แฟนคลับราเมนพลาดร้านนี้ไปไม่ได้เลย Tonchin Ramen ร้านราเมนเก่าแก่รสอร่อย  ที่มาพร้อมรางวัล Michelin BIB Gourmand จากเมืองนิวยอร์กถึง 3 ปีซ้อน ทำความรู้จักกับทงชิน ราเมนกันให้มากขึ้นดีกว่า ร้านนี้เปิดตั้งแต่ปี 1992 ณ ดินแดนอาทิตย์อุทัย มีจุดเด่นคือเสิร์ฟราเมนจากวัตถุดิบสดใหม่ เน้นรสชาติอูมามิ โดยผ่านกระบวนการปรุงแบบช้าๆ และใช้เวลานาน     ตัวเส้นราเมนจะเป็นสไตล์โฮมเมด ที่ครีเอทมาจากแป้งสาลีสูตรลับ นวดด้วยมือจนได้ความหนาที่พอดี น้ำซุปกระดูกหมูรสเข้มข้น ผสมขาไก่ลงไปเพื่อให้ได้รสหวานธรรมชาติ ซึ่งเป็นความอร่อยที่ส่งต่อกันมากว่า 30 ปี ใช้เวลาเคี่ยวนานถึง 12 ชั่วโมง หมูชาชูทำเองโดยใช้น้ำตาลจากจังหวัดโอกินาวา และเกลือธรรมชาติจากประเทศมองโกเลียในการดองหลายวัน       สำหรับสาขาสยามพารากอนนั้นตั้งอยู่บริเวณชั้น G (โซนศูนย์อาหารติดกับธนาคารกรุงเทพฯ)  ถือเป็นสาขาที่ 2 แล้ว และก็เช่นเคยว่าทุกๆ รายละเอียดทั้งการตกแต่งแบบร่วมสมัย เมนู รวมถึงเชฟมากฝีมือ ล้วนแล้วแต่ถอดรายละเอียดมาจากสาขาที่มหานครนิวยอร์กทั้งนั้น รับรองว่าสาวกราเมนมาชิมแล้วไม่ผิดหวังในรสชาติดีๆ แน่นอน       เริ่มต้นกันที่เมนูพิเศษซึ่งเสิร์ฟเพียงวันละ 20 ชามเท่านั้น Ultimate Noko Tsukemen (380 บาท) โดดเด่นที่เส้นโฮลวีตโฮมเมด ให้สัมผัสเหนียวนุ่ม มีความหนึบกินอร่อยเล็กๆ จุ่มลงไปในน้ำซุปร้อนๆ สูตรพิเศษจากทางร้านที่ทำมาจากหมู ไก่ ซีฟู้ด ปลาแห้ง และผักต่างๆ รสเข้มข้น กลมกล่อม กินพร้อมท็อปปิงต่างๆ อาทิ หมูชาชู ลูกชิ้นโฮมเมด และอกไก่ซูวี     ตามด้วยชามซิกเนเจอร์ที่ได้รับรางวัล Michelin BIB Gourmand จาก New York อย่าง Tonchin Classic Tokyo Tonkotsu Ramen (190 บาท) เส้นราเมนเหนียวนุ่ม ซู้ดอร่อย อยู่ในน้ำซุปทงคัตซึรสหวานนุ่ม กลมกล่อม ที่ผ่านการเคี่ยวอย่างพิถีพิถันมานานกว่า 12 ชั่วโมง ผสานไปกับโชยุเกรดพรีเมียม อย่าลืมกินหมูชาชูชิ้นโตๆ ด้วยล่ะ     Tokyo Truffle Shoyu Ramen (270 บาท) ก็ขายดีไม่แพ้กัน ราเมนน้ำซุปทรัฟเฟิล วัตถุดิบเลอค่าแห่งการทำอาหาร รสชาติเค็มกลมกล่อมนี้ได้มาจากโชยุชั้นดี รวมกับทรัฟเฟิลหอมๆ กินพร้อมเส้นราเมนยาวๆ สุดเพลิน ท็อปด้วยอกไก่ซูวีเนื้อชุ่มฉ่ำ     ใครชอบแบบดั้งเดิมเราแนะนำ Smoke Dashi Ramen (270 บาท) น้ำซุปทงคัตซึ สูตรเด็ดประจำร้าน รสนุ่มนวล มิกซ์ไปกับน้ำมันปลาโอรมควันหอมๆ ปลาแห้ง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วสัญชาติญี่ปุ่น กินพร้อมเส้นราเมนที่เรารัก หมูชาชู และไข่กุ้ง     Spicy Tan Tan Ramen (220 บาท) ราเมนรสเผ็ดร้อนกลมกล่อม นี้ครีเอทมาจากซุปไก่เข้มข้น ปลาโอ หอยอาซาริ ผสมกับหมูสับผัดซอสทงชินหอมกรุ่น และพริกไทยซันโช     ยังมูฟออนจากเมนูแรกไม่ได้เลย

Tag:

ต้องยอมรับว่าสมัยนี้ร้านโดนัทโฮมเมดมีให้เลือกสรรเยอะจริงๆ แต่ “Dididough” ก็เป็นอีกหนึ่งลิสต์ที่น่าสนใจไม่น้อย ร้านโดนัทโฮมเมดสไตล์ญี่ปุ่นเดลิเวอรี่ของคุณเดียร์ - ภานาท สิงห์จำนงค์ คนรักแฟชั่นและการอบขนมเป็นชีวิตจิตใจ ด้วยความที่ทำเบเกอร์รีเป็นงานอดิเรกตั้งแต่เด็กจึงไม่ใช่เรื่องยากที่เธอจะครีเอทเมนูขนมหวานสักเมนูขายเป็นอาชีพหลัก     ด้วยความที่สมัยนั้นโดนัทเริ่มกลับมาเป็นกระแส บวกกับความที่เป็นของหวานกินง่าย คุณเดียร์เลยลงมือทำโดนัทในแบบที่ชอบ พัฒนาสูตรสัก 1-2 เดือน จนมั่นใจในรสชาติและเปิดร้าน Dididough ขึ้นมา ซึ่งคำว่า “ดีดี๊” นั้นเป็นชื่อที่คนสนิทเรียกขานคุณเดียร์ รวมกับคำว่า “โดว์” ที่สื่อถึงแป้ง หรือขนมปัง  ส่วนผสมหลักที่ขาดไม่ได้ในขนมโดนัทนั่นเอง     ความพิเศษของโดนัทร้านดีดี๊โดว์ก็คือ เป็นโดนัทเนื้อนุ่มนิ่มสไตล์ญี่ปุ่น ตัวไส้ต่างๆ ทำจากน้ำผลไม้คั้นสด รสหวานพอเหมาะ ไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่นสังเคราะห์และสารกันเสีย แถมทุกลูกยังเป็นงานคราฟท์ ปั้นมือขนาดพอดีกินทุกลูก และที่สำคัญกว่านั้นคือราคาน่ารักมากมาย เข้าได้ถึงคนทุกกลุ่ม     เปิดด้วยเมนูที่เราเลิฟ แถมยังเป็นซิกเนเจอร์อีกต่างหาก Lemon Cream Cheese Number 1 แป้งโดนัทเนื้อนุ่มนิ่ม กินอร่อย สอดไส้ครีมเลเมอน ที่ทำมาจากครีมชีสหอมมัน และเลมอนรสเปรี้ยวสดชื่น ท็อปด้วยเชดดาร์ชีสชั้นดี     ตามกันมาติดๆ กับ Lemon Cream Cheese Number 2 ที่ขายดีไม่แพ้กัน ครีมเลมอนแสนอร่อยที่ครีเอทมาจากครีมชีสคุณภาพ และน้ำเลมอนคั้นสด กัดพร้อมแป้งเนื้อฟู้ๆ โรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิง     Classic Vanilla ก็อร่อยมาก ครีมวาลานิลลารสหวานพอดี ได้ความหอมมันฟินสุดๆ ทำมาจากฝักวานิลลาชั้นเลิศ กินพร้อมแป้งนิ่มๆ ติดใจ     โดนัทไส้คาวก็มีนะนี่ไง Brekkie โดนัทนุ่มๆ ไม่อมน้ำมันแต่อย่างใด ภายในเต็มไปด้วยครีมชีสแบบเต็มพิกัด ด้านบนมีเบคอนทอดชิ้นใหญ่ ราดด้วยเมเปิ้ลไซรัปหอมหวาน     สาวกช็อกโกแลตน่าจะปลื้ม Dark Choc Espresso แป้งโดนัทชาโคล ก้อนกลมกำลังดี เข้าปากพร้อมซอสดาร์กช็อกโกแลตรสเข้มข้น ที่มีส่วนผสมของเอสเปรสโซช็อตด้วย     Passion Fruit Curd เคยชิมแต่เลมอนเคิร์ด ได้มาลองเสาวรสเคิร์ดบ้าง รสเปรี้ยวอมหวาน ได้ความหอมก็ผลไม้ ตัดรสด้วยเมอแรงหวานๆ     รสนี้เราก็ชอบนะ Strawberry Curd ซอสสตรอว์เบอร์รีรสหวานอมเปรี้ยวละมุนนี้ทำมาจากน้ำสตรอว์เบอร์รีสด เข้ากันดีกับแป้งโดนัทหอมๆ ตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีสดอีกที     Matcha Pistachio เอาใจคนรักชาเชียวบ้าง ซอสมัตฉะหอมมัน รสหวานพอเหมาะ ที่ทำมาจากผงมัตฉะจากดินแดนอาทิตย์อุทัย กินพร้อมแป้งโดนัทชาโคล และถั่วพิตาชิโอกรุบกรอบ     อร่อยแบบนี้เดี๋ยวคราวหลังสั่งอีก

