ถ้าพูดถึงอาหารที่กินได้บ่อยแบบไม่ห่วงเรื่องน้ำหนัก สุกียากี้น่าจะติดอับดับต้นๆ เพราะส่วนใหญ่เน้นเนื้อสัตว์และผักสด พูดแล้วก็เปรี้ยวปากอยากกินขึ้นมาทันที ถ้าใครกำลังมองหาร้านสุกี้ที่มีรสชาติแตกต่างจากที่เคยลิ้มลอง แนะนำฮ่องกงสุกี้ สุกี้ตำรับฮ่องกงที่คงความอร่อยมายาวนานด้วยจุดเด่นของน้ำซุป 4 แบบที่เป็นหัวใจของร้าน ได้แก่ น้ำซุปยาจีน น้ำซุปเสฉวน น้ำซุปไข่เยี่ยวม้ารากผักชี และน้ำซุปต้มยำ เคล็ดลับความอร่อยของน้ำซุปทั้ง 4 ชนิดอยู่ที่น้ำซุปหลักอย่างน้ำซุปหมูและน้ำซุปไก่เคี่ยวจากขาหมูแฮมยูนนานและสะโพกหมูนาน 4-6 ชั่วโมงจนกลมกล่อมได้ที่นำไปปรุงเป็นน้ำซุปชนิดไหนก็อร่อยถูกใจทั้งนั้น         เริ่มที่ชุดใหญ่ไฟกระพริบ Sukiyaki Set และ Seafood Platter ยกขบวนความสดจากท้องทะเล ได้แก่ ปลาเก๋าดำ ปลากระพง แซลมอน หมึกสไลด์ และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ อย่าลืมสั่งชุดผักมาเสริมกำลังเพิ่มความสดชื่นกันด้วยล่ะ       อร่อยต่อไม่รอแล้วนะกับพันธมิตรดีๆ อย่าง Meat Ball “Hong Kong Style” ลูกชิ้นฮ่องกง 4 อย่าง ได้แก่ ลูกชิ้นหมึก ลูกชิ้นปลากราย ลูกชิ้นกุ้ง และลูกชิ้นหมู ทั้งหมดทำจากเนื้อล้วนๆ ไม่ผสมแป้ง นวดจนเหนียวให้เคี้ยวหนึบหนับ ที่สำคัญปราศจากกลิ่นคาวกวนใจ     ปิดท้ายด้วยเมนูคู่โต๊ะที่ใครก็ไม่อยากพลาด Assorted BBQ Platter รวมความอร่อยสไตล์ฮ่องกงไว้ในจานเดียว ได้แก่ หมูแดง หมูกรอบ และเป็ดย่าง จุดเด่นของหมูแดงคือความนุ่มหนึบจากส่วนผสมที่ลงตัวของเนื้อหมูส่วนสันคอหมักกับซอสฮ่องกง ไข่ไก่ น้ำมันหอยฮ่องกง ผงพะโล้ และเกลือนานกว่า 5 ชั่วโมง ย่างจนสุกดีก่อนแช่ในน้ำผึ้งและเหล้ากุหลาบฮ่องกงเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนหั่นเสิร์ฟ     ส่วนหมูกรอบใช้หมูสามชั้นเลือกแบบมีมัน มีเนื้อ และมีหนังเท่าๆ กันนำไปนึ่งแล้วหมักเกลือก่อนล้างน้ำสะอาดตามด้วยน้ำส้มสายชู ปรุงรสด้วยเครื่องเทศ นำไปอบจนกรอบและทอดอีกครั้งเพิ่มความกรอบแบบคูณสอง   สุดท้ายคือเป็ดย่าง เป็ดเชอร์รี่หมักเครื่องยาจีนและนำมาผ่านกรรมวิธีที่ซับซ้อนจนได้เป็ดหนังกรอบ เนื้อนุ่ม ชวนน้ำลายสอ กินคู่ซีอิ๊วสูตรเฉพาะจากฮ่องกง และน้ำจิ้มบาร์บีคิวทำจากเนยถั่ว กะทิ ผสมเต้าเจี้ยวรสชาติกลมกล่อม   ใครที่เคยไปฮ่องกงแล้วติดอกติดใจในความกรอบนอกนุ่มในของวัฟเฟิลฮ่องกงสูตรต้นตำรับ ทางร้านก็มีให้สั่งมากินเล่น หรือจะกินจริงจังก็ไม่ว่ากัน     อย่าลืมปิดท้ายมื้อด้วยพุดดิ้งนมสดรสหวานนุ่มละมุนลิ้นอีกคนละถ้วยก่อนกลับบ้านด้วยล่ะ  

“มิสซิสวู คือใครเหรอครับ” คำพูดติดตลกผสมเสียงหัวเราะของเชฟแรนดี้  ชัยชัช นพประภา ที่เล่าให้ฟังถึงที่มาและคอนเซปต์ของ Mrs. Wu ร้านอาหารแห่งล่าสุดที่เขาร่วมกันทำกับเพื่อนเชฟคนสนิทอย่าง ชาลี การ์เดอร์ ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วจาก Fillets, Surface และ 100 Mahaseth ก่อนที่เขาจะขยายความต่อว่า แท้จริงแล้วนี่คือชื่อสมมุติที่ใช้บอกเล่าความสนุกของรสชาติ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็น “หม้อไฟ” ย่อมไม่มีอะไรที่ตายตัว         