของคนรักการทำอาหารยิ่งขยายเหมือนสายน้ำที่หลั่งไหลและไม่จำกัดอยู่ในวงการใดวงการหนึ่ง ภาพฉายที่เห็นชัดคือจำนวนที่เพิ่มขึ้นของโรงเรียนสอนการประกอบอาหารในประเทศไทย ทั้งยังมีความหลากหลาย

คุณปุ้มมองประเด็นนี้ว่า “ความนิยมอาหารไทยได้กลายเป็นเดสติเนชันของโลกไปแล้ว ธุรกิจที่เกี่ยวข้องจึงเติบโตรองรับกำลังซื้อดังกล่าว หากย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นช่วงเริ่มต้นของการเข้ามาของโรงเรียนสอนทำอาหาร ปุ้มมองว่าการแข่งขันคือภาวะปกติของตลาด สร้างสีสัน และเป็นสัญญาณที่ดี แม้หลายคนอาจมองว่าเราถูกแชร์ส่วนแบ่งจากตลาดที่เดิมเป็นของเราผู้เดียวเพราะ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 (ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2550)  ถึงวันนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 17 แล้ว เรียกว่าผ่านยุคบุกเบิกจนมาถึงยุคเฟื่องฟูที่สุด มีโรงเรียนสอนทำอาหารเปิดใหม่อย่างคึกคัก แต่ด้วยเอกลักษณ์และจุดแข็งของแต่ละแห่งจึงเปรียบดังจิ๊กซอว์ที่เข้ามาเติมเต็มให้ภาพมีความสมบูรณ์และทรงพลัง

“อย่างที่ทราบกันว่า สถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลอ อินเตอร์เนชั่นแนล มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 130 สิ่งที่แต่ละรุ่นได้สืบทอดต่อกันมาได้หล่อหลอมให้เราเป็นตำนาน ทั้งในด้านการเรียนการสอน การถ่ายทอดด้วยการสาธิตการประกอบอาหารและให้นักเรียนได้ลงมือทำจนเป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นต้นแบบของหลายโรงเรียนในปัจจุบัน ทั้งยังช่วยพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทย ผู้ประกอบการ หรือผู้สนใจให้มีทางเลือกมากขึ้น รวมถึงความภาคภูมิใจของเราที่เป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับฝีมือคนไทยให้ได้มาตรฐานและสามารถไปทำงานในต่างประเทศได้”

คุณปุ้มกล่าวเพิ่มเติมถึงแรงผลักดันที่ช่วยให้ตลาดเติบโตอย่างก้าวกระโดด นั่นคือการเข้ามาของมิชลินไกด์ที่สร้างอิมแพกต์อย่างรวดเร็ว ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทยให้ร้อนแรงกระทั่งกลายเป็นเดสติเนชันของผู้คนจากทั่วโลก อีกส่วนหนึ่งคือรายการแข่งขันทำอาหารที่เข้ามาสร้างสีสัน เป็นโอกาสในการพัฒนาฝีมือ และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดอาชีพใหม่ จากเดิมที่ความฝันของเด็กๆ จะมีเพียงไม่กี่อาชีพคือครู หมอ ทหาร แต่วันนี้ “เชฟ” คืออาชีพใหม่ที่เย้ายวนและดึงดูดใจจากผลตอบแทนที่สูงขึ้น ทำให้ปัจจุบันผู้เรียนเริ่มมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งเราก็มีคอร์สระยะสั้นสำหรับเด็ก อีกทั้งการเรียนยังเปิดกว้างมากขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะกลุ่ม หากสนใจก็สามารถเข้ามาเรียนและนำไปประยุกต์ให้เข้ากับสายงานของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของร้านอาหาร ผู้ประกอบการ ฟู้ดสไตลิสต์ หรือนักโภชนาการ เป็นต้น

สำหรับหลักสูตรการเรียนการสอนของ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต คุณปุ้มให้นิยามว่าเหมือนการเดินทางไปด้วยกัน “เราศึกษาความต้องการของผู้เรียนมาโดยตลอดเพื่อพัฒนาหลักสูตรที่ตอบโจทย์ กล่าวได้ว่าปัจจุบันเรามีหลักสูตรที่ครอบคลุมทั้งหลักสูตรระยะยาวและหลักสูตรระยะสั้น ทุกหลักสูตรมีผู้เรียนให้ความสนใจคละกันไป หลายคนเรียนจบหลักสูตรหนึ่งแล้วก็สมัครเรียนหลักสูตรอื่นเพิ่มเติม เพื่อนำองค์ความรู้ของแต่ละหลักสูตรมาสร้างเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่หลักสูตรที่เป็นไฮไลต์และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือหลักสูตรวิชาการครัวไทย ที่มีนักเรียนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจอย่างมาก”

คุณปุ้มยังกล่าวถึงประเด็นเรื่องความยั่งยืน หรือ Sustainability ที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลกว่า ในฐานะที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต มีส่วนที่ทำให้เกิดวัตถุดิบเหลือใช้จากการประกอบอาหาร ทางโรงเรียนมีนโยบายให้ใช้วัตถุดิบทุกส่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนที่เหลือเป็นขยะก็จะนำเข้าสู่กระบวนการคัดแยก เหนือสิ่งอื่นใดคือความต้องการสร้างการรับรู้ว่าประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

สุดท้ายคุณปุ้มฝากถึงผู้สนใจสามารถแวะชมโรงเรียน หรือทดลองเรียนหลักสูตรระยะสั้นเพื่อค้นหาความชอบของตนเองก่อน ไม่แน่ว่าไอเดียใหม่ๆ อาจจุดประกายขึ้นที่นี่ก็เป็นได้

Tag: Food in Biz, เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต