ความฝันที่จะมีเงินเก็บหนึ่งล้านบาท ดูเหมือนจะเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับหลายคน แต่เชื่อเถอะว่าไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ! ด้วยวินัยที่ถูกต้อง การวางแผนที่ชาญฉลาด และความเข้าใจในหลักการบริหารจัดการเงิน ไม่ว่าใครก็สามารถทำความฝันนี้ให้เป็นจริงได้ บทความนี้จะนำเสนอ 5 เคล็ดลับวิธีเก็บเงินล้านที่ใช้ได้จริง พร้อมตัวอย่างประกอบชัดเจน ที่จะช่วยให้คุณพิชิตเงินล้านได้ภายใน 3 ปี หรือ 5 ปี

วิธีเก็บเงินล้าน : เคล็ด(ไม่)ลับที่ใช้ได้จริง
การจะไปให้ถึงเงินล้านนั้น จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนและปฏิบัติได้อย่างต่อเนื่อง นี่คือ 5 วิธีเก็บเงินล้านที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีวินัยและบรรลุเป้าหมายได้อย่างไม่รู้ตัว
วิธีที่ 1 : "จ่ายให้ตัวเองก่อน" (Pay Yourself First) อย่างสม่ำเสมอ
นี่คือหลักการพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการออมเงิน แทนที่จะรอให้เหลือแล้วค่อยเก็บ ให้คุณตั้งใจหักเงินออมจำนวนหนึ่งออกจากรายได้ทันทีที่เงินเดือนเข้าบัญชี เงินส่วนนี้ควรถูกโอนไปยังบัญชีเงินออมหรือบัญชีลงทุนที่แยกต่างหากทันที
หลักการ : ทำให้การออมเป็นรายจ่ายแรกสุดของคุณ ไม่ใช่รายจ่ายสุดท้ายที่เหลือจากส่วนอื่น
ตัวอย่าง
- เป้าหมาย 1 ล้านบาทใน 3 ปี (36 เดือน) : คุณต้องออมให้ได้ประมาณ 27,778 บาทต่อเดือน (1,000,000 / 36)
- เป้าหมาย 1 ล้านบาทใน 5 ปี (60 เดือน) : คุณต้องออมให้ได้ประมาณ 16,667 บาทต่อเดือน (1,000,000 / 60)
วิธีที่ 2 : ตั้งงบประมาณและติดตามการใช้จ่ายอย่างละเอียด
การรู้ว่าเงินของคุณไปอยู่ที่ไหนเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมค่าใช้จ่าย การทำงบประมาณจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมและสามารถระบุจุดที่สามารถประหยัดได้
หลักการ : วางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้า และบันทึกทุกการใช้จ่ายเพื่อดูว่าตรงตามแผนหรือไม่
ตัวอย่าง
- ลองใช้แอปพลิเคชันบันทึกรายรับ-รายจ่าย เพื่อติดตามค่าใช้จ่ายในแต่ละหมวดหมู่
- กรณีศึกษา : คุณพบว่าในแต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายกับการดื่มกาแฟแก้วละ 120 บาท สัปดาห์ละ 5 ครั้ง (20 ครั้งต่อเดือน) รวมเป็น 2,400 บาท และค่าสั่งอาหารเดลิเวอรี่สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 150 บาท (12 ครั้งต่อเดือน) รวมเป็น 1,800 บาท หากคุณลดการดื่มกาแฟเหลือสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และลดการสั่งเดลิเวอรี่เหลือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง คุณจะประหยัดเงินไปได้ 1,680 บาท + 1,200 บาท = 2,880 บาทต่อเดือน เงินก้อนนี้สามารถนำไปโปะเงินออมของคุณได้ทันที
วิธีที่ 3 : ลด "รายจ่ายแฝง" และ "สิ่งที่ไม่จำเป็น"
รายจ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดูเหมือนไม่สำคัญ แต่เมื่อรวมกันแล้วอาจเป็นก้อนใหญ่ที่ไม่จำเป็น
หลักการ : ทบทวนค่าใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์หรือความสุขที่ยั่งยืน และตัดทิ้งไป
ตัวอย่าง
- ค่าสมัครสมาชิกรายเดือนที่ไม่ใช้ : บริการสตรีมมิ่งหลายแพลตฟอร์ม แอปพลิเคชันฟิตเนสที่คุณไม่ได้ใช้ หรือยิมที่คุณไม่ค่อยไป ลองยกเลิกสิ่งที่ไม่ได้ใช้จริง
- ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากนิสัย : การซื้อของลดราคาที่ไม่จำเป็น การกินข้าวนอกบ้านบ่อยเกินไป ค่าแท็กซี่/ไรด์แชร์ที่สามารถเดินหรือใช้ขนส่งสาธารณะได้
- กรณีศึกษา : คุณมีค่าสมาชิก Netflix (349 บาท), Disney+ (289 บาท), และ YouTube Premium (159 บาท) รวม 797 บาทต่อเดือน หากคุณเลือกใช้แค่แพลตฟอร์มเดียวที่คุณดูบ่อยที่สุด คุณจะประหยัดได้เกือบ 600 บาทต่อเดือน
วิธีที่ 4 : เพิ่มรายได้จากช่องทางอื่น
การเพิ่มรายรับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายเก็บเงินล้านได้เร็วขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องลดทอนคุณภาพชีวิตมากเกินไป
หลักการ : สร้างรายได้จากทักษะที่คุณมี หรือหางานเสริมที่เหมาะสม
ตัวอย่าง
- งานเสริม : รับงานฟรีแลนซ์ตามความถนัด เช่น กราฟิกดีไซน์ เขียนบทความ แปลภาษา สอนพิเศษ หรือหางานพาร์ทไทม์หลังเลิกงาน/วันหยุด
- ขายของออนไลน์ : หากคุณมีสินค้าที่น่าสนใจ หรือสามารถสร้างสรรค์อะไรบางอย่างได้ ลองเปิดร้านค้าออนไลน์เล็ก ๆ
- นำงานอดิเรกมาสร้างรายได้ : หากคุณชอบทำขนม ทำงานฝีมือ หรือถ่ายภาพ ลองเปลี่ยนงานอดิเรกเหล่านี้ให้เป็นช่องทางสร้างรายได้
- กรณีศึกษา : คุณมีทักษะในการเขียนภาษาอังกฤษ หากรับงานแปลบทความสั้น ๆ ได้เดือนละ 2,000 บาท นี่คือเงิน 24,000 บาทต่อปี ที่จะช่วยให้คุณถึงเงินล้านได้เร็วขึ้น
วิธีที่ 5 : นำเงินออมไป "ลงทุน" เพื่อให้เงินทำงาน
การเก็บเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้เงินเติบโตได้รวดเร็วตามเป้าหมาย เงินเฟ้อจะลดทอนอำนาจซื้อของเงินคุณ ดังนั้น การลงทุนอาจจะเป็นวิธีเก็บเงินล้านที่ช่วยให้เงินของคุณงอกเงยมากยิ่งขึ้น
หลักการ : ศึกษาและเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก โดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่รับได้
ตัวอย่าง
- กองทุนรวม : สำหรับมือใหม่ กองทุนรวมเป็นทางเลือกที่ดี เพราะมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพดูแล สามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมตราสารหนี้ หรือกองทุนรวมหุ้นที่มีความเสี่ยงแตกต่างกันไป
- หุ้น/พันธบัตร : สำหรับผู้ที่มีความรู้และรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น
- การลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ : เช่น อสังหาริมทรัพย์, ทองคำ ซึ่งต้องศึกษาให้ดี
- กรณีศึกษา : หากคุณออมเงินได้เดือนละ 16,667 บาท และนำไปฝากบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี กว่าจะถึง 1 ล้านบาท อาจใช้เวลานานกว่า 5 ปี แต่หากคุณนำเงิน 16,667 บาทนี้ไปลงทุนในกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ต่อปี คุณอาจจะสามารถสร้างเงินล้านได้เร็วขึ้น หรือมีเงินก้อนใหญ่กว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อครบ 5 ปี
การมีเงินล้านไม่ใช่ความฝันที่ไกลเกินเอื้อม หากคุณเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ด้วยความมีวินัยและความตั้งใจจริง การใช้ 5 เคล็ดลับวิธีเก็บเงินล้านนี้อย่างสม่ำเสมอ ทั้งการจ่ายให้ตัวเองก่อน การวางแผนงบประมาณ การลดรายจ่าย การเพิ่มรายได้ และการลงทุน จะช่วยให้คุณเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและบรรลุเป้าหมายเงินล้านได้อย่างแน่นอน ขอให้โชคดีกับการเดินทางสู่ความมั่งคั่ง !
Tag:
การออม, การเงิน
ความคิดเห็น