อาหารไทยมีรสชาติหลากหลายทั้งเปรี้ยว เค็ม และหวาน อีกทั้งยังมีรสชาติเผ็ดร้อน ปร่า ขม และนุ่มนวลที่ได้จากสมุนไพร เครื่องปรุง และเครื่องเทศซึ่งหาได้จากธรรมชาติ หน้าตาอาหารประณีต เสน่ห์ทั้งหมดที่เกริ่นมาทำให้ชาวต่างชาติตกหลุมรักในอาหารไทย เช่นเดียวกับร้านกัลยา ร้านอาหารไทยที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ในสหรัฐอเมริกา ตั้งใจเสิร์ฟอาหารท้องถิ่นจากจังหวัดตรัง ทางใต้ของไทย โดยเชฟนก-จุฑาทิพ สุนทรนนท์ เชฟหญิงไทยในต่างแดนซึ่งมีรอยยิ้มอันสดใสผู้เป็นเจ้าของร้าน

ครอบครัวของเชฟเป็นคนจังหวัดตรัง คุณแม่ทำพริกแกงขายที่ตลาดย่านตาขาว ทุกวันจะได้ยินบทสนทนาว่าวันนี้กินอะไรดี จนทำให้เชฟซึมซับในความอบอุ่นและรักในการกิน อีกทั้งยังชื่นชอบการเดินตลาดและเรียนรู้การทำอาหารซึ่งจะคลุกคลีอยู่ในครัวกับคุณแม่มาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นได้เข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ และทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนานกว่า 17 ปี ช่วงนั้นเชฟบอกว่าได้ลิ้มรสอาหารจากหลายสัญชาติจนตัดสินใจเปิดร้านอาหารอิตาเลียนชื่อ Antonio's สุขุมวิท 29 แล้วหลังจากนั้นได้ย้ายมาอยู่ที่ฟิลาเดลเฟีย
ชีวิตช่วงนี้ถือเป็นการผจญภัยครั้งใหม่ในอเมริกากับสามีชาวต่างชาติที่เชฟนกใช้เวลาว่างไปเดินตลาด ทำอาหารและขนมไปแจกเพื่อนบ้าน แม้ว่าตั้งใจจะเกษียณ แต่ด้วยใจรักในการทำอาหารจึงไปสมัครเรียนที่ French Culinary Institute ในนิวยอร์ก (ปัจจุบันคือ Institute of Culinary Education) จนได้ฝึกงานที่ร้านฌอง-จอร์จส์ ร้านอาหารฝรั่งเศสมิชลิน 2 ดาวในนิวยอร์ก และร้านอื่นๆ หลังจากนั้นกลับมาเปิดแคเทอริงที่บ้านจนคนชื่นชอบและนำไปสู่การเปิดร้านกัลยา (Kalaya)
เปิดร้านมาเพียงไม่กี่ปีก็ได้รับรางวัลมากมาย อาทิ ติดอันดับ TIME100 และ Forbes 50 Over 50 หมวดไลฟ์สไตล์, ได้รับการนำเสนอใน Chef’s Table ซีซั่น 7 ใน Netflix, ชนะรางวัล James Beard – Best Chef: Mid-Atlantic) และออกหนังสือ Kalaya’s Southern Thai Kitchen ติดอันดับ Best Cookbooks of 2024 โดย NYT และ Bon Appétit และล่าสุดได้รับรางวัล North America’s Best Female Chef Award 2025 จาก The World's 50 Best Restaurants มาครอง
คอนเซ็ปต์ของร้านกัลยาซึ่งเป็นชื่อของคุณแม่ เป็นการนำอาหารของที่บ้านมาเสิร์ฟโดยนำรสมือของคุณย่า คุณแม่ และตัวเองที่ได้จากความทรงจำมาปรุงเหมือนพาเพื่อนมากินข้าวที่บ้าน ด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ตกแต่งอย่างประณีต และดูตื่นเต้น

ทุกจานเชฟนกจะต้องชิมก่อนเพื่อไม่ให้พลาด เช่นเดียวกับเมนูต้มยำกุ้ง เมนูที่ทุกคนต้องร้องว้าว! เสิร์ฟมาในหม้อไฟ มีกุ้งแม่น้ำตัวโตอยู่รอบๆ ขอบหม้อดูอลังการ รสชาติครบทั้งเปรี้ยว เผ็ด หอมสมุนไพร สดชื่น และมีกลิ่นของเปลือกกุ้งชัดเจน นอกจากความอร่อย ยังแถมด้วยการต้อนรับและอัธยาศัยอย่างคนไทยที่ทำให้ลูกค้าต่างชาติติดใจ
Tom Yum Goong
ต้มยำกุ้ง
ส่วนผสม
- น้ำสต๊อกเปลือกกุ้ง 4 ถ้วย
- หอมหัวใหญ่สีเหลือง (หั่นเป็นชิ้นขนาด 1 นิ้ว) 1 หัวเล็ก
- ข่าหั่นแว่น 5 แว่น
- หอมแดงใหญ่สับหยาบ 1 หัว
- น้ำปลา 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลทรายแดงอ่อน 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือทะเลหยาบ 1 1/2-2 ช้อนชา
- มะเขือเทศเชอร์รีผ่าครึ่ง 1 ถ้วย
- เห็ดแชมปิญองสดตัดก้านออกแล้วผ่าเป็น 4 ชิ้น 1 แพ็ก (8 ออนซ์)
- กระเทียมสับละเอียด 5 กลีบ
- พริกขี้หนูไทยทุบพอแตก 15-20 เม็ด
- น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
- กุ้งใหญ่ (แกะเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก ตัดหางทิ้ง) 1 ปอนด์
- น้ำมะนาวสด (ประมาณ 4 ผล) 1/2 ถ้วย
- ต้นหอมซอยเป็นท่อนขนาด 1/2 นิ้ว 3 ต้น
- ผักชีสดซอย 1/2 ถ้วย
- ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
วิธีทำ
- ต้มน้ำสต๊อกกุ้งในหม้อให้เดือดด้วยไฟปานกลาง ใส่หอมหัวใหญ่ ข่า และหอมแดง เร่งไฟแรงให้น้ำเดือดจัด แล้วใส่น้ำปลา น้ำตาล เกลือ มะเขือเทศ เห็ด กระเทียม และพริก
- ตักน้ำซุป 1 ทัพพีใส่ถ้วยเล็ก ละลายน้ำพริกเผาให้เข้ากัน แล้วเทกลับลงหม้อ คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่กุ้ง น้ำมะนาว ต้นหอม ผักชี และใบมะกรูด ต้มต่อจนกุ้งสุกพอดี เนื้อขุ่นและเด้ง ประมาณ 2-3 นาที ปิดไฟ ยกเสิร์ฟร้อนๆ
หมายเหตุ : ข่าสดหายากมากในสหรัฐอเมริกา แนะนำให้หาซื้อแบบแช่แข็งจากเอเชียนมาร์เก็ต คุณภาพสม่ำเสมอและใช้แทนได้ดี
เอื้อเฟื้อสูตรอาหารและรูปภาพ
เชฟนก-จุฑาทิพ สุนทรนนท์
ร้าน Kalaya 4 W Palmer St, Philadelphia, PA 19125 สหรัฐอเมริกา
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ kalayaphilly.com
Tag:
Chef’s signature dish, ร้านอาหารไทย, อาหารใต้
ความคิดเห็น