เนื้อปลาฮามาจิเกรดซาชิมิ เนื้อสีขาวอมชมพูทำเป็น Crudo เมนูปลาดิบสไตล์อิตาเลียน หมักกับน้ำมันมะกอกและน้ำเลมอน เพิ่มความสดชื่น ได้รสหวานอมเปรี้ยวจากกูสเบอร์รี   ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่) เนื้อปลาฮามาจิ 150 กรัม น้ำมันมะกอก 1/2 ช้อนโต๊ะ ผิวเลมอน 1 ผล น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเล 1/8 ช้อนชา กูสเบอร์รีและดอกไม้กินได้สำหรับตกแต่งเล็กน้อย ส่วนผสมและวิธีทำเดรสซิง น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ ผักชีลาวสับ 1 ช้อนชา เกลือทะเลและพริกไทยดำบดหยาบสำหรับปรุงรสเล็กน้อย ผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ชิมรส เตรียมไว้ วิธีทำ แล่เนื้อปลาฮามาจิเป็นชิ้นบาง หมักกับส่วนผสมที่ใช้หมัก คลุมด้วยพลาสติกแร็ป แช่ในตู้เย็น ประมาณ 10-15 นาที จัดเนื้อปลาลงบนจาน วางกูสเบอร์รีหั่นครึ่ง ตกแต่งด้วยไมโครเฮิร์บและดอกไม้กินได้ ราดด้วยเดรสซิงที่เตรียมไว้ เสิร์ฟทันที

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) เนื้อปลาแซลมอนหั่นเป็นชิ้นสเต๊ก 2 ชิ้น ตะไคร้ซอย 1 ต้น กระเทียมซอย 3-4 กลีบ พริกชี้ฟ้าแดง (กรีดเมล็ดออก) 1-2 เม็ด พริกไทยดำ 1 ช้อนชา ขมิ้นสด 2 ช้อนชา น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ ผักสลัดรวมตามชอบ ผักชีสำหรับตกแต่ง ผักดอง น้ำ 1/2 ถ้วย น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วย น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1/2 ช้อนชา กระเทียมตำหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ พริกชี้ฟ้าตำหยาบ (กรีดเมล็ดออก) 2 เม็ด แครอตขูดเส้น 1 ถ้วย หัวไชเท้าขูดเส้น 1 ถ้วย พริกย่าง 1-2 เม็ด วิธีทำ ตำตะไคร้ กระเทียม พริกไทยดำ พริกชี้ฟ้า และขมิ้นรวมกันพอหยาบๆ นำไปคลุกกับเนื้อปลาแซลมอน ใส่น้ำปลา คลุกให้ทั่ว พักไว้ 1 ชั่วโมง วางเนื้อปลาบนถาดอบพร้อมสมุนไพร นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นาน 15-20 นาที ทำผักดองโดยใส่น้ำ น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย น้ำปลา และเกลือในหม้อใบเล็ก นำขึ้นตั้งไฟต้มให้เดือด ใส่กระเทียมและพริกตำพอหยาบ ต้มให้เดือดอีกครั้ง พักให้หายร้อน เทใส่แครอตและหัวไชเท้า แช่พักไว้ประมาณ 30 นาที วางเนื้อปลาแซลมอนลงจาน ตกแต่งด้วยผักชีและพริกย่าง เสิร์ฟคู่กับผักดอง และผักสลัดรวม

รสชาติที่เข้ากันของสลัดคูสคูสกับเนื้อปลาแซลมอนย่าง คลุกเคล้าด้วยน้ำมันมะกอกและน้ำเลมอนเพิ่มความสดชื่น เสิร์ฟคู่กับผักย่างหลากสีสัน ทั้งสวยและสุขภาพดี   ส่วนผสม (สำหรับ 3-4 ที่) คูสคูส (Couscous) 250 กรัม น้ำเปล่า 500 กรัม เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ   วิธีหุง ใส่น้ำกับน้ำมันมะกอกลงในหม้อ ต้มให้เดือดแล้วปิดไฟ ใส่คูสคูส คลุกให้ทั่ว ปิดฝา พักไว้ 2 นาที เติมเนยจืด นำขึ้นตั้งไฟอ่อนผัดต่ออีก 3 นาที ปิดไฟ พักไว้   ส่วนผสมสลัด เนื้อปลาแซลมอนหั่นเต๋า 240 กรัม คูสคูส 1 ถ้วย พริกหวานแดงหั่นเต๋าเล็ก 3 ช้อนโต๊ะ หอมแขกหั่นเต๋าเล็ก 1 ช้อนโต๊ะ เนื้อมะเขือเทศลอกผิวหั่นเต๋าเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ พาร์สลีย์สับ 2 ช้อนชา กระเทียมสับ 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเลมอนปรุงรสตามชอบ             เกลือและพริกไทยสำหรับปรุงรส   ผักย่าง เบบี้แครอตสีส้มและม่วง พวงมะเขือเทศเชอร์รี หน่อไม้ฝรั่ง พริกหวานเหลืองและซุกกินีหั่นเต๋า ต้นอ่อนกะหล่ำม่วงสำหรับตกแต่งเล็กน้อย   วิธีทำ ตั้งกระทะใส่น้ำมันใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง พอร้อนใส่เนื้อปลาแซลมอนลงทอดจนสุกเหลืองทุกด้าน ปิดไฟ ตักขึ้นเตรียมไว้ ย่างผักโดยตั้งกระทะพรมน้ำมันมะกอก โรยเกลือ และพริกไทยบนผักเล็กน้อย  ย่างผักให้พอสุกสีสันสวยงาม ตั้งกระทะให้ร้อนจัดใส่น้ำมัน ใส่พริกหวานและซุกกินีหั่นเต๋า ผัดเร็วๆ (Sauté) พอผักสลด แล้วตักขึ้น ทำสลัดคูสคูสโดยใส่พริกหวานแดง กระเทียม หอมแขก มะเขือเทศหั่นเต๋า พาร์สลีย์สับ และคูสคูสหุงสุก คลุกผสมให้เข้ากัน ราดน้ำมันมะกอกเล็กน้อย ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และน้ำเลมอนตามชอบ วิธีจัดเสิร์ฟ ใส่สลัดคูสคูสลงในพิมพ์วงกลม วางเนื้อปลาแซลมอน ตกแต่งด้วยต้นอ่อนกะหล่ำม่วง เสิร์ฟข้างด้วยผักย่างและผักซอเต (Sauté) ให้สวยงาม

ลองทำยำปลาดุกฟูด้วยน้ำปลาหวานที่กินกับสะเดาก็เข้ากันได้ดี ใส่ผักหญ้าประดามีตามที่ชอบ วันนี้ไม่มีมะม่วงดิบแต่มีตะลิงปลิงของเพื่อนบ้านแสนดี ใช้ได้เลยค่ะ ส่วนผักจัดจานก็มีใบกระท่อมกับใบกัญชาพันธุ์ Gorilla ส่วนผสม เนื้อปลาดุกย่าง 200 กรัม (แกะจากปลาดุกย่างตัวเล็ก 3 ตัว) ทอดได้ 2 แพ น้ำมันพืช 200 มิลลิลิตร ใช้ผสมปลาดุก ถั่วลิสงคั่วใหม่ หรือทอด หอมเจียวทอดกรอบ พริกแห้งทอดกรอบ หอมแดงซอยๆ ต้นหอมซอย ผักชี ตะลิงปลิงซอยเป็นเส้น พริกขี้หนูสวน มะนาว ใบกระท่อม 1 ใบ ใบกัญชา 1 ใบ ส่วนผสมน้ำปลาหวาน (สัดส่วนที่ให้ไว้นี้ทำได้หม้อใหญ่นะคะ ถ้าจะทำน้อยๆ ให้หารด้วย 4) น้ำตาลโตนดหรือน้ำตาลมะพร้าวอย่างดี 1,000 กรัม น้ำปลา 100 กรัม กะปิอย่างดี 100 กรัม น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย น้ำมะขามคั้นข้นๆ 1 1/4 ถ้วย น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย (Optional บางคนแอบเติมน้ำจิ้มซีฟู้ดนิดหน่อย) วิธีทำ ซื้อปลาดุกย่างป้าอ้อยตัวละ 15 บาทมา 3 ตัว แกะเอาแต่เนื้อได้ 200 กรัม (ใช้ปลาดุกย่างทอดฟูอร่อยกว่าปลาดุกนึ่ง) ใส่ครกตำให้ละเอียด ผสมน้ำมันพืชประมาณ 200 มิลลิลิตร คนให้เนื้อปลาแตกตัวและน้ำมันแทรกซึมอย่างทั่วถึง จะทำให้ทอดแล้วฟูกรอบทั่วกัน ตั้งกระทะใส่น้ำมันเยอะๆ ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง รอจนน้ำมันร้อน ใส่ปลาดุกลงไปครึ่งหนึ่ง เขี่ยตรงกลางให้กระจาย ทอดจนปลาสุกเหลืองอ่อนๆ ม้วนปลาเป็นแผ่นกลมๆ ตักขึ้นพักไว้ ทอดอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ เราได้ปลา 2 ที่ เคี่ยวน้ำปลาหวานโดยเคี่ยวน้ำตาล กะปิ และน้ำเปล่าจนละลาย ช้อนฟองออก ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด ชิมรสตามชอบ จัดจานโดยใช้ใบกระท่อมรองปลาฟู ที่เหลือก็จัดตามชอบเลยค่ะ เวลาคลุกเป็นยำให้บีบมะนาวนิดหน่อยรสชาติจะจี๊ดขึ้นมา อร่อยจริงๆ

