การหันกลับมาดูแลร่างกายและหัวใจของตัวเองน่าจะเป็นหนึ่งในลิสต์ New Year’s Resolutions ของหลายคน หลังจากเผลอละเลยไปเมื่อปีก่อน และสำหรับปี 2024 แน่นอนว่าเรื่องเวลเนส (Wellness) น่าจะเป็นเทรนด์ที่ยังมาแรงอย่างต่อเนื่อง G&C ชวนประเดิมคอลัมน์ใหม่ด้วยการพาไปทำความรู้จักกับ Wellness Center ชั้นนำแบบเต็มอิ่ม เริ่มที่ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ โรงแรมสุดหรูแห่งซอยหลังสวนที่มุ่งมั่นเรื่องการเป็นผู้นำด้านเวลเนส (Wellness) อย่างครบวงจร
นอกจากความสงบร่มรื่นจะทำให้ลืมไปสนิทว่าตัวโรงแรมตั้งอยู่ในย่านสุดคึกคักของกรุงเทพฯ ที่นี่ยังเป็นสวรรค์ของคนรักสุขภาพ เพราะมีไฮไลต์เป็น ศูนย์สุขภาพสินธร เวลเนส บาย รีเซ็นส์ (Sindhorn Wellness by Resense) ที่ทุกคนจะได้ทึ่งไปกับพื้นที่ทั้งหมด 4,000 ตารางเมตร บนชั้น 9 ของโรงแรมฯ ไม่ว่าจะเป็นสระน้ำเกลือแบบอินฟินิตีขนาด 25 เมตร ซึ่งช่วยในเรื่องถนอมผิวพรรณ ข้างๆ กันเป็นสปาที่แค่เปิดประตูก็ได้กลิ่นหอมชวนให้รู้สึกผ่อนคลายสบายใจแล้ว
พื้นที่ด้านในของสปาแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ทางขวามือเป็น การบำบัดด้วยความร้อน (Thermal Area) ส่วนฝั่งซ้ายเป็น การบำบัดด้วยน้ำ (Hydrotherapy) พร้อมด้วยห้องทรีตเมนต์ 26 ห้อง ห้องสปาส่วนตัว และโปรแกรมทรีตเมนต์ และการบำบัดร่างกายขั้นสูงโดยเทอราปิสต์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ แต่ที่ยกให้เป็น A Must! คือโปรแกรมเด่นอย่าง “ฮัมมัม ทรีตเมนต์” (Moroccan Hammam) ซึ่งที่นี่น่าจะเป็นห้อง Hammam ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้
สำหรับใครที่ยังไม่เคยรู้จักฮัมมัมมาก่อน “ฮัมมัม” ในภาษาอาหรับหมายถึงการแพร่กระจายของความอุ่น การทำฮัมมัมจึงเป็นการปรนนิบัติผิวด้วยการขัด พอก และการอาบน้ำตามแบบฉบับดั้งเดิมของโมร็อกโกนาน 60 นาที เริ่มต้นด้วยให้นอนราบลงไปบนหินอ่อนอุณหภูมิสูง แล้วเริ่มการขัดผิวกายด้วยสบู่ดำ (Black Soap) โดยใช้ถุงมือชนิดพิเศษค่อยๆ ขัดผิว ตามด้วยการพอกตัวด้วยแกลโซลเคลย์ (Ghassoul Mud) ซึ่งเป็นโคลนภูเขาไฟที่ช่วยในการดีท็อกซ์ผิว (ต่างจากฮัมมัมแบบตุรกีที่จะเป็นวิปโฟม) จบด้วยการบำรุงผิวด้วยน้ำมันอาร์แกนออยล์ (Argan Oil) ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยชะลอวัย และช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตในร่างกายดีขึ้นด้วย ใครมีปัญหาเรื่องความเครียดและนอนหลับยาก ฮัมมัมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียว
อีกหนึ่งโปรแกรมที่อยากให้ทุกคนได้ลองคือ โปรแกรมดีท็อกซ์ เซอร์กิต (Detox Circuit) ทั้งหมด 3 สเตชันซึ่งจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและดูแลผิวตลอด 60 นาที เริ่มด้วย Hydro Bath หรือการนวดตัวด้วยความแรงจากน้ำร้อนในอ่างน้ำเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และกระตุ้นกระบวนการไหลเวียนโลหิต ตามด้วย Dry Float & Thera Wrap หรือการพอกตัวด้วยโคลน โดยเทอราปิสต์จะให้นอนลงบนเตียงไร้แรงโน้มถ่วงที่มีน้ำอุ่นอยู่ในเบาะโดยรอบ เพื่อให้เราได้ผ่อนคลายและได้ฟื้นฟูผิวไปในตัว จบด้วย Scottish Shower ปลุกผิวโดยการนวดด้วยน้ำแรงดันสูงจากฝักบัวแบบพิเศษ ซึ่งจะช่วยผ่อนคล้ายกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ กล้ามเนื้อแนวกระดูกสันหลัง สะโพก ต้นขา น่อง แถมยังเป็นการกำจัดเซลลูไลต์อีกด้วย
ส่วนโปรแกรมอื่นก็น่าสนใจหลายโปรแกรม ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมผ่อนคลายความเครียดด้วยการลอยตัวในสระน้ำเกลือความเข้มข้นสูง (Floatation Therapy Tank) การบำบัดผิวด้วยน้ำจากฝักบัวแรงดันสูง (Vichy Shower) การบำรุงผิวแบบไบโอซาวน่า (Bio Sauna) การบำรุงผิวแบบซาวน่าด้วยเกลือ (Salt Sauna) การกระชับผิวด้วยความเย็น (Cold Chamber) รวมถึงการอบไอน้ำด้วยอะโรมา (Aroma Steam Room) ซึ่งสนใจแบบไหนก็สามารถพูดคุยกับเทอราปิสต์ได้ตามความต้องการ
กระซิบอีกนิดว่าทำสปาเสร็จแล้ว ยังสั่ง Wellness Menu อาหารสุขภาพที่ทางโรงแรมคัดสรรเป็นพิเศษขึ้นมาอิ่มอร่อยต่อเพลินๆ ได้อีกด้วย
เป็นการดูแลตัวเองแบบครบวงจรจริงๆ
ข้อมูล
Tag:
เวลเนส, โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น