Cheese Owl ร้านบุฟเฟต์หม้อไฟเกาหลีสำหรับคนรักชีส นอกจากมีมาสคอตเป็นอปป้านกฮูกแล้ว คำว่า Owl ยังพ้องเสียงกับคำว่า Hour ในภาษาอังกฤษอีกด้วย ให้รู้กันไปเลยว่าที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับสาวกชีสโดยแท้ ทีเด็ดต้องยกให้น้ำซุปรสกลมกล่อม เลือกได้ทั้งซุปใสและซุปสไปซี่สุดแซ่บให้คีบเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว และซีฟู้ดลงไปแกว่งไกวให้พอสุก จากนั้นจุ่มชีสอุ่นๆ ยืดๆ ก่อนส่งต่อเข้าปาก ปิดท้ายด้วยของหวานสัญชาติเกาหลีอย่างบิงซูที่สั่งได้แบบไม่อั้นเลยทีเดียว     เมนูแนะนำ ชุดหม้อไฟเกาหลี คัดวัตถุดิบมาอย่างดี เนื้อริบอาย คุโรบูตะสันคอ คุโรบูตะสันนอก เนื้อลายออสเตรเลีย แซลมอน หอยเชลล์ ฯลฯ จิ้มน้ำจิ้มเกาหลีหรือน้ำจิ้มซีฟู้ดก็เข้ากัน   บิบิมบับ ข้าวยำเกาหลีไซส์มินิ คลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนกิน เสริมความอร่อยด้วยกิมจิรสเปรี้ยว   ต๊อกโบกกี แป้งต๊อกเหนียวนุ่มผัดกับซอสโคชูจังรสชาติสุดเข้มข้น   ไก่ฮอตแอนด์สไปซี่ ไก่ทอดหนังกรอบเนื้อนุ่ม เคลือบด้วยซอสรสเผ็ดหวาน 

แม้ใครหลายคนจะรู้จัก “คิมซองซู” ในฐานะนักแสดงจากซีรีส์ Full House แต่ความจริงแล้วฝีมือการทำอาหารของหนุ่มคนนี้เรียกว่าไม่ธรรมดา อย่างที่ใครหลายคนอาจเคยได้เห็นฝีมือในรายการ Master Chef Korea Celebrity มาแล้ว และตอนนี้คนไทยกำลังจะได้ชิมกิมจิสูตรอร่อยที่ผ่านการหมักนาน 3-6 เดือน ก่อนจะนำมาผัดกับข้าวสวยร้อนๆ ควันฉุย ซึ่งเราขอแนะนำให้สั่งเป็นเซ็ตเพราะมีทั้งสลัดและซุปซดคล่องคอในราคาเพียง 75 บาทเท่านั้น      เมนูแนะนำ Bulgogi Fried Rice ข้าวผัดกิมจิ โดดเด่นด้วยเนื้อวัวหมักหอมๆ เคี้ยวหนึบ   Spicy Pork Fried Rice ข้าวผัดกิมจิสันคอหมูหมักซอส เหมาะสำหรับคนชอบกินเผ็ด   Tofu Fried Rice ข้าวผัดสำหรับสายเฮลท์ตี้ที่มาพร้อมเต้าหู้เนื้อนุ่ม เข้าคู่กับกิมจิรสจัดได้ลงตัว Pajeon พิซซ่าเกาหลีเนื้อฟูนุ่มเคี้ยวเพลินกับต้นหอมและซีฟู้ด

ร้านราเมงสไตล์เกาหลีของไซ (PSY) นักร้องหนุ่มเจ้าของเพลงสุดฮิต Gangnam Style โดยงานนี้นอกจากหนุ่มไซจะมาโชว์สเต็ปความน่ารักผ่านตัวการ์ตูนรอบร้านแล้ว ทีเด็ดยังอยู่ที่ราเมงเส้นหยักเหนียวสูตรเฉพาะในน้ำซุปกระดูกหมูและผักที่ต้มนานกว่า 12 ชั่วโมง แต่ยังไม่หมด! เพราะความอร่อยที่แท้จริงอยู่ที่น้ำพริกสูตรพิเศษที่เพียงแต่เติมก็เผ็ดจนไฟลุก รสชาติโดนใจคนไทยอย่างแน่นอน       เมนูแนะนำ Kimchi Steamed Dumpling เกี๊ยวตัวอ้วนไส้กิมจิรสเผ็ดเปรี้ยวติดปลายลิ้นเสิร์ฟมาในหม้อร้อนๆ   Spicy Sausage Noodle ราเมงไส้กรอกรสเผ็ดหนักเครื่อง เสิร์ฟพร้อมชีสยืด รับประกันความนัว   Spicy Cold Noodle เมนูสุดเก๋ที่ชาวเกาหลีเรียกกันว่า บิบิมนู้ดเดิ้ล เพราะเป็นการนำหมี่เย็นมาผสมผสานกับบิบิมบับ ส่วนวิธีกินแน่นอนว่าจะต้องคลุกผักและซอสให้เข้ากันก่อนส่งเข้าปาก   Blue Crab Noodle ราเมงสุดคุ้มที่ได้ไอเดียจากจัมปงเกาหลีหรือบะหมี่ในซุปซีฟู้ดรสเผ็ด จานนี้จึงยกความอร่อยของปูม้า กุ้งแม่น้ำ หอยตลับ และปลาหมึกชิ้นโตมาจนแน่นชาม

สร้างความฮือฮาเลยทีเดียว เมื่อศูนย์การค้า SHOW DC ได้เนรมิตพื้นที่ชั้น 6 ส่วนดาดฟ้าให้กลายเป็นอาณาจักรความบันเทิงและความอร่อยสไตล์เกาหลีในนาม YG Republique ของค่ายเพลง YG ที่สร้างศิลปินชื่อดังมาแล้วมากมาย อาทิ BIGBANG, PSY, 2NE1, WINNER, IKON และล่าสุดกับ BLACKPINK     K-Pub นับเป็น 1 ใน 3 ร้าน นอกเหนือจากคาเฟ่แสนสดใส BIGBANG Cafe by 3 Birds และ 3 Butcher’s ร้านเนื้อย่างสุดอร่อยที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ขณะที่ K-Pub ถูกนำเสนอออกมาในแบบของรูฟท็อปบาร์ที่มีให้เลือกทั้งเอาต์ดอร์นั่งรับลมชมวิวบนถนนพระราม 9 หรือจะนั่งชิวข้างในแบบเท่ๆ ก็ดีไม่แพ้กัน และแม้ว่ามีตัว K นำหน้าเพื่อการันตีความเป็นเกาหลีทุกกระเบียด แต่ความจริงแล้วที่นี่ได้ผสมผสานวัฒนธรรมการดื่ม อาหาร และแนวเพลงอย่างเป็นสากล เครื่องดื่มจึงมีให้เลือกตั้งแต่โซจู (เหล้าเกาหลี) ไวน์ ไปจนถึงคราฟต์เบียร์ เช่นเดียวกับเพลงที่เปิดซึ่งไม่ใช่มีแต่เพลงเกาหลีเท่านั้น หากยังมีเพลงสากล และไลฟ์แบนด์ที่จะหมุนเวียนกันมาเล่นในทุกวัน แต่ถ้าใครชอบดีเจโอปป้าเกาหลีก็มานั่งรอกันได้       ส่วนเรื่องอาหาร K-Pub สาขานี้อาจจะจัดใหญ่จัดเต็มกว่า เนื่องจากคนขอแค่กับแกล้มเป็นพอ (เพราะกินจากที่อื่นมาแล้ว) แต่เมื่อคนไทยขออิ่มไว้ก่อนแบบร้านเดียวจบ เราจึงมาเริ่มกันด้วย Fried Calamari & Shrimp ปลาหมึกและกุ้งทอดแบบเกาหลีที่ทอดด้วยแป้ง 2 ชนิด จนได้ความกรอบนอกนุ่มใน ก่อนจะมาคลุกเคล้ากับเกลือและพริกคาเยน เสิร์ฟพร้อมซอสสวีตชิลลีมายองเนสรสหวานมัน      ต่อด้วย Mac & Cheese มักกะโรนีอบชีสเชดดาร์และชีสมอซซาเรลลา เพิ่มความหอมอร่อยด้วยเบคอนและหอมหัวใหญ่ชิ้นเล็ก     สำหรับจานใหญ่หลายคนก็ต้อง Smoked Meat Platter ที่รวมความอร่อยสไตล์บาร์บีคิวไว้จนแน่น ไม่ว่าจะเป็นซี่โครงหมู ซี่โครงเนื้อ และน่องไก่ เสิร์ฟพร้อมพริกย่าง ข้าวโพดย่าง ขนมปังนุ่มๆ และซอส 3 รสให้ลองชิมตามความชอบ      พลางจิบ YG IPA คราฟต์เบียร์พิเศษของวายจี โดดเด่นด้วยรสชาติที่เน้นความเป็นดั้งเดิมสมชื่อ IPA – India Pale Ale ซึ่งเป็นการหมักเบียร์อังกฤษในสมัยโบราณ รสชาติที่ออกมาจึงมีความขมอมหอมของฮอป และเพื่อให้ได้รสชาติเต็มขั้น จึงเสิร์ฟมาในแก้วทองแดง     ถ้าชอบรสนิ่มนวลเราก็ขอแนะนำ K-Pub Whisky Sour ค็อกเทลซิกเนเจอร์ซึ่งนำเอาวิสกี้ที่อินฟิวส์กับโสม ก่อนจะเติมความเปรี้ยวปรี๊ดด้วยเลมอน รับรองมีติดใจ  

ใครเป็นแฟนคลับของ "Rain" ซูเปอร์สตาร์ขาแดนซ์จากเกาหลี ห้ามพลาดความอร่อยสไตล์อิตาเลียนที่ After The Rain ตั้งใจนำเสนอเมนูโฮมเมดสุดโปรดของหนุ่มหล่อหน้าตี๋ที่ได้เชฟมากฝีมือมาช่วยสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังมีขนมปังสูตรเกาหลีหน้าตาน่ากินอีกมากมายที่เหล่าเบเกอรี่เลิฟเวอร์เป็นต้องถูกใจอย่างแน่นอน     เมนูแนะนำ Calamari Fritti ปลาหมึกชุบแป้งทอดชิ้นโต กินคู่ซอส Green Chilli Sour รสจัดจ้าน   Crab Meat Caesar Salad สลัดซีซาร์ใส่เนื้อปูแบบจุใจ กินคู่กับน้ำสลัดสูตรพิเศษ Grilled Chicken & Quinoa น่องไก่ติดสะโพกย่างกำลังดี ราดซอสลูกฟิกผสมควินัว เสิร์ฟพร้อมผักย่าง   Sun Dry Tomato Flat Bread แป้งบางกรอบหน้าผักกรีนโอ๊ก มะเขือเทศตากแห้ง และชีสริคอตตา โรยชีสพาร์เมซานอีกชั้น  

ลืมภาพหมูกระทะแบบเดิมๆ ไปได้เลย เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นร้านหมูย่างเกาหลีของยางฮยอนซอก ประธานค่ายเพลงสุดแนวแห่งแดนกิมจิอย่าง YG แล้วต้องไม่ธรรมดา เพราะที่นี่คัดสรรแต่ความพรีเมียมมาเสิร์ฟ เริ่มตั้งแต่เครื่องเคียงที่มีให้ชิมกันไม่หวาดไม่ไหว เมนูกินเล่น (แต่อิ่มจริง) ที่ห้ามกินเพลินเกินไป เพราะเดี๋ยวจะไม่มีที่ว่างในกระเพาะเหลือให้ทีเด็ดอย่างหมูสามชั้นและเนื้อวากิวที่อร่อยเกินห้ามใจ       เมนูแนะนำ Butcher's Sampler ชุดเนื้อหมูดรายเอจที่มีทั้งสันคอ ไหล่ และสามชั้น   Rib Eye Japanese Wagyu เนื้อวากิวระดับพรีเมียมนำเข้าจากญี่ปุ่น เหมาะกับคนชอบเนื้อที่มีมันแทรกกำลังดี   Seafood Scallion Pancake พิซซาเกาหลีแป้งกรอบนอกนุ่มในหน้ากุ้งและปลาหมึก   Kimchi Stew แกงกิมจิที่ผสมกิมจิขาวสูตรเด็ดของเชฟชาวเกาหลี ดูขาวสะอาดแต่แฝงความเผ็ดจัดจ้านแบบคาดไม่ถึง

ร้านหม้อไฟสไตล์เกาหลีที่มีสาขามากมายทั่วเอเชียกับสาขาแรกในบ้านเราที่ยกเมนูเด็ด อย่าง "ต๊อกโบกกี" หม้อไฟรสชาติหวานเผ็ดกลมกล่อมแบบต้นตำรับและแป้งต๊อกสูตรพิเศษไส้ชีส ฟักทอง และมันหวาน รวมทั้งหลากหลายจานเด่นจากแดนกิมจิ อาทิ คิมบับ บิบิมบับ และรามยอน มาให้ความอร่อยในบรรยากาศเคล้าเสียงเพลงเค-ป๊อปที่สาวก (อาหาร) เกาหลีเป็นต้องอยากชวนเพื่อนมานั่งแฮงก์เอาต์กันยาวๆ แน่นอน       เมนูแนะนำ   Budae Topoki ต๊อกโบกกีหม้อไฟยอดนิยมที่มาพร้อมแฮม ไส้กรอกรมควัน วุ้นเส้น ไข่ต้ม กะหล่ำปลี ต้นหอมญี่ปุ่น และออมุก (ปลาบดแผ่นแบบเกาหลี)    Mixed Fried Chicken Cheese Fondue รวมความอร่อยของไก่ทอดหมักเครื่องเทศเค็มมันและไก่ทอดผัดซอสหวานเผ็ด กินกับชีสมอซซาเรลลาเยิ้มๆ ฟินสุดๆ   Tuna Kimbap ข้าวห่อสาหร่ายชิ้นโตอัดแน่นด้วยไส้ทูน่ามายองเนส ไข่เจียว ปูอัด และผักหลากชนิด เสิร์ฟพร้อมซอสมายองเนสวาซาบิหอมเนยถั่ว    Jeyuk Bibimbap ข้าวนุ่มๆ หอมน้ำมันงาคลุกเคล้าเนื้อหมูผัดซอสโคชูจัง สาหร่าย และผักต่างๆ เช่น แครอต ถั่วงอก เห็ดนางฟ้า เสิร์ฟร้อนๆ ในหม้อหิน 

ร้านจิมทัคหรือไก่ตุ๋นวุ้นเส้นเกาหลีของศิลปินเค-ป๊อปชื่อดัง เซเว่น (Se7en) ที่หลายคนรอคอยกับสาขาแรกในบ้านเราที่ได้แก้ว-จริญญา (แก้ว FFK) หุ้นกับเพื่อนสนิทเปิดร้านนี้ที่รับประกันความอร่อยแบบต้นตำรับ ทั้งการตุ๋นไก่กับซอสถั่วเหลืองสูตรพิเศษจนได้ที่ก่อนนำมาผัดซอสพร้อมวุ้นเส้นเกาหลีเหนียวนุ่มและผักต่างๆ อีกครั้งเพื่อรสชาติที่เข้มข้น ไปจนถึงความอร่อยที่เลือกได้ตามใจ ไม่ว่าจะเป็นขนาด ระดับความเผ็ด และท็อปปิง อาทิ ชีส ต๊อกโบกกี และออมุก (ปลาแผ่นบดเกาหลี)         เมนูแนะนำ Yeolbong Jjimdak เมนูซิกเนเจอร์ยอดนิยม ไก่ตุ๋นผัดซอสถั่วเหลืองรสเค็มเผ็ดกลมกล่อม   Red Jjimdak ไก๋ตุ๋นผัดซอสพริกแดงเกาหลีที่เพิ่มความเผ็ดจัดจ้านไปอีกขั้น   Curry Jjimdak ไก่ตุ๋นผัดซอสแกงกะหรี่รสเข้มข้นหอมเครื่องเทศ เหมาะกับคนไม่ถนัดกินเผ็ด   Jumok Bab เมนูสุดพิเศษเฉพาะสาขาไทย ข้าวคลุกสาหร่ายไข่กุ้งที่เก๋ตรงให้ใส่ถุงมือปั้นกินเองได้ตามใจ มีให้เลือกทั้งหน้าปลากรอบเกาหลี ทูน่ามาโย และแฮม    

นี่มันบาร์แห่งความหลังสุดนอร์สทาเจียหรือยังไง เห็นแล้วอดีตเกมเมอร์ (ใช่เหรอ) อย่างชายจุกแทบวิ่งเข้าใส่ Hopeland : Arcade Bar with Tiki Drinks & Korean Dishes ชายใช้ชีวิตนักเรียนขาสั้นครึ่งหนึ่งหมดไปกับเกมอาเขต เครื่องเกมนีโอจีโอ เกมสตรีทไฟเตอร์ หรือแพคแมนล้วนผ่านมือชายมาหมดแล้ว ยิ่งโตแล้วก็โหยหาแหละ แว่วว่าที่นี่เล่นฟรีตลอดคืน โอ้ยไม่ไปได้ไงแค่แวะไปดื่มทิกิดริงค์กินอาหารเกาหลีก็ฟินกับเกมได้ยาวๆ     ก่อนมาใจชายยังเสียดายร้านเดิมก่อนหน้านี้ แต่พอได้มาเอาจริงๆ โฮปแลนด์ก็ดีไม่แพ้ร้านเดิมนะ แถมยังนำเอาคัลเจอร์ของนีออนไลท์และกราฟิกตี้จากศิลปินที่สื่อถึงเกมเมอร์มาตกแต่งร้านได้ถึงงานดีไซน์ ภายในร้านมีเกมอาเขต 2 เครื่อง และโต๊ะอาเขตแมชชีน 6 เครื่อง มีเกมให้เลือกเล่นมากกว่า 600 เกม กินไปดื่มไปเล่นไปสนุกเลยทีนี้     ความดีงามคือ Tiki Drinks Culture เครื่องดื่มที่มีเหล้ารัมเป็นเบส ผสมผลไม้สดและเครื่องเทศ มาในแก้วรูปเทพโพลินีเชียน ซึ่งว่ากันว่าดั้งเดิมเสิร์ฟในผลมะพร้าวและสับปะรด ดื่มในงานปาร์ตี้คู่กับหมูหัน แก้วแรกตลกดี สงสัยบาร์เทนเดอร์มีอารมณ์ขัน The Dolphin Next Door (340 บาท) ปลาโลมาใต้ร่มทำจากกล้วยและองุ่น แก้วนี้ทวิสต์จากพีนาโคลาดา ไวท์รัม เบอร์เบิ้น ลิเคียวร์กล้วย ไซรัปแมคคาเดเมีย และกะทิ กลิ่นกล้วยและครีมกะทิมาเต็ม     East Bay Funk Drunk (360 บาท) ล้อกับชื่อท่าสแลมดังค์ในตำนาน ไวท์รัม ดาร์ครัม ลิเคียวร์จากขิงผสมอัลมอนด์และลูกกระวาน เปลือกส้ม น้ำเสาวรส และไซรัปซินนามอน หอมซินนามอนมากหน่อย แต่ถ้าชอบแบบแรงๆ Game Over คือค็อกเทลสุดพีคที่ใช้เหล้า 9 ชนิด ในแก้วเดียว อย่าลืมสังเกตจอ The Bankstock Exchange จอทีวีที่แสดงราคาดริงค์ในราคาพิเศษ เจอราคาไหนถูกใจแนะนำให้สั่งได้เลยได้ราคาดีที่สุดแน่นอน     ส่วนอาหารเป็นอาหารเกาหลีโมเดิร์นที่ชายต้องบอกว่าอร่อย แต่ขอเยอะกว่านี้ได้ไหม 555 Beef Brisket Bao (280 บาท) ไอเดียเดียวกับจินปัง (Jjinppang) ซาลาเปาสไตล์เกาหลี กับเนื้อตุ๋นฝอย กิมจิ และมายองเนส รสดีเลยแหละ     หรือจะลอง Kimchi Jjigae (240 บาท) ซุปกิมจิที่เชฟแอบใส่น้ำส้มสายชูดำของจีนเข้าไปเพิ่มรสชาติ     และ Bulgogi Kimchi Fries (260 บาท) เฟรนช์ฟรายส์ราดกิมจิมาโย ปลาแห้ง และเนื้อย่าง บอกเลยว่าเนื้อย่างคือตัวชูโรง     ระหว่างกินอย่าลืมเล่นเกมนะเพราะเป็นไฮไลท์เลย แพคแมน เตอร์ติส ดองกี้คอง สตรีทไฟเตอร์ เทคเคน และเมทัลสลัค โอ้ยนอร์สทาเจียมาก