คางปลาหางเหลืองที่มีไขมันแทรกเป็นริ้ว เมื่อนำไปทอดผิวนอกจะกรอบเนื้อในชุ่มฉ่ำ โรยสมุนไพรไทย หอมกรุ่น จัดจานง่ายๆ เหมือนกินกันในครอบครัว ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) คางปลาบุริ 2 ชิ้น กระเทียมสับ 50 กรัม ต้นหอมซอย 20 กรัม รากผักชี 20 กรัม พริกแดงจินดาซอย 20 กรัม เกลือ  7 กรัม น้ำตาลทราย 5 กรัม น้ำมันพืช 15 กรัม มะนาวผ่าซีก 1-2  ชิ้น        ส่วนผสมน้ำยำ พริกแดงจินดา 18 กรัม กระเทียม 25 กรัม รากผักชี 20 กรัม น้ำมะนาว 87 กรัม น้ำตาลทราย 12 กรัม น้ำตาลปี๊บ 25 กรัม น้ำปลา 62 กรัม วิธีทำ ล้างคางปลาให้สะอาดแล้วซับให้แห้ง โรยเกลือให้ทั่วแล้วทอดด้วยไฟปานกลางจนเหลืองกรอบ จัดใส่จาน ใส่น้ำมันลงในกระทะเล็กน้อย ผัดกระเทียมสับจนสุก จากนั้นใส่พริก และรากผักชี คั่วให้หอม แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายและเกลือให้ได้รสชาติเค็มนำเล็กน้อย ใส่ต้นหอมซอยลงไปผัด ตักราดบนเนื้อปลาที่ทอดเตรียมไว้ ทำน้ำยำโดยปั่นส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จัดปลาใส่จาน เสิร์ฟคู่กับน้ำยำและมะนาวผ่าซีก

เดิมทีญี่ปุ่นมีเมนูชื่อ Salmon Nanbanzuke เป็นปลาแซลมอนทอดราดซอส ต่อมามีคนไปดัดแปลงเป็นไก่ และเปลี่ยนเครื่องปรุง ตั้งชื่อให้สั้นลงว่า Chicken Nanban วันนี้เราจึงปรับปรุงอีกครั้ง นำแซลมอนมาทำแบบไก่ ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า Salmon Nanban   เครื่องปรุงปลาแซลมอน ปลาแซลมอน 2 ชิ้น เกลือ พริกไทย เนยนิดหน่อย ซอสเทอริยากิ มิรินเล็กน้อย ไข่ 1 ฟอง เบรดครัมบ์ (Bread Crumbs) นิดหน่อย เครื่องปรุงซอสนันบัง (Nanban)  ซอสเทอริยากิ 1/4 ถ้วย มิริน 1 ช้อนชา น้ำตาลทรายนิดหน่อย น้ำส้มสายชูหมัก ขิงขูดละเอียดประมาณ 1 ช้อนชา (อย่าใส่มาก พอรสขิงเข้มจะแก้ยาก) แป้งมันฮ่องกงผสมน้ำนิดหน่อย เครื่องปรุงซอสทาร์ทาร์ มายองเนสประมาณ 1 ถ้วย มัสตาร์ดตามชอบ ไข่ต้มสับ 1 ฟอง เซเลรีซอย 2 ช้อนโต๊ะ หอมหัวใหญ่ซอย 1/4 ถ้วย ผักดอง เช่น แตงกวา หอมแดง สับหยาบๆ ต้นหอมซอย 1 ต้น ขิงฝนละเอียด 1 ช้อนชา น้ำมะนาว น้ำตาล พริกไทย เกลือ มะนาวดองน้ำผึ้ง สับละเอียด (ไม่ใส่ก็ได้)​ วิธีทำซอสนันบัง (Nanban) ใส่ซอสเทอริยากิ มิริน และขิงลงในกระทะ ตั้งให้เดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย และน้ำส้มสายชูหมัก เราใช้น้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรดที่ทำเอง ถ้าไม่มีให้ใช้น้ำส้มสายชูที่มีคุณภาพดี พอได้รสเค็ม หวาน แอบเปรี้ยวนิดเดียวก็ใช้ได้ เติมแป้งมันฮ่องกงผสมน้ำ ตั้งไฟ คนตลอดเวลาพอให้ข้นนิดๆ วิธีทำซอสทาร์ทาร์ ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว เกลือ และน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง มะนาวดองน้ำผึ้งมีรสเปรี้ยวหวานและหอมกลิ่นเปลือกมะนาว ใส่ลงไปผสมทำให้อร่อยขึ้น ใส่พริกไทยและพริกป่นลงไปนิดก็จะ “kick” รสขึ้นมาค่ะ เราใส่ผงลาบเหนือซึ่งมีมิติของกลิ่นและรสมากกว่า วิธีทอดปลา ล้างปลาให้สะอาด โรยเกลือและพริกไทย คลุกแป้งทอดกรอบแบบแห้งๆ ใส่น้ำมันในกระทะไม่ต้องมาก นำปลาลงไปทอดให้กรอบ ทาเนยให้ทั่วปลา ทอดต่อครู่หนึ่ง ตีไข่ ใส่ซอสเทอริยากิ 1 ช้อนชา ใส่มิริน ตามด้วยเบรดครัมบ์ 2 ช้อนโต๊ะ ราดไปบนชิ้นปลา ทอดให้ไข่สุกและขนมปังกรอบ ตักปลาใส่จาน ราดด้วยซอสนันบังและซอสทาร์ทาร์ กินกับผักสดและข้าวญี่ปุ่นอร่อยมากค่ะ

แซลมอนชิ้นใหญ่อบด้วยอุณหภูมิต่ำในน้ำมันมะกอกชุ่มๆ จะได้แซลมอนสโลว์คุกเนื้อนุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นเลมอนและสมุนไพรอย่างไทม์ กินกับพาสตาผัดพริกกระเทียมกลิ่นหอม ส่วนผสม (สำหรับ 4-6 ที่) แซลมอนชิ้นใหญ่หนักประมาณ  500 กรัม หอมแขกหั่นแว่น 1 หัว เลมอนหั่นแว่น 1 ผล ไทม์สด 8-10 กิ่ง กระเทียมบุบ 6-8 กลีบ พริกไทยดำเม็ดบุบ 1 ช้อนชา น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ สกัดจากมะกอกออร์แกนิก 100% ปริมาณพอท่วมเนื้อปลา ส่วนผสมพาสตา เส้นสปาเก็ตตีต้มสุก 3 ถ้วย พริกแห้งหั่นแว่น 10 เม็ด กระเทียมสับ 10 กลีบ เกลือทะเล พริกไทยดำบดหยาบสำหรับปรุงรส พาร์สลีย์สับสำหรับโรยหน้า น้ำมันมะกอกสำหรับผัด วิธีทำ เทน้ำมันมะกอกใส่หม้อ ตั้งไฟให้พออุ่นๆ ใส่หอมแขก เลมอน ไทม์ กระเทียม และพริกไทยดำ ตั้งไฟให้พอมีกลิ่นหอม ปิดไฟ วางเนื้อปลาแซลมอนบนถาดขอบสูงสำหรับอบ ราดน้ำมันมะกอกให้ทั่วและพอท่วมเนื้อปลา ยกถาดเข้าอบอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส ประมาณ 30-40 นาทีจนเนื้อปลาค่อยๆ สุก ยกออกจากเตา ทำพาสตาโดยตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอก ใส่กระเทียมลงผัดให้มีกลิ่นหอม ใส่พริกแห้ง และเส้นสปาเก็ตตี ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยดำ ผัดให้ทั่ว โรยพาร์สลีย์ ตักใส่จานสำหรับเสิร์ฟคู่กับปลาแซลมอนอบ

ปลากะพงหั่นชิ้นชุบแป้งทอดกรอบสูตรโฮมเมด เสิร์ฟมากับน้ำซอสมะขามรสจัดจ้าน จะคลุกกับซอสเสิร์ฟเป็นอาหารจานหลัก หรือจะทอดเป็นชิ้นเล็กรับประทานเป็นอาหารว่างก็ได้เช่นกัน ส่วนผสมกะพงกรอบ ปลากะพง (หั่นชิ้น) 300 กรัม                                แป้งสาลีอเนกประสงค์ 4 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืชสำหรับทอด แป้งชุบทอด                  แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/4 ถ้วย    แป้งมันฮ่องกง 1/4 ถ้วย   ผงฟู 1 ช้อนชา    เกลือ 1/2 ช้อนชา            น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ       น้ำเย็น 70 มิลลิลิตร        ผักชี (สับ) 1 ช้อนโต๊ะ ซอสมะขาม                  น้ำมันพืช 2 ช้อนชา รากผักชี 2 ราก หอมแดง 2 หัว พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด กระเทียม 2 กลีบ เกลือ 1/4 ช้อนชา เม็ดพริกไทยขาว  1/2 ช้อนชา น้ำปลา  1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 50 กรัม ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา น้ำมะขามเปียก 50 กรัม น้ำสะอาด 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ เตรียมแป้งชุบทอดโดยร่อนแป้งสาลี แป้งมันฮ่องกง ผงฟู และเกลือ ใส่น้ำมัน และน้ำเย็น คนให้เข้ากัน ใส่ผักชีสับ คนให้กระจายทั่วดี พักแป้ง 5 นาที ทำซอสโดยโขลกรากผักชี หอมแดง พริกชี้ฟ้า กระเทียม เกลือ และพริกไทยขาว นำเครื่องที่โขลกไปผัดกับน้ำมันพืชให้หอมดี ใส่น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ซอสปรุงรส น้ำมะขามเปียก และน้ำสะอาด เคี่ยวให้พอข้นดี พักไว้ ตั้งน้ำมันสำหรับทอดที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เคล้าชิ้นปลากับแป้งสาลี ชุบในแป้งชุบทอด ทยอยลงทอดจนกรอบและมีสีเหลือทอง ตักขึ้น สะเด็ดน้ำมัน จัดเสิร์ฟกะพงกรอบ กับซอสมะขาม

