เยียวยาจิตใจด้วยมัตฉะบานอฟฟี่พรีเมียมจากร้าน Nita bake and brew ร้าน Matcha Specialty ที่ประสบความสำเร็จจากการขายออนไลน์ จนตอนนี้ขยับขยายมีหน้าร้านสุดมินิมอล ย่านสุขุมวิท โดยมีมัตฉะให้เลือก 3 สายพันธุ์ การันตีความอร่อยและความเข้มข้น ไม่ว่าจะไปนั่งรับประทานที่ร้านหรือเลือกสั่งมาชิมที่บ้านก็ฟินไม่แพ้กัน     เมนูแนะนำที่ห้ามพลาด Shizuoka Matcha Banoffee (350.-) บานอฟฟี่ที่เลือกใช้เป็นมัตฉะจากเมืองชิซึโอกะ รสเข้มติดขม ตัดกับครีมรสหวานละมุน และกล้วยสุกกำลังดี เพิ่มรสสัมผัสด้วยฐานโอริโอ้ กินเพลินสุดๆ       ในส่วนของเครื่องดื่มต้องลอง Shizuoka Latte (120.-) มัตฉะรสเข้ม ติดขมปลาย โดยทางร้านเลือกชงติดหวานเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความละมุน กลมกล่อม Uji Latte (140.-) ชาเกรดพิธีชงชาสูตรเบลนด์เฉพาะของทางร้าน หอมกลิ่นถั่วเบาๆ รสเข้มข้น หวานน้อย อูมามิ และ Fukuoka Latte (160.-) ตัวชาหอมกลิ่นคั่ว รสเข้มข้น หวานน้อยนุ่มนวล       ช่องทางการสั่งซื้อ TEL : 086 455 1665 IG : nita.bakeandbrew

Tag:

บอกเลยว่าปังมาก! สำหรับ Summer Sand ร้านโชคุปังออนไลน์ โฮมเมดเจ้าอร่อย โดดเด่นด้วยเนื้อขนมปังเหนียวนุ่ม โดยมีกลิ่นและรสชาติที่ชัดเจน อีกทั้งยังไม่ใส่สารเสริม ไม่ใส่สารกันบูด และทำสดใหม่ตามออร์เดอร์เท่านั้น     เราสั่งรส Original Shokupan (120 – 180 บาท) ได้กลิ่นหอมๆ ของนมและเนย ลอยเตะจมูกเลยทีเดียว เป็นรสดั้งเดิมที่สามารถจับคู่กินกับอะไรก็เพอร์เฟ็กต์ ทาเนยนิดแยมหน่อย ยิ่งอร่อยลงตัว     ใครรักช็อกโกแลตต้องลอง Double Chocolate Shokupan (160 – 260 บาท) ทางร้านเลือกใช้ช็อกโกแลตเข้มข้นนำเข้าจากเนเธอร์แลนด์ และผงโกโก้จากฝรั่งเศส รสชาติไม่หวาน และไม่ขมจนเกินไป รสกลมกล่อม     Matcha Shokupan (155 – 245บาท) ชาเขียวเลิฟเวอร์ห้ามพลาด เนื้อขนมปังเนียนนุ่ม ไม่ใส่สีและกลิ่น เพราะเลือกใช้ผงชาเขียวอย่างดี นำเข้าจากญี่ปุ่น       สั่งจองล่วงหน้า 1-2 วัน LINE official: Line@:  @summersand.bake IG: summersand.bake

Tag:

ชวนเหล่าคนรักขนมญี่ปุ่น ให้สั่งวาราบิโมจิสูตรน้ำแร่ธรรมชาติ จากร้าน Power Nap Lounge มาลิ้มลอง  โดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสนุ่มหนึบเย็น คล้ายเจลลี และความหอมกรุ่นจากวัตถุดิบชั้นดี โดยทางร้านใช้เป็นน้ำแร่ธรรมชาติจากเทือกเขามัทรีเป็นส่วนผสมหลัก มีให้เลือกอร่อยถึง 3 รสชาติ     Original วาราบิโมจิรสดั้งเดิมสูตรหวานเย็น คลุกกับผงถั่วคั่วมาแบบไม่หวง เป็นรสชาติยอดฮิตของคนทุกเพศทุกวัย       Matcha เข้มข้นด้วยชาเขียว Uji Matcha จากประเทศญี่ปุ่น รสชาติหวานน้อยแต่ไม่ฝาดคอ แนะนำถ้าต้องการเพิ่มความหวานให้ราดด้วยคุโรมิตซึไซรัป กินเพลินสุดๆ     Hojicha รสนี้ได้สีน้ำตาลเข้มของชาคั่ว ที่คัดเลือกชาชั้นดีจาก Uji Kyoto หอมกรุ่น รสกลมกล่อมไม่ขมฝาด ที่สำคัญคาเฟอีนน้อย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้สูงอายุก็อร่อยได้     นอกจากนี้ยังมีขนมตัวแทนฤดูใบไม้ผลิอย่าง Hanami Dango ที่มาพร้อม ซอสมิตาราชิ ซอสดั้งเดิมจากญี่ปุ่น หอมเค็มหวานลงตัว และซอสถั่วแดงกวน จากถั่วแดงเมล็ดเล็ก Azuki ประเทศญี่ปุ่น รสหวานอ่อนๆ เนื้อเนียนละมุน เข้ากันได้ดีกับดังโงะชาเขียวที่มีรสขมนิดๆ นิยมกินในช่วงชมซากุระบาน       ช่องทางการสั่งซื้อ LINE official: Line@:  @powernapl IG: powernaplounge

Tag:

สำหรับสายเนื้อ เราขอแนะนำอีกพิกัดที่มาพร้อมกับเมนูเนื้อหลากหลายเมนู GYUเด้อ เป็นร้านอาหารสไตล์เปิดโล่ง ตั้งอยู่ใน ซ.ปรีดี พนมยงค์ 42 ให้บรรยากาศเป็นกันเอง ชูจุดเด่นด้วยเนื้อโคขุนโพนยางคำ ที่มาพร้อมแนวคิดของการใช้เนื้อวัวในทุก ๆ ส่วนให้คุ้มค่ามากที่สุด       ชื่อของ GYUเด้อ ก็เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นญี่ปุ่นและความอีสาน ซึ่งก็ถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจนผ่านเมนูของร้าน ที่มียากินิคุ ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นพร้อมเมนูเนื้อให้เลือกลิ้มลองถึง 3 เช็ตด้วยกัน ได้แก่ SET A ประกอบไปด้วย เนื้อฝาสันคอ เนื้อหนอก เนื้อซี่โครง เนื้อแฟรงค์ เนื้อพิคันย่า และเนื้อรวม ในราคา 610 บาท SET B มีทั้งลิ้น เนื้อสันคอ เนื้อเสือร้องไห้ เนื้อเซอร์ลอยน์ เนื้อน่องลาย และเนื้อใบพาย ส่วน SET C ประกอบไปด้วยเนื้อคารุบิ เนื้อหางตะเข้ เนื้อน่องแก้ว เนื้อตะพาบ เนื้อริปแคป เนื้อร่องซี่โครง เนื้อสันใน เนื้อสันกลาง เนื้อสันนอก เนื้อพื้นท้อง และเนื้อหางว่าว       อีกส่วนที่เด็ดไม่แพ้กันคืออาหารอีสาน เริ่มต้นด้วยจานเรียกน้ำย่อย กากเนื้อทรงเครื่อง ซึ่งเป็นการนำกากเนื้อมาผัดจนน้ำมันออกหมดแล้วคั่วกับสมุนไพร ส่วนน้ำมันเนื้อที่ได้จากกากมัน ก็นำไปผัดกับข้าวสวย เป็น ข้าวผัดมันเนื้อ กลิ่นหอมเย้ายวน กินกับเมนูไหนก็เข้ากัน       ต่อด้วย ต้มแซ่บเนื้อน่องลาย ที่เข้มข้นหอมเป็นเอกลักษณ์ด้วยน้ำซุปที่ได้จากการเคี่ยวกระดูกวัวอย่างพิถีพิถัน ซดคล่องคอ แทรกซึมเข้าไปในเนื้อน่องลายที่เปื่อยยุ่ย หอมกลิ่นข้าวคั่วและสมุนไพร     ต่อด้วย ส้มตำปูปลาร้า ที่ต้องถูกใจสายส้มตำแน่นอนด้วยมะละกอสับ ได้สัมผัสกรุบกรอบจากมะละกอชิ้นเล็กบ้างใหญ่บ้าง รสชาติกลมกล่อมหอมปลาร้า ไม่เผ็ดจนเกินไป     โคนลิ้นย่าง เป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้ ด้วยความนุ่มเด้งเคี้ยวสนุก จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วมะขาม หรือน้ำจิ้ม GYUเด้อ สูตรเฉพาะที่ได้จากเนื้อตุ๋นกับสมุนไพร ให้อีกรสชาติที่แตกต่างออกไป         แน่นอนว่ามาที่ร้านเนื้อโคขุนทั้งที จะพลาดเมนูสเต๊กไปไม่ได้ ที่ GYUเด้อ มีเนื้อส่วนต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย และที่สำคัญคือทุกชิ้นนั้นมีความหนามากกว่า 1 นิ้ว สามารถเลือกเกรวี่ได้ 3 รสชาติ ได้แก่ ไวน์แดง ซอสเห็ด และซอสพริกไทยดำ เสิร์ฟมาพร้อมมันบดจัดเต็ม     ถึงแม้ว่า GYUเด้อ จะเป็นร้านเปิดโล่ง ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องฝนฟ้าคะนอง เพราะทำหลังคาครอบคลุมไว้เป็นอย่างดี ส่วนที่จอดรถนั้นมี 3 จุดด้วยกันคือ ริมกำแพงตรงข้ามหน้าร้าน ที่จอดด้านหลังร้าน และลานจอดรถที่อยู่ติดร้าน ราคา 20 บาทต่อวันเท่านั้น     นอกจากนีี้ ถ้าอยากลงมือทำอาหารเอง ที่ GYU เด้อ ก็มีเนื้อโคขุนไทยส่วนต่าง ๆ จำหน่ายด้วยเช่นกัน

Tag:

ชวนทุกคนมาย้อนวันวานไปกับ Tokyyo Roaster (โตคีโอ โรสเตอร์) จากสตรีทฟู้ดส์หน้าโรงเรียน สู่คาเฟ่ขนมโตเกียวแบบพรีเมียม โดยใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดในตลาดมารังสรรค์ให้กลายเป็นขนมโตเกียวที่แปลกใหม่และน่าสนใจยิ่งกว่าเดิม       ตัวร้านเป็นตึกแถว 1 คูหา ทาสีเขียวหัวเป็ดสวยสะดุดตา ซ่อนตัวอยู่ในซอยเย็นจิตร 8 บนถนนจันทน์  เมื่อเปิดประตูเข้าร้านจะพบกับพนักงานที่เรียกแทนตัวเองว่า Torista (โตริสต้า) หมายถึงบาริสต้าที่ทำขนมโตเกียวได้อร่อยมากนั่นเอง การตกแต่งร้านดูน่ารักสดใส ในโทนสีเขียวตัดกับสีชมพู มีภาพวาดลายเส้นการ์ตูนประดับเรียงรายบนผนัง อีกมุมหนึ่งยังมีดิสเพลย์รถเข็นพร้อมกล่องขนม และผนังสังกะสี ให้ถ่ายรูปเล่นกันด้วย       ประเดิมที่เมนูแรก Tokyyo Custard Cream with Cracking Candy ขนมโตเกียวสอดไส้ครีมคัสตาร์ด สัมผัสนุ่มละมุน หอมกลิ่นวานิลลา ก่อนเสิร์ฟบีบครีมสดไว้ด้านบน และโรยด้วยเป๊าะแป๊ะ ขนมโบราณที่เมื่อกินเข้าไปจะรู้สึกซ่าๆ เป๊าะแป๊ะในปาก ให้ความเพลิดเพลินขณะกำลังเคี้ยว       Tokyyo Vanilla Custard Cream with Golden Threads ขนมโตเกียวแป้งบางกรอบสอดไส้ครีมสด และฝอยทองที่ไม่หวานจนเกินไป แป้งม้วนเป็นทรงกรวยสวยงาม และปักบนเมล็ดกาแฟในแก้วใบจิ๋วก่อนจัดเสิร์ฟ ดูพรีเมียมมากๆ       เพิ่มความหนักท้องขึ้นอีกนิดกับขนมโตเกียวไส้คาว Tokyyo Salmon & Truffle Cream สอดไส้แซลมอนรมควันจากนอร์เวย์ ผสานความหอมของครีมชีสทรัฟเฟิล เพิ่มเท็กซ์เจอร์เคี้ยวกรุบๆ ด้วยไข่กุ้ง รสชาติเค็มๆ มันๆ กำลังดี     Tokyyo Salted Egg Custard ขนมโตเกียวสอดไส้ไข่เค็มลาวา โดยร้านเลือกใช้ไข่เค็มจากอำเภอไชยา จังหวัด สุราษฎร์ธานี  ให้รสสัมผัสหวาน เค็ม มัน อร่อยนัว กลมกล่อม     ปิดท้ายด้วย Tokyyo London ชาเขียวมัตฉะสุดเข้มข้น ออนท็อปด้วยแผ่นโตเกียวแป้งบางกรอบ และแอบซ่อนผลไม้ตามฤดูกาลไว้ด้านในทั้ง สตรอว์เบอร์รี บลูบอร์รี ผสมผสานกับเบคอนกรอบ ขอบแก้วปาดด้วยเนยถั่วและอัลมอนด์ เพิ่มความหอมมันเมื่อได้ลิ้มลอง     สำหรับใครที่เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว แนะนำให้จอดรถที่สมาคมแต้จิ๋ว แล้วเดินมาร้าน 50 เมตร เมื่อสั่งอาหารครบ 300 บาท สามารถแสดงบัตรจอดรถกับพนักงานที่ร้าน เพื่อรับส่วนลด 30 บาท  

Tag:

เชื่อแน่ว่าหากเอ่ยถึงร้าน อิซากายะ ภาพจำของใครหลายคนคือร้านสตรีทฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่น ที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนมักนั่งสังสรรค์กินดื่มเพื่อปลดเปลื้องความเหนื่อยล้าหลังเลิกงาน แต่สำหรับ Ki Izakaya ไม่ใช่เช่นนั้น กลับเป็นร้านอิซากายะที่ตั้งอยู่ในโรงแรมระดับ 5 ดาว อย่าง โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ (Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok) ที่มีวิวสวยๆ บนชั้น 9 ให้แขกผู้มาเยือนได้ชื่นชมตั้งแต่ยามพระอาทิตย์ตกดิน ต่อเนื่องจนถึงยามค่ำคืน     โดยคำว่า “คิ” (Ki) มีความหมายว่า อารมณ์ ความรู้สึก พลังงานบวก (Mood, Spirit) ส่วนคำว่า “อิซากายะ” (Izakaya)  หมายถึง “กิน-ดื่ม” เมื่อรวมเป็นคำเดียวจึงหมายถึงร้านนั่งชิลล์ กิน-ดื่มกับเพื่อนฝูง ในบรรยากาศสบายๆ และรับพลังงานบวกกลับไปหลังกินเสร็จ     ภายในห้องอาหาร Ki Izakaya ประดับประดาด้วยโต๊ะไม้ดีไซน์ทันสมัย และภาพสีสันสดใสตามแบบฉบับญี่ปุ่น เราสามารถเลือกนั่งได้ทั้งหน้าเคาน์เตอร์บาร์ เพื่อคุยกับกับบาร์เท็นเดอร์อย่างใกล้ชิด หรือริมกระจกที่มองออกไปจะเห็นวิวเมืองแบบพาโนรามา หากมาเป็นกลุ่มใหญ่ก็มีโต๊ะยาวไว้รองรับด้วยเช่นกัน     เชฟฮิโรยูกิ โยโกยาม่า ใช้ประสบการณ์จากการทำงานที่ L’Atelier de Joël Robuchon ร้านอาหารมิชลินระดับ 3 ดาว ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส รวมถึงร้านอาหารในเวียดนาม และออสเตรเลีย คิดค้นเมนูอาหารสำหรับห้องอาหาร Ki Izakaya โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น     Burrata เมนูฟิวชันสุดครีเอทที่นำบูราต้าชีสมาผสมกับน้ำดาชิ หรือน้ำสต๊อกปลา และโรยด้วยปลาโอแห้ง ตักกินพร้อมมะเขือเทศลูกโตหวานฉ่ำ ได้รสชาติที่ลงตัว     Satsuma Age ทอดมันปลาปรุงรสอย่างกลมกล่อม เนื้อแน่นเต็มชิ้น เคี้ยวนุ่มหนึบ กินคู่กับมายองเนส และตัดเลี่ยนด้วยขิงผัด     Croquette Ninniku โครเกตต์มันฝรั่งบดผสมกับเนื้อริบอาย ปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดพอดีคำ ก่อนนำไปชุบแป้งทอด ให้เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน และได้ความเผ็ดเล็กน้อยจากซอสกาลิคมายองเนส     Beef Kushi และ Pork Belly Kushi  เนื้อวัวออสเตรเลียและหมูสามชั้นเสียบไม้ เนื้อนุ่ม ละมุนลิ้น ชูรสด้วยต้นหอมสับและหอมหัวใหญ่สับ เสิร์ฟร้อนๆ บนเตาย่างฮิดะ หอมกรุ่น       Hotate Kani Negitoro Don (430 บาท) ข้าวด้งไซส์มินิ ประกอบด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศทั้ง ไข่ปลา หอยเชลล์โฮตาเตะ ปูหิมะ และเนกิโทโร่ ได้รสฉ่ำๆ หวานๆ เต็มคำ วิธีกินให้คลุกกับซอสโชยุและวาซาบิ ยิ่งเพิ่มความอร่อย     Matcha Sponge (100 บาท) สปันจ์เค้กมัตฉะ เนื้อนุ่มเบา เสิร์ฟคู่กับเค้กช็อกโกแลตรสเข้มข้นที่ผสานไปกับความเปรี้ยมอมหวานของราสเบอร์รี พร้อมช็อคโกแลตครัมเบิลให้เคี้ยวกันเพลินๆ     Ice Yuzu & Chilli (100 บาท) ไอศกรีมยูซุ รสเปรี้ยวหวานสดชื่น หุ้มด้วยไวต์ช็อกโกแลต ด้านบนเป็นสตรอว์เบอร์รีเจล ด้านล่างเป็นเสารสกับมะม่วง เพิ่มความหอมพร้อมความกรุบกรอบด้วยเกล็ดมะพร้าว และเสริมรสเผ็ดเล็กน้อยจากพริกที่ซ่อนอยู่ด้านใน     ด้านเครื่องดื่ม ก็มีเมนูที่น่าสนใจเยอะมาก รับรองว่าสายดื่มไม่มีผิดหวัง ทั้งวิสกี้ เหล้าจิน สาเก เบียร์ โซจู ค็อกเทล ม็อกเทล วางเรียงเต็มเชลฟ์หลังเคาน์เตอร์บาร์ จะเลือกสั่งมาดื่มคู่กับกับอาหารจานโปรด หรือดื่มเพียวๆ ก็ดีงามไม่แพ้กัน  

Tag:

หลังจากปล่อยให้รอกว่า 2 ปี ในที่สุด BlueSpice บุฟเฟต์นานาชาติที่หลายคนคิดถึงก็กลับมาอีกครั้ง ในชื่อ BlueSpice Café โดยครั้งนี้ขยับมาปักหมุดที่ใจกลางทองหล่อในรูปแบบคาเฟ่ที่ตกแต่งในสไตล์โอเรียนทอล อบอุ่นนั่งสบาย       รองท้องกันก่อนด้วยหมูย่างชีส เมนูกินเล่นแต่อิ่มจริง เนื้อหมูติดมันเล็กน้อย หมักเครื่องจนเข้าเนื้อแล้วย่างให้สุกหอม ท็อปด้วยชีสยืดๆ แบบจุใจ ตามด้วยซิกเนเจอร์อย่างเซ็ตข้าวมันไก่ฮ่องกง ไก่บ้านเนื้อเหนียวนุ่ม เสิร์ฟพร้อมข้าวมันหอมมะลิออร์แกนิกเม็ดสวย เคียงด้วยคะน้าฮ่องกง ซุปใส กินคู่น้ำจิ้ม 2 แบบคือน้ำจิ้มต้นหอมขิงและน้ำจิ้มข้าวมันไก่สูตรทางร้านที่ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว รสออกเค็มหวานแต่กลมกล่อม       จานถัดมาแซลมอนทอดน้ำปลา ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายมาแต่ไกล แซลมอนหั่นเต๋าทอดให้หนังกรอบแล้วราดด้วยน้ำปลาสูตรเด็ดที่มีรสหวานนิดๆ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บอันเป็นทีเด็ด พิซซ่าแป้งบางกรอบที่เลือกได้ทั้งหน้าซีฟู้ด สโมคแซลมอน ดับเบิลชีส และฮาวาเอี้ยน รวมถึงเมนูอิ่มท้องที่รอให้ลองอีกเพียบ           ในช่วงค่ำคืน ที่นี่มีบุฟเฟต์ข้าวต้มมื้อดึกพร้อมด้วยเครื่องเคราสไตล์ไทยจีน โดยเฉพาะเมนูไฮไลต์อย่างแซลมอนแซ่บและกุ้งอบวุ้นเส้น รวมถึงของหวานอย่างขนมปังไส้ทะลักและบัวลอยน้ำขิง แล้วเพิ่มความพิเศษในคืนวันศุกร์-อาทิตย์ด้วยบุฟเฟต์ทะเลเผาที่มีทั้งกุ้งแม่น้ำ ปลาหมึก ปูม้า และหอยหวานให้สั่งแบบไม่อั้น         เป็นการกลับมาแบบครบเครื่องจริงๆ

Tag:

แฟนคลับเบอร์เกอร์เคยไป Michetta รึยังเอ่ย ร้านเบอร์เกอร์สไตล์โฮมเมดที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 22 (Bts พร้อมพงษ์) บรรยากาศสนุกๆ แนวสตรีท ผนังสีดำเพนต์รูปกราฟฟิตี้ มีไฟนีออนสีชมพูเขียน ‘Feed me Burger & Tell Me I’m Pretty’ เก๋ๆ จนอดที่จะแชะรูปโพสต์ลงโซเชียลไม่ได้  พร้อมให้คุณอิ่มเอมไปกับฟาสฟู้ดรสอร่อยที่รังสรรค์จากวัตถุดิบพรีเมียม       ครีเอทโดยเชฟจอนนี่ - นาวิน จอนนาธาน บันเซล เชฟหนุ่มลูกครี่งเชียงใหม่ – อิตาเลียนฝีมือดีที่รักในการทำอาหารตั้งแต่วัยเยาว์ เขาได้ร่ำเรียนมาจากครอบครัวและสถาบันสอนทำอาหาร Le Cordon Bleu ณ เมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย แถมเชฟยังมีประสบการณ์ทำงานในร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง ของเชฟกากั้น อนันต์ ก่อนจะมามุ่งสู่หนทางของตนเองนั่นก็คือการเปิดร้านมีเก็ตต้าขึ้นมานั่นเอง     ความโดดเด่นของ Michetta นอกจากจะเน้นเรื่องวัตถุดิบแล้ว เชฟยังรังสรรค์เบอร์เกอร์ทุกชิ้นให้มีรสชาติซับซ้อน (แต่อร่อย) เปรียบเสมือนตัวต่อเลโก้ แต่ละองค์ประกอบปรุงรสอย่างเข้มข้น แต่เมื่อกินด้วยกันกลับเป็นอะไรที่ลงตัว นอกจากนั้นทางร้านยังเน้นกรรมวิธีในแบบฉบับโฮมเมด ไม่ว่าจะเป็นซอส มัสตาร์ด และบัลซามิก     เริ่มต้นกันที่ของกินเล่นอย่าง Hot Wings (185 บาท) ปีกไก่ทอดกรอบ แต่ภายในจะคงเป็นเนื้อเด้งกินอร่อย คลุกเคล้ากับผงซอสพริกศรีราชาทำเอง ที่ผ่านกรรมวิธีที่พิถีพิถัน รสเผ็ดร้อน จิ้มซอสสูตรลับรสหอมมัน หอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ     Signature Burger (340 บาท) ที่เปลี่ยนจากเนื้อเป็นเนื้อแกะแน่นๆ ได้คุณภาพ หอมกลิ่นเครื่องเทศเข้าเนื้อ กัดพร้อมขนมปังบันบริยอชสไตล์โฮมเมด เนื้อนุ่มฟู ที่ทำมาจากนมฮอกไกโด ซิกเนเจอร์ซอส เชดดาร์ชีสครีมมี เบคอนทอดกรอบ หัวหอมคาราเมลรสหวาน และแตงดอง     ตามด้วย Southern Fried Chicken Burger (265 บาท) ขนมปังบริยอชฮอกไกโดทำเอง ให้สัมผัสนุ่มนิ่ม ประกบกับไก่ทอดชิ้นโตๆ สูตรพิเศษของทางร้าน กรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน เข้ากันดีกับกะหล่ำปลีสีม่วงดอง ซอสมะเขือเทศโฮมเมด ตัดเลี่ยนด้วยแตงดองกรุบกรอบ     Jerk Chicken & Mushroom Wrap (200 บาท) แป้งตอร์ติยาในแบบฉบับโฮมเมด เนื้อเหนียวนุ่ม กินอร่อย (มาก) เคล้าไปกับไก่ย่างจาไมก้า รสเผ็ดพอดี ชิ้นพอเหมาะ และอะโวคาโดบดรสหอมมัน     ปิดท้ายอย่างสวยงามด้วยเครื่องดื่มที่เรารัก Strawberry Milkshake (200 บาท) นมสดหอมมัน ผสานไปกับไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี ท็อปด้วยวิปครีมที่เรารัก รสหวานอมเปรี้ยว ละมุนที่สุด     อร่อยไม่เบานะเอาจริง