แน่นอนว่าสไตล์การตกแต่งก็มาโทนเดียวไม่ต่างจากชื่อ ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะไม้ ภาพวาด แสงไฟนีออนก็ชวนให้นึกถึงภาพจำลองของฮ่องกงขึ้นมา เชฟแรนดี้เล่าว่าเมื่อนึกถึงไชน่าทาวน์ก็จะนึกถึงความคึกคัก อาหารอร่อย และราคาไม่แพง ซึ่งร้านนี้ก็คือตัวแทนของคำจัดกัดความดังกล่าวไว้ ไม่ต่างจากรสชาติของ “น้ำซุป” และ “น้ำจิ้ม” ที่เราขอบอกว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่เลยเดียว     วิธีการสั่งอาหารจะเริ่มต้นด้วยการให้เราเลือกซุปที่มีอยู่ด้วยกัน 5 สูตร ได้แก่ Japanese Nabe with Red Wine น้ำซุปนาเบะญี่ปุ่นที่เพิ่มความหอมหวานของไวน์แดง Pork Bone and Herb น้ำซุปกระดูกหมูสีขาวนวลต้มนานกว่า 8 ชั่วโมง Chicken and Tumaric ซุปไก่ต้มขมิ้นที่ให้ความเปรี้ยวสดชื่นหอมกลิ่นเครื่องเทศ Isan Fondue ซุปแจ่วฮ้อนที่คุ้นชิ้นลิ้นคนไทยเป็นอย่างดี และ Japanese Dashi and Sake ซุปปลาแห้งและสาเกที่ให้ความหอมละมุนผสมรสเค็มนิดๆ       จากนั้นก็ได้เวลาเลือกของสดที่ชอบ ซึ่งเราขอแนะนำ Mix Beef Set (550 บาท) ชุดรวมเนื้อวัวฮิมาวาริจากโคราชบ้านเราที่มีจุดเด่นอยู่ที่ความนุ่มและไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อแบบพอเหมาะ จากการเลี้ยงอย่างพิถีถิถันด้วยเมล็ดดอกทานตะวันอันเป็นที่มาของชื่อ หรือจะลอง Mix Pork Set (280 บาท) ชุดหมูรวมที่นำเนื้อหมูสุดอร่อยจากจังหวัดน่านนี่ผ่านการเลี้ยงในหลุมและให้กินสับปะรดและมอลต์ จนได้เนื้อสัมผัสที่เหมาะกับการแล่บางๆ อย่างที่สุด         เมื่อเนื้อพร้อมจุ่มลงหม้อคงขาดน้ำจิ้มเป็นไม่ได้ สำหรับเนื้อขอแนะนำให้จุ่มกับ Pickled Egg Yolk (30 บาท) ไข่ดองกับน้ำส้มและโชยุสูตรพิเศษที่เพิ่มเติมความหนึบหนับ ร่วมด้วยน้ำจิ้มอีก 7 อย่างที่ให้เลือกตามชอบ อาทิ น้ำจิ้มฮ่องกงที่ให้ความเผ็ดร้อนขึ้นจมูก น้ำจิ้มพอนสึสไตล์ญี่ปุ่น น้ำจิ้มงา น้ำจิ้มสุกี้โบราณ น้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ น้ำจิ้มแจ่ว และล่าสุดกับน้ำจิ้มกะปิ     ที่พอจับคู่กับน้ำซุปไก่ต้มขมิ้นแล้วล่ะก็ รับรองว่า “เด็ด”

สุกียากี้ ชาบุ บิงซูไม่อั้น! คือคอนเซ็ปต์ของร้านสล็อธ นอกจากยั่วใจเราด้วยชาบุน้ำซุปใสรสกลมกล่อมและสุกียากี้น้ำดำสไตล์คันไซที่ให้รสชาติหวานเค็มตามแบบฉบับญี่ปุ่นแล้ว ราคาและวัตถุดิบของที่นี่ก็ดีต่อใจ บุฟเฟต์ 495 บาทไม่บวกเพิ่ม มีไฮไลต์ห้ามพลาดเป็นเนื้อวัวออสเตรเลีย Dry Aged นุ่มหอม พ่วงหมูดำคุโรบูตะจากญี่ปุ่น ก่อนอิ่มยังมีบิงซูผลไม้ตามฤดูกาลไว้ปิดท้าย ส่วนใครไม่อยากจัดหนักก็มีเซ็ตธรรมดา 395 บาทที่จัดเต็มด้วยวัตถุดิบหลากหลายเข้ากันกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ (พอนสึ งา สุกี้ไทย) ให้เลือกจิ้มได้ตามชอบ       เมนูแนะนำ เนื้อวัวออสเตรเลียส่วนสะโพกและสันคอ ผ่านการบ่มนาน 30 วัน กินแล้วนุ่มลิ้น   หมูดำคุโรบูตะ นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น หมูเนื้อนุ่มละลายในปาก เข้ากันกับน้ำซุปหอมกรุ่น   บิงซู เกล็ดน้ำแข็งปุยนุ่มเนียนละเอียด ราดซอสหอมหวานแล้วเพิ่มความชื่นใจด้วยผลไม้ตามฤดูกาล