ชีวิตเร่งรีบของคนเมืองซึ่งต้องทำอะไรที่รวดเร็ว โดยเฉพาะอาหารที่ต้องปรุงในเวลาอันจำกัด และพกพาไปกินได้ด้วย การปรุงด้วยซอสสำเร็จที่มีติดครัวไว้ง่ายๆ จึงน่าจะช่วยได้เป็นอย่างดี   ฉบับนี้เรานำซอสไทยที่ปรุงกับอะไรก็อร่อยมาผสมผสานเป็นเมนูพกพาง่ายๆ กินแล้วอิ่มท้อง เช่น ซอสจิ้มแจ่วรสแซ่บคลุกกับเนื้อย่างและผักต่างๆ ใส่ในแป้งพิตา แซนด์วิชไส้อกไก่ฉีกคลุกซอสสะเต๊ะ รสเค็มมันหวานนิดๆ สอดไส้ชีส และแร็ปตอร์ติญาสโมกแซลมอนกินกับน้ำสลัดซอสศรีราชาและครีมชีส รสชาติเปรี้ยวเผ็ด หอมกลิ่นซอสพริก   เรียกได้ว่าเพียงซอสแค่ขวดเดียวก็ทำเมนูอร่อยและง่ายได้ไม่ซ้ำใคร   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) แป้งตอร์ติญา 2 แผ่น แซลมอนรมควัน 4-6 ชิ้น ผักกาดคอส 5-10 ใบ หอมแขกสไลซ์ 1/4 ถ้วย แตงกวาดองหั่น (Gherkins) 1-2ช้อนโต๊ะ ผักชีลาวเล็กน้อย ส่วนผสมซอสศรีราชาครีมชีส ซอสพริกศรีราชา 1/3 ถ้วย ครีมชีส 1/3 ถ้วย น้ำสลัดครีม 1/3 ถ้วย  วิธีทำ ทำซอสโดยผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ชิมรส พักไว้ อุ่นแป้งตอร์ติญาด้วยไมโครเวฟหรือบนกระทะโดยไม่ต้องใส่น้ำมันให้พอร้อน ทาซอสศรีราชาครีมชีสให้ทั่วแผ่น วางผักกาดคอส แตงกวาดอง หอมแขก แซลมอนรมควัน และผักชีลาว ม้วนแผ่นตอร์ติญาให้แน่น ห่อด้วยกระดาษให้สวยงาม

ข้าวหน้าปลาไหลสไตล์ญี่ปุ่น เปลี่ยนรสชาติให้เป็นสไตล์ไทยด้วยซอสน้ำปลาหวาน ได้รสชาติที่แปลกใหม่แต่คุ้นลิ้น ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) ข้าวญี่ปุ่น 200 กรัม ปลาไหลย่าง 1 ตัว ใบชิโซะ 2 ใบ ไข่แซลมอน 30 กรัม ขิงดอง หอมแดงเจียว พริกแห้งซอยทอดกรอบ และใบมะกรูดซอยทอดสำหรับเสิร์ฟ ส่วนผสมซอสน้ำปลาหวาน น้ำมะขามเปียก 4-5 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ทำซอสน้ำปลาหวานโดยเคี่ยวน้ำมะขามเปียกกับน้ำตาลปี๊บและน้ำปลาจนเหนียว ชิมรส พักไว้ ตักข้าวญี่ปุ่นใส่ถ้วย วางปลาไหลย่าง ราดซอสน้ำปลาหวานบนเนื้อปลา วางใบชิโซะ ไข่แซลมอน ขิงดอง โรยหอมแดงเจียว พริกแห้งซอยทอดกรอบ และใบมะกรูดซอยทอด

  หม้อไฟอีสานรสเด็ดสูตรนี้เสิร์ฟปลาคัง ปลาน้ำจืดที่มีมากในภาคอีสาน จุ่มในน้ำแจ่วฮ้อนที่หอมกลิ่นสมุนไพรหลากหลาย   ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) เนื้อปลาคังสไลซ์ 200-400 กรัม เครื่องสำหรับต้มในหม้อแจ่วฮ้อน : ข่าหั่นแว่น 2 ชิ้น | ตะไคร้บุบหั่นท่อน 2 ต้น | ใบมะกรูด 3 ใบ | พริกแดงบุบ 5 เม็ด ผักสำหรับเสิร์ฟ เช่น ผักกาดขาว กะหล่ำปลี โหระพา ผักชีฝรั่ง ต้นหอม เห็ดชิเมะจิ ส่วนผสมน้ำจิ้ม กระเทียมไทย 1/2 ถ้วย หอมแดง 1/2 ถ้วย ตะไคร้ซอย 1/2 ถ้วย ข่าหั่น 2 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูด 5 ใบ พริกแห้ง 1/2 ถ้วย น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเล 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา มะนาว ข้าวคั่ว และผักชีฝรั่งซอยอย่างละเล็กน้อย ส่วนผสมน้ำซุป กระดูกเล้ง 500 กรัม ข่า 1 แง่งเล็ก ตะไคร้บุบ 3 ต้น รากผักชี 3 ราก หอมแดงบุบ 5 หัว กระเทียมดอง 2 หัว น้ำกระเทียมดอง 1/2 ถ้วย เกลือทะเลเล็กน้อย น้ำเปล่า 3 ลิตร วิธีทำ ทำน้ำซุปโดยลวกกระดูกเล้ง แล้วนำไปต้มกับน้ำเปล่า ใส่ส่วนผสมต้มซุปทั้งหมดลงไป ต้มไฟแรงให้เดือดแล้วลดไฟให้อ่อนลง ต้มประมาณ 1-2 ชั่วโมงจนน้ำซุปหอมและใส พักไว้ ทำน้ำจิ้มโดยคั่วกระเทียม หอมแดง ตะไคร้ ข่า และใบมะกรูดในกระทะจนมีกลิ่นหอมและเกรียมเล็กน้อย ใส่พริกแห้งลงคั่วต่อจนมีกลิ่นหอม เทใส่เครื่องปั่น ใส่น้ำเล็กน้อย ปั่นให้ละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ เกลือทะเล และน้ำตาลทราย ชิมรส เมื่อจะเสิร์ฟจึงตักน้ำจิ้มใส่ถ้วย ปรุงเพิ่มด้วยน้ำมะนาว ข้าวคั่ว และผักชีฝรั่งซอยตามชอบ ตักน้ำซุปใส่หม้อแจ่วฮ้อน ต้มให้เดือด ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกแดง ใส่น้ำจิ้มที่เตรียมไว้ลงไปในหม้อปริมาณตามชอบ เสิร์ฟพร้อมเนื้อปลาคังสไลซ์ ผักตามชอบ และน้ำจิ้ม

