ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้นเช่นนี้หากไม่ไปเช็คอิน “Juicies” บาร์น้ำผลไม้ออร์แกนิกเปิดใหม่ที่ตั้งอยู่ในโครงการ The Office Thonglor ก็คงจะเอ้าท์คุยกับใครไม่รู้เรื่อง ร้านเครื่องดื่มสไตล์เฮลท์ตี้ที่เสิร์ฟทั้งสมูทตี้สีสวย อาซาอิ โบลว์ น้ำผัก-ผลไม้สกัดเย็น ผลไม้สด และช็อตพร้อมดื่ม ที่ทุกเมนูล้วนปราศจากน้ำตาลและสารปรุงแต่ง เสิร์ฟมาในบรรยากาศอบอุ่นที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ใครอยากสัมผัสความร่มรื่นของต้นไม้ ในโครงการก็มีสวนสวยร่มรื่นด้านหน้าให้นั่ง ต้อนรับด้วย Antioxidant อาซาอิ โบลว์รสสดชื่น ที่ประกอบด้วยกราโนล่ากรุบกรอบ ผลไม้ตระกูลเบอร์รีรสเปรี้ยวอมหวาน และกล้วย เติมรสหวานธรรมชาติด้วยน้ำผึ้ง ต่อด้วย Immune Booster ที่เบสเป็นอาซาอิรสชื่นใจเช่นเคย ท็อปด้วยผลไม้กินง่ายอย่าง สับปะรดและแก้วมังกร เพิ่มความกรุบกรอบด้วยมะพร้าวคั่วและกราโนล่า แล้วต่อด้วยคาราวานสมูทตี้กันบ้างกับ Smirf Power ดริ้งก์สไตล์สุขภาพสีฟ้าครามที่ทำมาจากสาหร่ายสไปรูลินา กล้วย สับปะรด นมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ โยเกิร์ตมะพร้าวและน้ำผึ้ง Twinkie Antioxidant สมูทตี้รสเปรี้ยวอมหวานที่ได้จากบลูเบอร์รี สตรอว์เบอร์รีปั่นพร้อม นมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ โยเกิร์ต กล้วยและน้ำผึ้ง Hulk Stamina สมูทตี้สีเขียวน่าลิ้มลองที่เป็นการรวมตัวกันของอะโวคาโด้ ผักโขม กล้วย แอปเปิ้ลเขียว และโยเกิร์ต ใครชอบออกกำลังกาย Bay Max เหมาะมาก เพราะเป็นเครื่องดื่มสุขภาพรสหอมมันนุ่มนวล ซึ่งได้มาจากเวย์โปรตีน น้ำผึ้ง และนมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ก่อนโรยหน้าด้วยมะพร้าวคั่วหอมๆ ใครชอบน้ำผลไม้สกัดเย็นเราแนะนำ Hydrating Fibers รสหวานฉ่ำดื่มง่ายนี้ทำมาจากแครอต แตงโม ฝรั่ง องุ่นแดงและแอปเปิ้ลเขียว Immune Booster แครอตมิ๊กซ์กับส้ม เลมอน สับปะรด และขิง หรือจะเป็น Shots น้ำผัก-ผลไม้ ก็สะดวกไปอีกแบบ เราขอลอง Detox Shot ช็อตที่ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ซึ่งมีส่วนผสมของสับปะรด ขิง มะขาม แอปเปิ้ลไซเดอร์และเกลือทะเล ปิดท้ายด้วย Revive Shot ที่ให้คุณได้ประโยชน์เต็มๆ จากแอปเปิ้ลเขียว เลมอน ขิงและเซเลอรี่ สุขภาพดีกันถ้วนหน้า

สายสุขภาพทราบแล้วเปลี่ยน! “SaladStop Thailand” ร้านอาหารสุขภาพชื่อดังจากเกาะสิงคโปร์ได้ขยายสาขามาที่ Emsphere (BTS พร้อมพงษ์) แล้วเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟจานอร่อยเฮลล์ตี้จากผักออร์แกนิกภาคเหนือ และวัตถุดิบอื่นๆ อย่าง ไก่เนื้อแน่นที่ได้จากไก่อารมณ์ดีปลอดสารเร่งฮอร์โมน แซลมอนนำเข้าประเทศนอร์เวย์ แน่นอนว่าทุกจานไส้สารกันบูด ไม่แต่งกลิ่น ไม่ใส่ผงชูรสเช่นเคย ในส่วนของการตกแต่งทางร้านยังให้โทนสีขาวสบายตา เข้ากันดีกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลอ่อนซึ่งทำมาจาก ‘กากกาแฟ’ ตรงตามคอนเซ็ปต์ Sustainable เช่นเดียวกับสาขาเซ็นทรัลชิดลม และมาร์เช่ ทองหล่อ นั่นเอง ประเดิมด้วย Hali Caesar (wrap) ซีซาร์สลัด ซิกเนเจอร์ประร้าน ห่อด้วยแป้งตอติญาโฮมเมดเหนียวนุ่ม ตามด้วยเมนูโปรดของชาววีแกน Mediterranean Breeze อุดมไปด้วยผักสีเขียว บีตรูต มะกอกดำ มะเขือเทศเชอร์รี และมีตบอลสูตรวีแกนเนื้อแน่น เสิร์ฟพร้อมซอสสูตรลับที่ทำมาจากมะเขือเทศ Truffle Wonder โดดเด่นด้วยน้ำสลัดรสครีมมีกินอร่อย เคล้าเต้าหู้ แอปเปิ้ลเขียว มะเขือเทศเชอร์รี ส้มแมนดารินและเห็ดผัด Jingle Kale ก็น่าสนใจ สลัดชามโตที่เต็มไปด้วยผักเคลมากประโยชน์ หอมแดง ทับทิม มะเขือเทศเชอร์รี เห็ดผัดและอกไก่ ราดซอสบัตเตอร์มิลล์ เลมอนรสกลมกล่อมเข้าที มาในฝั่งวอร์มโบลว์กันบ้าง คนรักเส้นต้องปลื้ม Tokyo Diff เพราะมีเส้นโซบะเหนียวนุ่ม ผสมกับผัดสดต่างๆ เสริมโปรตีนด้วยเต้าหู้เนื้อนุ่ม และทูน่าเซียฉ่ำใน เสิร์ฟเคียงน้ำสลัดงาดำยุซุหอมมัน เครื่องดื่มเราแนะนำ Get Shrek สมูตตี้สีเขียวรสสดชื่นที่มีส่วนผสมของเคล ผักโขม มะม่วงสุก และน้ำมะพร้าว Tropical Dream ดริ้งก์รสกลมกล่อมนี้เป็นการรวมตัวกันของขึ้นฉ่าย เคล กล้วยหอม และกรีกโยเกิร์ต สดชื่นทุกครั้งที่จิบ

“Kauai” ร้านอาหารสุขภาพจากประเทศแอฟริกาใต้ที่เสิร์ฟความอร่อยมา 24 ปี โดดเด่นด้วยอาหารสุขภาพที่รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นดี อาทิ ไก่ ไข่ และเนื้ออารมณ์ดี ผัก-ผลไม้ปลอดสาร ปราศจากน้ำตาล สารแต่งกลิ่นและสารกันบูด แต่ยังคงเป็นรสชาติที่เข้าถึงง่าย ฟู้ดดี้ที่ไม่ได้เป็นสายเฮลท์ตี้ก็กินได้สบาย ‘คาวาอิ’ เป็นชื่อเกาะที่ตั้งอยู่ในรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเกาะนี้เต็มไปด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพ จึงเหมาะที่จะใช้เป็นชื่อร้านอาหารสุขภาพที่คุณสามารถกินได้ทุกวัน โดยสาขาที่เมืองไทยจะตั้งอยู่ในตึกอโศกทาวเวอร์ส (Mrt อโศก) เสิร์ฟทั้งอาหารเช้า มื้อสาย สลัดต่างๆ เฮลท์ตี้โบวล์ สมูตตี้ น้ำผลไม้สกัดเย็นและกาแฟออร์แกนิก ในปริมาณที่อิ่มเอมแต่ราคาน่ารัก ถูกใจพนักงานออฟฟิศ ลองสั่ง Sliced Avocado Toast แซนด์วิชหน้าเปิดถูกใจชาวววีแกนมาชิม ขนมปังซาวร์โด ท็อปด้วยอะโวคาโดหอมมัน บีบเลมอนซีกเพิ่มความเปรี้ยว ตามด้วย Smoked Salmon on Toast แซลมอนรมควันที่เรารัก เคล้าไปกับไข่คน หัวหอม ครีมชีสสูตรเฉพาะ และขนมปังซาวร์โด แฟนคลับแซนด์วิชแร็ปต้องลอง Spicy Tuna แป้งแร็ปที่ทำจากโฮลวีต ห่อทูน่า ไข่ไก่อนามัย มะเขือเทศ หัวหอม เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยพริกเจลาปิโน และน้ำจิ้มซีฟู้ด คนรักรสเผ็ดต้องสั่ง Spicy Burrito อกไก่อนามัย มิ๊กซ์ไปกับพริกเจลาปิโน ผักร็อกเก็ต ซอสซัลซ่ามะเขือเทศ ครีมชีสและแร็ปโฮลวีต โดนใจเรามากสำหรับ Wrap (Mai) Mun Gai แร็ปที่อิ่มเอมไปด้วยอกไก่อนามัย ไข่ต้ม และผัดสดต่างๆ ราดน้ำจิ้มข้าวมันไก่ (เต้าเจี้ยว) รสเข้มข้น ไปต่อกันที่ Super Soba หนึ่งในเมนูชูโรงของร้าน เส้นโซบะเหนียวนุ่ม เต้าหู้ แตงกวา แครอต ถั่วงอก กะหล่ำม่วงโรยด้วยงาขาวหอมๆ ราดซอสสไตล์ญี่ปุ่นรสเค็มกลมกล่อม Butta Chicken ข้าวกล้องมิ๊กซ์ไปกับควินัว ดอกกะหล่ำ ฟักทองหอมมัน ราดน้ำแกงสไตล์อินเดียรสจัดจ้านกำลังดี เครื่องดื่มเราสั่งเป็น Peanut Butter Berry สมูทตี้เนื้อเนียนที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติหอมมันของเนยถั่วโฮมเมด ทั้งยังมีบลูเบอร์รี กล้วย และนมอัลมอนด์อีกด้วย Tropical Greens สมูทตี้สีเขียวๆ นี้เป็นการรวมตัวกันของ มะม่วงหวานฉ่ำ สับปะรด เบบี้ผักโขม น้ำแอปเปิ้ลและเพิ่มรสเผ็ดร้อนเล็กๆ ด้วยขิงสด Dragon Fire แก้วมังกรสีแดงน่าชิม ปั่นพร้อมขิง แอปเปิ้ล ใบมินต์และเซเลรี แฟนคลับชาไทยพลาดไม่ได้กับ Thai Red Milk Tea ชาไทยเย็นสไตล์สุขภาพ ได้รสหวานมันจากน้ำตาลมะพร้าวและนมมะพร้าว ยังมีอีกหลายเมนูที่น่าลิ้มลอง

สาย Plant-based ต้องไม่พลาดร้าน alt.Eatery คอมมูนิตี้อาหารทางเลือกน้องใหม่ ใจกลางเมือง ย่านทองหล่อ ที่พกพาเมนูอร่อยหน้าตาสุดน่ารัก มาให้สายเฮลท์ตี้ได้ฟินกันเพลินๆ โดยมีอาหารให้เลือกหลากหลายทั้งคาวหวาน ซึ่งคิดค้นโดยเชฟใบเตย 1 ใน 10 Top Ten Chef Thailand season 1 อาทิ     Chic Pop ไก่ป๊อป Plant-Based จากถั่วเหลือง เมนูกินเล่นเนื้อสัมผัสเสมือนไก่จริง ด้านนอกกรอ บ ด้านในไม่ไม่แห้ง เพิ่มรสชาติด้วยผงปาปริก้า เคี้ยวเพลิน     ข้าวผัดแกงเขียวหวาน ทางร้านใช้เป็นพริกแกงเขียวหวาน รสเข้มข้นสไตล์พริกแกงใต้ มีความหอมของสมุนไพรชัดเจน คลุกเคล้ามากับข้าวสวยร้อนๆ กินคู่กับ Chicken Tender กรอบนอกฉ่ำในของทางร้าน กลมกล่อมสุดๆ       ในส่วนของขนมหวานก็ดีไม่แพ้กัน Donut Homemade ทำจากแป้งเกรดพรีเมียม โดยใช้เวลาพักแป้งนานกว่า 12 ชั่วโมง จนได้เนื้อที่เหนียวนุ่ม ฟู ปราศจาก นม และไข่ เราเลือกเป็นรส Almond Joy Donut โดนัทเคลือบดาร์กช็อกโกแลต โรยหน้าด้วยถั่วอัลมอนด์อบ และรส Original Glazed Donut โดนัทเคลือบน้ำตาลรสหวานกำลังพอดี ทำสดใหม่ในทุกวัน       ช่องทางการสั่งซื้อ IG: alt.eatery  FB: alt.eatery

Matti’s ร้านอาหารสุขภาพน้องใหม่ย่านเมืองทองธานี ที่มาในคอนเซ็ปต์ Organic.Farm.Food เสิร์ฟผักสดออร์แกนิกจากฟาร์มของร้านถึงจานอาหารของคุณ     จุดเริ่มต้นร้าน Matti’s ต่อยอดจากฟาร์มปลูกผักของคุณแม่ที่ชื่อ “ล้อมรักฟาร์ม” ในอำเภอจุน จังหวัดพะเยา เป็นฟาร์มผักออร์แกนิกปลูกด้วยระบบอินทรีย์ จึงปลอดสารเคมี ดีทั้งต่อคนปลูกและคนทาน ผักสดในฟาร์ม รวมถึงมะเขือเทศฉ่ำๆ จะถูกขนส่งด้วยรถควบคุมอุณหภูมิมาที่ร้านเพื่อนำไปประกอบอาหารต่อไป       ร้าน Matti’s เสิร์ฟอาหารเฮลท์ตี้สไตล์ฟิวชัน สร้างสรรค์เมนูโดยเชฟเอิ๊กผู้เป็นลูกสาว การันตีฝีมือจากสถาบัน Le Cordon Bleu Australia และประสบการณ์ในร้านอาหารระดับมิชลินในออสเตรเลีย ที่ไม่ใช่แค่อร่อยถูกปาก หรือหน้าตาอาหารน่าทานเท่านั้น แต่ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย     อิ่มเอมไปกับสารพัดเมนูให้คุณเลือกลิ้มลองแบบจุใจ ทั้งสลัดผักชามโต ข้าวหน้าต่างๆ สปาเกตตี ซุป แซนด์วิชแร็ป ขนมหวาน และเครื่องดื่มผักผลไม้สกัดเย็น   เมนูแนะนำ Super Kale Salad คุณประโยชน์ครบครันจากทั้งผักเคล แอปเปิล ควินัว แครนเบอร์รี มะเขือเทศ และเมล็ด ทานตะวัน เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัด Lemon Vinaigrette คลุกเคล้าให้เข้ากัน รสออกเปรี้ยวอมหวาน ทานแล้วสดชื่น ส่วนใครอยากเพิ่มโปรตีนก็สามารถ Add-On เนื้อไก่และปลาได้     จานต่อไปขอแนะนำให้ลอง Spicy Buffalo Corn ข้าวโพดหวานฝักใหญ่ คลุกกับ Buffalo Sauce แบบแน่นๆ เสิร์ฟคู่กับชีสพาร์เมซานให้โรยเองตบท้าย รสชาติเผ็ดๆ หวานๆ       Rigatoni Shimeji and Kale in Truffle Cream Sauce เอาใจคนรักเห็ดทรัฟเฟิลด้วยจานนี้ที่มีความครีมมี่สุดๆ เส้นริกาโตนีผัดกับเห็ดชิเมะจิ ผักเคล และครีมซอสเห็ดทรัฟเฟิลหอมฟุ้ง หรือใครอยากเพิ่มเนื้อสัตว์อย่างอกไก่ก็ย่อมได้ เหมาะสำหรับสาย Vegetarian มากๆ     สลัดเป็ดคอนฟีทและน้ำสลัดเอเชียน เป็ดคอนฟีทเนื้อนุ่มที่ผ่านการซูวีนานถึง 8 ชั่วโมง ทานคู่กับน้ำสลัด  Asian Dressing สูตรเฉพาะของร้านที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้ง รสออกหวานๆ ตัดกับความเผ็ดนิดๆ ของเนื้อเป็ด อ้อ! เชฟแอบกระซิบว่าจานนี้อ้วนน้อยกว่ากรรมวิธีการทำแบบดั้งเดิมที่นำเป็ดไปตุ๋นในน้ำมัน  และเข้าเตาอบอีกนะ     ข้าวหน้าไก่จิ้มแจ่ว เมนูอาหารจานเดียว เน้นกินแล้วอยู่ท้อง มีทั้งข้าว ไก่ ผักสลัด และยังได้โปรตีนจากไข่ออนเซ็น เรียกว่าครบครันสารอาหาร 5 หมู่ ทานคู่กับน้ำสลัดจิ้มแจ่วมาโย โรยข้าวคั่วหอมๆ รสชาติแปลกใหม่ไม่คุ้นลิ้น แต่อร่อยมาก     โยเกิร์ตพุดดิ้ง เนื้อพุดดิ้งเด้งดึ๋งกับรสชาติเปรี้ยวอมหวานของโยเกิร์ต ผสมผสานด้วยผลไม้ที่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล อย่างช่วงที่เราไปคือปลายเดือนมีนาคม ซึ่งเข้าสู่หน้าร้อน ทางร้านเสิร์ฟพุดดิ้งมะม่วงและเสาวรส สดชื่นตั้งแต่คำแรกถึงคำสุดท้าย บอกเลยว่าถ้วยเดียวไม่พอ ต้องมีซื้อกลับไปตุนไว้ในตู้เย็นที่บ้านแน่นอน      อิ่มทั้งคาวและหวานแล้วต้องจิบเครื่องดื่มให้ลื่นคอกันหน่อย โดยเครื่องดื่มของที่ร้านเป็นน้ำผักผลไม้สกัดเย็น เชฟเอิ๊กพัฒนาสูตรให้ดื่มง่ายขึ้น อร่อย ไม่ฉุน ไม่เหม็นเขียว มีให้เลือกถึง 4  รสชาติ ได้แก่ Red Ruby, The Bunny, Sunrise และ Kale Mojito      

สำหรับนักชิมสายรักสุขภาพที่กำลังมองหาร้านอาหารดีๆ เพื่อไปฝากท้องยามหิว เราแนะนำ VIBE Coffee & Plant-Based Food ร้านอาหารเพื่อสุขภาพของคนยุคใหม่ ย่านทองหล่อ ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารมังสวิรัต อาหารเจและหลากหลายเมนูเครื่องดื่มในราคาเป็นมิตร ให้เลือกอร่อยกันได้อย่างจุใจ       VIBE Coffee & Plant-Based Food เกิดจากความต้องการของคุณ พิมพ์ พิมพ์วลัญช์ (เจ้าของร้าน) ที่อยากเห็นสมาชิกในครอบครัว และคนรอบข้างมีสุขภาพกายแข็งแรง ด้วยการกินอาหารที่อร่อยและมีประโยชน์ เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บ โดยเน้นการบริโภคที่ปราศจากเนื้อสัตว์ และใช้โปรตีนจากพืชเป็นหลักมารังสรรค์เป็นอาหารสุดพิเศษ ผสมผสานกับขั้นตอนการปรุงที่สะอาด ได้มาตรฐาน คิดค้นความอร่อยโดยเชฟมากประสบการณ์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบความจำเจ และใครที่ต้องการงดเนื้อสัตว์ แต่อยากลิ้มรสชาติอาหารที่เข้มข้น กลมกล่อมเหมือนเดิม     เริ่มด้วย Appetizer Set (179.-) เพลิดเพลินไปกับเซ็ตอาหารเรียกน้ำย่อยที่ไม่มีส่วนผสมของหัวหอมและกระเทียม อาทิ ปอะเปี๊ยะทอด เกี๊ยวทอด นักเก็ต ไส้กรอกคอกเทล กินกับน้ำจิ้มไก่รสชาติหวานกลมกล่อม       ต่อด้วย Burger Plant Beef (269.-) ขนมปังนุ่มฟูสอดไส้เนื้อแพลนต์เบสจากออสเตรเลีย รสสัมผัสเสมือนจริง จับคู่มากับวาฟเฟิลฟรายส์ทอดกรุบกรอบ เคี้ยวเพลิน     Sizzling Soy Chick Steak (249.-) สเต็กเนื้อแพลนต์เบส ราดซอสเกรวีที่เคี่ยวจากซุปสต๊อกผัก รสกลมกล่อมจับคู่กับ Avocado Caesar Salad (249.-) จานนี้ได้ความหอมมันของอะโวคาโดสดจากออสเตรเลีย ราดน้ำสลัดซีซาร์สูตรพิเศษของทางร้าน ที่ทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์และยีนส์ธรรมชาติ       นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารจีนให้เลือกอร่อย หมี่ผัดไก่รังนก (99.-) เส้นหมี่เหนียวนุ่มคลุกเคล้ามาด้วยน้ำซอสสูตรพิเศษ หอมกลิ่นน้ำมันงา และกระเพาะปลา (129.-) ปรุงรสมาด้วยซอสเห็ดหอมชั้นดี มีเท็กเจอร์ของเยื่อไผ่ให้เคี้ยวกรุบๆ       เมนูเครื่องดื่มก็ดีไม่แพ้กัน Signature Coffee กาแฟดำรสเข้มนุ่มลิ้นผสมผสานมากับนมถั่วเหลือง โดยทางร้านเลือกใช้ แบล็กไซรัป ที่นอกจากจะได้ทั้งความหวานแล้ว ยังซ่อนความหอมอยู่ในทุกคำที่ดื่ม อีกตัวที่พลาดไม่ได้ Signature Matcha Latte (150.-) ทางร้านเลือกใช้ผงชาเขียวพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่นมาผสมผสานกับนมอัลมอนด์ หอมมัน เข้มข้น     สามารถดูเมนูเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2Y8ynNo หรือสแกนคิวอาร์โค้ด สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์

พอกล่าวถึงอาหารเพื่อสุขภาพ หลาย ๆ คนอาจจะจำภาพของอาหารรสจืด ไม่ค่อยโดนใจ แต่ที่ร้าน Cheat Day by Modish ที่ตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 1 ของโครงการเดอะ ปาร์ค (The PARQ) ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของอาหารเพื่อสุขภาพแบบเดิม ๆ ไปจนหมด ด้วยการดีไซน์อย่างสร้างสรรค์       ภายในร้านดูอบอุ่นด้วยโทนสีเรียบง่ายอย่างสีเขียวเข้มกับสีน้ำตาลอ่อนของไม้ ดูราวกับอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ด้านหน้าร้านมีอาหารและเครื่องดื่มแบบกล่องสำหรับซื้อกลับเรียงรายอยู่บนตู้ ไม่ว่าจะเป็นของคาว ขนมเค้กมังสวิรัติ ขนมปังมังสวิรัติ และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างคอมบูชา (Kombucha)           เมนูอาหารของร้านทั้งหมดผ่านการเลือกสรรมาอย่างดีโดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเพื่อสุขภาพ มีสารอาหารครบ 5 มื้อ เพราะ Modish เป็นแบรนด์ที่รู้จักกันในแวดวงอาหารสำหรับผู้ป่วย จากจุดแข็งนี้จึงนำมาต่อยอดด้วยแบรนด์ใหม่คือ Cheat Day ที่ยังคงคุณประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงรสชาติและการสร้างสรรค์หน้าตาของอาหารแต่ละจาน     เมนูแรกเป็นสลัดหวาน ๆ เย็น ๆ ชื่อว่า สลัดคิวบิก ที่นำแตงโมสีแดง แตงโมสีเหลือง และแก้วมังกรมาหั่นเต๋าแล้วเรียงเป็นคิวบิก ล้อมรอบด้วยผักสลัดนานาชนิด รวมถึงเต้าหู้แผ่น โรยหน้าด้วยเมล็ดทานตะวัน รับประทานคู่กับน้ำพริกเผารสจัดจ้าน เข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ     สลัดกุ้งย่างทานตะวัน เป็นอีกจานสลัดที่น่าลิ้มลอง นอกจากกุ้งตัวโต ๆ เนื้อเด้งที่เป็นดั่งตัวเอกหลักแล้ว ยังมีอะโวคาโดที่มาเสริมไขมันดีให้กับจานนี้ นอกจากนั้นยังมีรสเปรี้ยวนิดหวานหน่อยจากแอปเปิ้ล และสัมผัสกรอบ ๆ จากต้นอ่อนทานตะวัน     ข้าวคลุกไม่กะปิ จานนี้เป็นหนึ่งในเมนูมังสวิรัติที่ขึ้นชื่อ ด้วยรสชาติที่ทำออกมาได้ใกล้เคียงกับข้าวคลุกกะปิจริง ๆ โดยเสริมโปรตีนจากพืชมาทดแทนเนื้อสัตว์ในรูปแบบของเต้าหู้ เคียงกับผักนานาชนิด เช่น แรดิช แครอท มะม่วง หอมแดง ถั่วฟักยาว พริก และเห็ด บีบมะนาวลงไปนิดหน่อยก็ช่วยเติมเต็มรสชาติได้ดีทีเดียว     ทำให้คนรับประทานได้อรรถรสจากการกินอย่างเต็มเปี่ยม และไม่ต้องระแวงเรื่องสุขภาพ!

เป็นเวลา 1 ปีเศษที่ Paco Bangkok ร้านสมูทตีโบว์ลเล็กๆ ที่อัดแน่นไปด้วยสีสัน แจกความสดใสให้ย่านพร้อมพงษ์กลางซอยสุขุมวิท 31 นั้นดูรีเฟรช ร้านทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าผนังโมเสกสีน้ำเงินและขาว ด้านหน้าเป็นกระจกใสบานกว้าง ส่องเห็นภายในร้านที่เต็มไปด้วยความอาร์ตของศิลปะแบบร่วมสมัย Contemporary Arts เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบกับบาร์หินอ่อนขนาดใหญ่ ที่ถูกรองด้วยพื้นเก๋ไก๋สไตล์โมเสกที่เขียนว่า “Paco”     ผนังสีขาวถูกแซมด้วยรูปภาพติสท์ๆ ของศิลปินป็อปอาร์ต (น่าแชะรูปเสียจริง) มีไฟนีออนรูปหัวใจที่เขียนว่า “All You Need is Paco” สื่อให้เห็นถึงความตั้งใจของคุณทีม ศุภกร สุนานันท์ และคุณหวาน วรณัน สินลอย ที่อยากจะให้ทุกคนมาเติมชีวิตชีวาด้วยอาหารสุขภาพที่เข้าถึงง่าย อย่างสมูทตีโบว์ลเฮลท์ตีๆ ที่ทำมาจากผลไม้ ไร้น้ำตาล กลูเตนฟรี ซึ่งเกิดจากสูตรคิดค้นเองจนได้รสชาติลงตัว ทุกชามมีการคำนวณแคลอรีมาอย่างเหมาะสม อีกทั้งลูกค้ายังสามารถรังสรรค์สมูทตีโบว์ลของตัวเองได้ตามใจต้องการ       กินแล้วได้สุขภาพพร้อมดื่มด่ำไปกับศิลปะความงามบนจานอาหาร ด้วยความที่คุณทีมทำงานเป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์ จึงไม่แปลกที่สมูทตีทุกชามจะเต็มไปด้วยความสวยงาม ความคัลเลอร์ฟูลที่เกิดจากจินตนาการสุดสร้างสรรค์ มากกว่าความน่ากินนั้นคือรสชาติ ที่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องอร่อย  แม้คนที่ไม่ได้เป็นสายสุขภาพลิ้มลองเป็นอันต้องติดใจ กลับมาฟินใหม่แทบทุกราย!     ชามแรกที่เราได้เป็น Acai (390 บาท) เมนูสายรุ้งสุดป๊อป ซิกเนเจอร์ประจำร้านชามนี้เต็มไปด้วยส่วนผสมจากผลไม้และดอกไม้ที่เบลน์กันจนสีสันที่สวยงาม รสเปรี้ยวสดชื่นนี้มาจากพระเอกอย่าง อาซาอิ เสริมทัพด้วยแบล็กเบอร์รี่ กล้วย เก๋ากี๋ อัญชัน รวมถึงซูเปอร์ฟู้ดที่สำคัญอย่าง สารสกัดจากสาหร่ายสไปรูลินา สาหร่ายสีเขียว สาหร่ายสีชมพูที่มีชื่อว่า Dunaliella Salina และแอลแฟลฟา พืชตระกูลถั่วที่ได้สมญานามว่า "ราชาแห่งอาหารทั้งมวล" ท็อปปิ้งด้วยผลไม้สด มะพร้าวคั่ว ถั่วกรุบกรอบ และเนยถั่วหอมหวาน     ตบท้ายด้วยชามสีหวานอย่าง Tropical Paradise (290 บาท) ซึ่งประกอบไปด้วย แก้วมังกร กล้วย สับปะรด และราสป์เบอร์รี กินพร้อมผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานอย่าง สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี ส้มแมนดาริน จนได้รสเปรี้ยวกลมกล่อม เพิ่มสัมผัสกรุบกรอบสนุกๆ และพลังงานให้กับร่างกายด้วยมะพร้าวคั่ว และกราโนรา อีกสักนิด อิ่มเอมขนาดนี้บอกเลยแค่ 200-220 แคลอรี่เท่านั้น!     Until We Meet Again...ไป Paco Bangkok ที่บ้านหลังใหม่ได้เร็วๆ นี้แล้วเจอกันที่สุขุมวิท 49 นะจ๊ะ

คาเฟ่น้องใหม่ย่านเอกมัยแห่งนี้มาพร้อมความจริงจังเรื่องการกินเพื่อสุขภาพ ด้วยแนวอาหารและเครื่องดื่ม Plant-based เลือกใช้วัตถุดิบจากพืชล้วน ๆ มารังสรรค์จนเป็นอาหารสุดพิเศษ ไม่มีแม้แต่แป้ง นม เนย และไข่ ในแต่ละจานจึงอัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์เต็มเปี่ยม     กระจกบานใหญ่หน้าร้านเปิดรับแสงแดดอย่างเต็มที่ทำให้บรรยากาศภายในร้านดูสบายตา เหมาะที่จะนั่งค่อย ๆ ละเลียดชิมอาหารจานโปรดไปเรื่อย ๆ พริมา ภัทโรพงศ์ เจ้าของคาเฟ่แห่งนี้เล่าว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเริ่มต้นมาจากความชอบของเธอ หลังจากที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วพบว่าอาหารเพื่อสุขภาพนั้นเป็นที่นิยมอย่างมาก ทั้งยังทานง่าย รสชาติดี และทำให้สุขภาพดีจากภายใน เมื่อกลับมาที่เมืองไทยจึงเริ่มทำอาหาร Plant-Based ขายแบบเดลิเวอรีก่อนจนเริ่มเป็นที่รู้จัก แล้วจึงขยับขยายมาเป็นคาเฟ่แห่งนี้ในที่สุด       เริ่มต้นด้วยเมนูทานเล่นก่อนกับ Roasted Carrot Dip แครอทนำไปอบแล้วปั่นจนเนื้อเนียนละเอียด ผสมผสานกับกลิ่นและรสชาติของขิงและไทม์ เสิร์ฟมาพร้อมกับผักหั่นพอดีคำ ได้แก่ แครอท ขึ้นฉ่าย แตงกวา และแรดิช  จานนี้มีขนมปังซาวโดวจ์วีแกน เหมาะจะจิ้มกินรองท้องก่อนอาหารจานหลัก     สำหรับเมนูอาหารเช้าที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ ยกให้กับ Tofu Scramble ที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกับ Scrambled eggs แต่แน่นอนว่าที่ร้านไม่ใช้วัตถุดิบจากไข่ จึงใช้เต้าหู้ถั่วเหลืองนำมาผัดกับเห็ดและหัวหอมจนได้รสชาติกลมกล่อม ทานคู่กับผักโขมและขนมปังซาวโดวจ์วีแกน อิ่มจุใจ     Spicy Kimchi Soba Noodle เป็นเมนูสไตล์เอเชียที่มั่นใจว่าต้องถูกปากคนไทยแน่นอนด้วยรสชาติเปรี้ยว เค็ม และเผ็ดของกิมจิตามแบบฉบับเกาหลี นอกจากนั้นยังมีความพิเศษอยู่ที่เส้นโซบะซึ่งทำจากบัควีท ซึ่งเป็นธัญพืชปลอดกลูเตน กินคู่กับแตงกวาญี่ปุ่นจะได้ความสดชื่นเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว     ปิดท้ายด้วยของหวานน่าตาน่ารักอย่าง Banana Chia Oats Pancakes แพนเค้กเนื้อหนานุ่มสูตรเฉพาะของร้าน ที่มีส่วนผสมของโอ๊ตมีล เมล็ดเชีย และกล้วย มั่นใจได้เลยว่าไร้แป้งและผลิตภัณฑ์จากนมทุกชนิด ซึ่งแพนเค้กจานนี้จะมาพร้อมกับผลไม้ประจำฤดูกาลและกล้วยเรียงซ้อนเป็นชั้นแล้วราดด้วยน้ำผึ้งรสชาติหวานหอม     นอกจากบรรดาเครื่องดื่มน้ำผลไม้ สมูตตี้ และชาที่ดีต่อสุขภาพแล้ว เมนูกาแฟของร้านก็จะใช้นมที่มาจากพืชเช่นกัน มีทั้งนมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ และนมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ให้เลือกได้ตามใจชอบ ส่วนเครื่องดื่มสำหรับสุขภาพที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านคือ Golden Mylk Latte ซึ่งเป็นลาเต้ขมิ้นเข้มข้นใส่นมอัลมอนด์และน้ำผึ้ง ได้รสชาติของขมิ้นที่ดีต่อสุขภาพและยังไม่ดื่มยากจนเกินไป     Plantiful จะเป็นร้านที่ใส่ใจในทุกกระบวนการรังสรรค์ และสร้างภาพจำใหม่ว่าอาหารที่ทำจากพืชล้วน ๆ นั้นก็สามารถมีรสชาติที่ถูกปากทุกคนได้เหมือนกัน

เกิดเหตุวิกฤตที่บั่นทอนสุขภาพของเราให้อ่อนแอลงไปทุกที ทั้งค่าฝุ่น PM2.5 และโรคภัยร้ายแรงอย่าง โควิด -19 เช่นนี้แล้วคงต้องหาซูเปอร์ฟู้ดเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรงซะหน่อย อย่ารอช้าตรงดิ่งไปที่ Makai Açai & Superfood Bar กันได้เลย ที่นี่เป็นอาซาอิบาร์แห่งแรกของกรุงเทพ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการนำเข้าอาซาอิเพียวเร่แช่แข็งชั้นเลิศจากประเทศบราซิล และกลายมาเป็นคาเฟ่สมูทตี้โบวล์สุดป็อปที่สายเฮลท์ตี้นึกถึงเป็นอันดับต้นๆ       ที่เราไปลิ้มลองนั้นเป็นร้านสาขาทองหล่อซึ่งตั้งอยู่ ด้านหน้าอาคารปานจิตทาวเวอร์ ซอยสุขุมวิท 55 เป็นบ้านสีขาวหลังน้อยแวดล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม ด้านหน้ามีเซิร์ฟบอร์ด 2 อันขนาบข้างบันได ฟิลคล้ายๆ บ้านพักตากอากาศริมทะเลสุด Relax สมชื่อ “Makai (มาคาอิ)” อันหมายถึง “ไปทางทะเล” เสียนี่กระไร       เริ่มลิ้มลองจากเมนูน้องใหม่ Touch My Mango (295 บาท) ที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติหวานฉ่ำของมะม่วงสุก และกล้วย ผสานรสเปรี้ยวสุดเฟรชจากสับปะรด ทอปหนักๆ ด้วยผลไม้ฉ่ำๆ อย่าง มะม่วง สตรอว์เบอร์รี กีวี เสาวรส มีกราโนลา และเมล็ดเจียเสริมให้อยู่ท้อง เพิ่มความหวาน (จากธรรมชาติ) ด้วยรังผึ้งที่เราเลิฟ เสิร์ฟมาในชามมะพร้าวสด ดูอะโลฮ่าสุดๆ เหมือนกินอยู่ริมทะเลอย่างไรอย่างนั้น!     Butter My Coco-Nuts (360 บาท) อาซาอิโบล์วที่มีเบสมาจากผลไม้หลากชนิด อาทิ อาซาอิ กล้วยหอม สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี คาเคานิบส์ (เมล็ดโกโก้บริสุทธิ์ที่ผ่านกระบวนการบดแบบสกัดเย็น) และโฮมเมดพีนัท บัตเตอร์ ทำให้ได้รสเปรี้ยวสดชื่น และหอมมันเล็กๆ อยู่ในตัว โรยหน้าด้วยผลไม้สดต่างๆ กราโนลากรุบกรอบ และราดด้วยซอสพีนัท บัตเตอร์ กินแล้วชื่นใจ ให้พลังงาน แถมยังทำให้รู้สึกอิ่มนาน     สวีตเลิฟเวอร์ลองมาชิมขนมสายเฮลท์ตี้อย่าง Im In Love With The Coco (100 บาท) บ้างดีกว่า บราวนี่เนื้อแน่นรสเข้มข้น ที่อุดมไปด้วยธัญพืชต่างๆ อาทิ อัลมอนด์ ข้าวโอ๊ต มีความมันจากมะพร้าว อินทผลัมหวานละมุน และรสเปรี้ยวเล็กๆ ของแครนเบอรรี่ ฟินได้ที่เลยล่ะ     Island Time All The Time (100 บาท) ขนมสุขภาพที่ทำมาจากมะพร้าว อินทผลัม ข้าวโอ๊ต และกะทิ ความกรุบกรอบหอมมันนี้กินอร่อยเพลินอย่าบอกใคร     คอกาแฟต้องลอง Hot Latte (75 บาท) ลาเต้ร้อนที่ใช้เมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าชั้นดี มิกซ์กับนมสดรสหอมมัน เพลินไปกับฟองนมนุ่มละมุน ถือเป็นกาแฟชั้นยอด ที่ราคาจับต้องได้ไม่ยาก     กระซิบ เพียงแสดงหลักฐานรีวิวร้าน Makai ที่ลงทุกช่องทางของ G&C แจ้งพนง. รับไปเลยส่วนลด 20% เมนู Touch My Mango (ได้ชามมะพร้าว) จำกัดเพียง 10 ออเดอร์ เฉพาะวันที่ 28-29 มี.ค สาขาสุขุวิท 23 เท่านั้น และ Signature Menu เฉพาะไซส์ Medium และ Large ลด 20%  ตั้งแต่วันที่ 1-30 เม.ย 2563 ทุกสาขา (ยกเว้นพารากอน) ทั้งหมดนี้เป็น Take Away และ Delivery เท่านั้นนะจ๊ะ

เราอยากปิดสวิตท์ภาพเมนูเพื่อสุขภาพแสนน่าเบื่อในความคิดของหลายคนแล้วชวนมาที่ ย.ยักษ์กินผัก  ร้านเปิดใหม่กลางซอยสุขุมวิท 50 ที่ฉีกทุกกฎลบทุกภาพความจำเจน่าเบื่อของเมนูเพื่อสุขภาพแล้วแทนที่ด้วยอาหารจานสวยที่ไม่ได้มีแค่หน้าตา รสชาติยังเข้มข้นถึงเครื่อง เพราะอาหารสุขภาพสไตล์พี่ยักษ์นั้นทุกจานต้องได้สารอาหารครบ 5 หมู่ มีเนื้อก็ต้องมีผัก แค่ภาพลอยมาตาก็พริ้มด้วยความอยากกินแล้ว       พี่ยักษ์เฮลท์ตี้เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแรงและสุขภาพดี ใครว่ายักษ์กินแต่เนื้อเพราะพี่ยักษ์ตนนี้เอ็นจอยได้หมด ไม่เฉพาะเนื้อสัตว์เพราะผักสดพี่ก็ปลื้มมาก ทุกเมนูจึงมีเนื้อสัตว์และผักสดเป็นองค์ประกอบสำคัญ รวมถึงธัญพืชและซูเปอร์ฟู้ดที่ล้วนดีต่อร่างกาย ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นเมนูให้เรากินต้องผ่านการชิมแล้วชิมอีก จนมั่นใจว่าตักเข้าปากคำแรกแล้วอยากกินต่อให้จบ       อาทิ ซี่โครงหมูซอสบาร์บีคิว ซี่โครงหมูเคลือบด้วยซอสสูตรเฉพาะ รสชาติเข้มข้นฉ่ำลิ้น โรยงาเพิ่มกลิ่นหอม เสิร์ฟพร้อมผักสดหลากสีให้กินแกล้ม     สปาเก็ตตีทศกัณฑ์ลงครัว สปาเก็ตตีเส้นเขียวจากซอสโหระพาสูตรเด็ดที่พี่ยักษ์ภูมิใจนำเสนอ ผัดกับกระเทียมและพริกแห้งเพิ่มรสเผ็ดร้อน ท็อปด้วยแซลมอนชิ้นโต ผิวนอกกรอบเกรียม ส่วนด้านในนุ่มฉ่ำกำลังดี     ดอกขจรผัดวุ้นเส้นกุ้ง ดอกขจรที่อุดมด้วยคุณประโยชน์ ผัดกับวุ้นเส้นและไข่ เสิร์ฟพร้อมกุ้งย่าง จุดเด่นของจานนี้คือกลิ่นหอมคั่วกระทะที่ช่วยปลุกน้ำย่อยให้ตื่นตัว เมื่อตักเข้าปากก็ยิ่งอยากกดไลค์ให้รัวๆ กับความกลมกล่อมของรสชาติ และที่ดีต่อใจยังต้องยกให้วุ้นเส้นนุ่มหนึบไร้ความมันส่วนเกิน ทำให้กินได้เรื่อยๆ แบบไม่เลี่ยนเลย     ส่วนคนรักปลาท้าให้ลอง เมี่ยงปลากระพง เส้นหมี่ข้าวกล้อง ปลากระพงหั่นชิ้น ทอดให้เคี้ยวกินแบบพอดีคำ จุใจกับเครื่องเคียง ผักสลัดจานโต และเส้นหมี่ข้าวกล้องนุ่มๆ หอมกลิ่นกระเทียมเจีย     ชื่อเมนูว่าตำตามใจพี่ยักษ์ แต่ที่หลงรักกลับเป็นสายกินทั้งหลายที่พร้อมเทใจให้ในความจัดจ้านนัวเค็มของส้มตำปลาร้าสูตรเด็ด เสริมทัพด้วยกุ้งสดลวกพอสุก ไข่ต้มยางมะตูม เส้นหมี่ลวก แคปหมู เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ และผักสลัด แค่เห็นก็เปรี้ยวปากแล้ว     แตงโมปลาแห้ง ตำรับชาววังหากินยาก ทางร้านเลือกแตงโมลูกโตเนื้อหวานฉ่ำ หั่นเป็นชิ้นให้ตักกินง่าย โรยปลาแห้งปรุงรส สั่งมาปิดท้ายมื้อได้แบบสดชื่นทีเดียว     ใครอยากแข็งแรงหน้าตาดี เอ้ย สุขภาพดีแบบพี่ยักษ์ รีบกริ๊งกร๊างจองที่นั่งเลย!

ย้อนไปก่อนหน้านี้ คุณเอื้อง-ธีตา เริ่มต้นเดินบนเส้นทางสายขนมอย่างจริงจัง ด้วยการเปิดร้านเบเกอรี่ในชื่อ Theera นำความรู้เรื่องขนมที่ได้จากการเรียนที่เลอ กอร์ดอง เบลอ มาปรับสูตรให้เป็นเบเกอรี่เพื่อสุขภาพ รวมถึงขนมแบบกลูเต็นฟรีและวีแกน นอกจากจะดีกับลูกชายของคุณเอื้องที่มีภาวะออทิสซึ่ม ยังเป็นทางเลือกให้ผู้ที่มีอาการแพ้อาหารอีกด้วย (สมกับที่เธอนิยามการทำขนมไว้ว่าเป็นช่วงเวลาที่คลายเครียดและเป็นสุข) ก่อนที่เส้นทางของเธอจะชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยการเปิดตัว Steps with Theera ร้านสีขาวย่านเอกมัยในรูปแบบของเทรนนิ่งเซนเตอร์ที่มีคาเฟ่แสนอบอุ่นอยู่ชั้นล่าง ร่วมกับคุณแมกซ์ Co-founder ที่มีพื้นฐานการสอนผู้พิเศษมานานหลายปี       ที่นี่จึงไม่ได้เป็นเพียงคาเฟ่ธรรมดาเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่สำหรับฝึก-เรียนรู้-เตรียมตัวของเด็กพิเศษ หลายคนในฐานะของเทรนนี ก่อนจะก้าวออกไปใช้ชีวิตร่วมกับคนทั่วไปอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกับสุขภาพใจที่แข็งแรง       Eat-Live-Learn : ใช้ชีวิตไปด้วย เรียนรู้ไปด้วย   “เราสอนทักษะในการดำรงชีวิตประจำวัน ซักผ้า รีดผ้า การเดินทาง วิธีขี้นบีทีเอส นั่งรถเมล์ เรียก Grab การเปิดบัญชีที่ธนาคาร รวมถึงทักษะในการประกอบอาชีพด้วย คาเฟ่เป็นพื้นที่ที่เทรนนีสามารถเรียนรู้ทักษะได้หลายรูปแบบ ทั้งการทำงานเป็นทีม แก้ปัญหาเฉพาะหน้า การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า การแต่งตัวให้สุภาพเรียบร้อย มาทำงานให้ตรงต่อเวลา ซึ่งไม่ว่าจะไปทำอาชีพใดก็ตาม จำเป็นจะต้องมีทักษะเหล่านี้ด้วย”   คุณเอื้อง ธีตา Pastry Chef แห่ง Step with Theera และ Theera   คุณเอื้องอธิบายภาพกว้างๆ ให้เราฟังอย่างอารมณ์ดี นอกจากน้องๆ จะได้ลงมือช่วยทำขนม  ฝึกเป็นบาริสต้าแล้ว ยังมีเนื้องานอื่น ทั้งการฝึกทำอาร์ตเวิร์กหรือแม้แต่เขียนบทความโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะช่วยดึงทักษะเฉพาะตัวของเด็กแต่ละคนให้ออกมาชัดเจนยิ่งขึ้น และที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน คาเฟ่แห่งนี้ยังเป็นพื้นที่ให้คนภายนอกเข้ามาสื่อสารพูดคุยและได้มองเห็นว่าน้องๆ สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ (เช่นเดียวกับครั้งนี้ เราได้เจอกับน้องปัณณ์ หนุ่มน้อยที่ขยันขันแข็งสุดๆ จนต้องขอถ่ายรูปมาฝากกันซะเลย) บรรยากาศภายในร้านจึงเต็มไปด้วยข้อความให้กำลังซึ่งกันและกันบนบอร์ด และที่น่ารักไปกว่านั้น ยังมีวิธีการสื่อสารผ่านรูปภาพ Sign of the month หรือการใช้ภาษามือที่เข้าใจง่ายอีกด้วย   น้องปัณณ์ เทรนนีคนขยันของเราวันนี้   เมนูของที่ร้านเน้นเมนูเพื่อสุขภาพเป็นหลัก ใครแพ้อาหารจำพวกแป้งก็มีเมนู Gluten-Free แยกไว้อย่างชัดเจน เริ่มด้วยข้าวกล้องกับแกงมันหวาน ให้หนักท้องกันก่อน ที่ร้านใช้ส่วนอกไก่ไร้มัน เราชอบที่แกงมีความข้นจากการใส่มันบดลงไปด้วย ลดการกะทิให้น้อยลง และไม่ใส่ผงชูรส แถมรสเผ็ดดีทีเดียว ตามด้วย Chia and Acai Layered Breakfast Jar with Fresh Fruit สมูทตี้โบวล์ที่อัดแน่นไปด้วยรสเปรี้ยวหวานของผลไม้ ได้ประโยชน์จากนมถั่วเหลือง พีนัทบัตเตอร์ เมล็ดเจีย และรสหวานละมุนจากน้ำผึ้ง โรยกราโนล่าทำเอง (แบบกลูเต็นฟรี) Gluten-Free and Vegan Pancakes แพนเค้กแบบกลูเต็นฟรี ทำจากแป้งข้าวกล้องผสมกับแป้งบัควีต ใส่เมล็ดเจีย นมข้าว กะทิ ได้รสหวานจากน้ำตาลทรายแดง ท้อปด้านบนด้วยแอปเปิลคาราเมลและครัมเบิลกรุบกรอบ         ปิดท้ายด้วย Warm Peanut Butter Bar เนื้อนุ่มและแน่นได้ความหวานจากกล้วยและอินทผาลัม เสิร์ฟอุ่นราดด้วยซอสคาราเมล กินคู่ไอศกรีมนมถั่วเหลืองโฮมเมด รสนุ่มนวลดีเชียว     กระซิบอีกนิด หากใครแวะมาที่ร้านแล้วเจอน้องๆ เทรนนีกำลังทำงานอยู่ อย่าลืมส่งยิ้มทักทายเป็นกำลังใจให้ เพราะรอยยิ้มของเรามีความหมายกับน้องๆ มากทีเดียวค่ะ

เป็นความตั้งใจของเจ้าของร้านที่จะนำเสนอเมนูสุดเฮลท์ตี้ให้กับคนย่านชานเมืองได้ลิ้มรสแบบไม่ต้องฝ่ารถติดเข้าเมืองซึ่งมีให้อิ่มหนำทั้งเมนูคาวหวาน เครื่องดื่ม และสมู๊ทตี้ โดยตัวร้านรีโนเวทบ้านเก่าให้เป็นอาร์ตคาเฟ่เก๋ๆ ประดับภาพวาดแนวแอ็บสแต็กกลมกลืนไปกับพื้นที่สีเขียวรอบร้าน     เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบกับโซนห้องแอร์ที่ตั้งของบาร์เครื่องดื่ม และยังเป็นมุมนั่งเล่นที่เน้นความเรียบง่ายในโทนสีขาวสลับดำ เราสามารถนั่งชิลริมกระจก หรือจะเดินทะลุออกหลังบ้านที่เป็นโซนโอเพ่นแอร์ก็นั่งได้เย็นใจเหมือนกัน เพราะมีหลังคากรองแสงแดดและพัดลมตัวใหญ่ช่วยไล่ไอร้อน รอบบริเวณประดับด้วยภาพวาดแนวแอ็บสแต็กกลมกลืนกับสถานที่ ดูคล้ายอาร์ตแกลเลอรี่ขนาดย่อมที่พร้อมสะกดสายตาทุกคู่ให้หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นได้นานๆ         เมนูของร้านเน้นปรุงง่าย อร่อยและได้สุขภาพจากวัตถุดิบออร์แกนิกที่เจ้าของร้านสรรหามาอย่างประณีตไม่ว่าจะเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่และธัญพืชต่างๆ ที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย เริ่มที่เมนูเรียกแขกของร้านอย่าง Acai Mixed Berry Simple Bowl สมูตตี้รสเปรี้ยวจากเบอร์รี่นานาชนิด โดยเฉพาะอาซาอิเบอร์รี่ที่หนึ่งเรื่องต่อต้านอนุมูลอิสระ ทอปปิงด้วยสตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ กล้วย เมล็ดเชีย และกราโนล่า       Chicken Tortilla Wrap ตอร์ติญาไก่ เสิร์ฟคู่กับอะโวคาโดกัวคาโมเล่ และซัลซ่ารสจัดจ้านสไตล์เม็กซิกัน เสริมด้วยสลัดผักเพิ่มความสดชื่นแบบคูณสอง       Spaghetti Bacon & Dry Chilli สปาเก็ตตี้ผัดกับพริกแห้งและเบคอน สปาเก็ตตีผัดค่อนข้างแห้งเส้นหนึบไม่มันเยิ้ม ปรุงรสเผ็ดร้อนกำลังดี โรยชีสปิดท้ายเพิ่มรสเค็มมันและกลิ่นหอมเรียกน้ำย่อย       ส่วนของหวานไฮไลท์ของร้านที่เราไม่อยากให้พลาด ได้แก่ Simple Fruits Waffle วัฟเฟิลโฮลวีท 2 ชิ้นวางซ้อนกัน เสิร์ฟพร้อมน้ำผึ้งและผลไม้ ได้แก่ สตรอว์เบอร์รี กีวี บลูเบอร์รี และกล้วย       ส่วนเครื่องดื่มแนะนำ Earl Grey Lemon Tea รสเปรี้ยวของมะนาวผสานความหวานเล็กน้อยจากไซรัป เมื่อยกขึ้นจิบจะสัมผัสกลิ่นหอมของชาและมะนาวสดไปพร้อมกัน ใครกำลังง่วงนอนรับรองตื่น!     อีกเมนูขายดีไม่น้อยหน้ากัน ได้แก่ Space Rose Soda มอบความสดชื่นคืนความสดใสให้กับผู้ที่กำลังรู้สึกเนือยๆ ด้วยรสหวานซ่อนเปรี้ยวที่มาพร้อมกลิ่นหอมของมินต์ แค่จิบนิดๆ ก็รู้สึกฟิตและกระปรี้กระเปร่าแล้ว     ด้านคอฟฟี่เลิฟเวอร์อย่าเพิ่งน้อยใจ เพราะร้านนี้มีของดีให้เลือกลิ้มลองอยู่หลายรายการ อาทิ Caramel Macchiato เอสเปรสโซช็อตเข้มข้นบนชั้นนมหอมมัน เลือกได้ทั้งเมนูร้อนและเย็น     จิบชิลๆ นั่งคุยได้นานๆ ตรงตามความต้องการของร้านที่อยากให้เป็นบ้านหลังที่สองของทุกคน!   

ใครๆ ก็อยากสุขภาพดี แต่พอพูดถึงอาหารสุขภาพหลายคนก็ทำหน้าเบื่อพานไม่อยากจะกินอาหารไปตามๆ กัน วันนี้เราอยากให้ลบความคิดเดิมๆ แล้วมาเติมสีสันและความจัดจ้านกันที่ “Salt // Pepper” ราชพฤกษ์ สาขานี้พิเศษสุดตรงที่รวบรวมจานเด็ดมาเอาใจคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ เน้นผักและวัตถุดิบออแกนิกส์ นำมาปรุงให้รสจัดถึงใจชนิดให้ลืมอาหารสุขภาพแบบเดิมๆ ไปเลย นอกจากจะกินดีมีประโยชน์ทุกเมนูยังจัดเสิร์ฟชุดใหญ่ใส่มาให้แบบพูนจาน มื้อไหนไม่อยากทำอาหาร แวะมาร้านนี้ก็ได้อิ่มพุงกางทั้งครอบครัว         เด็ดสุดยกให้ซี่โครงหมูบาร์บีคิว ซูวีดนานถึง 48 ชั่วโมง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านุ่มแค่ไหน เคี้ยวสบายแทบละลายในปาก เสิร์ฟพร้อมสลัดผักและขนมปังอบกรอบๆ หอมๆ     ต่อด้วยเมนูสุดครีมมี่สปาเก็ตตีเบคอนไข่ออนเซ็น ครีมชีสเข้มข้นคลุกเคล้าเส้นหนึบๆ นุ่มๆ และไข่ออนเซ็นเยิ้มๆ โรยมอซซาเรลลาชีส ตามด้วยเบคอนอบที่เคี้ยวกรุบสนุกลิ้น     สเต๊กปลาแซลมอนกับซัลซาอะโวคาโดออร์แกนิก แซลมอนชิ้นโตราดซอสเลมอนรสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมชวนสดชื่น เคียงข้างด้วยสลัดผักหลากสีสันที่เห็นปุ๊บก็อยากลงมือกินปั๊บ       พล่ากุ้งหมูสับกับนาโช่ชิพ เมนูอุดมสมุนไพรเหมาะกับคนรักสุขภาพที่ยังต้องการเติมความแซ่บให้กับชีวิตโดยเฉพาะเรื่องความจี๊ดถึงใจ สำหรับสูตรนี้ทางร้านปรุงไม่ยั้งจึงหนักเครื่องถึงรส ตักวางบนนาโช่กรอบๆ หอมๆ เป็นการจับคู่ที่ดูเข้ากั๊นเข้ากัน     ปิดท้ายด้วยแซลมอนพันร็อกเก็ต แซลมอนเกรดพรีเมียมสไลด์หนาพันร็อกเก็ตสลัด จากนั้นราดซอสซีฟู้ดและบัลซามิกฉ่ำๆ  ให้ความจัดจ้านระดับ 10     แนะนำเบาๆ เพราะทีเด็ดยังมีอีกมากไม่อยากให้พลาดเลยจริงๆ

ใครเป็นสายเฮลตี้ ต้องถูกใจร้านสุขกินได้แน่นอน กรีนเพลสขนาดน้อยๆ ย่านศาลายา ที่เสิร์ฟเมนูเพื่อสุขภาพจากผักสดปลูกเองในฟาร์มหลังบ้าน ตัวร้านโดดเด่นสะดุดตาสไตล์มินิมอล เต็มไปด้วยแมกไม้หลากชนิด ทำให้บรรยากาศรอบๆ ร่มรื่น อบอุ่น สุขสบาย ภายในแต่งผนังสีขาวเพื่อให้ดูสว่างโล่งตา แต่งแต้มความสดใสด้วยสีสันจากรูปภาพ เสริมความสดชื่นด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ช่วยเพิ่มบรรยากาศร้านให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้น           เริ่มต้นเมนูเรียกน้ำย่อยด้วย สลัดเคล กินคู่กับไข่ลวก ชีส อัลมอนด์ และเบอร์รี่ โดยมีน้ำสลัดหอยลายรสชาติเปรี้ยวอมหวานเป็นตัวชูโรง ความมันจากอัลมอนด์ กรุบกรอบจากเคล และความสดชื่นจากผลเบอรี่ รวมเป็นรสชาติที่กระตุ้นต่อมรับรสได้ดี       ต่อด้วย สปาเก็ตตี้ พริกแห้งไส้อั่ว สปาเก็ตตี้เส้นสดนุ่มหนึบหนับกำลังดี มาพร้อมรสชาติร้อนแรงของพริกแห้ง กินคู่กับไส้อั่วส่งตรงจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นเมนูที่ผสมผสานรสชาติระหว่างไทยกับอิตาเลียนได้อย่างลงตัว     ใครยังอิ่มไม่หนำใจต้องจัด สเต็กไก่อบชีส สะโพกไก่หมักเครื่องเทศ เนื้อนุ่ม สุกกำลังดี ทอปด้วยร็อกเก็ตสลัด กินพร้อมกับเนื้อไก่และชีสช่วยตัดเลี่ยนได้ดี     สายหวานต้องไม่พลาด ชีสเค้กชาเขียว ชีสเค้กที่อัดแน่นไปด้วยชีส ชาเขียว และงาดำ รวมเป็นรสชาติที่เข้มข้น กลมกล่อม มิรู้ลืม     ปิดท้ายด้วยความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า กับเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ เคลเสาวรสสมูทตี้  ผักเคลปั่นรวมกับเสาวรส และน้ำผึ้งดอกลำไย ได้รสชาติเปรี้ยวหวาน และเทกเจอร์สนุกๆ จากเม็ดเสาวรส ยิ่งดื่ม ยิ่งเพลินใจ  

    ท่ามกลางความคึกคักวุ่นวายบนถนนวิทยุ “Little Sunshine” ร้านอาหารน่ารักในซอยเล็กๆ ข้างอาคารวีรสุกลายเป็นหนึ่งในเช็กลิสต์โอเอซิสแห่งความอร่อยใจกลางเมืองของเราที่เพียงก้าวเข้ามาก็รู้สึกได้ถึงความสดใสและอบอุ่นสมกับคอนเซ็ปต์ของร้านที่พร้อมจะเป็นแสงแดดอ่อนอุ่นสบาย เพื่อ Brighten Up Your Day ให้กับทุกคน       นอกจากความพิถีพิถันและความใส่ “ใจ” ในการปรุงทุกขั้นตอนแล้ว การเสาะหาและเลือกสรรวัตถุดิบออร์แกนิกที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายของคุณป๋วย เจ้าของร้านอดีตนักกำหนดอาหารก็ยิ่งทำให้ทุกจานของลิตเติลซันไชน์โดนใจทั้งนักกินและคนรักสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นจานสลัดอย่าง Roasted Pumpkin Salad ที่มีทั้งฟักทองย่าง แครอตย่าง และมันม่วงย่าง โรยอัลมอนด์และงาคั่ว ราดน้ำสลัดมิโซะรสกลมกล่อม และ Homemade Sausage Salad ทีเด็ดอยู่ที่ไส้กรอกหมูโฮมเมด มาพร้อมผักและผลไม้แห้งต่างๆ ราดแบล็กเบอร์รีวินิแกรตรสเปรี้ยวหวาน       ใครชอบพาสต้าต้องลอง Spicy Three Eggs Pasta เมนูซิกเนเจอร์ที่รวมความอร่อยของไข่ 3 ชนิด คือ ไข่ปลาเมนไทโกะ ไข่กุ้ง และไข่ออนเซ็น และ Spicy Bacon Carbonara Pasta ที่ดัดแปลงพาสต้าคาโบนาราให้เผ็ดจัดจ้านยิ่งขึ้นด้วยซอสศรีราชา มาพร้อมเบคอนกรอบและชีสพาร์เมซานขูด ท็อปด้วยไข่ออนเซ็น       แต่ถ้าอยากอิ่มง่ายๆ กับเมนูข้าวจานเดียว เราแนะนำ Spicy Salmon Fried Rice ข้าวผัดซอสเผ็ดแบบไทยๆ ท็อปด้วยแซลมอนย่างกำลังดีและผักนานาชนิด กินคู่น้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บ แล้วอย่าลืมสั่ง Little Sunshine โซดาแสนสดชื่นที่ผสมผสานความเปรี้ยวหวานของเสาวรส ลิ้นจี่ และไซรัปเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ได้อย่างลงตัวมาเพิ่มความสดชื่นอีกสักแก้ว    

สายเฮลท์ตี้เตรียมเคลียร์คิวได้เลย เพราะตอนนี้  Whale Belly Poke Bar ร้านโปเกะบาร์เปิดใหม่พร้อมให้เราได้ไปลองกันแล้วที่ชั้น 2 The Third Place สุขุมวิท 101 กับเมนูโปเกะ (Poke) เมนูพื้นเมืองแบบฮาวายเอี้ยนที่ให้อารมณ์ญี่ปุ่นไปด้วยในตัว เพราะอัดแน่นไปด้วยปลาดิบ ผักสด ผลไม้หวานฉ่ำ แล้วเพิ่มรสชาติอีกนิดด้วยซอสสุดเข้มข้น         ส่วนใครปลื้มผลไม้ แนะนำ Hawaiian Poke ฮาวายเอี้ยนสุดใจ สีสวยด้วยเนื้อกุ้ง ปูอัด มะม่วงสุก สับปะรด แตงกวา โรยหน้าด้วยไข่กุ้งกรึบๆ จับคู่กับซอสมะนาวที่รสเปรี้ยวไปตัดกับความหวานของผลไม้ได้ดีเชียว     <img alt="" whale="" belly="" poke="" bar”="" อร่อยแบบฮาวายที่โปเกะบาร์เปิดใหม่ย่านสุขุมวิท"="" data-cke-saved-src="https://www.gourmetandcuisine.com/Images/editor_upload/_editor20190315035210_original.jpg" src="https://www.gourmetandcuisine.com/Images/editor_upload/_editor20190315035210_original.jpg">   สรุปได้ว่าฟินทุกถ้วย

ถึงทุกคนจะรู้ดีกันแหละว่าการกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ แต่พอคิดถึงรสชาติหลายคนอาจจะรู้สึกท้อนิดๆ บ้างก็ถอดใจอยู่หน่อยๆ เราเลยอยากจะมาแนะนำ Mom & Sis The Smoothie Café คาเฟ่สมูตตี้น้องใหม่ที่นอกจากจะทำให้การกินอาหารเพื่อสุขภาพเป็นเรื่องง่ายแล้ว รสชาติยังประทับใจอีกด้วย       จุดเด่นและความพิเศษในแต่ละเมนูของ Mom & Sis The Smoothie Café อยู่ที่การคิดค้นและผสมผสานทางรสชาติให้ได้ความอร่อยสูงสุด โดยไม่ใส่สารเพิ่มความหวานใดๆ หากแต่เลือกใช้กล้วย มะม่วงสุก และแอปเปิลมาเติมรสชาติ ซึ่งคุณแนน ณัฐติยา เกษมปราการ เจ้าของร้านเล่าว่าทุกเมนูสามารถเรียกเป็น Superfood Smoothie กันได้ เพราะวัตถุดิบแต่ละชนิดล้วนผ่านการพิสูจน์แล้วว่ามีสารอาหารสูง ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดเจีย  เมล็ดแฟล็กซ์ เกสรผึ้ง และอาซาอิ นอกจากนี้ในเมนูยังคำนวณแคลอรี่ให้อย่างไม่มีกั๊ก เพื่อให้เราได้เลือกรสชาติและแคลอรี่ที่ต้องการได้อย่างตามใจ       เริ่มกันด้วย Avocado Bowl (235 บาท) ที่นำอะโวคาโดแหล่งไขมันชั้นดีจากนิวซีแลนด์ที่เป็นมาปั่นรวมกับมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองและผักโขม จนรสชาติความหวานๆ เย็นๆ ก่อนจะเพิ่มความกรุบกรอบด้วย กราโนล่า เติมวิตามินอีกนิดจากผลไม้สดและแครนเบอรี่อบแห้ง     แล้วมาต่อด้วย Pure Health Acai (235 บาท) เมนูที่ชูโรงด้วยพระเอกอย่าง “อาซาอิ” จากป่าในบราซิลที่ขึ้นชื่อว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าผักและผลไม้ชนิดอื่นๆ มากินคู่กับเบอร์รี่หลากชนิดให้ชิมกันอย่างเต็มอิ่ม แต่เบาหวิวด้วยแคลอรี่เพียง 150-180 เท่านั้น     คนรักช็อกโกแลตต้องลอง Cacao Almond Banana with Chia Seed (175 / 185 บาท) ช็อกโกแลตปั่นรวมกับน้ำนมอัลมอนด์ กล้วย และเมล็ดเจีย เรียกว่าได้รสชาติความอร่อยเข้มข้นและได้สุขภาพ ร่วมด้วย Baby Green (155 / 165 บาท) น้ำผักโขมปั่นที่จะเปลี่ยนประสบการณ์ความขมให้อมหวานด้วยส่วนผสมของมะม่วง กล้วย สับปะรด และมะพร้าว       แต่ถ้าใครอยากได้ของกินเล่นเพื่อสุขภาพอย่าลืมซื้อ Energy Ball สแน็คลูกกลมๆ ทำจากผงโกโก้ผสมกับถั่วและผลไม้แห้งมีหลากรสชาติให้เลือกทั้งอินผลัม พีแคน ข้าวโอ๊ต กรีนที และลูกพรุน ที่เราขอรับประกันความอยู่ท้องด้วยแคลอรีเพียง 40-70 แคลอรีเท่านั้น  

สำหรับสายเฮลตี้ที่รักอาหารเพื่อสุขภาพแล้วคงรู้จักร้าน Dressed กันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสาขาที่ได้รับความนิยมอย่าง Siam Paragon ชั้น G ซึ่งตอนนี้นอกจากเพิ่มเมนูใหม่ขึ้นมา เช่น Samshed Avocado & Pomegranate Toast ขนมปังมัลติเกรนปิ้งกรอบหอม กินคู่กับโฮมเมดกัวคาโมเลรสมัน หวานจากเมล็ดทับทิม Acai Bowl หน้าตาชวนกิน มีอาซาอิ-ซุปเปอร์ฟู้ดกลิ่นหอมคล้ายช็อกโกแลตเป็นส่วนผสมหลัก ได้รสเปรี้ยวหวานจากโกจิเบอร์รี Fit & Firm มิกซ์สลัดรสเปรี้ยวเผ็ดจากน้ำสลัดแบบไทย เพิ่มรสเค็มนิดๆ ด้วยแซลมอนรมควัน เข้ากันกับมะม่วงสุกหวานกินเพลินๆ ไร้พุง           ส่วนใครอยากอิ่มท้องอีกนิดเราแนะนำ Cajun Chicken Steak with Guacamole สเต็กไก่เนื้อนุ่มหมักกับเครื่องเทศคาจัน เสิร์ฟพร้อมกัวคาโมเลเข้าคู่มะเขือเทศซัลซ่าแสนสดชื่น และ Honey Poke Rice Bowl สไตล์ฮาวาย โดดเด่นด้วยปลาทูน่าสดหมักซอสมิโซะสูตรพิเศษ กินกับข้าวไรซ์เบอร์รีและเครื่องเคียงนานาชนิดแน่นคุณประโยชน์ให้ทุกคนเลือกอิ่มอร่อยได้ตามชอบมากขึ้น       นอกจากนี้ที่ร้านยังมีเมนู Middle East (เฉพาะสาขาสยามพารากอน) ที่เพิ่งเปิดตัวได้เพียง 2 อาทิตย์อีกด้วยนะ! ใครกำลังมองหาอาหารสุขภาพควบคู่ไปกับรสชาติที่อร่อยด้วยแล้วล่ะก็     เราไม่อยากให้พลาดที่นี่จริงๆ !

“อาหารสุขภาพ” เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในบ้านเรามากทีเดียว เพราะนอกจากการจะได้กินอาหารที่ดีมีประโยชน์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งทำให้ไม่ต้องพบคุณหมอบ่อยๆ แล้ว ยังช่วยให้หุ่นของเราดูดีน่ามองอยู่เสมออีกด้วย     ร้าน A Lot of Love โดยมีคุณปอ ผู้ทำธุรกิจด้านสุขภาพ และคุณหมอปั๊บ คุณหมอโรคหัวใจโรงพยาบาลศิริราช พร้อมทั้งหุ้นส่วนอีก 2 คนที่รักสุขภาพ ก็อยากเป็นส่วนหนึ่งส่งต่อสุขภาพดีให้กับทุกคนเช่นกันจึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ “ให้คนรักมีความสุขด้วยสุขภาพแข็งแร็ง” โดยเริ่มตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบที่ดีมาใช้ในร้าน เช่น อาหารทะเลสดจากธรรมชาติ ส่งตรงจากเรือประมงจังหวัดจันทบุรี หรืออกไก่ปราศจากสารเร่งและฮอร์โมน ส่วนผักเป็นออร์แกนิคไร้สารเคมี รวมถึงเลือกใช้น้ำมันมะกอกแทนน้ำมัน โดยทั้งหมดนี้นำมาผ่านกรรมวิธีการทำ (Cook) ให้น้อยที่สุด เพื่อคงคุณค่าสารอาหารเอาไว้นั่นเอง     อาหารของที่ร้านหุ้นส่วนทุกคนช่วยกันครีเอทเป็นเมนูฟิวชันให้เรารู้สึกคุ้นชินพร้อมกินง่ายๆ ได้ทุกวัน ที่สำคัญทุกจานไม่ใส่ผงชูรสแต่มีโจทย์ว่าต้องคงรสชาติจัดจ้านถูกปากคนไทยอยู่ด้วย อย่างเมนู ควินัวยำปักษ์ใต้ เป็นการผสมผสาน Super Food เคี้ยวหนุบหนับอย่างควินัวกับยำปักษ์ใต้ได้ลงตัว น้ำยำสูตรเด็ดจากจังหวัดยะลารสชาติเข้มข้ม คลุกเคล้ากับสมุนไพรนานาชนิด ได้กลิ่นหอมนวลจากมะพร้าวคั่วใหม่ๆ ใครชอบกินเผ็ดก็ตักเติมพริกป่นคั่วหอมๆ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกันได้ไม่อั้น     ส่วน แซลมอนอินเลิฟ อีกหนึ่งเมนูเรียกน้ำย่อยก็รสแซ่บไม่แพ้กัน น้ำยำสไตล์ไทยเข้ากันได้ดีกับปลาแซลมอนเนื้อนุ่มและสตรอว์เบอร์รีสดกรอบรสเปรี้ยวอมหวาน หรือจะเปลี่ยนมาลองเมนูจากฝั่งตะวันตก Broccoli Fritters บล็อคโคลีสับหยาบเคี้ยวเพลินๆ ผสมกับแป้งและชีสเล็กน้อย จี่ในกระทะพอสุกเหลือง กินคู่กับซอสโยเกิร์ตและเลมอนเพิ่มความสดชื่น       แต่ถ้าอยากอิ่มท้องขึ้นอีกหน่อย เราแนะนำ ผัดไทยกุ้งย่างเส้นมะละกอสด ไฮไลต์อยู่ที่มะละกอดิบสดกรอบ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับกุ้งลายเสื้อย่างเนื้อแน่นหวาน และผัดไทยไร้เส้นที่มีเพียงเครื่องเคราเล็กน้อยผัดกับน้ำผัดไทยรสเข้มข้น แค่นี้ก็เอาอยู่แล้ว