โปรตีนและผักเป็นอาหารที่เด็กๆ วัยเรียนต้องการใช้ในการทำกิจกรรมแต่ละวัน โปรตีนได้มาจากเนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อไก่และไข่ เพียงใส่ผักผสมลงในอาหาร อย่างเมนูนี้ที่ใส่ดอกกะหล่ำต้มสุกแล้วสับผสมเนื้อไก่บด ปรุงรสแล้วคลุกกับเกล็ดขนมปังทอด เป็นของว่างหลังเลิกเรียนยามบ่ายได้เป็นอย่างดี   ไก่ทอดดอกกะหล่ำ ส่วนผสม เนื้อไก่บด 1 1/2 ถ้วย ดอกกะหล่ำต้มสุกสับละเอียด 3/4 ถ้วย ผักชีซอย 1 ต้น เกลือป่น 1/2 ช้อนชา พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วย แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3/4 ถ้วย ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน 1 ฟอง น้ำมันพืชสำหรับทอด วิธีทำ ผสมเนื้อไก่กับดอกกะหล่ำ ผักชี ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย คลุกให้เข้ากัน (ถ้าส่วนผสมแฉะแบ่งแป้งสาลี 1/4 ถ้วยมาใส่ คลุกให้ทั่ว) ปั้นส่วนผสมเป็นแท่งยาว 2.5-3 นิ้ว คลุกแป้งสาลีที่เหลือ ชุบไข่ และคลุกเกล็ดขนมปังให้ทั่ว  นำไปทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน  จัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศ    

  แกงมัสมั่นเป็นแกงที่ไม่เผ็ด ออกรสหวานนิดๆ และมีกลิ่นรสของเครื่องเทศ น้ำแกงต้องข้น ยิ่งเก็บไว้รสจะยิ่งเข้มข้นคล้ายสตู   ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) ไก่ไทย 1 ตัว มันฝรั่ง 3-4 หัว หัวกะทิ 1 ถ้วย หางกะทิ 4 ถ้วย ถั่วลิสงคั่ว 1/4 ถ้วย ลูกกระวาน (เม็ดใหญ่) 10 เม็ด อบเชย (ยาว 2-3 นิ้ว) 1 แท่ง น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำส้มมะขามอย่างละประมาณ 1/4 ถ้วย   ส่วนผสมพริกแกง พริกแห้งเม็ดใหญ่ 11 เม็ด หอมแดง 1/2 ถ้วย กระเทียม 1/4 ถ้วย รากผักชีหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย 1/4 ถ้วย กะปิ 1 ช้อนชา เม็ดกระวาน 1/2 ช้อนชา ลูกผักชี 2 ช้อนโต๊ะ ยี่หร่า 1 ช้อนโต๊ะ   วิธีทำพริกแกง กรีดเม็ดพริกออก หั่นเป็นชิ้นเล็ก (ไม่ต้องแช่น้ำ) คั่วให้กรอบ ส่วนผสมอื่นคั่วให้สุกหอม ตำพริกให้ละเอียด ใส่ส่วนผสมอื่นลงไปตำรวมกันจนละเอียด    วิธีทำแกง สับไก่เป็นชิ้นใหญ่ พักไว้ ปอกเปลือกมันฝรั่ง หั่นเป็นชิ้นใหญ่ ตักหัวกะทิใส่กระทะ ตั้งไฟให้พอแตกมัน ใส่เครื่องแกงลงผัดจนหอมและกะทิแตกมัน ใส่ไก่ลงผัดให้ทั่ว (ค่อยๆ ใส่หางกะทิเพิ่ม) พอเดือดสักครู่ ตักใส่หม้อ ใส่หางกะทิ (ไม่ต้องมากเกินไป) มันฝรั่ง อบเชย และลูกกระวาน ต้มจนไก่เริ่มสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำส้มมะขาม ชิมรส (ไม่ควรหวานเกินไป) พอไก่สุกนุ่มดีใส่ถั่วลิสง เดือดอีกสักครู่ปิดไฟ    

ที่เมือง Kitakyushu นิยมกินแกงกะหรี่อบ วิธีทำมีหลากหลาย แต่หัวใจของเมนูนี้คือเอาแกงกะหรี่ญี่ปุ่นราดข้าว โรยชีสแล้วเอาไปอบ พวกเราไปกินเมนูนี้ที่ร้าน Mojiko Retro Beer ที่ร้านนี้ทำ Yaki Curry บนจานร้อน มีไข่ออนเซ็นแถมมาด้วย จานที่ร้อนช่วยให้กลิ่นเครื่องแกงและเนยแข็งหอมขึ้นมาก วันนี้เราปรับปรุงนิดหน่อยเพื่อให้อร่อยขึ้น   ส่วนผสม เนื้อไก่หั่นชิ้นเล็ก ๆ 1 กิโลกรัม เบคอนหั่นบางตามขวาง                 150 กรัม เครื่องแกงกะหรี่ญี่ปุ่นกล่องใหญ่ 1 กล่อง เครื่องแกงกะหรี่ไทยประมาณ   50-100 กรัม (ถ้าเครื่องแกงอร่อยมากใส่ 100 กรัม ถ้าอร่อยปานกลางใส่ 50 กรัม ถ้าไม่อร่อยให้เปลี่ยนร้านเครื่องแกง) กะทิ (250 มิลลิลิตร) 1 กล่อง  มันฝรั่งหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 2 หัว แครอตหัวใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 หัว หอมหัวใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 2 หัว แอปเปิลเขียว         1-2 ผล โยเกิร์ตประมาณ   1/2-1/3 ถ้วย (ใส่ให้ได้รสเปรี้ยวที่ชอบ) เกลือ พริกไทย น้ำปลา น้ำตาล เครื่องปรุงรสอื่นๆ เช่น Hon Dashi ซุปไก่ก้อน และเหล้ามิรินแท้ (ทั้ง 3 อย่างนี้ ไม่ใช้ก็ได้แต่จะอร่อยผิดกัน) ไข่ลวกตามจำนวนคน ชีสมอซซาเรลลาขูดฝอย เนยเล็กน้อย (ใช้ทาจานร้อน) พริกป่น (สำคัญมากช่วยให้หอมและอร่อย)   วิธีทำ เจียวเบคอนแค่พอเหลืองหอม ไม่ต้องกรอบ ตักน้ำมันเบคอนออกบ้าง นำกะทิกล่องเล็กเทลงในหม้อขนาดกลางตั้งไฟพอเดือด ใส่เครื่องแกงกะหรี่ไทยลงไปผัดจนหอม เติมหอมหัวใหญ่ลงผัดจนสุก ใส่ไก่ลงผัด บิเครื่องแกงกะหรี่ญี่ปุ่นใส่ลงผัดแค่ 3 ก้อน (1 กล่องมี 12 ก้อน) เติมเกลือ พริกไทย ถ้ามีเหล้ามิรินและผง Hon Dashi ให้เติมลงไปตอนนี้ ถ้าไม่มีให้เติมซุปไก่ก้อนและเหล้าจีนแทน ผัดไปผัดมาจนหอม ระหว่างผัดถ้าเครื่องจะไหม้ให้เติมน้ำเล็กน้อย ปอกเปลือกแอปเปิลและปั่นให้ละเอียด ใส่ลงในหม้อ ตามด้วยมันฝรั่งและแครอต ผัดพอร้อน เติมน้ำให้ท่วมเนื้อ แต่อย่าให้มากเกินไป ใส่เครื่องแกงที่เหลือทั้งหมด คนจนละลาย ตอนนี้น้ำแกงจะข้นแบบแกงญี่ปุ่น ชิมรสดูอีกครั้ง ถ้าอ่อนเค็มให้เติมน้ำปลาได้ ไม่เสียรสหรอกค่ะ ถ้าอ่อนหวานก็เติมน้ำตาลและเหล้ามิริน เคี่ยวต่อไปอีกพอให้แครอตและมันนุ่ม  เติมโยเกิร์ตเพื่อช่วยรสเปรี้ยว พอรสชาติถูกใจก็เป็นอันว่าใช้ได้ ระหว่างที่เคี่ยวไฟอ่อนๆ ต้องระวังอย่าให้ไหม้ติดก้นหม้อ ต้องใช้ทัพพีไม้คนอยู่เสมอๆ คนเบาๆ อย่าให้เครื่องเละไปหมด  นำจานร้อนตั้งบนเตาไฟ เปิดไฟอ่อนๆ ทาเนยบนจานร้อน (ถ้าไม่มีจานร้อนก็ลองพลิกแพลงหาภาชนะอื่นๆ ที่อบได้มาทดแทน) ตักข้าวญี่ปุ่นกดลงในถ้วยแล้วคว่ำลงบนจาน ตอกไข่ลวกลงบนข้าว ตักแกงราดข้างบนสุดให้แกงไหลย้อยลงมาคลุมข้าวจนมิด โรยชีสแล้วส่งเข้าเตาอบแค่พอชีสละลาย ไข่แดงยังไม่แข็งตัว วันนี้เราใช้ฝาครอบเทอร์โบ ได้ผลดีมากค่ะ (ถ้ามีปืนพ่นไฟใช้พ่นชีสให้ละลายแทนเตาอบได้) โรยพริกไทยและพริกป่นบางๆ กินร้อนๆ ทำให้อร่อยมากขึ้น  คนที่มาร้าน Mojiko Retro Beer จะกินกับเบียร์เป็นส่วนใหญ่ แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ชื่อร้านชักชวนมาก