Tag:

“หมูกระทะจะเยียวยาทุกสิ่ง” ถ้าคุณเป็นสายกินที่อินกับประโยคนี้ละก็เรามีร้านเด็ดๆ มาแนะนำ นี่เลย หมูกระทะคนรวย (Crazy Rich Thai BBQ) ร้านหมูกระทะน้องใหม่แห่งย่านสยามสแควร์ที่อยู่ฝั่งถนนอังรีดูนังต์ รองรับลูกค้าได้แบบจุใจเพราะมีหลายชั้น แถมยังมีวิวดาดฟ้าให้นั่งชมบรรยากาศแบบเก๋ๆ พร้อมสนุกไปกับเสียงดนตรีจากดีเจและดนตรีสด ในเรื่องของรสชาติก็เรียกได้ว่ารวย (ความอร่อย) สมชื่อ     โดดเด่นด้วยหมูหมักสูตรพิเศษ ที่มีให้เลือกทั้งหมูสามชั้นฟินๆ และหมูสันในนุ่มๆ ส่วนใครที่เป็นสายเนื้อทางร้านเขาก็มีเสือร้องไห้เสิร์ฟนะ มาพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรเด็ด (มาก) ซึ่งมีให้คุณเลือกอร่อยถึง 4 สไตล์ เช่น น้ำจิ้มหวาน น้ำจิ้มเค็ม น้ำจิ้มปีศาจ รสจัดจ้าน ได้ความนัวของปลาร้าแบบเต็มๆ และน้ำจิ้มสามรส รสเปรี้ยวเผ็ด คล้ายๆ น้ำจิ้มซีฟู้ด ใครกลัวเผ็ดไม่ต้องหวั่น เพราะชั้นล่างของหมูกระทะคนรวย เป็น Pop-up ของร้านชานมเสือพ่นไฟจูเนียร์นี่เอง       สั่งของกินเล่นมาลิ้มลองดีกว่า ส้มตำทอด (120 บาท) ก็น่าสนใจ เส้นมะละกอทอดกรุบกรอบ ไม่อมน้ำมันกินเพลิน เสิร์ฟพร้อมน้ำส้มตำครบรส เผ็ดกำลังดี คอหมูย่างน้ำผึ้ง (160 บาท) ก็เข้าที เนื้อหมูนุ่ม (มาก) ชุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นน้ำผึ้งอ่อนๆ เข้าคู่ไปกับน้ำจิ้มแจ่วรสเปรี้ยวเผ็ด       จานนี้เราเทใจให้รัวๆ ยำหมูยอ (150 บาท) หมูยอคุณภาพ เนื้อนุ่ม หอมกลิ่นพริกไทย คลุกเคล้ากับน้ำจิ้มรสจัดจ้านถึงใจ ไส้อ่อนทอดกระเทียม (160 บาท) หนึบๆ กินอร่อยดี สั่ง ส้มตำไทย (100 บาท) อีกสักจานดีกว่า รสหวาน เปรี้ยว เผ็ดกำลังดี ข้าวผัดเบคอน (150 บาท) รสเค็มกลมกล่อม เลิฟมากตรงเบคอน กินร้อนๆ อร่อยมาก         มาถึงตาหมูกระทะกันบ้าง เราสั่ง ชุดอภิมหาเศรษฐี (699 บาท) ที่ประกอบไปด้วย หมูสามชั้น แสนอร่อย หมูสันนอก นุ่มๆ เบคอน แสนรัก กุ้ง กินอร่อย ปลาหมึกกรอบ ปลาหมึกสดหนึบหนับ และชุดผักสดคุณภาพ ก่อนปิ้งควรคลุกเคล้าไข่สดกับเนื้อสัตว์ต่างๆ ให้ดี ย่างจนสุกได้ที่ เข้ากันดีกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดที่ทางร้านแนะนำ นั่นก็คือการรวมตัวกันของ 4 น้ำจิ้ม น้ำจิ้มหวาน น้ำจิ้มเค็ม น้ำจิ้มปีศาจ และน้ำจิ้มสามรส     เอาใจเด็กอ้วนไปกับ ชุดคนมีอันจะกิน (340 บาท)  เพราะเป็นการรวมตัวกันระหว่างหมูสามชั้นเนื้อนุ่ม และเบคอนรสเค็มละมุน จิ้มกับน้ำจิ้มสามรสถูกใจมาก     ชุด CEO เงินล้าน ก็ปังนะ มีทั้งหมูสามชั้นฟินๆ หมูสันนอกเคี้ยวเพลิน เบคอน ที่หลายคนชอบ และชุดผักที่คุ้มแสนคุ้ม     สุดท้ายนี้ขอเอาใจสายเนื้อด้วย  เสือร้องไห้ เนื้อฉ่ำนุ่มลิ้น ย่างบนเตาทองเหลืองร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ กินคู่น้ำจิ้มปีศาจ รสแซ่บผสมกับปลาร้า รสชาติดีสุดๆ     อร่อยกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

Tag:

ใครรักบานอฟฟี่ต้องไม่พลาดร้านนี้ Good Afternoon Bake ร้านบานอฟฟี่ออนไลน์ ที่อัดแน่นความอร่อยมาแบบคับกล่อง โดดเด่นด้วยซอสคาราเมลที่ทำมาจาก น้ำตาลดอกมะพร้าวออร์แกนิก จากอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้ความหอมอร่อยไม่เหมือนใคร โดยสามารถลิ้มลองได้หลายรสชาติ อาทิ     Biscoff Banoffee ฐานล่างเป็นโอริโอบดกรุบกรอบ เข้ากับวิปครีมรสบิสคอฟฟ์ และกล้วยหอมสดราดคาราเมลโฮมเมด โรยหน้าด้วยบิสคอฟฟ์ครัมเบิล กินคำเดียวอร่อยหลากหลายเท็กเจอร์     Classic Banoffee บานอฟฟี่รสออริจินัล ตัววิปครีมเป็นวิปครีมสด เนื้อนุ่มละมุน ด้านล่างเป็นคาราเมลซอสกับกล้วยหอม โดยมีฐานเป็นโอริโอบดเช่นเดิม ปิดท้ายด้วยการโรยผงโกโก้เพิ่มความสวยงาม       Matchanoffee ทางร้านเลือกใช้ผงชาเขียวเกรดพรีเมียมจากญี่ปุ่นสำหรับทำวิปครีมมัตฉะ กลมกล่อมไปกับซอสคาราเมลโฮมเมด และกล้วยหอมสด รสชาติหวานกำลังดี ถูกใจคนรักชาเขียว     สั่งจองล่วงหน้า 1-2 วัน LINE official: Line@ : @goodafternon IG : goodafternon.bake

Tag:

ต้าถังหม้อไฟ (DA TANG HOTPOT) ร้านฮอตพอตสไตล์จีนแห่งใหม่กลางสยามสแควร์ที่ชูไฮไลต์เป็นน้ำซุปรสชาติเข้มข้นและวัตถุดิบพรีเมียม ตัวร้านสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น ชั้นล่างตกแต่งสไตล์จีนโมเดิร์นสีสันฉูดฉาด ส่วนชั้น 2 โดดเด่นด้วยโคมไฟเหมือนหลุดออกมาจากฉากในภาพยนตร์ และชั้น 3 มาในธีมสรวงสวรรค์ สีทองสว่างสไวรวมถึงมีห้องไพรเวตพร้อมหม้อส่วนตัวไว้บริการอีกด้วย         น้ำซุปของที่ร้านมีให้เลือก 4 แบบด้วยกัน ทั้งซุปหม่าล่า ซุปพริกไทย ซุปข้าวตุ๋น และซุปผัก แต่ทีเด็ดต้องยกให้ซุปหม่าล่า รสเผ็ดจัดจ้านแต่ปรับสูตรให้กินแล้วลิ้นไม่ชา และซุปข้าวตุ๋นรสนุ่มนวลที่ได้จากการน้ำข้าวลงไปตุ๋นจนกลายเป็นน้ำซุปสีขาวขุ่น       ส่วนวัตถุดิบก็มีทั้งเนื้อวากิว A5 ชิ้นใหญ่ลายสวย นุ่มแทบละลายในปาก สามชั้นคุโรบูตะ,กุ้งกระบอกที่ทำจากเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ รวมถึงหมูห่มพริกเนื้อหมูสไลซ์โรยด้วยพริกแห้งสูตรพิเศษ มองเผินๆ แล้วเหมือนเผ็ดจัด แต่เมื่อชิมแล้วรสชาติเผ็ดพอดีแบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม         นอกจากนี้ยังมีปลากระพง หอยเชลล์ฮอกไกโด และปาท่องโก๋ตัวเล็กที่เหมาะสำหรับน้ำซุปข้าวตุ๋นเป็นพิเศษกินกับน้ำจิ้มชาบูไต้หวัน, น้ำจิ้มงา (แนะนำให้ใส่น้ำมันพริกผสมด้วย), น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ และน้ำจิ้มพอนสึ       หากยังไม่จุใจ ทางร้านมีเมนูอื่นรออยู่อีกหลายจาน อาทิ หมูเส้นทอดคลุกผงหม่าล่า ข้าวผัดปลาเค็มกุนเชียง เส้นมันญี่ปุ่นผัดหม่าล่าแห้งคุโรบูตะ ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยกะลอจี๊และหมั่นโถวทอด กรอบนอกนุ่มใน           ถูกใจคนรักอาหารจีนแน่นอน

Tag:

สำหรับใครที่มองหาพิกัดคาเฟ่ใหม่ ๆ มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่น่าลอง Polli’s ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ ภายในบ้านหลังใหญ่ในซอยปรีดี พนมยงค์ 26 แห่งนี้ผ่านการเนรมิตเสียใหม่จนกลายเป็นคาเฟ่ที่ให้บรรยากาศแสนอบอุ่นและเคลือบไปด้วยความสดใส           เมนู Brunch ที่มาพร้อมคอนเซปต์ดีต่อสุขภาพ รังสรรค์ออกมาให้ไม่จำเจ ลืมภาพอาหารเพื่อสุขภาพที่มีแต่สีเขียวและรสชาติบางเบาไปเลย เริ่มต้นด้วยกาแฟ Iced Cinnamon Oat Latte ลาเต้ที่ได้กลิ่นหอมจากซินนามอนผสมผสานไปกับความหวานธรรมชาติจากนมโอ๊ต เพิ่มพลังพร้อมความสดชื่นในยามสายของวันได้เป็นอย่างดี     จากนั้นเรียกน้ำย่อยด้วย Sourdough with Chiajam and Almond Butter ซาวร์โดเนื้อธัญพืชโทสต์จนกรอบนอกเหนียวนุ่มใน ดิปกับอัลมอนด์บัตเตอร์ก็ได้รสชาติหอมมันนุ่มนวล หรือเลือกเพิ่มรสชาติเปรี้ยวนิดหวานหน่อยด้วยเชียแจมก็ดีเหมือนกัน     เข้าสู่จานหลักกับ Butter Milk Fried Chicken Whole Wheat Waffle with Kale Slaw ไก่ทอดชิ้นใหญ่เสิร์ฟมาบนวาฟเฟิลโฮลวีตเนื้อนุ่ม เติมเต็มรสชาติด้วย “เคลสลอว์” หรือสลัดเคลที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน     ปิดท้ายด้วยของหวานรสชาติเบา ๆ กินง่าย Dark Chocolate Raspberry Chia Pudding ให้รสชาติเปรี้ยวจากราสป์เบอร์รี่ หวานปนขมจากดาร์กช็อกโกแลต พร้อมสัมผัสกรุบกรอบจากอัลมอนด์และธัญพืชอื่น ๆ รวมมาในแก้วเดียว     แค่นี้ก็มีช่วงสายของวันที่อิ่มท้องและอิ่มอกอิ่มใจได้ไม่ยาก

Tag:

คนรักทุเรียนไม่ต้องขับรถไปกินทุเรียนไกลๆ อีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้มีคาเฟ่ทุเรียนเปิดใหม่ Durianism Café Samyan โครงการ Block 28 สามย่าน แค่ฟังชื่อร้านก็รู้แล้วว่านี่คือคาเฟ่สหรับสาวกทุเรียนตัวจริง       คุณวิน เจ้าของร้านเล่าว่า คาเฟ่มีต้นกำเนิดมาจากร้าน Tree House Durian Café คาเฟ่ทุเรียนชื่อดังของจังหวัดจันทบุรี ส่วนบรรยากาศในร้านใช้สีพาสเทล เหลือง-ขาว เข้ากับเมนูทุเรียนที่มีให้เลือกหลากหลาย     เริ่มต้นด้วย โทสต์ทุเรียน ขนมปังโทสต์ที่กรอบและหอมเนย เสิร์ฟพร้อมเนื้อทุเรียนหมอนทองเกรดพรีเมียมชิ้นโตจุใจ เนื้อกรอบนอกนุ่มใน เคียงด้วยไอศกรีมทุเรียนรสละมุน ซอสทุเรียน แล้วโรยด้วยทุเรียนทอดเพิ่มความฟิน     เค้กทุเรียน เนื้อเค้กนุ่มเบา ใส่เนื้อทุเรียนสุกนิ่มลงไปกับวิปปิงครีมด้วย กินแล้วได้กลิ่นหอมอวลในปาก ต่อด้วยครัวซองต์ทุเรียน ครัวซองต์เนยสดและซอสทุเรียนหอมๆ       นอกจากนี้ยังมี หมอนทองสมูทตี้ ทุเรียนหมอนทองปั่นกับนมสด โรยด้วยทุเรียนทอดกรุบกรอบ ส่วนคอกาแฟอย่าพลาด กาแฟทุเรียน ที่เข้ากันดีอย่างน่าแปลกใจ แถมมีเนื้อทุเรียนให้เคี้ยวด้วย       ก่อนกลับอย่าลืมซื้อคอร์นเฟล็กทุเรียนติดมือกลับบ้าน ทางร้านใช้ผงทุเรียนที่สกัดจากเนื้อทุเรียนแบบเต็มๆ มาคลุกเคล้ากับคอร์นเฟล็ก เพิ่มความหอมหวานด้วยคาราเมล     กินเพลินแบบหยุดยากจริงๆ