Tag:

OVO shop คาเฟ่เปิดใหม่ในโครงการสวนหลวงสแควร์ ที่นำความมินิมอลสไตล์เกาหลี และโทนสีสันสดใสสไตล์อเมริกัน มารวมไว้ด้วยกัน โดดเด่นด้วยโทนสีส้มขาว ชวนให้รู้สึกสดชื่นสบายตา เหมาะแก่การมานั่งชิลล์ ถ่ายรูปเช็กอินอวดลงโซเชียลเป็นที่สุด       OVO มาจากรากศัพท์ภาษาละติน แปลว่า ไข่ ซึ่งเข้ากับคอนเซ็ปต์ร้าน ที่ต้องการหยิบเมนูเบรกฟาสต์แบบอเมริกัน มากินคู่กับวัตถุดิบของเอเชีย อาทิ แซนด์วิชไข่น่ารักๆ และเมนูคอร์นด็อกหลากหลายแบบ โดยมีซอสให้เลือกอร่อยมากกว่า 8 ตัว       เริ่มด้วย Gangnam Spam Sandwich (200.-) ขนมปังแซนด์วิชเนื้อนุ่ม สอดไส้สแปม รสกลมกล่อม ไข่กวน และชีสเต็มแผ่น ราดด้วยซอสโคชูจังชิลลี กินพร้อม Sunset Pop (105.-) เครื่องดื่มโยเกิร์ตโซดาสุดซาบซ่า ที่ใส่เมล็ดป็อปเสาวรสมาให้เคี้ยวเพลินๆ ช่วยตัดรสจัดจ้านของแซนด์วิชได้เป็นอย่างดี       Hapjeong Corn Dog (155.-) คอร์นด็อกครึ่งไส้กรอก ครึ่งชีส คลุกด้วยมันฝรั่งหั่นเต๋า จากนั้นนำไปทอดจนหอมกรอบ ตบท้ายด้วยการราดซอสสไปซีมาโยและชีส เคี้ยวมัน กินเพลิน     เมนูของหวานเราแนะนำ Paris French Toast (145.-) ขนมปังชุบไข่ราดน้ำผึ้งธรรมชาติ หวานฉ่ำ ท็อปด้วยวิปปิงครีมนุ่มฟู ปิดท้ายด้วยการโรยไอซิงมาแบบไม่หวง จับคู่กับ Ice Einspanner (140.-) กาแฟเวียนนาที่ผสมผสานมากับวิปปิงครีมสุดละมุน โรยด้วยผงโกโก้  

Tag:

ชวนเหล่าคาเฟ่ฮอปเปอร์ไปนั่งชิล จิบกาแฟ กันที่ เฮ้าส์กวง โฮมคาเฟ่ ที่มาในคอนเซ็ปต์  "บ้านหลังที่สองของทุกคน" ด้วยบรรยากาศสบายๆ อบอุ่นเป็นกันเอง ให้ความรู้สึกเหมือนไปนั่งเล่นบ้านเพื่อน  โดยเน้นเสิร์ฟเมนูอาหารโฮมเมด รสชาติดีในราคาสบายกระเป๋า อิ่มอร่อยกันได้ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน       ตัวร้านแบ่งเป็นโซนอินดอร์ ที่เผยให้เห็นถึงโครงสร้างของบ้านหลังเก่าอายุราว 30 ปี โดยเลือกใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์วินเทจ ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความคลาสสิก ส่วนโซนเอ้าท์ดอร์ จัดเป็นสวนสีเขียวขจี แซมโต๊ะและเก้าอี้ไว้บางจุดเป็นสัดส่วน       เริ่มด้วยเมนูกินเล่น ฟักทองญี่ปุ่นย่างเนย (79.-) ที่นำฟักทองไปจี่บนกระทะ พร้อมกับเนย หอมหวานมัน กินเพลิน     ต่อด้วย ข้าวแกงกะหรี่หมูทอด (119.-) เนื้อหมูชิ้นโตทอดกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมซอสแกงกะหรี่โฮมเมด ซึ่งใช้เวลาเคี่ยวนานพอควร จนได้รสชาติสุดเข้มข้น โดยสามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ตามชอบ     หรือจะเลือกเป็น ข้าวด้งเนื้อเทอริยากิไข่ข้น (109.-) ข้าวนุ่มหอม ออนท็อปด้วยไข่ข้นและเนื้อผัดซอสเทอริยากิรสกลมกล่อม อิ่มสบายท้อง     ในส่วนของเครื่องดื่มต้องลอง กาแฟเลมอนโซดา (65.-) ทางร้านใช้เป็นเมล็ดกาแฟ Houseblend คั่วเข้ม(เชียงราย-ชุมพร) รสเข้มข้น เมื่อนำมาผสมกับเลมอนโซดา เข้ากันได้อย่างลงตัว     ชาจีนหอมหมื่นลี้ (50.-) เป็นการผสมผสานระหว่างใบชาอู่หลงและ ดอกหอมหมื่นลี้ รสชาติเบาละมุน ดื่มแล้วชื่นใจ     ตบท้ายด้วยของหวานอย่าง มินิครอฟเฟิล (59.-) ครอฟเฟิลชิ้นกำลังกิน เนื้อสัมผัสด้านนอกกรอบ ภายในเหนียวนุ่ม หอมกลิ่นเนย  

Tag:

ยินดีต้อนรับสู่ร้านโอนิกิริเล็กๆ ที่ซุกตัวอยู่ใต้ตึก UBC 2 ซอยสุขุมวิท 33 ของเจ้าของร้านชาวญี่ปุ่นผู้คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงอาหารมากว่า 15 ปี ซึ่งบอกกับเราว่า อยากให้ทุกคนได้มาลองชิมความพิเศษของข้าวนีงาตะซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความหอมนุ่มดูสักครั้ง       ความสนุกของการมาร้านนี้คือต้องมองหาร้านให้เจอก่อน (และมาให้ถูกเวลา) ส่วนหน้าตาของโอนิกิริร้านนี้ก็ชวนให้ตื่นเต้น เพราะเป็นโอนิกิริแบบหน้าเปิด ให้เห็นให้ชัดๆ ไปเลยว่าไส้แน่นขนาดไหน เริ่มจากอัดข้าวร้อนๆ ลงในพิมพ์ให้เป็นสามเหลี่ยม จากนั้นโปะด้วยท็อปปิ้ง แล้วห่อแผ่นสาหร่ายกรอบๆ ปิดท้าย       โอนิกิริของที่ร้านมีทั้ง เมนไทโกะ แซลมอนย่างที่ย่างได้สุกพอดี รวมถึงทีเด็ดอย่าง อิคุระ สีส้มสวยที่เห็นแล้วตาเป็นประกายปิ๊งๆ เหมือนไข่ปลา แถมโชคดีวันนี้เราเจอไส้พิเศษอย่างหอยเชลล์เบิร์นไฟ ตัวอวบอั๋นเต็มคำ เมื่อกินกับข้าวนีงาตะนุ่มหนึบแล้วดีงามจนอยากบอกต่อ           ใครสะดวกกินที่ร้านก็มีโต๊ะนั่งไว้บริการ ส่วนใครอยากสั่งกลับบ้านก็มีแพ็คกล่อง แยกสาหร่ายให้ต่างหาก หิวเมื่อไหร่ค่อยนำมาประกอบร่างจะได้ไม่เสียรสชาติ นอกจากนี้ยังมีเมนูญี่ปุ่นอีกหลายเมนู รวมถึงมีข้าวนีงาตะแท้ๆ ให้ซื้อกลับไปหุงเองที่บ้านได้ด้วย       คนรักข้าวปั้นอย่าพลาดนะ

Tag:

บัดนี้ El Tapeo ร้านอาหารสเปนและไวน์บาร์รสเลิศได้ย้ายโลเคชั่นมาอยู่ที่เอกมัย (สุขุมวิท 61 ) แล้ว เพลิดเพลินกับอาหารสเปนรสออริจินอลแห่งกรุงมาดริด ทาปาสที่ต้องร้อน เร็วและรสชาติดี โดยฝีมือ Alberto Izard หัวหน้าเชฟชาวสเปนที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ เขาเข้าครัวตั้งแต่อายุ 12 ปี และยังเป็นศิษย์เก่า Escuela Superior de Hostelería y Turismo สถาบันการทำอาหารอันทรงเกียรติแห่งเมืองหลวงของประเทศสเปน       แถมเชฟอัลแบร์โตยังมีประสบการณ์การทำอาหารจากโรงแรมระดับมิชลินต่างๆ เขาเชี่ยวชาญทั้งอาหารสเปนรสต้นตำรับ ฝรั่งเศส และเมดิเตอร์เรเนียนที่เน้นใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ในส่วนของวัตถุดิบ El Tapeo เน้นนำเข้าจากประเทศสเปนซะเป็นส่วนใหญ่ ผสมกับวัตถุดิบไทยที่ไม่น้อยหน้าชาติใดอย่างซีฟู้ด สายดื่มหายห่วงเพราะที่นี่เขายังมีไวน์สัญชาติสเปน 30 ชนิด และค็อกเทลให้เลือกจิบอยู่เช่นเคย     คุณจะชอบโลเคชั่นใหม่ที่แอเรียกว้างสามารถปาร์ตี้กันได้นานกว่าเดิม เพราะรีโนเวทจากบ้านเก่าให้เต็มไปด้วยกลิ่นอายสเปนและโมร็อกโก ผนังสีเหลืองมัสตาร์ด ตัดกับกระเบื้องโมเสกสีน้ำเงิน เฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลรวมแล้วเป็นบรรยากาศโฮมมีๆ ใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวต้องเลือกไปนั่งที่ชั้น 2 มีรูปโปสเตอร์หนังเก๋ๆ หรือสถานที่สำคัญของประเทศสเปนให้ชมระหว่างทาง แต่หากอยากกินอาหารสเปนในสวนหลังบ้านที่นี่ก็มีโซนการ์เด้นนะเราขอบอกเลยว่าน่านั่งไม่น้อยเลยทีเดียว       มาเริ่มกันที่ Pimientos de Padrón เมนูขายดีประจำร้าน ปีเมียนโต้ เดอร์ ปา-ดร้อน พริกสีเขียวรูปร่างอวบอ้วน ที่ส่งตรงมาจากทางภาคเหนือของประเทศสเปน เชฟปรุงจนได้ที่ กินเล่นเพลินไม่น้อย     มาที่นี่ห้ามลืมสั่ง Gambas al Ajillo กุ้งกระเทียมสไตล์สเปนนิชแสนอร่อย กุ้งเนื้อหวาน อยู่ในน้ำมันมะกอกคุณภาพร้อนฉ่า ได้รสเผ็ดของพริกแห้งและผงปาปริก้า หอมกลิ่นพริกไทยไม่ฉุนกึก เสิร์ฟพร้อมขนมปังโฮมเมด     ตามด้วยจานที่เรารักอย่าง Albóndigas De Cerdo Caseras มีตบอลลูกโตๆ ทำเอง เนื้อแน่นนุ่มในซอสมะเขือเทศตามแบบฉบับของทางร้าน รสเปรี้ยวกลมกล่อม หอมกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอดอิ่มเอม     Pulpo a la Gallega หนวดปลาหมึกยักษ์จากแคว้นกาลิเซี่ยน​แห่งประเทศสเปน ต้มจนสุกพอดี ชิ้นไม่บางไม่หนาจนเกินไป สัมผัสหนึบหนับเคล้าไปกับมันฝรั่งต้ม ปรุงรสด้วยน้ำมันมะกอกชั้นดี เกลือทะเล และพริกหวานปาปริก้า     เปลี่ยนจากข้าวอบมาเป็น Fideua Negra เส้นพาสตากรอบพอเหมาะ คลุกเคล้ากับหมึกดำและปลาหมึกหนึบหนับ รสเค็มพอดี เข้ากันกับ Aioli Garlic Mayonnaise มายองเนสเนยสูตรลับฉบับทางร้าน รสครีมมี่ หอมกลิ่นกระเทียมเบาๆ     แต่ไหนๆ ก็มาร้านอาหารสเปนแล้วจะไม่สั่ง Paella De Mariscos ก็เห็นจะไม่ได้ ข้าวอบสเปนร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมฟุ้งชวนหิวมาแต่ไกล ครีเอทมาจากข้าวสัญชาติสเปนสุกพอเหมาะ อบพร้อมปลาหมึกคุณภาพ ท็อปด้วยซีฟู้ดสดเด้ง อาทิ กุ้งตัวใหญ่ และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวอ้วน     ของหวานเราสั่ง Churros Con Chocolate ชูโรสสไตล์โฮมเมด เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน จิ้มซอสช็อกโกแลตร้อนรสเข้มข้นอร่อยมาก จานนี้ก็น่าประทับใจ Flan Casero Con Nata คัสตาร์ดเนื้อนุ่มเด้งฟินๆ กินพร้อมซอสคาราเมลโฮมเมด รสหวานละมุน และวิปครีมตีสด       ปิดท้ายด้วย Sangria ค็อกเทลสัญชาติสเปน รสเปรี้ยวเล็กๆ หวานหน่อยๆ เป็นการรวมตัวกันของไวน์แดงชั้นเลิศ น้ำมะนาว เหล้าสปิริตและผลไม้สดนานาชนิด   ได้ใจเราทุกจานจริงๆ  

Tag:

คาเฟ่ขวัญใจช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ที่เพิ่งย้ายโลเกชั่นใหม่มาอยู่ใจกลางสุขุมวิท สร้างเซอร์ไพรส์ตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้านเพราะมีแฟนคลับตามมาเช็คอินเป็นจำนวนมาก ด้วยเพราะร้านชูนั้นเปรียบเสมือนคอมมูนิตี้ของคนรักช็อกโกแลตที่ยังหลงใหลในบรรยากาศสไตล์โฮมมี่ที่อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน เมนูส่วนใหญ่ยังคงเดิมใครเป็นแฟนประจำสั่งได้แบบไม่ต้องพึ่งเมนูเลย         เมนูแรกที่เราคิดถึงคือ Peanut Butter Chocolate Lava เค้กช็อกโกแลตลาวาร้อนๆ รสหวานจัดที่ตัดรสเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดของราสเบอร์รีซอร์เบท์ได้อย่างลงตัว ในชุดยังมีวิปครีมและพีนัทบัตเตอร์ช่วยเสริมทัพความอร่อย     Hot Chocolate Cake เค้กช็อกโกแลตรสเข้มในแก้วมัค ท็อปด้วยมาร์ชเมลโลว์นุ่มหนึบที่ร้านทำเองและไม่ลืมเพิ่มความหวานมันด้วยวิปครีมให้อีกหนึ่งลูกโตๆ     ส่วนเครื่องดื่มต้องไม่พลาด Special Hot Chocolate ช็อกโกแลตร้อนซิกเนเจอร์ของร้านที่ใช้ดาร์คช็อกโกแลต 70% รสชาติออกหวาน ใส่อเมริกันมาร์ชเมลโลว์ชิ้นเบ้อเริ่ม จากนั้นโรยผงโกโก้เพิ่มความเข้มข้นหอมมันแบบดับเบิ้ล     ยกให้เป็นมุมพักหัวใจที่ใครมาแล้วก็อยากมาซ้ำ

Tag:

