ในหลายเทศกาลหรือวันสำคัญต่างๆ ทั้งระดับประเทศหรือระดับโลก เครื่องเทศมักถูกนำมาปรุงอาหารเพื่อเฉลิมฉลอง ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลดิวาลี (Diwali) ของอินเดีย เทศกาลตรุษจีน เทศกาลออกโทเบอร์เฟสต์ (Oktoberfest) และไม่พูดถึงไม่ได้ในเดือนธันวาคมนี้คือ เทศกาลคริสต์มาส นั่นเอง

Christmas for All
คริสต์มาสคือเทศกาลสำหรับคริสต์ศาสนิกชนทั่วโลก ทุกๆ วันที่ 25 ธันวาคม ไม่ว่าใครจะอยู่ที่ไหนก็ต่างกลับมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองกับครอบครัวและคนรัก แม้แต่ร้านรวงต่างๆ ก็ร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลนี้ด้วย อาหารที่เสิร์ฟในวันนั้นอาจจะเปลี่ยนไปตามวัฒนธรรม แต่เมนูหลักที่ขาดไม่ได้คือไก่งวง พาย และแฮม
Christmas in Worldwide
- ไก่งวงอบ เดิมทีไก่งวงคือสัตว์พื้นถิ่นของชาวอเมริกันพื้นเมือง ก่อนที่ยุโรปจะไปนำเข้ามาเลี้ยงอย่างแพร่หลายและถูกนำมาทำอาหารสำหรับชนชั้นสูงในวันสำคัญต่างๆ เพราะเลี้ยงง่ายและเนื้อมาก จนถึงจุดที่เสิร์ฟในเทศกาลคริสต์มาส กษัตริย์เฮนรีที่ 8 เป็นผู้ริเริ่มรับสั่งให้เสิร์ฟไก่งวงอบบนโต๊ะอาหารในวันคริสต์มาส จากแต่ก่อนที่ชาวอังกฤษมักฉลองกันด้วยการกินหัวหมูหรือเนื้อห่าน ตกทอดต่อมาจนกลายเป็นธรรมเนียมในอังกฤษถึงปัจจุบัน
ขณะที่อเมริกาก็กินไก่งวงในวันคริสต์มาส แต่วิธีการปรุงแตกต่างกัน เมนูไก่งวงที่อเมริกาจะเน้นความมัน ความชุ่มฉ่ำด้วยการใส่เนยไว้ใต้หนังไก่ ไส้ในเป็นถั่ว หอมหัวใหญ่ ไส้กรอก หรือขนมปัง เสิร์ฟคู่กับมันบดหรือแคสเซอโรล (Casserole) แต่ฝั่งอังกฤษนิยมใส่เสจและหัวหอม ทาน้ำมันหรือเนยบนหนังไก่ และเสิร์ฟกับกะหล่ำดาว (Brussel Sprouts) ต้มบ้าง Yorkshire Pudding บ้าง
- พาย พายที่นิยมเสิร์ฟในเทศกาลคริสต์มาสมีหลายแบบ อาทิ Pork Pie, Tourtière, Västerbotten Pie แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือมินซ์พาย (Mince Pie) ของอังกฤษและประเทศใน UK กับกิตติศัพท์เลื่องลือถึงรสชาติที่ค่อนข้างเข้มข้น เพราะไส้ทำจากเครื่องเทศ เช่น อบเชย กานพลู หรืออาจจะใส่ลูกจันทน์เทศ ผสมผลไม้แห้ง และเหล้า
- แฮม แฮมที่กินในช่วงคริสต์มาสไม่ใช่แค่แผ่นบางๆ อย่างที่กินกันปกติ แต่เป็นการเสิร์ฟส่วนขาของเนื้อหมู (ได้ทั้งขาหน้าและขาหลัง) เคลือบซอสที่ผสมด้วยส่วนผสมหลายอย่าง เช่น น้ำผึ้ง อบเชย กานพลู ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าแฮมแต่ละประเทศจะมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ต่างกัน ในอังกฤษมักนำแฮมไปต้มก่อนจะอบ ของอเมริกาจะปรุงซอสเคลือบแบบหวานกว่า ในสแกนดิเนเวียจะเพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยมัสตาร์ด และหนังหมูมีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบของเกล็ดขนมปัง
- Smörgåsbords คริสต์มาสทั้งที ชาวสวีดิชขอฉลองด้วยมื้อใหญ่จัดเต็มที่เรียกว่า Smörgåsbords เลยแล้วกัน ซึ่งเป็นธรรมเนียมการกินอาหารในงานเลี้ยงหรือวันสำคัญ แต่สำหรับคริสต์มาสจะมีวิธีการกินตามลำดับขั้นตอนที่ชัดเจนกว่า โดยเริ่มจากไวน์แดง (Glögg) ต่อด้วยคอร์สซีฟู้ดเสิร์ฟเย็น เช่น ปลาเฮร์ริงหมัก ปลาแซลมอนหมัก กุ้ง หลังจากนั้นเป็นคอร์สเนื้อเสิร์ฟเย็น เช่น แฮมคริสต์มาส Silltårta หรือเค้กปลาเฮร์ริงดอง ส่วนอาหารร้อนมีมีตบอล ไส้กรอก ซี่โครงหมูอบ ฯลฯ และปิดท้ายด้วยของหวานคริสต์มาส อาทิ พุดดิงข้าว (Risgrynsgröt) ช็อกโกแลต คุกกี้ขิง ซึ่งการจัดเตรียมแบบนี้มักทำกันทั้งในบ้านและโรงแรมต่างๆ
- Pierogi และ Barszcz Pierogi คือเกี๊ยวเวอร์ชันโปแลนด์ ไส้ในอาจเป็นผักหรือชีส เสิร์ฟพร้อมซุป Barszcz หรือซุปบีตรูตหมักผสมน้ำสต๊อก ถือเป็นดูโอที่ชาวโปแลนด์นิยมกินในวันคริสต์มาสอีฟ (ในกรณีบางบ้านที่เข้มงวดจะทำซุปจากน้ำสต๊อกผักตามธรรมเนียมโบราณที่ฉลองคืนก่อนคริสต์มาสด้วยการไม่กินเนื้อสัตว์)
- Pigs in a Blankets เมนูชื่อน่ารักเมนูนี้เป็นไส้กรอกที่ชาวอังกฤษและชาวไอร์แลนด์คุ้นเคยกันดีในช่วงเทศกาล โดยเฉพาะคริสต์มาส วิธีทำไม่ยาก เพียงพันเบคอนรอบไส้กรอกซึ่งส่วนใหญ่ใช้ชีปอลาตา (Chipolata) หมักเครื่องเทศ ไวน์มาจนมีรสชาติอร่อย แล้วอบประมาณ 20-25 นาทีก็กินได้เลย
คนอเมริกันรู้จัก Pigs in a Blankets เหมือนกัน แต่รูปร่างหน้าตาจะเป็นไส้กรอกค็อกเทลห่อแป้งเสียมากกว่า
- Kutia โจ๊กหวานจากประเทศยูเครน ทำจากข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต หรือข้าวบาร์เลย์ ใส่เมล็ดป๊อปปี้และผลไม้แห้งต่างๆ เช่น ลูกเกด แอปริคอต ราดน้ำผึ้งฉ่ำๆ (จัดอยู่ในหมวดของหวาน)
ชาวยูเครนและชาวยุโรปตะวันออกส่วนใหญ่เชื่อว่า Kutia คืออาหารศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องกินในวันคริสต์มาส เพราะเป็นตัวแทนของความเจริญรุ่งเรือง และอีกนัยหากทำ Kutia เสิร์ฟวันคริสต์มาสจะเสมือนได้อุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษด้วยเช่นกัน
รวมความเชื่อในวันคริสต์มาส
- การเปิดประตูบ้านในเช้าวันคริสต์มาสจะทำให้โชคดี
- การใช้ใบฮอลลี่ประดับบ้านจะช่วยปกป้องคนในบ้านจากปีศาจ (ด้วยหนามของมัน!)
- ชาวยุโรปเหนือเชื่อว่าหมูคือสัตว์นำโชค จึงต้องมีเมนูแฮมบนโต๊ะเสมอ
- ผู้ปกครองมักให้เด็กๆ อเมริกันพกแคนดี้ไม้เท้า (รูปตัว J) เพื่อป้องกันภัย
- ชาว UK เชื่อว่าถ้ากินมินซ์พาย (Mince Pie) วันละชิ้นเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม-5 มกราคมจะโชคดีตลอดปี
- ในพุดดิงคริสต์มาสบางบ้านที่อังกฤษจะซ่อนเหรียญไว้ ถ้าใครเจอระหว่างกินคนนั้นจะโชคดี
- คนเยอรมันบางส่วนนิยมกิน Stollen Cake เพราะเชื่อว่าจะได้รับการปกป้องคุ้มครองจากพระแม่มารีย์
Tag:
เทศกาลคริสต์มาส, เมนูคริสต์มาส
ความคิดเห็น