คาเฟ่ความหมายดีที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติคือที่มาของ ORB Café & Meal คาเฟ่ที่เน้นตกแต่งร้านโดยดึงธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งได้อย่างลงตัว เสมือนเรานั่งอยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร มีต้นไม้ ลำธาร ฝูงปลา เสียงนกร้อง และหมอกขาวๆ ที่ลอยอ้อยอิ่ง เป็นคาเฟ่ฟีลกู้ดที่อยากยกมาไว้กรุงเทพฯ จริงๆ อ่อ ล่าสุดเค้าเพิ่งมาเปิดสาขาที่กรุงเทพฯ บรรยากาศไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียง เผื่อใครอยู่กรุงเทพฯแล้วคิดถึงก็แวะไปได้เลย จานเด็ดขายดี ได้แก่ ข้าวผัดน้ำพริกปลาทูทอดดอกเกลือ ข้าวผัดกับเนื้อปลาทูชูรสด้วยดอกเกลือ เมล็ดข้าวหนึบนิดๆ รสชาติกลมกล่อม กินกับปลาทูทอดที่แกะก้างมาให้เสร็จสรรพ ส่วนของหวาน Shinkansen เค้กช็อกโกแลตราสเบอร์รี่ รสเข้มขมแบบช็อกโกแลตแท้ ตกแต่งด้วยราสเบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ และ ORB เครื่องดื่มชูโรงที่มีส่วนผสมของมะม่วง ยูสุเพียวเร่ ไซรัปวานิลลา เลมอน และไข่ขาว รสเปรี้ยมอมหวาน แก้วนี้มีดรายไอซ์เป็นกิมมิก โรแมนติกอย่าบอกใคร

ยกให้เป็นร้านสวยของสายคอนเทนต์ที่นี้ดของอร่อยควบคู่กัน แนะนำให้มาแต่เช้าจะได้รูปที่ดูดีไม่ติดคน ภายในร้านร่มรื่นด้วยร่มเงาของไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านช่วยบดบังแสงแดด ตรงกลางเป็นสระน้ำสีฟ้าที่มีฝูงปลาแหวกว่าย รายล้อมด้วยมุมนั่งเล่นให้นั่งพักยืนแขนขา ฟังดนตรีสดที่คลอเคล้าเบาๆ หลายคนมาร้านนี้แล้วเทโปรแกรมที่เหลือหมด เพราะถ่ายรูปเพลินจนหมดวัน เริ่มที่จานหลัก Beef Stuffed With Cheese Burger เบอร์เกอร์ไส้ทะลักที่มีมีดปักกันหล่น ขนมปังชาโคลอบหอมๆ เนื้อนุ่มเหนียวพอได้เคี้ยวเล่น อัดแน่นด้วยเนื้อบด ชีส หัวหอมผัด และผักสด ราดซอสมะเขือเทศฉ่ำๆ กินกับเฟรนฟรายช์กรอบๆ ให้เต็มสิบไม่หัก ส่วนของหวานที่มีเบื้องหลังคือเชฟขนมคนดังที่ไม่อยากเปิดเผยตัวมาครีเอทให้โดยเฉพาะ อาทิ Chocolate Ganache Cake เค้กช็อคโกแล็ตกานาช รสหวานกำลังดี  ท็อปด้วยเบอร์รี่ตามฤดูกาล เปรี้ยวๆ หวานๆ ตัดกันอย่างลงตัว ต่อด้วย Banoffee Pie บานอฟฟี่พายเนื้อครีมละมุน สอดไส้กล้วยหอม ราดด้วยคาราเมล หอมหวาน เนียนลิ้น หากอยากได้รสเปรี้ยว แนะนำให้สั่งคู่ซี้ Strawberry Jelly Cheese Pie พายสตรอว์เบอร์รี่เยลลี่ชีส กับ Blueberry New York Cheese Cake บลูเบอร์รี่ นิวยอร์กชีสเค้ก เพราะดีทั้งคู่เลยไม่อยากให้เลือก จบด้วยเครื่องดื่ม Thai Mango น้ำมะม่วงปั่น รสหวานอมเปรี้ยว มีเนื้อมะม่วงใส่มาให้ด้วย กับ Matcha Thai Tea ชาเขียวและชาไทย มิติใหม่ของชา 2 รสชาติที่หลอมรวมกันได้อย่างลงตัว  

นัมเบอร์วันยกให้ 1’s Kitchen Journey เพราะติดลิตส์ Must Eat เมืองเชียงใหม่ทุกแพลตฟอร์ม ร้านสุดคูลที่ดูภายนอกเหมือนตึกสร้างไม่เสร็จ ซึ่งความครีเอทนี้เกิดจากความตั้งใจของเชฟหนึ่งและแฟนหนุ่มสถาปนิกที่อยากเนรมิตพื้นที่ให้เป็นทั้งที่พัก สตูดิโอทำอาหาร และเปิดให้นักชิมได้มาสัมผัสประสบการณ์แห่งรสชาติ ในบรรยากาศที่ดึงธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งอย่างลงตัว อาหารทุกจานผ่านกระบวนความคิดและพิถีพิถันในการปรุงโดยเชฟหนึ่งและเหล่าลูกศิษย์ของเธอ ที่เน้นทำเองทุกขั้นตอนจนออกมาเป็นจานเด็ดที่โดดเด่นและชวนลิ้มลอง จานแรก Ravioli ราวีโอลี่โฮมเมดสอดไส้กุ้งและเนื้อปู ไฮไลท์คือซอสต้มยำกุ้งเข้มข้นที่ช่วยชูรสให้จานนี้พิเศษมากขึ้น หากอยากเพิ่มความจี๊ดก็มีเลมอนฝานบางมาให้เพิ่มรส ต่อด้วย Rosemary Chicken and Fettuccine เชฟหนึ่งนำไก่ไปซูวี พอได้ที่แล้วนำมาตุ๋นต่อในซอสสูตรลับทำจากน้ำผึ้ง ผงกระเทียม และโรสแมรรี่ ช่วยเพิ่มระดับความนุ่มฉ่ำ เข้าเนื้อเข้าหนัง ละเลียดแล้วได้กลิ่นหอมเบาๆ ของโรสแมรี่ กินกับเฟตตูชินีผัดซอสเพสโต   Gnocchi ย็อกกี้หนึ่งในพาสต้าหากินได้ยาก เชฟทำจากมันฝรั่งแล้วนำไปผัดกับเครื่องปรุง เสริมรสชาติด้วยซอสครีม กินกับสโมกเบคอนและหน่อไม้ฝรั่ง สำหรับของหวานที่สวยหวานไม่แพ้ของคาว Vanilla Mousse มูสวนิลาสอดไส้มะม่วงเจลลี่ รสเปรี้ยวๆ หวานๆ และ Mint Mousse สีเขียวได้จากนมอินฟิวส์กับใบมิ้นท์สด ส่วนไส้เชฟทำออกมา 2 รสชาติ ได้แก่ นามะชาเขียว กับนามะช็อคโกแลต ส่วนใครจะได้ไส้อะไรต้องลุ้นกันหน่อยแล้ว ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่ม Berry Smootie กับ ชาผลไม้รวม ทุกแก้วใช้ผลไม้สด ไม่เติมน้ำตาล ตกแต่งด้วยดอกไม้กินได้ที่ปลูกในบริเวณร้าน ยืนหนึ่งของแท้ ต้องเชฟหนึ่งนี่ล่ะ!

WTF Coffee Camp ชื่อนี้ต้องมีในทริป เพราะเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว ทั้งฟีลแคมป์ปิ้งวิวหลักล้านที่มีน้ำตกไหลผ่านมาให้ได้รีแอคท่าสวยๆ หลากหลายมุม รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มนานาชนิด เรียกว่าคาเฟ่เดียวรับจบไม่ต้องลุกเปลี่ยนร้าน แนะนำ ข้าวซอยไก่ ข้าวซอยรสเข้มชามโต เด็กกินได้ไม่เผ็ดร้อนจนต้องเป่าปาก แนมด้วยผักกาดดอง หัวหอมซอย จะเติมพริกเผาผัดหอมๆ เพิ่มรสอีกหน่อยก็อร่อยจนหยุดไม่ได้ หรือใครอยากลองข้าวซอยฟิวชั่น แนะนำ พิซซ่าหน้าข้าวซอย พิซซ่าแป้งบางกรอบราดซอสข้าวซอย ท็อปหน้าแน่นๆ ลองคำแรกแล้วอึ้ง เชฟเค้าทำถึงจริงๆ ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่ม กาแฟผสมน้ำส้มหรือสตรอว์เบอร์รี่โซดา เท่านี้ก็ปักหลักนั่งชิลได้ทั้งวัน

หน้าหนาวใกล้เข้ามา เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนอาจรีบตีตั๋วไปรับอากาศหนาวที่เชียงใหม่ เราอยากแนะนำร้าน The Haus 224 ให้ทุกคนได้ไปกินอาหารอร่อยพร้อมเก็บภาพสวยๆ กลับบ้าน ด้วยตัวร้านที่ยังคงโครงสร้างเดิมไว้ในแนวโคโลเนียล พร้อมตกแต่งสไตล์ Mid-Century Modern ที่เลือกหยิบเฟอร์นิเจอร์หลากสีสันมาจัดวางได้อย่างเหมาะเจาะในทุกมุม ทำให้ The Haus 224 โดดเด่นและแปลกตากว่าคาเฟ่อื่นในเชียงใหม่ แต่ไฮไลต์ที่ทำให้เราจดร้านนี้ลงลิสต์คงหนีไม่พ้นรสชาติอาหารที่ถูกปาก ต่างชาติกินได้ คนไทยกินอร่อย กับอาหารไทยโฮมคุกที่ทางร้านพิถีพิถันตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบไปจนถึงขั้นตอนการรังสรรค์อาหารที่ทำเองทั้งหมด อย่าพลาด ข้าวซอยผัดเเห้งไก่กรอบ ไก่ซูวีดที่นำไปทอดจนหนังกรอบส่วนเนื้อข้างในยังนุ่มชุ่มฉ่ำวางมาบนเส้นข้าวซอยเหนียวนุ่ม อย่าลืมนำเครื่องเคราที่เคียงมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก่อนกินให้ราดน้ำข้าวซอยรสเข้มข้นลงไปด้วย เพื่อเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมๆ ของเครื่องแกง ใบเหลียงผัดไข่ใส่กากหมู ได้รสเค็มตัดด้วยรสหวานเล็กน้อย มีเท็กซ์เจอร์กรอบๆ ของกากหมูให้เคี้ยวเพลิน อร่อยกลมกล่อมจนต้องขอเติมข้าว หมูกรอบคั่วพริกเกลือ หมูสามชั้นคั่วพริกและกระเทียมจนแห้งได้ที่ ปรุงรสจัดจ้านทั้งเค็ม เผ็ด และหวานเล็กน้อยอย่างพอดี คอหมูย่างซูวีด เนื้อชิ้นใหญ่ย่างจนหอมกลิ่นสโมก ให้สัมผัสนุ่ม ไม่เหนียว ได้รสเข้มข้นที่หมักจนเข้าเนื้อ กินกับน้ำจิ้มแจ่วยิ่งแซ่บจนอยากจะได้ข้าวเหนียวสักกระติบ เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ห้ามพลาด ได้แก่ The Haus 224 ได้รสเปรี้ยวๆ หวานๆ มีความมันนัวจากโฟมไข่ขาว ด้านบนแต่งหน้าด้วยรังผึ้งและทองคำเปลว และ Smoothie ? เป็นสมูตตีสตรอว์เบอร์รีโซดา ทางร้านนำน้ำสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตไปกรอง 6 ชั่วโมง จนน้ำออกมาเป็นสีชมพูนวลๆ และใสกิ๊ง ให้รสหวานอมเปรี้ยวและสดชื่นจากโซดา