“Flavors of The North” คอร์สเมนูใหม่ของร้าน Maze Dining ทำให้เราเข้าใกล้ตัวตนของ เชฟเมย์ - พัทธนันท์ ธงทอง ไปอีกขั้น เชฟเมย์เปิดเผยมาตลอดถึงความหลงใหลที่มีต่ออาหารเหนือซึ่งเป็นอาหารบ้านเกิดและยังทำอาหารเหนือได้อร่อยมาก โดยคอร์สเมนูใหม่นี้ยังคงคอนเซ็ปต์อาหารไฟน์ไดนิ่งสุดพิถีพิถันงานถนัดของเธอ ทว่าสอดแทรกด้วยเซอร์ไพรซ์ของแต่ละจานที่มีตัวตนของอาหารเหนือซุกซ่อนอยู่ ซึ่งหากดูแค่หน้าตาไม่มีทางรู้ได้เลย!   เชฟเมย์ใช้เวลาพัฒนาคอร์สเมนูนี้อยู่นานเพราะอยากให้ออกมาดีที่สุดตามความตั้งใจที่จะนำเสนออาหารเหนือแก่คนรุ่นใหม่และชาวต่างชาติโดยไม่ยึดติดกับรูปลักษณ์ เรียกว่าเป็น “มิติใหม่ของอาหารเหนือ” เลยก็ว่าได้   ก่อนเริ่มคอร์ส เชฟเสิร์ฟขนมปังเรียกน้ำย่อย ขนมปังข้าวหนุกงา อบสไตล์เกาหลีกรอบนอกนุ่มหนึบภายใน เนื้อขนมปังมีส่วนผสมของข้าวเหนียวตำและงาขี้ม่อนคั่วผสมกันแบบล้านนาที่เรียกว่า “ข้าวหนุกงา” เคี้ยวหนุบหนับให้สัมผัสดีมากๆ เสิร์ฟคู่กับเนยฝรั่งเศสผสมอ่องมันปูนัวๆ มันๆ หอมกลิ่นปูย่าง     เข้าสู่คอร์สจานแรก กะบอง ชื่อชวนให้นึกภาพผักทอดจิ้มน้ำจิ้มถั่วตัด แต่กะบองจานนี้แตกต่างโดยสิ้นเชิง แต่ละองค์ประกอบในจานให้อุณหภูมิ 3 แบบ คือความร้อนจากฟักทองชุบแป้งทอดกรอบ ความเย็นแบบโฟรเซ่นจากไอศกรีมพริกแกงแดง และความเย็นของซอสพริก Red Capsicum โรยหน้าด้วยถั่วคาราเมล เป็นการตีความน้ำจิ้มถั่วตัดขึ้นใหม่จนจำไม่ได้ แต่รสชาตินั้นใช่เลย     จานที่สอง ลาบ ซึ่งใช้เนื้อปลาทูน่าครีบเหลืองสับผสมกับเครื่องเทศของลาบ อาทิ มะแขว่น ข้าวคั่ว และเลือด สร้างเลเยอร์ให้เป็นชิ้นด้วยมันฝรั่งฝานบางอบ เสิร์ฟกับมะเขือเทศดองน้ำปลาที่นำมาคอมเพรสในถุงสุญญากาศ และไข่ปลาคาเวียร์     จานต่อมาดูคล้ายสลัดแต่ที่จริงคือ น้ำพริกหนุ่ม ที่เสิร์ฟมาในรูปแบบของมูสตามสไตล์อาหารฝรั่งเศส และฉีกขนบด้วยการเลือกใช้หอยเชลล์ย่างเนื้อหวานมากินเคียง เสริมด้วยแคร็กเกอร์เนื้อหอยเชลล์ให้สัมผัสเคี้ยวกรอบแทนแคปหมูนั่นเอง     ตามด้วย ส้าบะแต๋ง จานที่เรารักมาก หากกูเกิลคำนี้จะพบเมนูคล้ายยำแตงกวา เชฟเมย์เลือกทำแตงกวาเป็น compressed cucumber และ cucumber emulsion ซอสเย็นสีเขียวอ่อนสดใสที่มีส่วนผสมของกะปิและน้ำปลาร้าให้ความนัวในทุกคำ ส่วนเนื้อปลากะพงนำไป Dry-aged ในตู้แช่แบบพิเศษนาน 7 วัน ให้สัมผัสหนึบเคี้ยวเพลินและรสอูมามิจากเนื้อปลา อร่อยจดต้องกวาดซอสเลยทีเดียว     ไส้อั่ว คือชื่อที่อ่านแล้วต้องมองซ้ำอีกครั้งเพราะถูกตีความใหม่จนไม่เหลือเค้าเดิม ไส้อั่วปลาหมึกคลุกเคล้าเครื่องเทศจนถึงรสนำไปชุบแป้งทอดแทนการห่อด้วยไส้แบบไส้อั่วทั่วไป เสิร์ฟกับหมึกตัวเล็กย่างชาร์โคลจนหอม วางบนซอสโยเกิร์สรสละมุนเพื่อทอนความเผ็ดร้อน     ไล่ระดับความเข้มข้นขึ้นทีละนิดกับ น้ำพริกส็อก หรือน้ำพริกมะเขือเทศตำสีแดงรสจัดจ้านเสิร์ฟมาในรูปแบบของเพสต์คู่กับกุ้งลายเสือจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่จับด้วยเรือประมงขนาดเล็กส่งเสริมการประมงอย่างยั่งยืน (Sustainable Fishing) เนื้อกุ้งสดใหม่หวานเด้ง เสิร์ฟกับกะหล่ำปลีดองรสหวานเปรี้ยวเพื่อตัดรส     จานถัดมาน่ารักเหมือนหมวกสานใบสวย ข้าวซอย ที่เชฟเลือกเสิร์ฟในสไตล์โมเดิร์นอิตาเลียน เป็นราวีโอลีแบบรีเวิร์สที่มีซอสอยู่ด้านใน เมื่อหั่นราวีโอลีซอสข้าวซอยด้านในจะไหลออกมาผสมผสานกับเนื้อซี่โครงด้านล่าง เชฟนำเนื้อไปกงฟีจนนุ่มจากนั้นนำไปทอดกับ beef fat ซ้ำอีกครั้งเพื่อให้เกรียม เคียงด้วยผักกาดดองรสจี๊ดจ๊าด ประดับด้วยแป้งพายกรอบที่ทำหน้าที่แทนหมี่กรอบ ครบถ้วนความเป็นข้าวซอยมากๆ     คั่นรายการก่อนเข้าสู่จานหลักด้วย ต้มส้ม ซึ่งเชฟนำไปไซฟ่อนเพื่อดึงเอาอโรม่าของเครื่องเทศต่างๆ ลงไปในน้ำซุปรสเปรี้ยวๆ หวานๆ ใส่เนื้อไก่ม้วนผักชีและมะเขือเทศโพช ตกแต่งด้วยหนังไก่ที่แล่มันออกแล้วนำไปนาบกระทะจนกรอบ ซดเพลินเลยทีเดียว       ตามด้วยเมนคอร์ส แกงฮังเล ซึ่งเสิร์ฟมาในรูปแบบของบีฟเวลลิงตัน ห่อหุ้มด้วยแป้งพายบางกรอบ ด้านในเป็นพูลพอร์คฮังเลรสจัดจ้าน ราดซอสแกงฮังเลเข้มข้น โรยหน้าด้วยทรัฟเฟิลขูด เสิร์ฟกับผักดองที่จัดแต่งเป็นรูปดอกไม้     มาถึงของหวานซึ่งเป็นอีกไฮไลต์สำหรับเรา ลำไย ช่วยปลุกความสดชื่นให้ประสาทรับรสอีกครั้งด้วยความหวานละมุนของไอศกรีมลำไยผสมมะพร้าว วางมาบนเนื้อมะพร้าวอ่อนผัดกับน้ำอ้อยจนเข้มข้นแบบคาราเมล ราดน้ำชาเกสรดอกลำไยหอมเย็นชื่นใจ ตามด้วย ช็อกโกแลตเชียงใหม่ เป็นช็อกโกแลตที่ชนะรางวัลจากการประกวดระดับโลกเสิร์ฟมาในรูปลักษณ์ของพริก ด้านในสอดไส้กานาชราสป์เบอร์รี่ผสมพริกรสเปรี้ยวหวานติดเผ็ดเบาๆ ชวนให้เซอร์ไพรซ์จนจานสุดท้าย       สำหรับเครื่องดื่มที่นี่ก็มีตัวเลือกมากมาย ไม่ว่าจะไวน์สำหรับแพร์ริ่ง ม็อกเทล และค็อกเทลต่างๆ อาทิ Purple Spell ค็อกเทลสีม่วงเข้มจากน้ำอัญชัน รสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ชวนสดชื่น     คอร์สเมนู Flavors of the North จำนวน 11 คอร์ส ราคา 2,900++ บาทต่อท่าน พร้อมให้ลิ้มลองแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ร้าน Maze Dining   อ่านรีวิวคอร์สอื่นของร้าน Maze Dining ได้ที่ : Maze Dining ไฟน์ไดนิ่งร้านใหม่ของเชฟเมย์ Top Chef Thailand

Tag:

Hei Yin (เฮยยิน) จุดนัดพบใหม่ของคนรักอาหารจีนตำรับกวางตุ้ง จุดเด่นคือรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ให้บริการทั้งติ่มซำและอาหารจีนสูตรต้นตำรับ ครีเอทโดยเชฟแจ็คกี้ ชาน เชฟฝีมือฉกาจจากฮ่องกง นอกจากรสชาติของอาหารที่มีความพิเศษแล้ว บรรยากาศยังชวนผ่อนคลาย ตกแต่งเรียบหรูในโทนสีเขียวและทอง การจัดโต๊ะยังเน้นระยะห่างอย่างเหมาะสมตอบโจทย์ยุคนิวนอร์มอล จึงเอนจอยได้อย่างออกรสแบบไม่รบกวนกัน         ช่วง Soft Opening เชฟเอาใจคนรักติ่มซำยกขบวนเมนูสุดครีเอทมาให้ลิ้มลองอย่างจุใจ เริ่มต้นที่ราคาเมนูละ 150 บาท เสิร์ฟไซส์ใหญ่ให้แชร์กันได้หลายคน อาทิ หมูกรอบย่างสไตล์ฮ่องกง หมูกรอบที่ย่างถึง 3 ครั้งจนไร้ความมันเลี่ยน หั่นชิ้นหนาให้เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับรสสัมผัสที่แตกต่าง ทั้งจากส่วนของเนื้อหมูสุดนุ่ม ผสานความกรอบเด้งเคี้ยวสู้ฟันของชั้นมันหมู จบด้วยผิวนอกที่กรอบเกรียมนิดๆ แตะเนยถั่วนิดหน่อยเพิ่มรสชาติความอร่อยแบบทวีคูณ     หมูแดงคุโรบูตะย่างน้ำผึ้ง หมูคุโรบูตะไร้มันย่างตามแบบฉบับกวางตุ้ง เน้นสุกกำลังดี รสหวานละมุนจากน้ำผึ้ง แม้ไม่จุ่มซอสก็ยังกลมกล่อมดีต่อใจ     ต่อด้วย เป็ดย่าง ทีเด็ดขายดีอยู่ที่เนื้อนุ่มหนังกรอบตึง กินเคียงกับถั่วลิสงกรุบๆ หอมมัน     ก๋วยเตี๋ยวหลอดห่อปอเปี๊ยะไส้กุ้ง เมนูเขียวสดใสที่ใครเห็นก็หิว ด้านนอกเป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดห่อปอเปี๊ยะไส้กุ้งทอดไว้ด้านใน เคี้ยวสนุกเพราะทั้งกรอบ นุ่ม หนึบในคำเดียว     ถ้วยทองฟรุ๊ตสลัดทะเล แผ่นเกี๊ยวอย่างดีนำไปทอดร้อนๆ รูปร่างเหมือนถ้วยทอง ใส่ฟรุ๊ตสลัดรสเปรี้ยวสดชื่นไว้ด้านใน     ส่วนคนรักติ่มซำมาถูกที่เพราะมีฮะเก๋ากุ้งรสชาติดีไว้บริการ แป้งบางห่อไส้กุ้งแน่นๆ เคี้ยวสู้ฟัน ต่อด้วยเสี่ยวหลงเป่ามันปู แป้งบางห่อไส้สุดนุ่มที่มีส่วนผสมของมันปูที่หอมมันและฉ่ำน้ำซุป อย่าลืมอ้าปากกว้างๆ เพื่อลิ้มรสความหวานฉ่ำแบบเต็มปากเต็มคำ ขนมจีบกุ้งหมูกังป๋วย ขนมจีบกุ้งและหมู ใส่กังป๋วยหรือหอยนางรมอบแห้งชั้นดี เพิ่มดีกรีความฟินแบบคูณสอง       อีกเมนูไฮไลท์ ได้แก่ ห่ามสุ่ยเกาะ ติ่มซำสไตล์ฮ่องกง ทำจากแป้งข้าวเหนียวด้านในเป็นไส้หมูสับ กุ้งและเห็ดผัดจนหอมกรุ่น นำไปทอดให้พองฟูเปรียบเสมือนนกตัวอ้วนที่อุ้มไข่ใบน้อยๆ ไว้ด้านใน     แนะนำเบาๆ เพราะสิบปากว่าไม่เท่าตามไปกินด้วยตัวเอง หากมากลุ่มใหญ่และต้องการความเป็นส่วนตัวมีห้องวีไอพีให้เลือก 4 ห้อง ได้แก่ Moutain สำหรับ 16 คน, Sea และ Sun ห้องละ 10 คน และ Earth 8 คน         ไม่อยากพลาดประสบการณ์ความอร่อย กริ๊งกร๊างจองโต๊ะไว้ก่อนดีที่สุด

Tag:

เป็นขวัญใจแฟนคลับข้าวหน้าปลาไหลไม่เสื่อมคลายจริงๆ สำหรับ “Unagi Toku” ร้านข้าวหน้าปลาไหลจากเมืองฮามามัตสึ จังหวัดชิซูโอ ที่เปิดมาตั้งแต่สมัยเมจิ (110 ปี ) ตอนนี้เขามีสาขาใหม่ใจกลางกรุงฯ ที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์แล้วนะ ใครอยากลิ้มรสชาติในแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ตรงดิ่งมาที่ชั้น 6 ได้เลย เท้าความถึงความพิเศษของร้านอุนางิ โทคุ กันสักนิด ร้านนี้เขาเน้นใช้ปลาไหลสดหรือปลาไหลเลี้ยงเองเท่านั้น เนื่องจากเนื้อสัมผัสจะหวานนุ่มเด้งกว่า     ผ่านการแล่ปลาสไตล์คันโตแบบผ่าด้านหลัง จากนั้นนำไปนึ่งสไตล์ฮามามะสึก่อน 15 นาทีแล้วนำไปย่างฉบับคาบายากิ รังสรรค์โดยเชฟชาวญี่ปุ่นมากประสบการณ์เรื่องการย่างปลาไหล ซึ่งจะต้องย่างด้วยกันถึง 3 รอบ แต่เนื้อจะยังคงความชุ่มฉ่ำไว้อยู่เต็มเปี่ยม ใช้ถ่านไม้บินโจตันในการย่าง เพราะให้กลิ่นหอมกว่า และมอดช้ากว่าถ่านทั่วไป       ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ซอสปลาไหลสูตรเฉพาะของโทคุ รสหวานเค็มหวานเข้มข้นนี้เกิดจากการหมักและเคี่ยวอย่างพิถีพิถัน ซึ่งเป็นสูตรอร่อยเก่าแก่ที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่สมัยเมจิ นอกจากนั้นยังมีแบบย่างเกลือ ย่างมิริน และย่างสาเก ให้ฟู้ดดี้ได้เลือกชิมอีกด้วย เสิร์ฟพร้อมกับข้าวออร์แกนิกสัญชาติญี่ปุ่นคุณภาพ เต็มเม็ดเต็มคำ     ประเดิมจานแรกกันที่ Shirayaki ปลาไหลย่างขาวทั้งตัว ที่หมักด้วยเหล้าสาเกอย่างดี ย่างบนเตาถ่านหอมๆ หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เนื้อนุ่มไม่เลี่ยนแต่อย่างใด กินกับโชยุหรือมิริน ผสมวาซาบิรสเผ็ดซ่า และขิงป่นสดชื่นลงไปด้วย       ตามด้วย  Hitsumabushi (Matsu) เซ็ตข้าวหน้าปลาไหลหั่นชิ้น ที่คุณสามารถฟินไปกับวิธีการกินได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ กินปลาไหลย่างเคลือบซอสสูตรพิเศษกับข้าวญี่ปุ่นออร์แกนิกร้อนๆ หรือจะลองเติมเครื่องเคียงอย่าง ต้นหอมญี่ปุ่นซอย และวาซาบิที่เรารักก็อร่อยไม่แพ้กัน สุดท้ายให้เติมน้ำซุปต้นตำรับรสนุ่มนวลลงไป เป็นอะไรที่เข้ากันได้พอดี     สุดท้ายเป็น Una-Jya (Nami) ปลาไหลเลี้ยงเอง ทาด้วยซอสสูตรลับฉบับของทางร้าน ที่ส่งต่อความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่นเป็นเวลากว่าร้อยปี หมักและเคี่ยวจนได้ที่ ให้รสชาติเค็มๆ หวานๆ เนื้อสัมผัสนุ่มแทบละลายในปาก ผสานไปกับความหอมของถ่านไม้บินโจตัน ที่ช่วยทำให้จานนี้ชวนลิ้มลองมากยิ่งขึ้น     แม้แต่น้ำชายังรสชาติดีเลยร้านนี้

Tag:

สายฟู้ดและคาเฟ่ฮอปเปอร์หลายคนน่าจะรู้จัก “SEOGA&COOK” ร้านอาหารสไตล์ฟิวชันอิตาเลียน-เกาหลี ที่ตั้งอยู่บนชั้น 7 ของห้างใหญ่ “เซ็นทรัลเวิลด์” เพราะที่นี่นอกจากจะมีอาหารรสชาติดีแล้ว บรรยากาศยังสวยงามเรียกได้ว่าแชะรูปลงโซเชียลได้ทุกมุมร้านเลยทีเดียว       มาทำความรู้จักกับร้านกันสักเล็กน้อย SEOGA&COOK เป็นร้านเลื่องชื่อในประเทศเกาหลี ที่มีสาขามากกว่า 90 แห่งทั่วประเทศ ก่อนขยายความอร่อยมาที่เมืองไทย เสิร์ฟอาหารสไตล์ฟิวชันซึ่งเป็นการรวมกันระหว่างอาหารอิตาเลียนและเกาหลี มีทั้งพาสตา ริซอสโต พิซซา และสเต๊ก ทีเด็ดเลยคือน้ำซอสทุกตัวนำเข้าจากโคเรีย ชิมแล้วอร่อยเหมือนบินไปกินที่เกาหลีแน่นอน       เรื่องบรรยากาศก็ไม่เป็นรองใคร เพราะอย่างที่บอกว่าร้านเขาคิวท์ถูกใจสายโซเชียล พื้นไม้สีน้ำตาลโฮมมี เข้ากันกับผนังสีขาวโพลนแลดูสะอาดและสบายตา แซมด้วยรูปภาพอาหารน่าหม่ำของทางร้าน เห็นแล้วพาลให้น้ำลายสอ เฟอร์นิเจอร์สีขาวช่วยตอกย้ำความเป็นสไตล์เกาหลี ที่ทำให้มู้ดแอนด์โทนของร้านทั้งคิวท์ (มาก) และอบอุ่นไปในเวลาเดียวกัน     ต้อนรับกันแบบจัดเต็มด้วย Pork Steak Salad สันคอหมูหมักกับเครื่องเทศจนหอม ย่างสุกกำลังดี เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมผักสลัดกรุบกรอบ คอร์นสลัดรสหวานอร่อย มันฝรั่งทอดเนื้อแน่น (เราชอบมาก) และไข่ดาวสุดอิ่มเอม     ตามด้วย Cream Sweet Potato Pizza พิซซาโฮมเมดสไตล์ฟิวชันร้อนๆ หอมฟุ้งชวนหิวมาแต่ไกล แป้งบางกรอบกัดพร้อมซอสครีมมันหวานรสกลมกล่อม ที่ทำมาจากมันหวานคุณภาพ ไม่เลี่ยนแต่อย่างใด     Hansung Set ชุดอาหารที่เราสามารถเลือกหม่ำอย่างจุใจ เพลิดเพลินไปกับ Shrimp Cheese Fondue เมนูชื่อดังของร้าน ชีสพรีเมียมรสหอมมันเยิ้มๆ ผสานไปกับกุ้งตัวโตเนื้อหวาน และเบคอนที่เรารัก ราดด้วยซอสมันเทศเข้มข้นเข้ากัน       ยังมี Crab Oyster Risotto ข้าวริซอตโตสัญชาติอิตาเลียน ผัดพร้อมซอสครีมปูสูตรพิเศษเฉพาะของทางร้าน รสครีมมี่ และเนื้อปูสดอร่อย ออนท็อปด้วยไข่ดาว อย่าลืมกินสลัดข้าวโพดรสหวานอมเปรี้ยว เฟรนช์ฟรายส์โฮมเมด ขนมปังกระเทียมหอมๆ และผัดดองตัดเลี่ยนด้วยนะ     ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มสดชื่นอย่าง Strawberry Soda รสหวานชื่นใจ Grape Soda น้ำสีเขียวนี้คือองุ่นโซดา รสเปรี้ยวเล็กๆ หวานหน่อยๆ และ Jeju Orange Soda น้ำส้มเจจูคั้นสดๆ ผสมกับน้ำโซดาซาบซ่า จิบคลายร้อนได้ดี       อิ่มเอมกันถ้วนหน้า

Tag:

Gooseberry Coffee ติดอันดับร้านต้องมีในลิสต์ของเหล่าคาเฟ่ฮอปปิ้ง ด้วยดีไซน์สุดเท่เน้นโทนขาวดำ โดดเด่นสะดุดตาทั้งโซนด้านในและด้านนอก เลือกถ่ายมุมสวยได้ไม่ซ้ำ ทั้งหมดนี้ออกแบบโดยสถาปนิกหนุ่มเจ้าของร้านผู้หลงรักการดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ เริ่มจากเปิดสาขาแรกและได้รับการตอบรับจากคอกาแฟเดียวกันจนต้องขยายสาขา ล่าสุดเปิดสาขาใหม่แยกลาซาล-แบริ่ง แค่วันแรกก็ปังจนยั้งไม่หยุดแล้ว           เมนูยกขบวนมาครบไม่ว่าจะเป็น Gooseberry Coffee ซิกเนเจอร์ที่ออกแบบมาให้ทั้งคนที่ไม่ชอบกาแฟนมและอเมริกาโน สามารถดื่มได้ง่ายๆ ใช้เฮาส์เบลนด์คั่วกลางผสมไซรัปผลไม้และโซดา รสชาติออกโทนฟรุตตี้ เสิร์ฟคู่มะยมเชื่อมหวานฉ่ำ เข้ากันดีทีเดียว      Es-Bomb แก้วนี้ปรับสูตรจากเอสเพรสโซเย็น เพิ่มความหวานมันด้วยบอมบ์สูตรของร้าน เปลี่ยนรสเข้มสุดขั้วแบบเดิมๆ ไปเลย     อีกแก้วคือ Dirty สัมผัสแรกที่เราได้รับคือรสเข้มของกาแฟ ตามด้วยความกลมกล่อมหอมมันของนม ขวดนี้ดื่มหมดแล้วยังเก็บกลับบ้านได้ด้วยนะ     สำหรับคนไม่ดื่มกาแฟก็มีทางเลือกจี๊ดๆ เช่น Japan Wonder รสเปรี้ยวอมหวานจากไซรัปส้มยูซุผสมความซาบซ่าของโซดา ออนทอปด้วยมินท์และโรสแมรี่ ครบองค์ประกอบความสดชื่น     So Gooseberry เครื่องดื่มเบอร์รี่ผสมไซรัป ทอปด้วยมิกซ์เบอร์รี่ ดื่มแล้วคึกคัก อากาศร้อนแค่ไหนก็ไม่หวั่น     นอกจากถูกปากคอกาแฟและเครื่องดื่มร้อน-เย็นทั้งหลาย สายขนมก็ไม่ควรพลาดเพราะคัดสรรเมนูมาให้จับคู่แบบเยอะมาก อาทิ Croissant ที่มีหลายรสชาติ ได้แก่ รสชาติดั้งเดิม, อัลมอนด์, ครีมนมสด หรือจะเป็นเค้กก็มีหมุนเวียนมาให้ได้ลิ้มรสชาติทุกวัน อาทิ เลมอนเค้ก, ชีสเค้ก สั่งมาจับคู่กับเครื่องดื่มได้ลงตัวทุกเมนู  

Tag:

ใครเคยอกหักจากแซลมอนซาชิมิชิ้นบางๆ เล็กๆ เราขอผายมือมาที่ร้านนี้ Salmon Box ร้านแซลมอนออนไลน์ขวัญใจชาวโซเชียลที่นอกจากจะใช้แซลมอนพรีเมียมจากนอร์เวย์ แล่ชิ้นใหญ่ให้เคี้ยวตุ้ยเต็มคำ ความเก๋ยังอยู่ที่โชยุโฮมเมดฝีมือเจ้าของแบรนด์ที่หอมกลมกล่อม ไม่เค็มเกินไป เมื่อกินกับเนื้อปลาแล้วไม่เสียรสชาติ     ใครเลิฟซาชิมิมากเป็นพิเศษ ขอให้ลอง Salmon Box เมนูสุดฟินชื่อเดียวกับร้าน แซลมอนซาชิมิที่เห็นแล้วตาเป็นประกาย มาพร้อมวาซาบิสด หัวไชเท้าฝอย และโชยุทำเอง หรือหากเพิ่มความแซ่บก็สั่งเลย ยำแซลมอน รสชาติจี๊ดจ๊าดจากน้ำยำที่มีรสชาติของวาซาบิสดด้วย มาพร้อมผักสลัดไฮโดรโปรนิกส์ให้แกล้มเพลินๆ     ส่วนสายดงบุริ อย่าพลาด Salmon Donburi ข้าวหน้าแซลมอน อิคุระ แล้วเพิ่มดีกรีความฟินด้วยเอนกาวะเบิร์นไฟเล็กน้อยชิ้นใหญ่หวานมัน หรือเป็น Salmon Ikura Don ก็อัดแน่นด้วยแซลมอนและอิคุระแบบเน้นๆ       ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะที่ร้านมีทีเด็ดเป็น Unagi Roll แคลิฟอร์เนียโรลหน้าปลาไหลญี่ปุ่นฉ่ำซอสชิ้นอวบสอดไส้ไข่หวานและปูอัด       ปิดท้ายด้วยเค้กแซลมอนรูปหัวใจ V-Day เหมาะแก่การสั่งไปเซอร์ไพรส์คนพิเศษในวันแห่งความรัก (วาเลนไทน์นี้สีส้ม)  ด้านในเป็นข้าวซูชิปรุงรสด้วยซอสโฮมเมด กินกับแซลมอนสดที่จัดเรียงมาอย่างสวยงาม รับรองว่าคนได้รับมียิ้มแก้มปริ     อะไรจะฟินเท่าแซลมอนล่ะจริงไหม   How to Order : สั่งแซลมอนผ่าน Line @Salmonbox ,FB: Salmon Box ,IG: Salmonbox หรือกดสั่งผ่านแอป Lineman และ Robinhood /Take Away โครงการ Restart ระหว่างซอยสาธุประดิษฐ์ 15 และ 17

Tag:

ไม่ไกลจาก BTS ราชดำริ เป็นที่ตั้งของร้านอรุณ (Arun Thai Cuisine) ร้านอาหารไทยแห่งใหม่จากสีฟ้ากรุ๊ปที่เพิ่ง Soft Opening ไปเมื่อช่วงต้นปี โดยนำเมนูต้นตำรับจากรสมือของคุณย่าอรุณศรี รัชไชยบุญ ผู้ก่อตั้งร้านสีฟ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความประณีต พิถีพิถัน ตั้งใจปรุงทุกจาน เพื่อให้ลูกหลานได้อิ่มเอมมาให้คนรักอาหารไทยได้ลิ้มลองสักครั้ง         มาถึงที่อรุณแล้วอย่าพลาดกุ้งกระเทียมคุณย่า เมนูเลื่องชื่อที่ทำเมื่อไหร่ก็ต้องมีคนขอเพิ่ม กุ้งตัวโตเนื้อสดเด้งผัดกับกระเทียม รากผักชี พริกไทย จนหอมฟุ้ง เด็ดที่มันกุ้งเยิ้มๆ กินกับข้าวหอมมะลิออร์แกนิคหอมนุ่มจากเกลุ่มเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์และพริกน้ำปลาแล้วดีงาม       ต่อด้วยแกงเผ็ดเป็ดย่าง รสจัดจ้าน ใช้เป็ดย่างอันเป็นเมนูในตำนานจากสีฟ้ามาแกงกับพริกแกงแดงสูตรพิเศษ ครบรสเผ็ด เค็ม หวาน ตัดรสด้วยผลไม้รสเปรี้ยวอย่างสับปะรดและองุ่น ซี่โครงแกะย่างมะแขว่น ที่นำซี่โครงแกะไปหมักกับมะแขว่นของเด็ดจากภาคเหนือที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ย่างให้หอมฟุ้ง เสิร์ฟพร้อมผักสดสำหรับแกล้ม       นอกจากนี้ยังมีเมนูน่าลองอีกหลายจาน ไม่ว่าจะเป็น หมี่กรอบรสเข้มข้นหอมกลิ่นส้มซ่า ขนมเบื้องญวณแกงพริกขี้หนูเนื้อแกะ หลนปูทะล รวมถึงเครื่องดื่มชื่อเพราะอย่างฟ้าอรุณ ได้ความสดชื่นจากน้ำลิ้นจี่ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะนาว และไซรัป Blue Grenadine และพันช์อรุณ ชื่นใจจากน้ำแตงโม น้ำส้ม และไซรัปพีช      

Tag:

หมู่บ้านสัมมากร หมู่บ้านโครงการใหญ่ย่านรามคำแหง ที่เต็มไปด้วยร้านอร่อยมากมายให้เลือกสรร บ้านปุณณ์ ศิลปะ ชา อาหาร ก็เป็นอีกหนึ่งโฮมคาเฟ่น้องใหม่สุดร่มรื่นที่เราอยากแนะนำ ด้วยบรรยากาศสบายๆ แสนเป็นกันเอง ชวนให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นที่สุด       บ้านหลังนี้เกิดจากความร่วมมือของสองคู่รัก คุณนัท-กรณรัสย์ ศิริชู และ คุณอ้อม-นลินนาถ สาเลยยกานนท์ ที่ต้องการนำเสนอเมนูอาหารโฮมเมด รังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบคุณภาพดี ออกมาเป็นเมนูสุดพิเศษ ที่มีรสชาติหอมอร่อยไม่เหมือนใคร     อีกหนึ่งความพิเศษของร้าน บ้านปุณณ์ คือ วันเสาร์-อาทิตย์ เราจะได้ลิ้มรสกาแฟแบบ Hand Pressed Coffee จากร้าน Catfeine Coffee โดยฝีมือบาริสต้าหนุ่มสาวไฟแรง คุณเอิ๊ก-ชนะชัย เดชนุกูล และ คุณเบลล์-อารียา คงอักษร ที่มีเมล็ดกาแฟให้เลือกชิมมากถึง 13 ชนิด ในราคาสบายกระเป๋า       เริ่มกันที่เมนูซิกเนเจอร์อย่าง ข้าวคลุกกะเพราหมูสับปลาหมึกแห้ง (130.-) ข้าวนุ่มหอมน้ำมันหมูเจียว และใบกะเพรา กินพร้อมหมูสับเนื้อนุ่ม ปลาหมึกแห้งกรุบกรอบ และไข่ต้มที่ช่วยดับความเผ็ดร้อน แม้จะเป็นเมนูธรรมดาแต่อร่อยไม่เบา     อีกหนึ่งเมนูห้ามพลาด ขนมจีนน้ำยากะทิขมิ้น (100.-) ความพิเศษอยู่ที่ตัวน้ำยาสุดเข้มข้น ทำจากปลาทะเลสดใหม่สูตรเฉพาะของทางร้าน รสจัดจ้าน หอมมันกลมกล่อม     ของหวานต้องลอง ครัวซองต์ดิปสังขยา (80.-) ครัวซองต์กรอบหอมเนย จับคู่มากับสังขยาดิป รสหวานกำลังดี กินพร้อมกันรสชาติลงตัว จับคู่กับ Namaskar Tea (80.-) ชาพรีเมียมเบลนด์จากสวรรค์บนดินฟาร์ม จังหวัดเชียงราย ที่มีกลิ่นหอม และรสเบาละมุนของมะตูมและคาโมมายล์ จิบแล้วรู้สึกผ่อนคลาย       ในส่วนของ Catfeine Coffee แนะนำ กาแฟย้อนยุค (60.-) เมนูที่ต้องการนำเสนอรสชาติของ กาแฟโบราณในรูปแบบที่ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยใช้เป็นเมล็ดกาแฟ Houseblend (ไทย-บราซิล) โทนถั่วช็อกโกแลต ผสมผสานกับตัวนมสด รสชาติหวานเย็นชื่นใจ     Dirty (70.-) นมสดแช่จนเย็นจัด ราดด้วยชอตกาแฟคั่วเข้ม จากเมล็ดกาแฟพม่า หอมกลิ่นดาร์กช็อกโกแลต เป็นแก้วโปรดของคอกาแฟรสเข้ม  

Tag:

Sweets Escape ร้านเบเกอรี่โฮมเมดในโลกออนไลน์ ที่พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูขนมหวานหน้าตามินิมอล ให้สายหวานได้ลองสั่งมาชิม ฟินกันสักครั้ง โดยดาวเด่นของร้านคงหนีไม่พ้น เค้กโรลสไตล์ญี่ปุ่น ที่ไม่ใช่แค่หน้าตาน่ารักแต่รสชาติยังดีไม่แพ้กัน     Snow White Roll Cake (325.-) เค้กโรลรสนมฮอกไกโด ผิวขาวนวลน่ารับประทาน โดดเด่นด้วยเนื้อเค้กเนียนนุ่ม ที่สอดแทรกความหอมหวานละมุนลิ้น ของวิปครีมรสนมมาได้อย่างลงตัว กินเพลินสุดๆ       Midnight Dust Choco (359.-) สปันจ์เค้กเนื้อนุ่มเบา ชุ่มฉ่ำไปด้วย Whipped Chocolate Ganache รสหวานน้อย โดยทางร้านเลือกใช้เป็นช็อกโกแลตชั้นดีจากเบลเยียม ตัวฐานเป็นโอรีโอบดกรุบๆ ราดซอสช็อกโกแลต ส่วนด้านบนโรยผงโกโก้มาแบบไม่งก เข้มข้นกลมกล่อม       Carrot Cake (459.-) เค้กแครอตเนื้อหนึบหนับ หอมกลิ่นชินนามอน ที่ผสมธัญพืชและเนื้อแครอตมาให้เคี้ยวเพลินๆ กินคู่กับครีมชีสสูตรพิเศษของร้าน รสเปรี้ยวหวานกำลังดี       ช่องทางการสั่งซื้อ : Line@: @sweets_escape

Tag:

ภายในโครงการสวนดอกลำเจียก ไม่ไกลจากวงเวียนพระราม 5 Lion Wagyu เป็นร้านอาหารที่ให้บรรยากาศญี่ปู๊นนนญี่ปุ่นกันตั้งแต่หน้าร้านไปจนถึงข้างใน ทั้งโต๊ะไม้ ปล่องดูดควัน และโคมไฟกลม ๆ แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ให้ความญี่ปุ่นมากที่สุดในร้านนั้นหนีไม่พ้นเซ็ตอาหารมากหน้าหลายตา ที่จัดมาตามความต้องการของคนรักเนื้อวากิวโดยเฉพาะ       สำหรับเซ็ตอาหารที่มีอยู่ในเมนูนั้น จัดมาตั้งแต่ราคา 499 ไปจนถึง 2,100 บาท ซึ่งมีให้เลือกทั้งเซ็ตหมูล้วน เซ็ตเนื้อ+หมู และเซ็ตเนื้อพรีเมียมแบบจัดหนักจัดเต็ม สำหรับคนกินจุ       สำหรับเซ็ตที่นำมารีวิวในคราวนี้ คือ Premium Beef Set ซึ่งประกอบไปด้วย คารุบิวากิว, ไซโคโระ ริบอายวากิว, เนื้อร่องซี่โครง ออสเตรเลียวากิว MB 4-5, สตริปลอยน์ ออสเตรเลีย MB 4-5, โคนลิ้นวัวพรีเมียม, สันไหล่ ไทยวากิว, เนื้อเซอร์ลอยน์โคขุน, และเนื้อพิคานย่า ย่างให้สุกกำลังดี หรือจะย่างแบบมีเดียมแรร์ให้ได้สัมผัสนุ่ม ๆ และจุยส์ซี่ ละลายในปาก จิ้มด้วยน้ำจิ้มที่ร้านเตรียมมาให้หลากหลายแบบ ทั้งสไตล์ญี่ปุ่นและน้ำจิ้มแจ่วสไตล์ไทย         นอกจากเนื้อมันแทรกลายหินอ่อนงดงามแบบเต็มอิ่มแล้ว ในเซ็ตเดียวกันนี้ยังมาพร้อมกับเกี๊ยวซ่า ตัวเลือกของแซลมอนหรือซาชิมิ ที่มีให้เลือกทั้งแซลมอนซาชิมิ ยำแซลมอน ซาชิมิไข่หวาน แซลมอนฟิลเล ซูชิแซลมอน และซาชิมิปูอัด นอกจากนี้ยังมีอาหารจานข้างเคียงมาให้เลือกด้วย เช่น ยำสาหร่าย กิมจิ ซุปเนื้อ และเต้าหู้เย็น โดยในเซ็ตนี้มากับผักรวม 1 จาน รวมทั้งข้าวญี่ปุ่นและซุปมิโสะที่เติมได้ไม่อั้น           ไม่ต้องเดินทางเข้าไปในย่านใจกลางเมืองก็สามารถลิ้มรสชาติของเนื้อวากิวระดับพรีเมียมได้เช่นกันนะ

Tag:

ในที่สุดก็หากันจนเจอสำหรับร้านลับที่เต็มไปด้วยเสน่ห์บนถนนสายเก่าแห่งนี้ จุดเด่นของร้านที่ไม่ต้องพึ่งการประชาสัมพันธ์ใดๆ แต่กลับมีลูกค้ามากมาย แม้กระทั่งชาวต่างชาติที่รอเปลี่ยนเครื่องยังต้องแวะมาจิบกาแฟฆ่าเวลา หากจะให้คำนิยามคงไม่มีอะไรเหมาะเท่าพื้นที่แห่งความสุขที่ทุกคนอยากมาเยียวยาหัวใจ แม้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม (ฟีลซีรีส์สุดโรแมนติกเลยล่ะ)         สำหรับสายกินอย่างเรา เสน่ห์ของร้านจึงไม่ใช่แค่บรรยากาศชวนผ่อนคลายและของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อยชวนมองเท่านั้น แต่ยังต้องยกให้ขนมและเครื่องดื่มที่คุณบอย (หนุ่มนักจัดสวน) กับคุณปู (สาวนักทำขนม)สองเพื่อนซี้ที่ไม่เพียงร่วมกันออกแบบตกแต่งร้าน แต่ยังครีเอทขนมและเครื่องดื่มโดนใจสายกินอย่างเราที่สุด ไม่ว่าจะเป็น  Black Orange กาแฟเอสเพรสโซผสมน้ำส้มสด กลิ่นหอมของกาแฟผสานกับกลิ่นหอมของส้ม ยกให้เป็นเครื่องดื่มเย็นฉ่ำในวันแดดจัดที่ช่วยสลัดความร้อน และปลุกความสดชื่นให้กลับมาแทนที่ได้อย่างดี     อีกแก้วคือส้มฉุนดริงค์ ดัดแปลงของหวานโบราณ ส้มฉุน มาเป็นไซรัปสูตรพิเศษ มิกซ์กับอิตาเลียนโซดา ดื่มสู้ร้อนได้ไม่น้อยหน้ากัน     อย่าลืมขนมขายดีบลูเบอร์รี่ชีสเค้ก  ชีสเค้กเนื้อเนียนแทบละลายในปาก ราดด้วยซอสบลูเบอรี่ที่ทางร้านทำเอง รสเปรี้ยวๆหวานๆ อร่อยจนต้องยกนิ้วให้     ต่อด้วย ชิฟฟ่อนมะพร้าวอ่อน ร้านนี้ทำชิฟฟ่อนออกมาได้แตกต่างจากที่เคยกิน ชิฟฟ่อนเนื้อนุ่มเบา ใช้มะพร้าวอ่อนที่คัดมาอย่างดีเพื่อให้ได้รสหวานตามธรรมชาติ กินแล้วหอมปากหอมคอ ที่สำคัญไม่รู้สึกว่าเลี่ยนแม้จะกินไปหลายชิ้นก็ตาม     นอกจากนี้ยังมีขนมอบใหม่หอมๆ อย่างครัวซองต์, แดนิช, ขนมปังบาแกตต์ แนะนำให้โทรจองล่วงหน้าเพราะขาประจำของร้านเยอะมาก ใครวอล์กอินอาจไม่ได้กินของอร่อยนะเออ!    

Tag:

สัมผัสความร่มรื่น ที่ The Flora Cottage คาเฟ่สวยนนทบุรี ที่ชวนให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกนิทาน ด้วยการตกแต่งร้านสไตล์ English Garden เหมาะแก่การมาพักผ่อน รับประทานอาหาร หรือจิบชากาแฟเพลินๆ กันได้ตลอดวัน       ภายในร้านแบ่งเป็นโซนอินดอร์ ที่เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเบจเป็นหลัก ตกแต่งด้วยตุ๊กตา รูปปั้นเก๋ๆ วางอยู่ทั่วทุกมุมร้าน ส่วนโซนเอ้าท์ดอร์ใกล้ชิดธรรมชาติ ก็มีให้เลือกทั้งมุมสงบ สำหรับใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว และมุมโต๊ะใหญ่แบบที่มาเป็นแก๊งค์ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ       เริ่มด้วยเมนูเบาๆ อย่าง Charmimg Flower Rolls (220.-) สลัดโรลดอกไม้ สอดไส้ทูน่า เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดมายองเนส ถูกใจสายเฮลท์ตี้     ถัดมาเป็น Avocado Egg Green Toast (250.-) ขนมปังฟอคคาเซียกรอบนอกนุ่มใน ทาสเปรดด้วยอะโวคาโดบด กินพร้อมโพชเอ้กเยิ้มๆ หอมมัน รสกลมกล่อม     ต่อกันด้วย Matcha Mont Blanc Tart (170.-) ทาร์ตภูเขาเกาลัดมัตฉะที่แยกชั้นกันมาอย่างสวยงาม ด้านบนเป็นครีมเกาลัดเนื้อเนียนละมุนหอมมัตฉะ เมื่อกินพร้อมชั้นวิปครีมสีขาวนุ่มฟู และเนื้อเกาลัดบดผสมผงมัตฉะ ด้านล่าง ยิ่งอร่อยฟิน จนอยากสั่งเพิ่มอีกชิ้น     อีกตัวคือ Rosie Lychee Rare Cheese Cake (150.-) ตัวแรร์ชีสเค้กทางร้านผสมน้ำดอกกุหลาบ เพื่อเพิ่มความหอม ด้านบนเป็นเจลลี ลิ้นจี่ ตกแต่งด้วยดอกไม้กินได้ แนะนำให้จับคู่กับ Flora Tea (90.-) ชาเบลนด์สูตรพิเศษที่ได้รสหวานเบาๆ จากน้ำผึ้งสามดอกไม้ ดื่มแล้วสดชื่น       หรือจะเลือกเป็นเมนูยอดฮิตของสาวๆ อย่าง Americano Yuzu (95.-) กลิ่นหอมหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำส้มยูซุ เมื่อนำมาผสมผสานกับความเข้มข้นของเอสเปรสโซช็อต ออกมาเป็นเครื่องดื่มรสชาติที่แสนลงตัว  

Tag:

Mochico ร้านโมจิน้องใหม่ในโลกออนไลน์ โดดเด่นด้วยโมจิแป้งนุ่มหนึบ สไตล์ญี่ปุ่น สอดไส้มูสเค้กรสละมุน ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากขนมหวานฝั่งตะวันตก โดยมีให้เลือกมากถึง 6 รสชาติ มาพร้อมแพ็คเกจสีชมพูหวานแหว๋ว น่ารักซะจนต้องกดสั่งมาลอง       ตัวแรก Red Velvet Mochi (69 บาท) แป้งโมจิสีแดงเข้มรสช็อกโกแลต สอดไส้เนื้อเค้กเรดเวลเวตหอมผงโกโก้ และครีมชีส รสชาติกลมกล่อมลงตัว     สายผลไม้เราแนะนำ Yuki Ichigo (75 บาท) โดดเด่นด้วยไส้ครีมสดหอมมันที่มาพร้อมสตรอว์เบอร์รี ลูกโตเนื้อฉ่ำ และสปันจ์เค้กเนื้อนุ่มฟู Blueberry Cheese Mochi (69 บาท) ที่สอดไส้แรร์ชีสมูสเข้มข้น และแยมบลูเบอร์รีโฮมเมดสูตรเฉพาะ รสเปรี้ยวอมหวาน กินพร้อมฐานแครกเกอร์กรุบกรอบ เคี้ยวเพลิน และ Yuzu Mochi (69 บาท) รสนี้กินแล้วจะได้ความหอมสดชื่นจาก ไส้มูสยูซุและเจลลีน้ำส้มยูซุ 100%       ใครรักชาเขียวต้องลอง Matcha Mochi (69 บาท) ไส้มัตฉะมูสเข้มข้นจากผงมัตฉะชั้นดี เข้ากันได้ดีกับไวต์ช็อกโกแลตมูสด้านล่าง รสละมุนกลมกล่อม     ปิดท้ายด้วย Chocolate Hazelnut Mochi (69 บาท) แป้งโมจิเหนียวนุ่มเคลือบดาร์กโกแลต โรยด้วยเฮเซลนัตกรุบกรอบ ด้านในเป็นมูสดาร์กช็อกโกแลตผสมเฮเซลนัต เข้มข้นหอมมัน     ช่องทางการสั่งซื้อ : Line@: Mochico.bkk หรือ bit.ly/Mochicobkk

Tag: