ได้ยินชื่อของเชฟ ซากิ โฮชิโน มาพักใหญ่ มาพร้อมเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงรสมือเจ้าแม่ขนมหวานที่บอกเหมือนกันว่า 'อร่อย' คราวนี้ถึงเวลาเปิดสแตนด์อโลนในชื่อ Sàat Bangkok (ศาสตร์) ร้านขนมหวานที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก "ขนมไทย"
ขอบอกเลยว่านี่เป็นหนึ่งในร้านขนมที่น่าสนใจในกรุงเทพฯ ยิ่งใครชอบกินขนมไทยต้องหาเวลาไปลองสักครั้ง! ด้วยความที่ร้านนำเสนอศาสตร์แห่งขนมหวาน ขั้นตอนการทำและวิธีการปรุงจึงมีความละเมียดละไม โดยใช้เทคนิคสมัยใหม่เข้ามาผสมผสานกับรากฐานของรสชาติแบบไทยจนออกมาเป็นจานขนมหวานสุดโมเดิร์น รสชาติไม่ซับซ้อนแต่มีชั้นเชิง ชวนให้นึกถึงขนมไทยหลายเมนูที่คุ้นเคย
ตัวร้านเป็นตึกเก่าริมถนนมหาพฤฒาราม ภายในยังคงโครงสร้างเดิมไว้ด้วยเพดานสูงที่โปร่งโล่ง รายล้อมด้วยกระจกบนใหญ่ หากเงยหน้าขึ้นจะเห็นวัสดุที่หลากหลายทั้งเก่าและใหม่ผสมๆ กันอย่างลงตัว ส่วนบรรยากาศของร้านดีไซน์ออกมาแนว Minimal Cozy เน้นโทนสีอ่อนจากวัสดุธรรมชาติเพื่อให้รู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย และเรียบง่ายแต่ร่วมสมัย ด้านหน้าร้านเป็นครัวเปิดเผยให้เห็นความใส่ใจในทุกขั้นตอน เพราะครัวคือพระเอกของร้านนี้
นอกจากนี้คำว่า Sàat (ศาสตร์) ยังหมายถึง Saki+Nat ชื่อของสองผู้ก่อตั้งอย่างเชฟซากิกับคุณนัทที่ร่วมออกไอเดียเนรมิตร้านแห่งนี้ขึ้นมา เรียกได้ว่าเป็น Women run business เลยก็ว่าได้ เพราะทาง Head Chef ของที่นี่ก็เป็นผู้หญิงเช่นกัน นั่นคือเชฟอิง เชฟมากความสามารถที่ถ่ายทอดเมนูอร่อยออกมาให้เราได้ชิมในรูปแบบอะลาคาร์ต ไม่ว่าจะเป็น Coconut Reverie เมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากขนมใส่ไส้ เชฟทำไส้เป็นมูสกะทิใบตองย่าง มีเนื้อมะพร้าวกะทิหอมไวท์คลาวด์ผัดกับน้ำตาลมะพร้าว ด้านนอกเป็นโมจิกะทิและคุกกี้ขี้โล้ช่วยเพิ่มเท็กซ์เจอร์
ต่อด้วย Pineapple Butter Sando เป็นบิสกิตไส้เนยสับปะรดกินแล้วนึกถึงขนมปี๊บไส้สับปะรด เชฟนำมาสร้างลุคใหม่โดยด้านนอกเป็นแป้งขี้โล้ ไส้ดัดแปลงเป็นเนยสดและแยมสับปะรดย่าง แอบเพิ่มความเป็นญี่ปุ่นด้วยบัตเตอร์แซนด์โดะ
Fluffy Pancake and Coconut Sugar Ice Cream เมนูแพนเค้กไส้ครีมและไอศกรีมน้ำตาลมะพร้าวที่ได้ไอเดียมาจากขนมโตเกียวไส้หวาน ได้รสหวานหอมของสังขยามะพร้าวกะทิน้ำหอมไวท์คลาวด์ เพิ่มรสสัมผัสด้วยเนื้อมะพร้าวให้เคี้ยวควบคู่ไปกับไอศกรีมหวานเย็นชื่นใจ
Pansib ที่ร้านออกแบบปั้นสิบให้มีรูปร่างเป็นปลาตะเพียน 2 ตัว สอดไส้คาวและหวาน แป้งที่เห็นเป็นพัฟเคลือบด้วยซอสสามเกลอคาราเมล ตามด้วย Coconut Flat Bread and Tai Pla Dip เป็นอาหารคาวให้กินเบาๆ ประกอบด้วยแป้งนานมะพร้าวที่ทำจากโยเกิร์ตกะทิโฮมเมด กินกับซอสไตปลาคู่ปลาย่างประจำวัน เสริมรสชาติด้วยยำผลไม้ตามฤดูกาล
มาถึงเมนูใหม่แกะกล่องอย่าง ข้าวแช่ เครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารไทยชาววังอย่างข้าวแช่ โดยใช้ข้าว Redberry ข้าวสายพันธุ์ใหม่ให้รสสัมผัสกึ่งข้าวเหนียวกับข้าวเจ้า รังสรรค์ออกมาคล้ายกับการทำอามาซาเกะ หรือข้าวหมากญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมลูกกะปิที่ทำจาก Caramel Fudge จากนั้นห่อด้วยกระดาษกินได้ที่ทำจากขมิ้นขาว วิธีการกินคือให้กัดลูกกะปิทีละนิดจากนั้นก็ดื่มน้ำตาม
เมื่อกินเข้าไปก็ทำให้นึกถึงขนมไทยจานโปรด แต่เป็นในเวอร์ชันที่ไม่เคยเห็นมาก่อน!
ประทับใจมาก