  ปลาอบทั้งชิ้นใหญ่เป็นเมนูที่เหมาะกับสมาชิกครอบครัว จานนี้ใช้ปลาเก๋าเนื้อแน่นนุ่ม อบกับเฟนเนล เลมอน และมะกอก ให้กลิ่นหอมสดชื่น ได้รสอร่อยธรรมชาติของเนื้อปลาจากท้องทะเล   ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) ปลาเก๋าขนาดกลางแล่เนื้อเป็นชิ้นยาว 2 ชิ้น เฟนเนลสไลซ์ 1 ต้นเล็ก เลมอนหั่นเสี้ยว 4 ชิ้น มะกอกเขียวและดำ 1/2 ถ้วย มะเขือเทศเชอร์รี 8-10 ผล น้ำมันมะกอก 4 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเล และพริกไทยดำบดหยาบสำหรับปรุงรส ไพน์นัตอบ และอิตาเลียนพาร์สลีย์สำหรับโรยหน้า วิธีทำ วางเฟนเนลสไลซ์ให้กระจายทั่วถาดอบ วางเนื้อปลา เลมอน มะกอก และมะเขือเทศเชอร์รี ราดน้ำมันมะกอกให้ทั่ว ปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไทย นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 250 องศาเซลเซียสประมาณ 12-15 นาทีจนปลาสุก ยกออกจากเตา โรยไพน์นัตและอิตาเลียนพาร์สลีย์ให้ทั่ว

  ปลาซาบะเนื้อมันหมักกับมิโซะรสเค็มกลมกล่อม ย่างจนสุกและมีกลิ่นหอม กินกับเครื่องเคียงอย่างซุปมิโซะ ยำสาหร่ายฮิจิกิ ข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ โรยผงโรยข้าวญี่ปุ่นรสเค็มชวนให้เจริญอาหาร   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) ปลาซาบะหมักมิโซะ 2 ชิ้น ข้าวญี่ปุ่นสำหรับเสิร์ฟ  2 ถ้วย ผงโรยข้าวญี่ปุ่นปริมาณตามชอบ เครื่องเคียงสำหรับเสิร์ฟ เช่น ผักดอง ยำสาหร่ายฮิจิกิ เมล็ดถั่วแระญี่ปุ่น เลมอนสไลซ์สำหรับตกแต่ง ส่วนผสมซุป มิโซะ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 1 ถ้วย เต้าหู้อ่อนหั่นเต๋า 1/4 ถ้วย ต้นหอมซอย และสาหร่ายวากาเมะแช่น้ำจนนุ่มปริมาณตามชอบ วิธีทำ ทำซุปโดยต้มน้ำให้เดือด ใส่สาหร่ายวากาเมะ และเต้าหู้ ใส่มิโซะคนให้ละลาย ต้มต่อพอเดือด ตักใส่ถ้วย โรยต้นหอมซอย ย่างปลาซาบะหมักมิโซะให้สุกเหลือง จัดใส่จาน วางเลมอนสไลซ์ เสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่นโรยผงโรยข้าว ผักดอง ยำสาหร่ายฮิจิกิ และเมล็ดถั่วแระญี่ปุ่น

  ครีมสตูเมนูญี่ปุ่นที่ได้อิทธิพลจากฝรั่ง ทำง่ายด้วยครีมสตูก้อนสำเร็จรูป ใส่เนื้อปลาแซลมอน มันฝรั่ง แครอต และผักได้ตามชอบ รสครีมมี่เข้มข้น เสิร์ฟพร้อมขนมปังบาแกตต์   ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) ปลาแซลมอนหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าใหญ่ 300-400 กรัม หอมหัวใหญ่สับ 1/2 หัว มันฝรั่งหั่นชิ้นพอคำต้มพอสุก 3 หัวเล็ก แครอตหั่นชิ้นพอคำต้มพอสุก 1 หัว                                เห็ดแชมปิญองหั่นแว่น 5-7 ดอก ครีมสตูก้อนสำเร็จรูป (Japanese Cream Stew Mix) 1/2 กล่อง นมสด 100 มิลลิลิตร น้ำเปล่า 400 มิลลิลิตร น้ำมันพืชสำหรับผัดและย่างปลาเล็กน้อย เกลือทะเล และพริกไทยดำบดหยาบสำหรับปรุงรส อิตาเลียนพาร์สลีย์สับสำหรับโรยหน้า ขนมปังบาแกตต์สำหรับเสิร์ฟ วิธีทำ ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย พอกระทะร้อนใส่เนื้อปลาแซลมอนลงทอดให้พอสุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้ ผัดหอมหัวใหญ่กับน้ำมันให้พอสุก ใส่เห็ดแชมปิญอง ผัดให้พอสุก ใส่มันฝรั่ง แครอต ผัดให้เข้ากัน ใส่น้ำ ปิดฝาให้เดือดและผักสุกทั้งหมด ใส่ครีมสตูก้อน คนให้ละลาย ใส่นมสด ปลาที่ทอดไว้ ต้มให้เดือด ชิมและปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ตักใส่ชาม โรยอิตาเลียนพาร์สลีย์สับ เสิร์ฟกับขนมปังบาแกตต์

  เราชอบกลิ่นปลากรอบมาก แกงวันนี้ใช้ปลากดกรอบเพราะหาซื้อง่ายและกลิ่นหอมดี ส่วนผักหญ้าอื่นๆ ก็ใส่ตามใจนะคะ ไม่ต้องยึดถือตามที่แนะนำ   เครื่องปรุง ปลากดกรอบ 1 ตัว เครื่องแกง ผักหวาน ผักอ่อมแซบ ชะอม ต้นหอม ฟองเต้าหู้แช่น้ำหั่นเป็นท่อน เห็ดฟางหรือเห็ดอื่นๆ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ดิบ ผักอื่นๆ ตามชอบ ผงฮอนดาชิประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลโตนด 1 ช้อนชา น้ำปลาและเกลือ น้ำสต๊อก 2 ลิตร ++ ส่วนผสมเครื่องแกง ตะไคร้ซอย 2 ต้น (ประมาณ 5 ช้อนโต๊ะ) หอมแดง 4 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ รากผักชี 2 ราก ผงลาบเหนืออย่างเผ็ด 2 ช้อนชา (ถ้าไม่มีให้แทนด้วยพริกป่นและพริกหอมป่น วิธีทำ อบหรือย่างปลากรอบให้หอม แกะเอาเนื้อเก็บไว้ นำกระดูกไปต้มในหม้อน้ำสต๊อก ตำเครื่องแกงให้แหลก ตำเนื้อปลากรอบหยอกๆ ให้เหลือเป็นชิ้นๆ บ้าง ตั้งน้ำสต๊อกให้เดือด ใส่เครื่องแกงและปลากรอบลงไปต้มให้สุก ใส่ฟองเต้าหู้ ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา เกลือ และผงฮอนดาชิ ถ้าชอบเผ็ดให้เติมพริกลาบเหนือ (ควรคั่วใหม่และตำให้มีกลิ่นหอม) เติมผักต่างๆ พอผักสุกก็ตักใส่ชามได้เลย กินร้อนๆ หอมกลิ่นปลากรอบอบอวล

  มื้อเย็นวันนี้ ใครกำลังมองหากับข้าวรสจัดจ้าน สำหรับกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ เราแนะนำเมนูนี้เลย ใช้วัตถุดิบไม่เยอะแถมทำง่ายอีกด้วย   ส่วนผสม (สำหรับ 3 ที่) ปลาแซลมอน 500 กรัม กระเทียมสับ 1/4 ถ้วย พริกขี้หนูแดงสับ 1/4 ถ้วย ต้นหอมซอย 2 ต้น เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา แป้งทอดกรอบ 1/2 ถ้วย น้ำมันพืชสำหรับทอด วิธีทำ หั่นปลาแซลมอนเป็นชิ้นใหญ่ พักไว้ คลุกเนื้อปลากับเกลือให้ทั่ว ใส่แป้งทอดกรอบแล้วคลุกให้ทั่ว ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อน ใส่แซลมอนลงทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้ เทน้ำมันออกให้เหลือ 1 ช้อนโต๊ะ ใส่กระเทียมลงคั่วให้พอเหลือง ใส่พริกสับ เกลือ น้ำตาล และต้นหอม ผัดให้เข้ากัน 5. จัดปลาแซลมอนใส่จาน ตักกระเทียมพริกโรยให้ทั่ว โรยด้วยต้นหอมอีกครั้ง  

  ใครรักปลาส้ม อย่างแซลมอน ต้องเมนูนี้ เนื้อปลาแซลมอนสดๆ คลุกเคล้ากับพริกป่น ข้าวคั่ว มะนาว น้ำปลา แซ่บซี้ดโดนใจ   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) เนื้อปลาแซลมอนสดหั่นชิ้นพอคำ 250 กรัม หอมแขกซอย 1/2 หัว ต้นหอมหั่นท่อนสั้น 1 ต้น ใบสะระแหน่ 5-6 ใบ น้ำมะนาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ ข้าวคั่วป่น 1 1/2 ช้อนชา พริกป่น 1 1/2 ช้อนชา น้ำเชื่อม 1 1/2 ช้อนชา วิธีทำ หั่นเนื้อปลาแซลมอนเป็นชิ้นพอคำ ผสมน้ำมะนาว น้ำปลา ข้าวคั่วป่น พริกป่น และน้ำเชื่อมเล็กน้อย คนให้ละลายเข้ากัน ใส่เนื้อปลาแซลมอน หอมแขก และต้นหอมซอย คลุกให้เข้ากัน ตักใส่จานโรยใบสะระแหน่ เสิร์ฟกับผักสด

  เปลี่ยนการกินแซลมอนธรรมดา ให้มีรสกลมกล่อมหวานฉ่ำมากขึ้นด้วยสูตรนี้ จะกินเล่นหรือนำไปกินกับข้าวต้มก็ฟินไม่แพ้กัน   ส่วนผสม เนื้อปลาแซลมอน 550 กรัม น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเล 2 ช้อนชา มิริน 1/4 ถ้วย วิธีทำ หั่นเนื้อปลาเป็นชิ้นยาว เตรียมไว้ ผสมน้ำตาลทรายแดง เกลือ และมิรินเข้าด้วยกัน คนให้น้ำตาลละลาย ใส่เนื้อปลาแซลมอนคลุกให้ทั่ว หมักไว้ 1 ชั่วโมง   เรียงบนถาดอบ นำไปตากในเตาอบอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส ประมาณ 3 ชั่วโมง จนเนื้อปลาแห้ง เก็บใส่กล่อง ปิดฝา กินกับข้าวต้ม

  เมนูลดไขมันที่อร่อยและมีประโยชน์ ปลาหิมะเนื้อขาวแน่น นึ่งกับเฟนเนลและเลมอนให้มีกลิ่นหอม เนื้อปลามีไขมันดีนุ่มชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟกับซอสรสหวานธรรมชาติจากพริกหวานและมะเขือเทศอบ   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) เนื้อปลาหิมะ 2 ชิ้น        เฟนเนลสไลซ์ 1 ถ้วย เลมอนสไลซ์ 1/2 ผล        หน่อไม้ฝรั่งย่างสำหรับเสิร์ฟ 2 ต้น น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้นเล็กน้อย ส่วนผสมซอส มะเขือเทศ 6 ผล พริกหวานสีแดง 2 ลูก หอมหัวใหญ่หั่นชิ้นใหญ่ 1/2 หัว กระเทียม 4 กลีบ น้ำสต๊อกผัก หรือสต๊อกไก่ 1 ถ้วย น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้นเล็กน้อย เกลือทะเล และพริกไทยป่นสำหรับปรุงรส วิธีทำ ทำซอสโดยหั่นมะเขือเทศเป็น 4 ส่วน หั่นครึ่งพริกหวานควักเมล็ดออก วางมะเขือเทศ พริกหวาน หอมหัวใหญ่ และกระเทียมเรียงบนถาด ราดด้วยน้ำมันมะกอกให้ทั่ว นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 15  นาทีจนผักสุกนุ่ม ลอกเปลือกมะเขือเทศออก ส่วนพริกหวานใส่อ่างคลุมด้วยพลาสติกแร็ป หรือใส่ถุงปิดปากถุงไว้ประมาณ 15 นาที แล้วลอกเปลือกออก ใส่ผักลงในหม้อ ใส่น้ำสต๊อก ปิดฝา ต้มจนผักนุ่ม แล้วนำไปปั่นให้ละเอียด ชิมและปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไทย พักไว้ วางเฟนเนล และเลมอนสไลซ์ในลังถึง วางเนื้อปลา เมื่อน้ำเดือด ยกปลาขึ้นนึ่ง (ประมาณ 15-20 นาที) จนสุก ราดน้ำมันมะกอกเล็กน้อย ยกลง ตักซอสใส่จาน (ควรเป็นจานมีก้นลึกเล็กน้อย) วางเนื้อปลา วางหน่อไม้ฝรั่งย่างบนหน้า ราดน้ำมันมะกอกเล็กน้อย

  เมนูอร่อยที่ได้ประโยชน์จากโปรตีนดีหลากหลาย ทั้งเนื้อปลาแซลมอนที่มีโอเมกา-3 สูง ถั่วเลนทิลเม็ดเล็กเนื้อนุ่ม   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) เนื้อปลาแซลมอน 2 ชิ้น ไทม์สด 2 กิ่ง ถั่วเลนทิลสีส้ม และสีน้ำตาลต้มสุกอย่างละ 1 ถ้วย ต้นกระเทียมสับ (Leek) 1/2 ถ้วย น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอกสำหรับผัด เกลือทะเล และพริกไทยดำบดหยาบสำหรับปรุงรส ส่วนผสมเลมอนออยล์ น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเลมอน 1/4 ถ้วย ไทม์สด 1 กิ่ง วิธีทำ ทำเลมอนออยล์โดยผสมน้ำมันมะกอก น้ำเลมอน และรูดใบไทม์ใส่ลงไป คนให้เข้ากัน พักไว้ ปรุงรสแซลมอนด้วยเกลือ พริกไทย ใส่ไทม์และน้ำมันมะกอกเล็กน้อย พักไว้ 30 นาที ย่างบนกระทะให้สุกเหลือง ผัดต้นกระเทียมกับน้ำมันมะกอกให้พอสลด ใส่ถั่วเลนทิลลงผัดสักครู่ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ใส่น้ำเลมอน ตักขึ้น ตักถั่วเลนทิลผัดใส่จาน วางเนื้อปลาแซลมอน ราดเลมอนออยล์ให้ทั่ว