“เจ๊แดงสามย่าน” ร้านส้มตำ – คอหมูย่างในตำนาน (30 กว่าปี) ตั้งแต่สมัยเปิดร้านในปี 1990 ที่ตั้งอยู่ข้างริมรั้วคณะนิติศาสตร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยรสชาติอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์บวกกับได้รับการแนะนำจากหนังสือ Michelin Guide Bangkok จนบูมกลายเป็นขวัญใจฟู้ดดี้ทุกกลุ่ม       ซึ่งตอนนี้ได้ตอกย้ำอีกความสำเร็จโดยการบุกมาเปิดสาขาใหม่ที่ People Park คอมมูนิตี้มอลล์สุดป๊อปของชาวอ่อนนุช (Bts อ่อนนุช ทางออก 3) ให้สายฟู้ดได้เพลิดเพลินกับเมนูรสแซ่บอย่างส้มตำ ยำสไตล์ต่างๆ และทีเด็ดที่ห้ามพลาดเลยคือ คอหมูย่างเนื้อนุ่มในตำนาน ที่ถูกชี้เป้าโดยมิชลินไกด์นั่นเอง       ขอประเดิมด้วยเมนูแซ่บๆ อย่าง ยำยอไข่เค็มครกแตก หมูยอคุณภาพ เนื้อแน่น คลุกเคล้ากับไข่แดงเค็มที่เราเลิฟ รสชาติเค็วนัว และน้ำยำสูตรพิเศษเฉพาะของทางร้าน หอมกลิ่นปลาร้ายั่วน้ำลาย     ยำยั่วไหลบัวกุ้งสด ไหลบัวกรุบกรอบ เข้าปากพร้อมกุ้งตัวโตเนื้อสดหวาน และน้ำยำแซ่บๆ รสจัดจ้านที่ผสานไปกับความกลมกล่อมของน้ำปลาร้า     ซั่วหมูยอครกแตก ขนมจีนเส้นยาวนุ่ม ผสมกับหมูยออย่างดี ความเผ็ดกำลังได้ที่ โรยด้วยน้ำพริกกากหมูแสนอร่อย เคี้ยวเพลิน จิ้มกับข้าวเหนียวก็อิ่มเอมแล้ว     มาต่อกันที่ ตำข้าวโพดไข่เค็ม กันบ้าง ตำไทยรสหวานละมุน ที่ประกอบไปด้วยข้าวโพดหวานกรอบๆ และไข่เค็มชั้นดี ใครสายปลาร้าต้องสั่ง ตำปูปลาร้า เส้นมะละกอยาวๆ มิกซ์ไปกับน้ำปลาร้ากลมกล่อม เผ็ดใช้ได้เลยทีเดียว       อย่าลืมสั่งเมนูซิกเนเจอร์อย่าง คอหมูถาด ที่เสิร์ฟมาอย่างอลังการ คอหมูหมักให้หอม สัมผัสนุ่ม มีมันแทรกเล็กๆ ปรุงรสด้วยด้วยข้าวคั่วกรุบๆ และพริกป่นเผ็ดร้อน รวมเป็นรสชาติหวานเค็มลงตัว จิ้มกับแจ่วต้นตำรับ ที่หลายคนชื่นชอบ หรือแจ่วจัดจ้าน ที่เพิ่มความแซ่บขึ้นมาอีกดีกรี ยังมีความเหนียวนุ่มนิ่มให้คุณกินคู่กับคอหมูย่างอีกด้วย     ส่วนใครที่เป็นสาวกเมนูไก่ต้องนี่เลย ไก่ย่างข้าวคั่ว ไก่ย่างเนื้อแน่น นุ่มชุ่มฉ่ำ ได้กลิ่นหอมของข้าวคั่วเบาๆ กินคู่กับแจ่วต้นตำรับรสเผ็ดเปรี้ยว     ใครขี้เกียจเดินทางกดสั่งเดลิเวอรี่ได้นะ

Tag:

คนรักมะพร้าวกดหัวใจให้รัวๆ สำหรับเค้กมะพร้าวร้านแม่มั่น ร้านขนมออนไลน์ของคุณแม่เจ้าของประสบการณ์การทำขนมกว่า 30 ปีที่การันตีว่าทุกชิ้นทำใหม่ ไม่อบค้างคืน ไม่แต่งกลิ่น และไม่ใส่สารกันบูด       เราชอบที่เค้กมะพร้าวของแม่มั่นมีอ็อปชั่นให้เลือกหลากหลาย ทั้งขนาด รสชาติ และการตกแต่ง เนื้อเค้กของทางร้านเลือกได้ 3 แบบ สีขาวจากน้ำมะพร้าวน้ำหอม สีเขียวจากน้ำมะพร้าวใบเตย และสีม่วงจากมันม่วง (หรือสั่งแบบรวมทุกรสก็ได้เช่นกัน) สลับชั้นด้วยไส้มะพร้าวอ่อน 2 ชั้นให้ฟิน 2 เท่า ปาดด้วยครีมมะพร้าว แล้วแต่งหน้าเค้กด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนแบบไม่อั้น กินแล้วหยุดไม่อยู่เลยจริงๆ       ส่วนใครเป็นสายสุขภาพ ที่ร้านมีเค้กมะพร้าวคีโตที่ใช้แป้งอัลมอนด์ วิปครีมที่ไม่มีน้ำตาลผสม และได้ความหวานจากน้ำตาลอิริทริทอล ให้กินได้แบบสบายใจ แถมเลือกแต่งหน้าเค้กเป็นรูปหัวใจเพิ่มความกุ๊กกิ๊กได้อีกด้วย       ซีซั่นนี้ต้องไม่พลาดแล้วล่ะ   สั่งขนมล่วงหน้าผ่าน Line @maemunthailand , FB : แม่มั่น เค้กมะพร้าวอ่อน คุกกี้โฮมเมด จัดส่งทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด

Tag:

เป็นแหล่งแฮงค์เอาต์ใหม่ที่รับรองว่าต้องได้ใจสายสุขภาพกับคาเฟ่ลุคเก๋ Sip & Co. ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 โรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ ใจกลางถนนหลังสวน แม้จะอยู่ในย่านธุรกิจแต่เมื่อเข้ามาในร้านก็สัมผัสได้ถึงความสงบและผ่อนคลายจากการออกแบบที่เปิดรับแสงธรรมชาติสว่างไสว ทิ้งเสปซโปร่งสะอาดตา ตกแต่งในสไตล์สแกนดิเนเวียนจากชุดเฟอร์นิเจอร์ของ NORSE Republic ชวนให้อยากให้เวลาละเลียดเครื่องดื่มแก้วโปรดกับอาหารดีสักมื้อ     อาหารที่นี่มีความพิถีพิถันตามคอนเซ็ปต์ Café & Kitchen และเพราะร้านเปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้าจึงมีเมนูมื้อเช้าให้เลือกมากมาย อาทิ Papaya & Mango Smoothie Berries Bowl สมูทตี้มะละกอและมะม่วงที่ให้รสหวานโดยไม่ใส่น้ำตาลเพิ่ม โรยหน้าผลไม้สดทั้งบลูเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี ราสป์เบอร์รี เพิ่มสัมผัสกรุบกรอบจากกราโนลา ดาร์กช็อกโกแลตสับ และมะพร้าวคั่ว     หรือจะเป็นเมนูบรันช์ที่อยู่ท้องหน่อยอย่าง Roasted Prawn Avocado Toast โทสต์ขนมปังซาวร์โดว์ที่เนื้อขนมปังด้านในนุ่มเคี้ยวหนุบหนับ ส่วนอะโวคาโดเลือกใช้สายพันธุ์แฮสที่เนื้อหวานมันหมักในซอสสูตรพิเศษให้รสเปรี้ยวกลมกล่อมและเผ็ดนิดๆ ทอปด้วยกุ้งย่างซอสบาร์บีคิวและผักสลัดสดสวย เป็นจานที่ครบรสชาติเลยทีเดียว และ Tossed Taco Salad ใช้แป้งตอร์ติญาข้าวโพดมาอบเป็นชามกรอบๆ เคี้ยวเพลิน ด้านในเป็นสลัดผักคลุกเคล้ากับเนื้อสับ อะโวคาโด และถั่วดำในน้ำสลัดรสเปรี้ยวสดชื่น โรยหน้าด้วยเชดดาร์ชีสและซาวร์ครีม จานนี้เป็นไอเดียจากเชฟใหญ่ชาวแม็กซิกัน หากไม่กินเนื้อก็สามารถเปลี่ยนเป็นหมู ไก่ หรือวีแกนได้ด้วย       สำหรับจานหลักมีทั้งจานเบาๆ ที่สาวๆ ต้องหลงรักอย่าง Fresh Salmon Chowder ซุปครีมข้นที่อุดมไปด้วยผักนานาชนิดหั่นเต๋าที่เคี่ยวมาจนนุ่มเคี้ยวเพลิน กับตัวเอกคือแซลมอนโพชเนื้อนุ่มละมุนลิ้น กินคู่กับขนมปังกรอบและซาวร์ครีม หรือจานข้าวที่ชวนสุขภาพดีไปกับข้าวไรซ์เบอร์รี Caribbean Jack Chicken เสิร์ฟกับเนื้อน่องไก่เลาะกระดูกทอดสีสวย ผักโขมผัด แครอตและบร็อกโคลีย่าง เพิ่มรสชาติด้วยชัตนีย์แตงกวา ถ้าอยากเป็นกินข้าวหอมมะลิก็ขอเปลี่ยนได้       สำหรับขนมหวานบอกเลยว่าสายโทสต์ไม่ควรพลาด Midtown Caramel Toast โทสต์ขนมปังบริยอชเนื้อนุ่มผิวนอกกรอบ ทอดด้วยเนยชุ่มฉ่ำและน้ำอ้อยหวานนวลๆ ทอปด้วยวิปครีม นูเทลลา และไอศกรีมที่เราสามารถเลือกรสที่ชอบเองได้จากตู้ไอศกรีมของทางร้าน เสิร์ฟกับผลไม้สดทั้งบลูเบอร์รี กล้วย สตรอว์เบอร์รี่ และมะม่วงสุกหวานหอม นอกจากเมนูเอาใจคนรักสุขภาพแล้ว ที่นี่ยังมีเบเกอรี เค้ก และพายอบสดใหม่ทุกวัน รวมทั้งไอศกรีมหลากรสชาติเอาใจคุณหนูๆ ด้วย       ส่วนใครที่อยากหาที่พักหลบร้อนพลางนั่งทำงานไปด้วยบรรยากาศที่นี่ก็นับว่าเหมาะทีเดียว เพราะมีที่นั่งให้เลือกหลากหลายทั้งโต๊ะสูง เคาน์เตอร์ และโต๊ะเตี้ย ประกอบกับมีหลากหลายเมนูเครื่องดื่มสดชื่นคอยกระตุ้นให้สมองแล่น โดยเฉพาะกาแฟที่นี่ซึ่งคัดสรรเมล็ดกาแฟคั่วสดใหม่จาก CoffeeWORKS ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติอัดแน่นเอาใจคอกาแฟไม่ว่าจะเสิร์ฟแบบร้อนหรือเย็น ในช่วงอากาศร้อนๆ แบบนี้ขอแนะนำ Ruby Americano เอสเปรสโซดับเบิลช็อตเลเยอร์กับน้ำทับทิมและแครนเบอร์รีสีแดงสวยสมชื่อรูบี้ หอมหวานชื่จใจ หรือ Cold Brew Coffee กาแฟโคลด์บรูวแบบมีเดียมบอดี ให้รสสัมผัสเอิร์ธและนัตตี สดชื่นแบบไร้น้ำตาล       หากไม่ดื่มกาแฟ ต้องลอง Matcha Honey Lemon ที่ได้ความขมฝาดนิดๆ ของชาเขียวมัตฉะเข้มข้นผสานความหวานอมเปรี้ยวของน้ำผึ้งมะนาวทำให้ดื่มง่าย รีเฟรชมากๆ ส่วนเครื่องดื่มปิดท้ายที่เหมาะสำหรับหน้าร้อนสุดๆ Somchoon Soda หรือส้มฉุนโซดา เสิร์ฟแบบเย็นฉ่ำเป็นเกล็ดหิมะ ได้กลิ่มหอมของมะนาว มะกรูด และน้ำใบเตยที่จะยังอบอวลค้างอยู่ในสัมผัสแม้หลังดื่มไปแล้ว ในแก้วนี้ยังมีผลไม้ฉ่ำๆ เต็มคำทั้งส้ม เงาะ และลิ้นจี่       อ่านรีวิวนี้แล้ว อย่าลืมไปที่อินสตาแกรม @gourmetandcuisine แคปโพสต์ของร้าน Sip & Co. ที่มีแฮชแท็ก #SipWithUs และแท็ก @SipandCo.BKK ไปแสดงที่หน้าร้านเพื่อรับโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อเครื่องดื่ม 1 แก้วรับฟรี 1 แก้วทันที ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พฤษภาคมนี้กันด้วยนะ