เมื่อตัวจริงอย่าง Ngua Doi Station (สถานีงัวดอย) ศูนย์เพาะพันธุ์เนื้อวากิวเลือดเต็มชั้นนำแห่งหนึ่งของโลกและยังเน้นนำมาผสมพันธุ์กับแม่วัวไทยสายพันธุ์พื้นเมืองเพื่อยกระดับมาตรฐานเนื้อวัวไทยให้ทัดเทียมเนื้อวัวนำเข้า ตัดสินใจขยายไลน์ธุรกิจจากฟาร์มสู่ร้านอาหาร ก็มั่นใจได้ว่ามีทเลิฟเวอร์จะได้ลิ้มรสชาติเมนูเนื้อที่ดีที่สุดจากแหล่งผลิตโดยตรง ท่ามกลางบรรยากาศฟาร์มสไตล์ญี่ปุ่นที่สามารถเดินชมทิวทัศน์ได้โดยรอบ เมนูไฮไลท์ Nguadoi Tomahawk Steak สเต๊กชิ้นใหญ่ติดกระดูก เสิร์ฟบนเขียงไม้พร้อมผักย่าง เกลือสีชมพู และพริกไทย ทางร้านจะย่างให้ผิวเกรียมเล็กน้อย แต่เนื้อในเป็นสีแดงอมชมพูในความสุกระดับมีเดียมแรร์ที่ยังคงความฉ่ำนุ่มเคี้ยวง่าย กลิ่นเนื้อย่างร้อนๆ ผสานกลิ่นหอมของโรสแมรี่ ช่วยเพิ่มดีกรีความอยากอาหารแบบทวีคูณ ถัดมาเป็น Nguadoi Striplion Steak สเต๊กเนื้อสันติดมัน รสเข้มข้น ดีกรีความนุ่มละมุนละลายในปากไม่แพ้เมนูแรก ทางร้านเสิร์ฟชิ้นใหญ่ให้เราได้ถ่ายรูปสวยๆ ก่อนนำไปแล่เป็นชิ้นให้กินสะดวก อย่าลืมแตะเกลือและพริกไทยเบาๆ จะช่วยดึงรสชาติที่แท้จริงของเนื้อ สุดท้ายคือ Nguadoi Picanha Steak แม้จะถูกจัดเป็นสเต๊กเนื้อนอกสายตา เพราะมีไขมันแทรกน้อยกว่าเพื่อน แต่ถ้าลองเปิดใจพิคานย่าจานนี้ก็มีดีไม่น้อยหน้า แม้จะไม่ละลายในปากแต่รสสัมผัสเข้มข้นฉ่ำลิ้น เคี้ยวสู้ฟันนิดๆ ใครชอบเนื้อมันน้อยเมนูนี้คือคำตอบ เพราะเป็นตัวจริงเรื่องวากิว จะสั่งเมนูไหนก็ไม่ผิดหวัง!

ขึ้นชื่อว่า Café Kantary ย่อมการันตีได้ว่าไม่ว่าจะไปสาขาไหนก็เปี่ยมด้วยรสชาติที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว รวมถึงความหลากหลายของเมนูที่ครีเอทมาให้เลือกจุใจ ครบครันทั้งเค้ก เบเกอร์รี่ และเครื่องดื่ม หากมาเที่ยวเชียงใหม่ ร้านนี้จะอยู่ในโครงการ Kantary Terrace บรรยากาศคล้ายห้องนั่งเล่น ตกแต่งสไตล์โคซี่ที่สามารถนั่งชมวิวผ่านกระจกใส ส่วนด้านในมีโซฟานุ่มๆ ให้เลือกหลายมุม ถ้ายังไม่มีแพลนไปไหนก็นั่งชิลได้ยาวๆ เมนูครองใจสวีทเลิฟเวอร์ ได้แก่ Pear Marron Roll โรลเค้กลูกแพร์และเกาลัด ไส้ครีมนุ่มเนียนลิ้น รสชาติหวาน มัน นัว กินได้เรื่อยๆ ไม่รู้สึกเลี่ยน ถัดมาเป็น Fresh Fruit Tart ทาร์ตผลไม้ ไส้ครีมวานิลลาหอมๆ ท็อปด้วยผลไม้สดหลากชนิด กินพร้อมแป้งทาร์ตกรอบๆ ออกเค็มมัน ช่วยตัดรสเปรี้ยวอมหวานของผลไม้ได้อย่างลงตัว Thai Tea Toast โทสต์อบสดใหม่ กรอบนอกฉ่ำเนย กินคู่ไอศกรีมชาไทย วิปครีม และอัลมอนด์สไลด์ เพิ่มความเข้มข้นแบบดับเบิ้ลด้วยซอสชาไทยที่มีกลิ่นหอมขึ้นจมูก ส่วนเครื่องดื่มต้องสั่ง Iced Kantary Coffee กาแฟนมปั่นจนเนียนละเอียด ท็อปด้วยวิปครีมลูกโต ต้องการหวานระดับไหนบอกพนักงานได้ตามชอบ แต่ถ้าอยากได้ความสดชื่น Mango Paradise คือตัวเลือกที่ดีที่สุด น้ำมะม่วงปั่นไม่ใส่ไซรัป แต่รับประกันความหวานชื่นที่มาจากธรรมชาติล้วนๆ หรือจะเลือกเป็น Mixed Berry Yogurt โยเกิร์ตปั่นกับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เปรี้ยวนิด หวานหน่อย มีเทกเจอร์ของเนื้อผลไม้ให้เคี้ยวเล่นเพลินๆ   ใครกำลังมองหาคาเฟ่นั่งชิลที่เชียงใหม่ ปักหมุดร้านนี้ไม่ผิดหวัง

Tag:

หากคิดว่ายังเสพบรรยากาศของเมืองเชียงใหม่ได้ไม่เต็มปอด ที่ HONG's Sky Bar สกายบาร์บนชั้น 17 ของ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง นอกจากการนำเสนออาหารจีนรสเลิศจับคู่เครื่องดื่มแก้วโปรดแล้ว ที่นี่ยังเสิร์ฟบรรยากาศสุดโรแมนติก มองเห็นท้องฟ้าที่ค่อยๆ เปลี่ยนสีไปตามช่วงเวลาของวัน อีกทั้งยังมาพร้อมกับวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ด้วย ตอนที่ไปถึงเป็นช่วงที่ท้องฟ้ากำลังอวดงานอาร์ตเปลี่ยนสีเป็นวานิลลาสกาย มองเห็นวิวเมืองเชียงใหม่มีฉากหลังเป็นดอยสุเทพ เรียกได้ว่าวิวของ HONG's Sky Bar เป็นมุมที่เปิดที่สุดเพราะตรงกลางเป็นย่านเมืองเก่า มองเห็นคูเมือง วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร และพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เวลาผ่านไปไม่นานภาพเหล่านี้ก็ค่อยๆ มืดลง สายตาถูกดึงดูดไปยังท้องฟ้าสีทไวไลต์และดาวบนดินที่สว่างไสวประหนึ่งว่าเมืองนี้ไม่มีวันหลับไหล เมื่อเสพบรรยากาศกันเสร็จแล้วก็ถึงเวลาฝากท้องไว้กับอาหารจีนต้นตำรับ รังสรรค์โดยทีมพ่อครัวของห้องอาหาร HONG’s Chinese Restaurant ที่ตั้งอยู่บนชั้น 16 ของโรงแรมเดียวกัน เรียกน้ำย่อยกันด้วย สลัดแตงกวาน้ำมันงา เสิร์ฟพร้อมพริกเสฉวนสไตล์จีน ได้ความหอมของน้ำมันพริกกินควบคู่กับแตงกวากรอบๆ สดชื่นที่หนึ่ง อย่าลืมสั่งของกินเล่นมาจับคู่กับค็อกเทลแก้วโปรดอย่าง ปอเปี๊ยะทอด เสิร์ฟปอเปี๊ยะชิ้นใหญ่ที่ทอดจนกรอบ ด้านในสอดไส้เนื้อเป็ดชิ้นโตและผักหลากชนิด เสริมรสชาติด้วยน้ำจิ้มรสเด็ดมีความหอมมัน ยิ่งกินคู่กับซิกเนเจอร์ค็อกเทล 2 แก้วนี้ยิ่งเพลิน ไม่ว่าจะเป็น Gracefulness like Hong สีสันน่ารักสดใสเหมาะกับสาวๆ ที่ชอบรสเปรี้ยว หอมกลิ่นส้มและขิง มาพร้อมความสดชื่นของโซดา และ Queen’s Fire ได้กลิ่นหอมของมะลิ มีความหวานจากลิ้นจี่และตามด้วยรสเปรี้ยวจากมะนาว นั่งเพลินจนลืมเวลา

Tag:

Aquila Restaurant ร้านอาหารอิตาเลียนเอเชียนทวิสต์รสจัดจ้านในเมืองเชียงใหม่ ที่ทั้งคนท้องถิ่นและชาวต่างชาติต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ควรพลาด เพราะด้วยรสชาติที่เข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อน มีความเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ ทุกจานรังสรรค์โดย เชฟภูเบศวร์ ชูประคอง เชฟและเจ้าของร้านมากฝีมือ นำความรู้ทที่ได้สั่งสมประสบการณ์จากการทำงานที่ผ่านมา มาปรุงรสชาติอาหารอิตาเลียนผนวกกับวัตถุดิบท้องถิ่นได้อย่างลงตัว ส่วนตัวร้านก็ตกแต่งอย่างมีสไตล์ตามความชอบของเชฟ ใช้โทนสีดำตัดสลับกับไม้ มีความดิบด้วยงานอินทีเรียแบบโมเดิร์นลอฟต์ มีหลายมุมให้เลือกนั่ง มาพร้อมโซนเอาต์ดอร์ที่สามารถนั่งจิบไวน์พร้อมดื่มด่ำกับอาหารรสเลิศในยามค่ำคืนไปพร้อมกับครอบครัวเหมือนเป็นมื้อพิเศษอีกหนึ่งมื้อ ไม่สั่งคือพลาด! Oyster and Beef เสิร์ฟในเปลือกหอยนางรม ด้านในประกอบด้วยเนื้อวากิวสุกกำลังดี ท็อปด้วยหอยนางรมทอดกรอบๆ เพิ่มรสชาติด้วยซอส White Truffle Ponzu ทรัฟเฟิล และสาหร่ายพวงองุ่น มีหลากรสชาติและหลายเท็กซ์เจอร์มาก Gnocchi จานซิกเนเจอร์ของเชฟ เสิร์ฟเป็นพาสตาเส้นญอกกีคลุกเคล้าซอสทรัฟเฟิลรสเข้มข้น ท็อปด้วยชีสบูร์ราตาเพิ่มความมันนัว เสริมโปรตีนด้วยเนื้อวากิวนุ่มๆ และ Porkchop พอร์กชอปจานใหญ่หมักซอสบาบีคิวจนเข้าเนื้อ กินคู่ซอสครีมเห็ดสูตรพิเศษของร้าน เคียงด้วยมันบดเนื้อเนียน และผักเคียง ร้านนี้จะอยู่ในลิสต์ของทริปเชียงใหม่ครั้งต่อไป

ร้านอาหารจีนบนชั้น 16 และชั้นดาดฟ้าของโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง ที่ออกแบบหรูหราราวกับยกคฤหาสน์จีนในยุคก่อนมาไว้ในโรงแรม ที่นี่นำเสนออาหารจีนต้นตำรับที่ชูศิลปะการปรุงและวิธีถนอมอาหารเพื่อให้ได้รสสัมผัสที่หลากหลาย และเพื่อให้ได้กลิ่นอายแบบดั้งเดิมเชฟใหญ่ของห้องอาหารจึงเน้นนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องปรุงหลายชนิดจากประเทศจีน ลูกค้าไม่ต้องบินไปไกลก็ได้ลิ้มรสชาติแบบเดียวกัน นอกจากเมนูสไตล์อะลาคาร์ต ที่นี่ยังมีเซ็ตดินเนอร์ที่ล้อไปกับวัตถุดิบตามฤดูกาล สำหรับฤดูกาลนี้เราเริ่มที่ Poached Chicken with Sichuan Spicy Sauce ไก่ต้มเลาะเอาแต่เนื้อ ระดับความนุ่มฉ่ำเกินร้อย เพราะซึมซับซอสสไตล์เสฉวนที่มีรสเผ็ดซ่าติดปลายลิ้นไว้เต็มพิกัด กินกับข้าวสวยร้อนๆ เป็นใครก็ร้องหอเจี๊ยะ ต่อด้วย Seafood Hot and Sour Soup ซุปร้อนๆ ที่อุดมด้วยซีฟู้ดอัดแน่นเต็มชาม รสเปรี้ยวนิดๆ เค็มอ่อนๆ กลมกล่อมกำลังดี ถัดมาเป็น Wok-Fried String Bean with Duck Claws ขาเป็ดผัดถั่วฝักยาว เป็นเมนูที่ให้คะแนนแทบไม่ทัน เพราะทีเด็ดอยู่ที่ขาเป็ดเปื่อยร่อนเคี้ยวง่าย ถั่วฝักยาวยอดอ่อนที่ทั้งสดและกรอบ ผัดร้อนๆ กลิ่นหอมฟุ้ง ปรุงรสเค็มมัน เจือเผ็ดนิดๆ พอได้ซี๊ดปาก Wok Fried Pork Neck สันคอหมูกระทะร้อน เนื้อหมูหั่นชิ้นหนา ไม่ต้องกลัวเหนียวเพราะเคี้ยวง่ายนำมาผัดกับเห็ด ปรุงรสเค็มอ่อนๆ คลุกเคล้ากับข้าวสวย รสชาติจะกลมกล่อมกำลังดี Sea Bass in Chili Sauce ปลากระพงเนื้อแน่นไม่ยุ่ยเละ นำมาแล่เป็นชิ้นแล้วผัดกับซอสพริกเสฉวน กินเนื้อหมดเหลือน้ำแล้วเสียดาย จะใส่ถุงกลับไปบ้านก็ได้ หากรู้สึกเผ็ดร้อนจนต้องเป่าปากให้เบรกด้วย Kale ผักเคลผัดไข่ที่มีรสชาติกลมกล่อมกำลังดี แล้วค่อยปิดจ๊อบด้วย Chilled Mango Sago  Cream with Pomelo ของหวานที่มีสาคู มะม่วง และส้มโอเป็นองค์ประกอบ อิ่มแล้วอย่าลืมมูฟไปชิลต่อที่ Sky Bar ชมวิวดอยสุเทพและวิวเมืองที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ด้วยล่ะ

เพลิดเพลินไปกับเมนูอะลาคาร์ตรสชาติเข้มข้นแบบต้นตำรับที่ Favola ห้องอาหารอิตาเลียนสุดสร้างสรรค์ รังสรรค์โดยเชฟลูก้า หัวหน้าพ่อครัวชาวอิตาเลียนที่โดดเด่นด้วยการนำวัตถุดิบท้องถิ่นของเชียงใหม่มาผสมผสานกับอาหารอิตาเลียนสูตรดั้งเดิมของคุณย่าชาวอิตาลี ตัวร้านตั้งอยู่ใน โรงแรมเชียงใหม่ แมริออท โฮเทล ภายในพื้นที่กว้างขวางเหมาะสำหรับพาครอบครัวมาเอนจอยกับอาหารอิตาเลียนสุดคลาสสิกที่แฝงไว้ด้วยวัตถุดิบสุดเซอร์ไพรส์มากมาย เพราะรสชาติอาหารของที่นี่จะเป็นตัวช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างและสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร ดินเนอร์วันนี้เริ่มต้นที่ SELEZIONE DI BRUSCHETTE ขนมปังโฮมเมดชิ้นหนานุ่ม ท็อปด้วยหน้าสุดครีเอตหลากสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น แซลมอนรมควัน เคเปอร์ หอมแดงดอง พาร์มาแฮม ลูกฟิก และน้ำผึ้ง ช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี ต่อด้วย FOCACCETTA FARCITA พิซซาแป้งบางปรุงรสอย่างเบามือด้วยน้ำมันมะกอก ออริกาโน และเกลือ ท็อปด้วย Coppa Di Parma ชีส มะเขือเทศตากแห้ง ผักร็อกเก็ต และพาร์เมซานขูด ได้รสเค็มเล็กน้อยตามแบบฉบับสไตล์ซิซิลี VELLUTATA DI CASTAGNE E GUANCIALE ซุปครีมเกาลัดเนื้อเนียนละเอียด ให้รสเค็มมันและหอมกลิ่นเก๋าลัดชัดเจน กินกับฟอกาเซียกระเทียมรสเข้มข้นและเบคอนกวานเซียเล่กรอบๆ SPAGHETTI PICCANTI VOLGOLE E BOTTARGA สปาเกตตีคลุกเคล้าซอสไวน์ขาวผัดกับหอยลาย มะเขือเทศเชอร์รี พริก และบอตตาร์กาขูด ให้รสเค็มมันอร่อยกลมกล่อม

หากไปเชียงใหม่แล้วเกิดอยากกินอาหารจีน เราแนะนำ Han The Chinese Cuisine (ฮั่น) ห้องอาหารจีนเปิดใหม่ใน โรงแรมเชียงใหม่ แมริออท โฮเทล ที่รวบรวมหลากเมนูยอดฮิตซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุคทองของวัฒนธรรมด้านอาหารในสมัยราชวงศ์ฮั่น ทางร้านนำเสนออาหารจีนจากหลากมณฑลเลื่องชื่อ ไม่ว่าจะเป็นอาหารสไตล์กวางตุ้ง เช่น ติ่มซำ และเมนูยอดนิยมอย่างเสฉวนกับเซี่ยงไฮ้ที่คนไทยชื่นชอบ มาพร้อมครัวเปิดและที่นั่งหลายมุมในบบรยากาศสบายๆ ตกแต่งสถานที่ด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์ร่วมสมัย มีชั้นโชว์ของสะสมที่สะท้อนความเจริญรุ่งเรืองและความอุดมสมบูรณ์ในยุคล้านนาไว้ตามจุดต่างๆ ส่วนใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวทางห้องอาหารมีห้องไพรเวตไว้รองรับด้วย อย่าพลาด Shrimp Shumai and Roe ต่อด้วย Traditional Har Gow - Chinese Prawn Dumpling และ Salted Egg Yolk Lava Bun ติ่มซำร้อนๆ มีทั้งขนมจีบและฮะเก๋าที่ปั่นสดวันต่อวัน ด้านในเป็นกุ้งเนื้อแน่นเด้ง ตามด้วยซาลาเปาไข่เค็มลาวาโฮมเมดรสหอมหวานนวลๆ Stewed Fish Maw Soup with Crab Mea กระเพาะปลาก้อนโตเสิร์ฟในน้ำซุปรสกลมกล่อมกินกับเนื้อปูที่ให้แบบอัดแน่น ถัดมาเป็น BBQ Platter เสิร์ฟจานใหญ่แบบไม่กั๊กมาพร้อมเป็ดย่าง หมูแดง และหมูกรอบ ที่หมักกับเครื่องเทศ ยาจีน และสมุนไพร เคี้ยวคำโตหอมกลิ่นเครื่องเทศเข้าเนื้อ ต่อกันที่ Szechuan Mapo Tofu with Minced Pork ผัดเต้าหู้สไตล์เสฉวน ไฮไลต์อยู่ที่เต้าหู้เนื้อนุ่มผัดกับพริก 3 ชนิด ได้แก่พริกชี้ฟ้า พริกไทย และพริกเสฉวน ได้รสเผ็ดร้อนถึงเครื่อง และ Beijing Style Hand-Pulled Noodles - with Spicy Minced Pork Gravy Sauce เมนูเส้นสดดึงมือ เส้นมีความเนียนนุ่มเข้ากันได้ดีกับความเข้มข้นของน้ำราดสไตล์ปักกิ่ง ให้รสชาติเผ็ดเปรี้ยว อร่อยลงตัว

เช้านี้กินอะไรดี? ถ้ายังนึกไม่ออกแนะนำให้ไปที่ อรุณสวัสดิ์ คาเฟ่อาหารเช้าในบ้านไม้สุดคลาสสิกใจกลางเมืองเชียงใหม่ ใครที่อยู่เชียงใหม่แล้วกำลังมองหาคาเฟ่น่ารักๆ ไวบ์ดีมีมุมถ่ายรูปชิคๆ ในแนวเรโทรย้อนยุคอย่าพลาดที่นี่เลย เพราะด้วยบรรยากาศแสนอบอุ่นเหมือนได้ไปพักใจที่บ้านคุณย่า แถมยังมีอาหารเช้าเสิร์ฟให้อีก อะไรจะสุขใจเท่านี้ มาต่อกันที่เมนูของร้าน ส่วนมากจะเป็นอาหารเช้า สาย และบ่าย ในสไตล์โฮมคุก แนะนำ อรุณสวัสดิ์ Set เมนูขายดี ถ่านรูปเก๋มีทั้งชาที่สามารถเลือกรสได้ เราสั่งเป็นชาไทยร้อนเคียงด้วยขนมปังกรอบจิ้มกับซอสสังขยา ตัดเลี่ยนด้วยชามะลิร้อนดื่มแล้วคล่องคอ ขนมจีบหมู ขนมจีบหมูโฮมเมด ไส้อัดแน่นแบบไม่หวง ถัดมาคือ ไข่กระทะ ให้ไข่ 2 ฟองท็อปหน้าแน่นๆ ด้วยหมูยอ หมูสับ และไส้กรอก จะกินกับซอสมะเขือเทศ ซอสพริก หรือซีอิ๊ว ก็เข้ากันสุดๆ ABF Set 2 จานบรันช์เครื่องเยอะ ประกอบด้วยออมเล็ตเนื้อนุ่มกินกับแฮมและเบคอนอร่อยลงตัว ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง โยเกิร์ตกราโนลา ท็อปด้วยผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่เบื่อแน่นอน อัญชันมะนาว เครื่องดื่มดับร้อนให้รสเปรี้ยวๆ หวานๆ สดชื่นมาก หรือจะเป็น อเมริกาโนส้ม กาแฟรสเข้มข้นท็อปบนน้ำส้มรสเปรี้ยวอมหวานตัดกันได้ดี นี่แหละความสุขที่สร้างเองได้

เสน่ห์ไทยคูซีน ร้านอาหารฮาลาลยอดฮิตของเมืองเชียงใหม่ ด้วยคอนเซ็ปต์ร้านที่น่าสนใจผนวกกับเมนูอาหารที่เน้นไปที่เนื้อคุณภาพ นำมาปรุงอย่างพิถีพิถันเสิร์ฟหลากรูปแบบทำให้มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างแวะเวียนกันมาลิ้มลองจนคิวยาวตลอดวัน ภายในร้านที่แน่นไปด้วยเหล่านักชิม หากสังเกตดีๆ จะพบกับการตกแต่งสไตล์ไทยของ 4 ภาค มีทั้งเครื่องประดับ ประติมากรรม และงานแฮนด์เมด หรือแม้กระทั่งชุดพนักงาน ซึ่งทางร้านตั้งใจใส่รายละเอียดของความเป็นไทยเข้าไปเพื่อโชว์ความสวยงามของบ้านเรา แต่ที่เด่นๆ คงหนีไม่พ้นเมนูอาหารที่เสิร์ฟพอชชันใหญ่ในราคาน่ารัก เมนูที่ทุกโต๊ะต้องสั่ง ข้าวผัดมันเนื้อ เนื้อส่วนพิคานยาวางแผ่บนข้าวคลุกมันเนื้อ กลิ่นหอมเตะจมูกตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย ตัดรสด้วยไข่ดองและน้ำพริกหนุ่มสูตรพิเศษของร้าน ต่อด้วย ซุปแซ่บซี่โครงวัว เสิร์ฟในหม้อไฟด้านในเป็นซี่โครงตุ๋นจนเนื้อเปื่อย กินพร้อมน้ำซุปรสเปรี้ยวเผ็ด แซ่บสะใจ ไม่อยากให้หม้อนี้หมดเลย ช่อมาลีเสวย ขาวัวตุ๋นชิ้นใหญ่คับจาน ไม่น่าเชื่อว่าเนื้อจะนุ่มละลายในปากได้ขนาดนี้ ยิ่งกินกับข้าวสวยแล้วราดด้วยน้ำจิ้มรสเปรี้ยวที่มาช่วยตัดรสบอกเลยอร่อยเกินคำบรรยาย ชาไทย ชาใต้แท้ๆ ให้รสหวานไม่มากแต่หอมใบชาชัดเจน สดชื่นมาก และเสน่ห์ไอศกรีมกะทิ คลายร้อนด้วยไอศกรีมกะทิแก้วใหญ่ มีกิมมิกให้เล่นด้วยการตำถั่วในครกก่อนเทลงในแก้วไอศกรีม ส่วนรสชาตินั้นดีมาก มีความหอมหวานมัน ละมุนลิ้นสุดๆ

PARI- พื้นที่สังสรรค์ยอดฮิตกลางเมืองเชียงใหม่ที่ต้องบอกก่อนเลยว่า..หากไม่โทรจองโต๊ะก่อนอดกินแน่ เพราะร้านนี้คิวยาวข้ามอาทิตย์! ด้วยความที่เป็นร้านกินดื่มที่ให้ฟีลคล้ายอิซากายะ ภายในแบ่งเป็น 2 โซนคือโซนโต๊ะแบบปกติ และโซนที่นั่งตรงบาร์ สามารถนั่งชมวิธีการรังสรรค์แต่ละเมนูอย่างใกล้ชิด ส่วนอาหารจะเน้นไปที่วัตถุดิบท้องถิ่นของไทยประมาณ 90% นำมาปรุงอย่างเบามือและเรียบง่ายแต่ก็แฝงเอาไว้ด้วยความใส่ใจอย่างพิถีพิถัน เพราะหัวใจสำคัญของร้านคือการดึงเอกลักษณ์ของวัตถุดิบออกมาให้มากที่สุด เมนูเด่ดห้ามพลาด ได้แก่ มะเขือเทศยูจังกับดอกเกลือน่าน มะเขือเทศออร์แกนิกจากฟาร์มยูจังอำเภอแม่ออน จ.เชียงใหม่ สัมผัสกรอบ ฉ่ำน้ำ มีรสหวานนิดๆ เพิ่มรสด้วยดอกเกลือน่านเค็มๆ อร่อยลงตัว ไก่ออร์แกนิกย่างถ่าน ไก่จากแทนคุณออร์แกนิกฟาร์ม เป็นไก่เนื้อนุ่มย่างจนหนังกรอบ กินกับยูซุโคโชเข้ากันได้ดี และ ข้าวผัดข้าวสาลีโรยแฮมยูนนาน เชฟนำข้าวญี่ปุ่นไปผสมกับข้าวสาลีดอยผัดกับซอสรสเค็มหวาน ท็อปด้วยแฮมยูนนานตัดรสกันได้ดี

Tag:

หากเค้กแครอตเป็นขนมโปรดของคุณล่ะก็ เราชี้เป้าให้ไปลอง “Mile’s Mom Baked” ร้านเค้กแครอตโฮมเมดออนไลน์แห่งจังหวัดเชียงใหม่ของคุณเกด-ปฐมาภรณ์ อรัญพิทักษ์ อดีตโบรกเกอร์คนเก่งและคนรักขนมหวานตัวยง ที่มีโอกาสเรียนทำเบเกอรี่ช่วงโควิด -19 เพื่อแบ่งเบาภาระสามีที่เป็นนักบินซึ่งในขณะนั้นไม่สามารถบินได้อยู่นั่นเอง โดยขนมตัวแรกที่เธอรังสรรค์คือซอร์ฟคุกกี้ ซึ่งกระแสตอบรับดีมากจากเพื่อนๆ ทั้งแบบปากต่อปาก และจากโซเชียลมีเดีย จนต่อมาต้องออกเมนูใหม่อย่าง ‘เค้กแครอต’ ของหวานที่คุณเกดโปรดปรานมากที่สุด ลองชิมเค้กแครอตทำเองที่ให้สัมผัสเนื้อนุ่มๆ เต็มไปด้วยเครื่องแน่นๆ มิ๊กซ์กับครีมชีสรสเปรี้ยวเล็กๆ และกลิ่นละมุนของซินนามอนจนหลายคนติดใจสั่งเรียกหาแต่เค้กแครอตจนคุณเกดไม่มีเวลาอบขนมอื่นๆ เมนูแรกที่เราสั่งคือ เค้กแครอต สไตล์โฮมเมดเนื้อนุ่มฟู ที่อัดแน่นไปด้วยธัญพืชต่างๆ อย่าง พีแคน วอลนัต เมล็ดทานตะวัน ยังมีแครนเบอร์รีรสเปรี้ยวอมหวาน รวมแล้วได้รสไหวานนุ่มนวล เข้ากันดีกับครีมชีสและกลิ่นหอมๆ ของซินนามอน ใครเป็นเด็กอ้วนต้องลอง เค้กแครอตเพิ่มครีมชีส เค้กแครอตรสหวานฉ่ำที่เรารัก ไปด้วยกันได้ดีกับครีมชีสเนื้อแน่น ที่ทางร้านเพิ่มให้อย่างจุใจ สุดท้ายเป็น เค้กแครอตไม่ใส่ครีมชีส ได้รสหวานผสานกับกลิ่นหอมๆ ของซินนามอน แถมยังมีความกรุบกรอบของธัญพืชต่างๆ ทุกเมนูสามารถส่งรถเย็นได้ทั่วเมืองไทยเลยนะ

ดื่มด่ำวิวแม่น้ำปิง พร้อมจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ยามพระอาทิตย์ตกดินได้ที่ Mai Sky Bar บาร์สูงบนชั้น 22 ของโรงแรม Meliá Chiang Mai ที่จะทำให้คุณอิ่มเอมไปกับอาหารสเปนสไตล์ทาปาสรสชาติต้นตำรับคู่กับค็อกเทลและม็อกเทลสูตรพิเศษ ท่ามกลางบรรยกาศสุดโรแมนติกและทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองเชียงใหม่ได้แบบพาโนราม่า เรียกน้ำย่อยด้วย Gilda (150.-) เมนูเสียบไม้เสิร์ฟมาแบบพอดีคำ ประกอบไปด้วยพริกดองสเปน แอนโชวี และมะกอกเขียว มาพร้อมกับซุปมะเขือเทศเย็น กินแล้วสดชื่น และ Patatas Bravas (160.-) มันฝรั่งทอดกรอบ เสิร์ฟในซอสมะเขือเทศรสจัด ที่ไม่ว่าจะจับคู่กับเครื่องดื่มเมนูอะไรก็อร่อยลงตัว เริ่มกันที่ Misty hill (300.-) ค็อกเทลสุดสดชื่นจาก ไอริชวิสกี้ ทริปเปิ้ลเซค น้ำสับปะรด และน้ำมะนาว เพิ่มความหอมด้วยใบโหระพา เปรี้ยวอมหวานเข้ากันได้อย่างลงตัว ต่อด้วย Sangria (280.-) เครื่องดื่มสีสวยจากเรดไวน์ ผสานมากับเหล้าฝรั่งเศส และบรั่นดี โดยมีซิกเนเจอร์อยู่ที่การใส่ผลไม้ตามฤดูกาลหั่นชิ้นเล็ก มาให้เคี้ยวเพลินๆ ดื่มเบาๆ ปิดท้ายด้วยเมนู Aqua de Valencia (280.-) ที่มีส่วนผสมของ สปาร์กกลิ้งไวน์จากสเปน เหล้าส้ม และน้ำส้มหวานหอม ดื่มง่ายชื่นใจ

ร้านอาหารไทยล้านนาผสมไทยใหญ่แห่งล่าสุดในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งความพิเศษของร้านนี้ไม่ได้อยู่ที่การได้เชฟดังจากสวรรค์ (Saawaan) ร้านระดับมิชลินสตาร์ของกรุงเทพฯ อย่างเชฟอ้อม – สุจิรา พงษ์มอญ ที่มาดูแลอาหารคาว และเชฟเปเปอร์-อริสรา จงพาณิชกุล ที่มาดูแลของหวานเท่านั้น หากตัวตึกยังอยู่คู่เมืองเชียงใหม่มากว่า 130 ปี เช่นเดียวกับของตกแต่งที่เรียกได้ว่าเป็นของบ้านหลังนี้จริงๆ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจที่เราจะได้เห็นอุปกรณ์ทำผมไปจนถึงโปสเตอร์ขายยา เพราะตึกนี้เคยเป็นทั้งร้านทำผมและคลินิกหมอฟันมาก่อน           แม้จะใช้บริการเชฟชื่อดัง แต่เรื่องราคานับว่าน่ารักน่าอุดหนุนมาประเดิมกันด้วย เนื้อลุงราดซอสงา หมูสับใส่มะเขือเทศหมักด้วยเครื่องเทศตำรับไทยใหญ่ที่ให้รสชาติสดชื่นปั่นเป็นลูกกลมๆ ในซุปขลุกขลิกหอมหวานจิ้มกับน้ำจิ้ม     ตามด้วย ตำขนุน ที่นำขนุนอ่อนต้มจนเปื่อยนำมาฉีกเนื้อ ก่อนจะนำมาคั่วกับข่า พริก กระเทียม หอมแดง ตะไคร้ และมะเขือเทศ จนได้หน้าตาเหมือนกับน้ำพริกกินคู่กับผักเคียงและแคบหมู หรือจะลอง ยำเห็ดงาคั่ว ที่นำเห็ด 3 ชนิดมาปรุงในวิธีที่ต่างกันเพื่อสร้างรสสัมผัสให้ซับซ้อนยิ่งขึ้น ด้วยการนำเห็ดหูหนูลวก เห็ดชิเมจิผัด และเห็ดออรินจิย่าง มาคลุกกับน้ำยำที่ประกอบไปด้วยขมิ้น น้ำมันพริก ขิงสับ จนได้รสชาติจัดจ้านแต่ก็อมหวาน       คั่วคะน้าจิ้นหมูเค็ม คะน้าคั่วน้ำมันกับมะแขว่นร่วมด้วยหมูสามชั้นที่ผ่านการหมักนาน 21 วันจนได้ความหอมและรสชาติเค็มๆ มันๆ ที่เหมาะเข้าคู่กับข้าวสวยร้อนๆ และที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ ข้าวซอยไก่ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับน่องไก่ตุ๋นเนื้อนุ่มชิ้นโตในน้ำขลุกขลิก แต่ถ้าใครที่ชอบซดน้ำซุปแล้วล่ะก็ เขาก็มีน้ำซุปร้อน` มาให้เติมกันอีกด้วย       ส่วนของหวาน ข้าวเม่าก้อนราดกะทิ ข้าวเม่าไส้มะพร้าวเสิร์ฟอุ่นๆ พร้อมกับน้ำกะทิสุดเข้มข้นให้มากินคู่กัน เคี้ยวหนุบหนับหวานมัน เพลินอย่างที่สุด  

ยกให้เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่สวยที่ต้องเช็กอินในเชียงใหม่ สำหรับ Caramellow Cafe” ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโรงแรม Parcborough ครบครันทั้งอาหารอร่อย วิวสวนสวยนั่งสบาย และโลเกชันสะดวกสบายไม่ไกลจากสนามบินเชียงใหม่และสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในตัวเมือง       โดยเฉพาะบรรยากาศอบอุ่นแบบ Feel Like Home แต่ก็สามารถเป็น Co-working Space สงบเงียบ และมีโซนสวนสวยร่มรื่นด้านนอกให้เดินออกไปผ่อนคลายอารมณ์และเก็บภาพมุมน้ำตกสวยๆ ได้ทุกเมื่อ       หลังจากแอบส่องครัวเปิดกลางร้านจนพอใจแล้ว เราขอเริ่มด้วย Grilled Spicy Caramellow Homemade Sausage with Tomato สลัดไส้กรอกคาราเมลโลว์รสเผ็ดนิดๆ ใส่มะเขือเทศออร์แกนิก และ Mama Chicken Stew with Sticky Rice Croissant สตูว์ไก่ในซอสมะเขือเทศ เสิร์ฟพร้อมครัวซองต์ข้าวก่ำทำจากข้าวเหนียวดำกรอบนอกนุ่มใน       ต่อด้วยของหวานอย่าง Cruffin Thai Milk Tea with Meringue ลูกผสมระหว่างครัวซองต์และบริยอช สอดไส้ครีมชาไทยหอมหวาน ด้านบนเป็นเมอแรงค์เบิร์นหอมๆ และ Chiang Mai Chocolate Cake ทำจากช็อกโกแลตเชียงใหม่รสเข้มข้น       ถ้าใครอยากมานั่งจิบเครื่องดื่มชิลๆ เราแนะนำ Marshmallow Cappuccino คาปุชชิโนรสนุ่ม ท็อปด้วยมาร์ชเมลโลว์ Iced Divine Earl Grey ชาเอิร์ลเกรย์ใส่ไซรัปโรสแมรีโฮมเมด ส้ม และรังผึ้งหอมหวาน และ Matcha Lemon Soda ชาเขียวมัตฉะใส่เลมอนโซดาที่สดชื่นได้ในจิบเดียว      

แฟนๆ Taste Cafe คาเฟ่สุดฮิตแห่งย่านนิมมานเหมินทร์ต้องแวะไปลองสาขาใหม่สุดเก๋บนถนนวัวลายกับ Taste Café Atelier” ที่ตั้งอยู่ในโครงการพื้นที่ศิลปะสร้างสรรค์ Weave Artisan Society ที่ตกแต่งได้เก๋ไก๋น่านั่ง เหมาะกับทั้งคอกาแฟและคนรักงานอาร์ต       ความโดดเด่นของที่นี่คือ เมล็ดกาแฟระดับพรีเมียมที่มีให้เลือกหลากหลายมากขึ้น ครบครันทั้งคั่วอ่อน คั่วกลาง และคั่วเข้ม โดยเมนูประจำจะใช้เมล็ดของแม่ฮ่องลอนและลาวมาเบลนด์พิเศษ       สายกาแฟนมอย่างเราชอบ Dirty นมหอมมันสูตรของร้านท็อปด้วยเอสเพรสโซช็อต ความหวานของนมตัดความขมของกาแฟพอดี Cloud Latte ลาเต้เย็นท็อปด้วยไอศกรีมวานิลลาหอมหวาน และ Brown Sugar Latte ลาเต้เย็นเพิ่มความหวานด้วยน้ำตาลทรายแดง         ส่วนสายกาแฟดริป เราแนะนำ Cold Brew Cream กาแฟสกัดเย็นท็อปด้วยครีมนมนุ่มๆ จับคู่กับ Lamington Cake เค้กสไตล์ออสเตรเลียนเนื้อนุ่มแน่น มีให้เลือก 2 รส ช็อกโกแลตและเลมอน       หรือจะลอง Baked Cheese Cake ชีสเค้กโฮมเมดหอมมัน ตัดรสด้วยเบอร์รีต่างๆ กินคู่ Lemon Marmalade น้ำผึ้งมะนาวหวานเปรี้ยว ใส่โซดาเพิ่มความสดชื่นก็เข้าที