ขอต้อนรับสู่ HQ/R โรงคั่วกาแฟสุดเจ๋งของร้านกาแฟที่คุ้นเคยอย่าง Hey! Coffee ที่ตอนนี้พร้อมเผยโฉมเบื้องหลังกลิ่นกาแฟหอมๆ ในรูปแบบโรงคั่วย่านเกษตรนวมินทร์ นอกจากจะเน้นเมล็ดกาแฟพิเศษ ยังมีเทรนนิงเรื่องกาแฟแบบครบวงจร รับคั่วกาแฟ ขายอุปกรณ์กาแฟ และโปรเจกต์ที่กำลังจะได้เห็นเร็วๆ นี้คือจำหน่ายสารกาแฟดิบ (Green Bean) เรียกว่าเป็นคอมมูนิตีของคนรักกาแฟที่ครบเครื่องเลยทีเดียว         เพราะอยากให้ที่นี่เป็นแฟล็กชิปสโตร์ เราจึงได้เห็นบรรยากาศของการคั่วกาแฟผ่านเครื่องคั่วมาตรฐาน SCAในห้องกระจกใส ส่วนการตกแต่งเน้นความเรียบเท่แต่ทำงานได้จริง ทั้งบาร์ ห้องประชุม เช่นเดียวกับโซนเมล็ดกาแฟที่ขายเมล็ดกาแฟตั้งแต่ 1 กรัมจนถึง 1 กิโลกรัมตามความต้องการ         เมล็ดกาแฟที่ได้รับความนิยมของที่นี่คือ Columbia Excelso EP 5% กาแฟคั่วกลางที่มีรสเปรี้ยวนิดๆ โทนช็อกโกแลต แซมด้วยกลิ่นคาราเมล เหมาะสำหรับเมนู Dirty ใครปักใจกับ Latte อยากให้ลองเมล็ด Guatemala SHB EP Coffee Unex คั่วกลาง โทนช็อกโกแลตเช่นกัน มีเปรี้ยวนิดๆ เจอนมแล้วพอเหมาะพอดี       ส่วนคอกาแฟดริปทางร้านแนะนำ Rwanda Sake Women Washing Station เมล็ดกาแฟที่มีความฉ่ำจากผลไม้อบแห้งอย่างสับปะรด ดริปได้ทั้งร้อนและเย็น แล้วตบท้ายด้วย Americano เมล็ด Ethiopia Yirgacheffe Vocasa Carlo ที่มาพร้อม Tasting Note แบบฟรุตตี้ จิบแล้วสดชื่น     ถูกใจแก้วไหนก็ซื้อเมล็ดที่ใช่กลับบ้านได้เลย

Tag:

พูดเรื่องร้านที่มีเมนูมะพร้าวโดดเด่นทั้งที อย่าพลาด White Flower Café by ครัวดอกไม้ขาว โครงการ Block 28 นอกจากที่ร้านจะโด่งดังจากเมนูไทย จีน ฝรั่งแล้ว เรื่องเค้กก็ขึ้นชื่อ โดยเฉพาะ Coconut Cake เค้กมะพร้าวอ่อนที่ใครมาแล้วไม่ได้กินก็เหมือนมาไม่ถึง         เค้กมะพร้าวอ่อนของที่นี่เสิร์ฟชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดกำลังอิ่ม หน้าตาไม่ได้หรูหราแต่ความละมุนนั้นกินขาดสมกับเป็นเมนูสร้างชื่อ เนื้อเค้กเป็นสปันจ์เค้ก นุ่มเบา เนื้อครีมนวลและหวานกำลังดี ตรงกลางมีเนื้อมะพร้าวอ่อนเป็นชิ้นๆ ส่วนด้านบนโรยด้วยมะพร้าวเป็นเส้นๆ ให้มีหลายเนื้อสัมผัสในหนึ่งคำ กินหมดชิ้นก็ไม่เลี่ยน       หากยังไม่จุใจ ยังมีเมนูมะพร้าวที่น่าประทับใจไม่แพ้กันอย่าง Coconut-Americano Frost รสเข้มของกาแฟเจอกับความหอมหวานชื่นใจจากน้ำมะพร้าวปั่นแบบเกล็ดน้ำแข็ง เข้ากันดีอย่างน่าแปลกใจ Coconut Affogato อัฟโฟกาโต ไอศกรีมมะพร้าวโฮมเมดเย็นเจี๊ยบราดด้วยช็อตกาแฟที่ได้ชิมแล้วชอบมากเช่นกัน       นอกจากนี้ที่ครัวดอกไม้ขาวยังมีไอศกรีมมะพร้าวแบบโฮมเมดแพคเกจสวยงามไว้ให้ซื้อกลับไปติดตู้เย็นที่บ้านได้     ตอบโจทย์คนรักมะพร้าวที่สุด

Tag:

Sushiro” (ซูชิโระ) ร้านซูชิสายพานอันดับ 1 ในญี่ปุ่น เปิดสาขาที่ 8 ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ชั้น 4 สัมผัสความอร่อยระดับพรีเมียม กับอาหารและวัตถุดิบชั้นเลิศที่ส่งตรงจากแดนอาทิตย์อุทัย พร้อมชมวิวสวยงามของสวนเบญจสิริแบบเต็มๆ ตา     ภายในร้านโอ่โถงกว้างขวาง ด้วยพื้นที่กว่า 380 ตารางเมตร สามารถรองรับลูกค้าได้สูงสุดถึง 232 ท่าน พนักงานจะเดินนำเราไปนั่งที่โต๊ะเมื่อถึงคิว บนโต๊ะมีถ้วยชา จานชาม ตะเกียบ ซอสโซยุ และซอสหวาน เตรียมไว้ให้เสร็จสรรพ หลังจากนั่งปุ๊บ เช็ดมือเรียบร้อย ก็หยิบซูชิบนสายพานมาลิ้มลองความอร่อยกันได้เลย ซูชิหลากหลายหน้าจะไล่เรียงกันออกมาแบบไม่หยุดพัก ส่วนใครที่ทนรอจานที่อยากกินไม่ไหว สามารถกดสั่งได้จากแท็บเล็ตประจำโต๊ะ แล้วเมนูที่เรากดสั่งไปจะส่งมาบนสายพานชั้นบน ถึงโต๊ะแบบไม่ต้องรอลุ้น     เรื่องความสดใหม่ไม่ต้องกังวล เพราะใต้จานซูชิทุกใบจะมี IC Chip ฝังอยู่ เพื่อเก็บข้อมูล ถ้าซูซิจานไหนอยู่บนสายพานนานเกิน 350 เมตร ก็จะถูกปัดทิ้งอัตโนมัติทันที       โดยเมนูซูชิของร้าน Sushiro เลือกใช้วัตถุดิบมาตรฐานเดียวกับประเทศญี่ปุ่น เนื้อคุณภาพดี สด หวาน ละลายในปาก หั่นชิ้นใหญ่หนาเต็มคำ แน่นอนว่าซิกเนเจอร์ยังคงเป็นปลาทูน่าชนิดต่างๆ  ทั้ง โอโทโระ ส่วนท้องปลาทูน่าที่มีเนื้อสีชมพูอ่อน ชูโทโร่ ส่วนเนื้อสีชมพูเข้มที่มีมันแทรกตรงกลาง และเนกิโทโร่ เนื้อปลาทูน่าส่วนติดมัน ที่สับจนละเอียด         มาดูเมนูซูชิอื่นๆ ที่หลายคนคุ้นเคยกันบ้าง ยกขบวนมาเพียบตั้งแต่ แซลมอน ไข่ปลาแซลมอน กุ้งหวาน หอยเชลล์โฮตาเตะ เอ็นกาวะ เนื้อคารูบิ เป็นเนื้อส่วนอกถึงท้องที่มีไขมันกระจายทั่ว ปลาหมึกกล้วย ปลาฮามาจิ อุนางิ หรือปลาไหลญี่ปุ่น อานาโกะ หรือปลาไหลทะเล และอีกมากมายละลานตา       นอกจากเมนูซูชิ ที่ร้านยังมีเมนูอาหารญี่ปุ่นทั้งคาวและหวานให้ฟินแบบเต็มคำ ถูกใจคนไม่ทานของดิบ ไม่ว่าจะเป็น ไข่ตุ๋น ไข่เนื้อเนียน กับซุปเข้มข้น ตักเข้าปากพร้อมหอยเชลล์รสหวานที่ซ่อนอยู่ใต้ถ้วย อร่อยลงตัว เมนูของทอด เมนูเส้น ของทานเล่น รวมไปถึงของหวานสไตล์ญี่ปุ่นอย่าง วาราบิโมจิ แป้งโมจินุ่มๆ คลุกผงถั่วเหลือง มันเชื่อมญี่ปุ่น โรลเค้ก หรือ โฮมเมดพานาคอตตา       ด้านเครื่องดื่ม ที่ร้านมีชาเขียวร้อนบริการฟรี เพียงเทผงชาเขียวใส่ถ้วย เติมน้ำร้อนจากก๊อกบนโต๊ะ และคนให้เข้ากัน ความเข้มข้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณผงชาที่เราเติมลงไป หรือกดสั่งเครื่องดื่มจากแท็บเล็ต แล้วพนักงานจะนำแก้วเปล่ามาเสิร์ฟ ให้นำไปเติมเองที่บาร์เครื่องดื่ม ซึ่งเติมได้เรื่อยๆ ทั้งน้ำอัดลม น้ำพันช์ น้ำเก๊กฮวย และชาเขียวมะลิ สดชื่นลื่นคอ         สำหรับราคาซูชิจะแตกต่างกันไปในจานแต่ละสี เริ่มที่จานสีแดงราคา 40 บาท สีเงิน 60 บาท สีทอง 80 บาท และสีดำ 120  บาท กินได้ไม่จำกัดเวลา และนับราคาหลังกินเสร็จ คุ้มมากจริงๆ กินไปกินมาจานซูชิก็ตั้งสูงเป็นคอนโดซะแล้ว         ถ้าไม่อยากรอคิวนานๆ แนะนำให้กดจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน Sushiro (ซูชิโร่) ไว้ล่วงหน้า รองรับทั้งระบบ IOS และ Android เลย

Tag:

Terra Nova ร้านอาหารอิตาเลียนโมเดิร์นแห่งใหม่ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Bring an imagination to the authentic cuisine โดยชื่อร้านเป็นการนำคำว่า Terra ที่หมายถึงดิน มาเจอกับ Nova หรือดวงดาวสุกสว่าง เช่นเดียวกับอาหาร 2 รูปแบบคืออาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิมและอาหารอิตาเลียนสมัยใหม่ นำทีมโดยเชฟอ๊อตโต้-ประภาศน์ ปาณะวีระ Top Chef Thailand Season 2 และเชฟอาดัม นิโคมเดส ลินเดอร์ เจ้าของประสบการณ์ 25 ปี จากร้านและโรงแรมดังในหลายประเทศ       บรรยากาศภายในร้านนั้นสวยงามฉูดฉาดด้วยสีส้มอิฐตัดด้วยสีดำเพิ่มความน่าค้นหา ตกแต่งด้วยเครื่องปั้นดินเผาและงานศิลป์จากศิลปินชาวอิตาเลียนชื่อดังอย่างฟอร์นาสเซ็ตติ รวมถึงโคมไฟสั่งทำพิเศษล้อไปกับคาแรกเตอร์ร้าน       ครั้งนี้เราได้ลองเมนูฝั่ง Nova เมนูโมเดิร์นผสมผสานหลายสัญชาติฝีมือเชฟอ๊อตโต้ เริ่มด้วย Tuna Saku Kale Avocado Salad สลัดผักเคลสดกรอบ เซียร์ทูน่าที่แอบซ่อนรสเผ็ดนิดๆ ควินัว มะเขือเทศ และแรดิช ตามด้วย Spaghetti Spicy Braised Octopus สปาเกตตีผัดหนวดปลาหมึกยักษ์ตุ๋นกับมะเขือเทศสดและเฮิร์บจนเปื่อยนุ่ม Salmon Steak สเต๊กแซลมอนซอสเพสโต มะเขือม่วง มะเขือเทศ ซูกินี แครอต หอมแดงตัดด้วยบัลซามิกเจล         นอกจากนี้ยังมี Spanish Seafood Soup ซุปสเปนที่มีรสเผ็ดปลายจากปาปริกา เข้มข้นจากมะเขือเทศ กุ้ง ปลาหมึก และเนื้อปู แต่งด้วยกรีนออยล์จากใบโหระพาเพิ่มกลิ่นหอม และ Spicy Smoke Salmon ที่มีทีเด็ดคือซอสน้ำพริกเผาแซลมอนที่เชฟคิดขึ้นมาเพื่อที่นี่โดยเฉพาะ       ปิดท้ายด้วย Chocolate Balsamic Pots De Cream ช็อกโกแลตบัลซาบิกมูสเสิร์ฟกับช็อกโกแลตที่ทำให้เหมือนดินล้อไปกับชื่อร้าน     ครบรสทั้งเปรี้ยว ขม หวาน

Tag: