จากร้านเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ตรงหัวมุมถนนในซอยสุขุมวิท 31 มานานเกือบ 30 ปี สู่คาเฟ่ที่ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นแม่ยังรุ่นลูก จุดเด่นอยู่ที่เบเกอรี่จากสูตรของคุณแม่เจ้าของร้านที่แต่ก่อนเคยเปิดขายบนชั้น 2 เพื่อรับรองแขกที่เข้ามาเดินดูเฟอร์นิเจอร์จนท้องร้อง ก่อนขยายลงมาเปิดเป็นคาเฟ่ที่ชั้นล่างแทน หลังจากที่ย้ายร้านลงมา Home Work Bangkok จึงกลายเป็นคาเฟ่ที่มาพร้อมบรรยากาศน่านั่ง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Working Space ใจกลางเมืองที่เพียบพร้อมด้วยเหล่าเบเกอรี่รสละมุน เพราะทางร้านเลือกที่จะทำแป้งเองทั้งหมดด้วยการนำสูตรดั้งเดิมของคุณแม่เจ้าของร้านมารังสรรค์เป็นเมนูพายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไส้ไก่ครีมเห็ด สตูเนื้อ ผักโขม นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถปรับแต่งไส้กับหน้าพายเองได้ด้วย สำหรับอาหารจะเป็นเมนูโฮมเมดสไตล์เวสเทิร์นคอมฟอร์ตฟู้ดที่เข้าถึงง่าย เหมาะกับการนั่งกินในร้านภายใต้บรรยากาศปลอดโปร่ง โดยภายในร้านเป็นเพดานสูงและกระจกบานใหญ่รอบทิศทาง แถมใช้โทนสีขาวสลับสีไม้ดูสบายตา มีบาร์ขนาดใหญ่ที่เรียงรายด้วยเบเกอรี่และพายมากหน้าหลายตาน่าลิ้มลอง เริ่มต้นที่ Greek Yoghurt Spread Board เมนูพิเศษที่ทำร่วมกับแบรนด์ Pleased Yoghurt Bar สเปรดกรีกโยเกิร์ตโฮมเมดผสมกับทูน่าให้รสเบาๆ แต่สดชื่นมาก กินคู่กับขนมปังกรอบที่แต่งหน้าด้วยอะโวคาโดและสเปรดอกไก่มะเขือเทศเชอร์รี อร่อยลงตัว จับคู่กับ Fruit Punch เครื่องดื่มสูตรพิเศษของร้าน ให้รสเปรี้ยวอมหวานช่วยเปิดต่อมรับรสได้ดี Kale Slaw Salad with Grilled Chicken สลัดผักเคลออแกนิกคลุกเคล้าเดรสซิงสลัด ท็อปด้วยน่องไก่หมักปาปริกาและสมุนไพรย่าง ตัดเลี่ยนด้วยแอปเปิลหั่นเต๋ารสหวานอมเปรี้ยว Beef Dripping Wagyu Fried Rice ข้าวผัดมันเนื้อหอมๆ ท็อปด้วยเนื้อวากิวย่างหอมกลิ่นสโมก เพิ่มความนัวด้วยไข่แดงดิบ Pesto Spinach Fettuccine เส้นเฟตตูชินีผักโขมผัดกับซอสเพสโตรสกลมกล่อม เสิร์ฟคู่แซลมอนย่างจนหนังกรอบแต่เนื้อในสุกกำลังดี ต่อด้วย Roasted Devilled Chicken ไก่อบซอสนรกที่หมักจนเข้าเนื้อ ได้รสเผ็ดจากครีมซอสที่ราดมา มีมันบด กระเทียมย่าง และเบบี้แครอตช่วยเบรกความร้อนแรง อย่าลืมสั่งของหวานเพื่อทำให้มื้อนี้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นด้วยเมนู Open-Faced Caramalised Banana Nutella Pie แป้งพายกรอบเสิร์ฟแบบพิซซา เป็นหน้ากล้วยหอมซอสนูเทลลา กินกับไอศกรีมวานิลลารสหวานละมุน ลองสั่ง Homemade Thai Milk Tea ชาไทยสุดเข้มข้นรสหวานกำลังดีมากินไปพร้อมกันบอกเลยว่าฟิน หากมีโอกาสจะแวะไปฝากท้องอีกครั้ง

Cafe Vondervic ไลฟ์สไตล์คาเฟ่เปิดใหม่ไม่ไกลจาก BTS อารีย์ของ คุณจิน ธรรมโชติ เจ้าของร้านสูท Jin Vondervic ที่อยู่ข้างๆ กัน ตัวคาเฟ่รีโนเวตจากบ้านเก่า 4 ชั้น ออกแบบให้ทุกพื้นที่ได้เล่นกับแสงแดดธรรมชาติที่จะค่อยๆ เปลี่ยนตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเย็น “พอเราเปิดคาเฟ่ก็อยากลดทอนความจริงจังลง แล้วเพิ่มความสว่าง ความเบาเข้ามาด้วยครับ” คุณจินเล่า เพราะร้านสูทที่ทำอยู่มีคาแรกเตอร์ของร้านแบบยุโรป คาเฟ่จึงเชื่อมโยงกันด้วย แต่ผสมกลิ่นอายของความเป็นสแกนดิเนเวียนผ่านการออกแบบ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นคุณจินเป็นคนเลือกเองทั้งหมด เราจึงได้เห็นทั้งเครื่องหนัง โลหะ ไม้ และหากสังเกตให้ดีในคาเฟ่จะไม่มีสีเขียวของต้นไม้ แต่จะใช้สีน้ำตาลของกิ่งก้านมาทดแทน กาแฟของที่ร้านเป็นเมนูแบบ Back to basic ไม่หวือหวาอู้ฟู่จนเข้าไม่ถึง อาทิ แฟลตไวท์ คาปูชิโน ลองแบล็ค ลาเต้ แต่ก็มีเมนูอย่าง Vanilla Latte หรือ Caramel Latte เป็นสีสัน ส่วนเบเกอรี่มีมากถึง 15-20 เมนูต่อวัน วางเรียงโชว์โฉมในตู้กระจกบนชั้น 2 ซึ่งคุณจินได้แรงบันดาลใจจากคาเฟ่ของเกาหลีที่ให้เลือกคีบเมนูที่อยากกินด้วยตัวเอง เป็นอีกหนึ่งความสนุกในการมาที่นี่ ขนมที่เป็นภาพจำคือ Cruffin ด้วยรูปทรงแนวตั้ง ผิวกรอบตามแบบฉบับของแป้งครัวซองต์ เลือกได้ทั้ง Cruffin Pastry Cream และ Cruffin Chocolate Hazelnut กินคู่กับกาแฟได้ทั้งร้อนและเย็น Chocolate Muffin ไส้แน่นนุ่ม รสเข้มข้น และมีความหนึบเล็กๆ และที่อยากให้ลองคือ Matcha Canale ชิ้นเล็กซุกซ่อนกลิ่นรสของมัทฉะเอาไว้ แถมยังหวานน้อย กินเพลิน นอกจากนี้ยังมี Danish ที่เลือกได้ทั้งบลูเบอร์รี่และสตรอว์เบอร์รี่ Red Velvet White Choc Cookie และเมนูอื่นๆ ที่รอให้ชาวคาเฟ่ฮอปเปอร์ได้มาเลือกด้วยตัวเอง ใครแวะมาช่วงเย็นๆ อย่าลืมขึ้นไปนั่งเล่นรับลมบนดาดฟ้า

ชวนทุกคนขับรถไปหัวหิน สัมผัสประสบการณ์การกินขนมหวานให้เพลินหัวใจกว่าที่เคย BAKEitsmore Huahin ร้านขนมของคุณปุ้ย-ณวรัตน์ แนวบรรทัด เบกเกอร์คนเก่งที่หลงรักการทำขนมอยู่แล้วเป็นทุนเดิมจนตัดสินใจลงเรียนหลักสูตร Diplôme de Pâtisserie ที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ก่อนกลับมาเปิดร้านขนมหวานในรีสอร์ตเล็กๆ ของที่บ้านตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก ขนมของ BAKEitsmore Huahin มาในรูปแบบของ Dessert Experience จับขนมสไตล์ฝรั่งเศสที่โดดเด่นเรื่องรสสัมผัสมาคู่กับชาจีนกลิ่นหอมจรุงใจ ทั้งชาสกัดเย็นและชาร้อน เสิร์ฟทั้งหมด 4 คอร์สด้วยกัน ให้อารมณ์คล้ายเชฟส์เทเบิลในราคาเริ่มต้น 450 บาทต่อคน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับเรื่องรสชาติมากเป็นพิเศษ ขนมทุกชิ้นของเธอจึงผ่านกระบวนการคิดมาแล้วอย่างดี และคำนึงถึงเรื่อง Zero Waste ในการเลือกใช้วัตถุดิบ เริ่มด้วย Starter เป็นมาการองไส้แยมผลไม้ทำเอง 2 รสชาติที่บีบไส้สดตอนเสิร์ฟ ตามด้วยขนมชิ้นเล็กๆ หรือ Mignardise ที่จะเปลี่ยนทุก 3 เดือน ก่อนหน้านี้คุณปุ้ยทำชูซ์ราสป์เบอร์รีชิ้นพอดีคำให้กินพร้อมเมอแรงก์สด ตามด้วย Main Dessert ขนมหวานจานหลักที่ให้เลือก 1 เมนูจากเมนูทั้งหมด ซึ่งจะได้เลือกก่อนล่วงหน้า อาทิ Matcha Choux Forest ชูซ์รูปน้องเห็ด เนื้อในเป็นเพสตรีครีมมัตฉะและกานาชมัตฉะสุดเข้มข้น หลังจากนั้นเป็น Confectionery เมนูสดชื่นล้างปากเป็นผลไม้กวนที่ทำจากผลไม้สด แล้วจบด้วย Finishing เมนูทั้งหมด เจลลีน้ำชาในถ้วยชาแสนน่ารัก แถมระหว่างคอร์สคุณปุ้ยก็จะคอยอธิบายขนมแต่ละชิ้นให้ฟังกันเพลินๆ ใครอยากชิมขนมฝีมือคุณปุ้ย อย่าลืมจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันผ่าน Facebook : BAKEitsmore at Huahin (ไม่รับวอล์กอิน)   สาวเก่งคนนี้จะได้มีเวลาเตรียมขนมอร่อยๆ ไว้ต้อนรับทุกคน

ร้านครัวซองต์โลโก้หมาป่าสุดเท่ของ คุณมายด์-กีรติ อัศวเวชมงคล เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ที่ลิโด้ สยาม ก่อนที่เทรนด์ครัวซองต์จะฮอตฮิตในบ้านเรา ต่อมาจึงขยับขยายมาเปิดสาขา 2 ที่ตลาดบองมาร์เช่พร้อมที่นั่งสบายๆ และล่าสุดกับสาขา 3 ซอยนาคนิวาส 37 พร้อมเมนูบรันช์ คุณมายด์เป็นศิษย์เก่า เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ทั้งหลักสูตร The Professional Thai Cuisine และหลักสูตร The Art of Bakery ก่อนจะทำงานเป็นล่ามอยู่ที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต นานร่วม 10 ปี ความรู้เรื่องอาหารและขนมของเธอจึงอัดแน่นเต็มกระเป๋า เห็นได้จากการครีเอตครัวซองต์ทั้งไส้คาวและไส้หวานกว่า 30 รสชาติ ความโดดเด่นของครัวซองต์ร้านนี้คือใช้เนยแท้นำเข้าจากฝรั่งเศสทั้งหมด ไม่ใช้มาร์การีน ไม่มีสารเสริม  และใช้เวลาในการขึ้นโดนานประมาณ 3 วัน ผิวนอกกรอบเนื้อในนุ่มอร่อย อย่าพลาด Tiger Prawn ใช้กุ้งลายเสือของไทยเนื้อสดหวาน ผัดกับมันกุ้งหอมนวลท็อปด้วยชีสและไข่กุ้ง อุ่นร้อนๆ ก่อนกินไส้ด้านในจะเยิ้มและหอมมาก Truffle Double Cheese ครัวซองต์ไส้ทรัฟเฟิลเพสต์หอมฟุ้ง เพิ่มความฟินด้วยชีส 2 ชนิด Smoked Salmon Croissant ไส้ครีมชีสที่ปรุงรสด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศ บนหน้าเป็นสโมกแซลมอนรสเค็มอ่อนๆ และผักชีลาวเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่น และไส้หวานอย่าง Coffee Caramel Macadamia​ ​ เนื้อในซ่อนไส้กาแฟเอาไว้ ส่วนบนหน้าเป็นคาราเมลน้ำผึ้งหอมหวาน แล้วท็อปด้วยแมกคาเดเมีย กินด้วยกันแล้วจะได้รสขมเล็กๆ และกลิ่นหอมของกาแฟที่ทำให้ครัวซองต์ชิ้นนี้ไม่หวานจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีโทสต์จากโชกุปังเหนียวนุ่ม เลือกจับคู่กับไอศกรีมหรือแยมโฮมเมดก็ดีไม่แพ้กัน คนรักเบเกอรี่พลาดไม่ได้แล้ว

นั่งอยู่ในดวงใจของสวีตเลิฟเวอร์มาหลายปี ก็ได้เวลาแล้วที่ Anri Bakery ร้านเบเกอรี่ชื่อดังจากเมืองโอซาก้าจะมี Flagship คาเฟ่กับเขาสักที งานนี้ทางร้านเลือกมาปักหมุดเซ็นทรัลเวิลด์ (ชั้น 3) เป็นที่แรกของทวีปเอเชียเลยนะ ดื่มด่ำบรรยากาศอบอุ่นสไตล์ญี่ปุ่นที่ได้จากเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลนวล สลับกับสีแดงสดของแอปเปิ้ล สีประจำแบรนด์ที่สายหวานต่างก็จำได้ ไปด้วยกันได้ดีกับผนังสีขาวแดงที่แกะสลักเป็นรูปภูเขา แถมยังมีต้นแอปเปิ้ลแซมเข้ามาเพื่อสื่อถึงสวนแอปเปิ้ลแห่งเมืองอาโอโมริ แหล่งวัตถุดิบที่สำคัญของร้าน ฟินกับ The Best Apple Pie From Japan ตามคอนเซ็ปต์ของ Anri Bakery เช่นเคย พายแอปเปิ้ลอาโอโมริทำสดใหม่ฝีมือเชฟญี่ปุ่น ตัวแป้งส่งตรงมาจากเมืองโอซาก้า รีดทับซ้อนกันถึง 48 ชั้น กัดส่วนไหนก็เจอแอปเปิ้ล 2 สายพันธุ์จากเมืองอาโอโมริอย่าง ฟูจิ (Fuji) รสเปรี้ยวนิดๆ สดกรอบ และ ซันทสึการุ (Sun Tsugaru) รสหวานฉ่ำ แป้งส่วนตรงกลางจะทาด้วยครีมคัสตาร์ดรสหวานหอม ก่อนทาด้วยแอปริคอตเกลซ รสหวานหอมอีกที ต้อนรับด้วยเมนูฤดูกาล Fresh Strawberry Pie แป้งพายสไตล์ญี่ปุ่นกรอบนอกนุ่มใน สอดไส้คัสตาร์ดรสหวานหอม ตัดด้วยรสเปรี้ยวอมหวานของสตรอว์เบอร์รีสดสัญชาติญี่ปุ่น ต่อด้วย Aomori Apple Pie เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน พายสูตรพิเศษ 48 ชั้น ให้สัมผัสนุ่มและกรอบ เข้ากันได้ดีกับแอปเปิ้ลสายพันธุ์จากเมืองอาโอโมริ เพิ่มความฟินอีกขั้นด้วยครีมคัสตาร์ด ก่อนทาด้วยแอปริคอตเกลซ เอาใจคนเลิฟช็อกโกแลตด้วย Chocolate Aomori Apple Pie เปลี่ยนแป้งพายหอมกลิ่นเนยมาเป็นรสช็อกโกแลตก็เข้าที ภายในยังมีไส้แอปเปิ้ลชิ้นเต็มคำอยู่เช่นเคย Sweet Potato Pie โดดเด่นด้วยรสหวานธรรมชาติ ปราศจากน้ำตาลจากมันหวานแห่งเกาะชิโกะกุ เคล้าแป้งพายสูตรพิเศษที่หลายคนติดใจ สาวกมันม่วงต้องนี่ Purple Potato Pie พายสไตล์ญี่ปุ่น แป้งฉ่ำในแต่ภายนอกผิวกรอบเล็กๆ ภายในสอดไส้มันม่วงรสหวาน เนื้อแน่นที่นำเข้าจากเกาะคิวชู เด็กอ้วนถูกใจ Cornet Cream เมนูในตำนานที่ทางร้านนำกลับมาขายอีกครั้ง พายกรอบรูปกรวยโฮมเมด มิ๊กซ์กับครีมเนื้อเนียน รสหวานหอมลงตัวที่สุด ต่อด้วย Original Kouign ควินอามานสไตล์ญี่ปุ่น แป้งนุ่มฟู ได้รสหวานฉ่ำจากคาราเมลทำเอง Choco Banana Kouign ควินอามานเนื้อนิ่มได้รสเข้มของช็อกโกแลตชั้นดี เข้ากับกับกล้วยสดและซอสคาราเมลอย่างยิ่ง แฟนคลับครัวซองต์อย่าลืมสั่ง Mini Croissants มินิครัวซองต์แสนอร่อย ที่ทางร้านใช้แป้งพายซิกเนเจอร์มาครีเอท มีหลากหลายรสชาติให้ชวนชิม ทั้งรสดั้งเดิม ช็อกโกแลต แยมแอปปริคอต Almond Pie แป้งพายสูตรเด็ดกรอบๆ ได้รสหวานฉ่ำจากน้ำผึ้งแท้ ก่อนท็อปด้วยอัลมอนด์จุใจ Yuzu Pie รสหวานอมเปรี้ยวของแยมส้มยุสุแห่งเกาะชิโกะกุ สลับชั้นกับแป้งพายกรอบหอมกลิ่นเนย จิบคู่กับดริ้งก์ชื่นใจอย่าง Aomori Apple Juice น้ำแอปเปิ้ลอาโอโมริรสเปรี้ยวอมหวาน Aomori Apple Soda เติมความซาบซ่ากันอีกนิด จะเป็นมัตฉะหรือกาแฟที่นี่ก็มีนะ

ยินดีต้อนรับสู่ Filsandfille (ฟีส แอนด์ ฟี) คาเฟ่ประตูสีแดงในซอยประดิษฐ์มนูธรรมที่แวะมากี่ครั้งก็ประทับใจ ที่นี่เป็นห้องครัวเบเกอรี่แสนสนุกของคุณนิ่ม-จิรนันท์ เอียดแก้ว ศิษย์เก่า เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต หลักสูตร Diplôme de Pâtisserie ที่เปิดคาเฟ่ตามความฝันของตัวเอง   คุณนิ่มเล่าย้อนไปอย่างอารมณ์ดีว่าสมัครเรียนแบบไม่มีพื้นฐานการทำขนมอบเลย แต่ด้วยความชอบและความท้าทายที่ต้องเจอในแต่ละวันทำให้เธอสนุกกับการเรียนมากเป็นพิเศษ ชื่อร้านเป็นภาษาฝรั่งเศสหมายถึงลูกชายและลูกสาว เพราะเริ่มต้นจากการรวมตัวของ 4 พี่น้องที่มีความถนัดแตกต่างกันทั้งขนม กาแฟ และคราฟต์เบียร์ ขนมของคุณนิ่มเป็นสไตล์ฝรั่งเศสที่มีเนื้อสัมผัสหลากหลายในหนึ่งชิ้น เต็มไปด้วยสีสันจากผลไม้ประจำฤดูกาลและดอกไม้กินได้ จัดเสิร์ฟในจานวินเทจที่ทำให้ดูน่ากินขึ้นมาก Vanilla Crème Brûlée แครมบรูเลตกแต่งด้วยเบอร์รีหลากชนิดและดอกไม้ ความสนุกอยู่ที่การใช้ช้อนกะเทาะคาราเมลกรอบๆ บนหน้าให้แตกแล้วตักกินพร้อมแครมบรูเลวานิลลา Opera Cake เค้กโอเปราที่ตั้งใจทำให้หน้าตาออกมาคลาสสิกที่สุด ชั้นล่างสุดเป็นอัลมอนด์สปันจ์เค้ก สลับชั้นด้วยคอฟฟี่บัตเตอร์ครีม ช็อกโกแลตกานาช เกลซช็อกโกแลต แล้วตกแต่งด้วยดาร์กช็อกโกแลต ต่อด้วย Classics Mille-Feuille เมนูที่ใช้เวลาเตรียม 3 วัน แป้งพัฟรีดด้วยมืออบกรอบสลับชั้นกับครีมรสละมุน และจะประกอบเป็นชิ้นเมื่อสั่งเท่านั้น ยังมีเมนูประจำฤดูกาล Marian Plum Sticky Rice ชั้นล่างเป็นทาร์ตผสมผิวเลมอน ข้าวเหนียวมูน ครีมมะยงชิด ท็อปด้วยเนื้อมะยงชิดสดรสหวานอมเปรี้ยวตามธรรมชาติ จบมื้อนี้ด้วย Cold Brew Yuzu กาแฟโคลด์บริวที่ใช้ไซรัปยูซุทำเองผสมผสานกับยูซุพูเร่ของเกาหลี แก้วนี้สดชื่นดีเชียวล่ะ

หากใครเป็นคอมัตฉะ ต้องเคยได้ยินชื่อของ Grow tea.studio สโลว์บาร์ชาสุดฮอตที่ซ่อนตัวอยู่ซอยสุทธิสารมาบ้างอย่างแน่นอน ล่าสุดกับการเปิดบ้านหลังใหม่ย่านพร้อมพงษ์ก็ทำให้ประทับใจได้อีกเช่นเคย ทั้งพื้นที่ร้านที่กว้างขวางกว่าเดิม เพิ่มเติมด้วยหลากหลายเมนูใหม่น่าลิ้มลอง จุดเด่นของสาขานี้ยกให้การเลือกใช้โทนสีครีมและน้ำตาลอ่อนที่มาช่วยเสริมความอบอุ่นและความสงบได้มากกว่าสาขาแรก รวมถึงตัวเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่กลางร้านที่นอกจากจะใช้ครีเอตเครื่องดื่มสุดพิเศษให้ทุกคนได้ชมลวดลายการชงชาแบบแก้วต่อแก้ว ยังสามารถนั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องชากับเจ้าของร้านได้อย่างเป็นกันเอง เริ่มด้วยเมนูใหม่อย่าง Collage Milk Matcha (185.-) แก้วที่รวมจุดเด่นของอูจิมัตฉะมา Collage ไว้ด้วยกัน หลากหลายเทสโน้ตในหนึ่งคำอูมามิกลมกล่อมลงตัว ต่อด้วย Frosty Oonlong (165.-) ชาอู่หลงสดจากไร่ภาคเหนือของไทย ที่ให้กลิ่นหอมของดอกไม้หลากชนิดรสเข้มแต่ไม่ขมเบาสบายดื่มง่าย แนะนำจับคู่กับ Dorayaki (85.-) โดรายากิซิกเนเจอร์ แป้งหนึบนอกนุ่มในสอดไส้ถั่วแดงกวนหวานพอเหมาะ หรือจะเลือกเป็นของหวานสุดพิเศษเฉพาะสาขาใหม่ Fruits Full Parfait (285.-) พาร์เฟ่ต์ที่เสิร์ฟคัสตาร์ดพุดดิ้งมากับผลไม้ตามฤดูกาล ไอศกรีมวานิลลา และมินิโดรายากิ หอมหวานฉ่ำกินแล้วสดชื่น

ตั้งแต่รู้จักครั้งแรกเมื่อปลายปี 66 “Duck Donuts” ร้านดังจากอเมริการ้านนี้ก็รั้งตำแหน่งร้านโดนัทเบอร์หนึ่งในใจเราแบบไม่เคยหลุดโผ ไฮไลท์คือโดนัทชิ้นโต แป้งนุ่มนิ่ม เคี้ยวฉ่ำลิ้น ท็อปปิ้งมีวาไรตี้ให้เลือกมาก และบรรยากาศสดใสเหมือนอยู่ในสวนสนุกที่ทำให้เรารู้สึกกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง วันไหนอยากเติมความหวานชื่นก็มาได้ทุกวันแบบนันสต็อป เจ้าเป็ดเหลืองเซเลบตัวน้อยของร้านจะยืนคอยต้อนรับ พร้อมชูเมนูน่ารักชวนกินมาให้เราได้เลือกเพียบเหมือนเดิม เริ่มต้นกันที่ Donut Sandwiches Premium เต็มปากเต็มคำกับโดนัทพรีเมียมชิ้นโต เนื้อนุ่มแน่น สอดไส้เบคอน ไข่ และชีส และซอสสูตรลับฉ่ำๆ หวานกำลังดี ต่อด้วย Classic Donut Sundae โดนัทต้นตำรับที่มีเนื้อแน่นเป็นพิเศษ ท็อปด้วยไอศกรีมซันเดลูกโต หวานฉ่ำถูกปาก วันไหนร้อนจัด สั่งเมนูนี้ไปดับร้อนได้ ชิ้นนี้ยิ่งห้ามพลาด Strawberry Confitti โดนัทมีรูเคลือบน้ำตาลรสสตรอว์เบอร์รีกรอบๆ ที่โดนลิ้นก็แทบละลายหมดแล้ว ด้านบนโรยท็อปปิ้งเพิ่มกิมมิกกรุบกรับยามเคี้ยว Chocolate Caramel Crunch โดนัทมีรูเคลือบช็อกโกแลต โรยถั่วราดด้วยซอลต์คาราเมล หวานๆ เค็มจางๆ ที่ปลายลิ้น Coconut Island Bliss โดนัทเคลือบช็อกโกแลต ท็อปปิ้งด้วยถั่วและมะพร้าว อร่อยตีคู่มาแบบสูสี เครื่องดื่มแนะนำ Salted Caramel หวานสุดใจยกให้แก้วนี้ ใครไม่กินหวานบอกน้องพนักงานให้ลดระดับได้ อีกแก้วคือ Latte จะดื่มที่ร้านก็ได้ หรือซื้อติดมือกลับบ้านก็ดี หอมหวานกลมกล่อม จิบได้ทั้งวัน    ทางร้านมีโปรโมชั่นมาเอาใจคนรักโดนัทเรื่อยๆ อย่าลืมกดติดตามเพจจะได้ไม่พลาดความอร่อยนะคะ

ชวนไปฮีลใจให้หายเหนื่อยในคาเฟ่สไตล์โฮมมีวินเทจที่ Camelot Café คาเฟ่ตึกสูงที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยเจริญกรุง 45 บอกเลยว่าบรรยากาศอบอุ่นและไวบ์ดีมาก คาเฟ่นี้ตั้งชื่อตามหนังดังอย่าง Camelot หนังดราม่าแฟนตาซีอเมริกันปี 1967 ซึ่งเป็นหนังที่เจ้าของร้านชื่นชอบจึงเป็นที่มาของชื่อร้าน ตึก 3 ชั้นที่พร้อมต้อนรับเราด้วยประตูไม้บานใหญ่ เมื่อก้าวเข้าไปด้านในต้องเป็นใจฟู เพราะเจ้าของร้านตั้งใจหยิบจับและตกแต่งออกมาในสไตล์โฮมมีผสมกับความวินเทจหยอกล้อกับความดิบจากผนังปูนเก่า มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ไม้และหนังต่างๆ และเติมเต็มสีสันให้น่ารักมากยิ่งขึ้นด้วยตุ๊กตาและของเล่นของลูกสาวและของสะสมต่างๆ ทำให้รู้สึกว่าอากาศหนาวกำลังมาเยือนอยู่ตลอดเวลา (เจ้าของร้านแอบกระซิบว่ายังไม่เปลี่ยนธีมเพราะยังไม่มีเวลาเก็บ) นอกจากชั้นล่างจะเปิดเป็นคาเฟ่แล้วเมื่อเดินขึ้นไปยังชั้น 2 เปิดเป็นโซนไวน์บาร์ที่ดีไซน์ออกเป็นแนว 80s พร้อมมุมโซฟาและเครื่องดนตรีที่เต็มไปด้วยแผ่นเสียงรุ่นเก่าไว้เปิดฟังเพลินๆ พร้อมจิบเครื่องดื่มแบบชิลๆ สำหรับชั้น 3 เป็น living Room ไว้สำหรับเป็นมุมอ่านหนังสือและห้องนั่งเล่นไว้ให้เอนจอยกันกับเพื่อนๆ ได้สบาย สำหรับอาหารที่นี่ก็รังสรรค์ได้อย่างโฮมมีเช่นกัน โดยเริ่มตั้งแต่การทำขนมปังซาว์โดเองไปจนถึงรีดเส้นพาสตาสด ซึ่งครั้งนี้เราไปเราได้ไปลิ้มลอง Carbonara Pasta พาสตาเส้นเฟตตูชินีสดที่รีดกันวันต่อวัน นำมาผัดเส้นสุกกำลังดี ได้รสชาติเข้มข้นและครีมมี หอมกลิ่นเบคอน ตักจิ้มคู่กับไข่แดงสดก็เพิ่มความครีมมีได้อย่างทวีคูณ Signature Steak Sandwich Wagyu เรียกได้ว่าเป็นพระเอกของร้าน เนื้อวากิวย่างสุกระดับมีเดียมแรร์ เสิร์ฟมาในขนมปังซาว์โดเนื้อนุ่มหนึบ พร้อมกับสลัดต่างๆ บอกได้คำเดียวหากใครมาแล้วห้ามพลาด! Biscoff Caramel Cheese Cake ชีสเค้กเนื้อสัมผัสแน่น ฐานด้านล่างเป็นคุกกี้บิสคอฟบด ให้ความกรุบกรอบเพิ่มความอร่อยให้กับครีมชีสได้เป็นอย่างดี ราดด้วยซอสคาราเมล หวานกำลังดี อย่าลืมปิดท้ายด้วย Iced Red Thai Tea ชาไทยที่เสิร์ฟมาในรูปแบบไอซ์บอล หอมกลิ่นชา เสิร์ฟมาพร้อมกับนมจืดและไซรัป ทั้งบรรยากาศและรสชาติของอาหารก็เติมเต็มวันธรรมดาๆ ให้ใจฟูได้

เปลี่ยนบรรยากาศการกินเต่าบินที่ปกติจะสั่งได้แค่เครื่องดื่ม แต่ล่าสุดทางแบรนด์ได้เปิด Pop-up Cafe ให้เหล่าฟู้ดดี้ไปเปิดประสบการณ์การสั่งของหวานผ่านตู้เต่าบินที่คุ้นเคยที่ เต่าบินคาเฟ่ (Tao Bin Cafe) สาขาแรก เดอะมอลล์บางกะปิ ทางร้านยังคงคอนเซ็ปต์การสั่งอาหารและเครื่องดื่มที่ตู้เหมือนเช่นเคย แต่ที่พิเศษสุดๆ ก็คือที่นี่เขาเน้นเสิร์ฟขนมหวานและกาแฟสด โดยสามารถสั่งผ่านตู้เต่าบินทางด้านหน้าร้านได้เลย รับรองว่าทุกคนจะต้องประทับใจกับรสชาติใหม่ๆ ของแต่ละเมนูที่ทางแบรนด์นำเสนออย่างแน่นอน อย่าพลาด Tao Pang Original ขนมปังชิ้นใหญ่สไตล์ญี่ปุ่น หอมนุ่มชุ่มเนย เสิร์ฟคู่ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ และซอสหลากรส เราเลือกเป็นไอศกรีมรสนมเนื้อเนียนนุ่ม มีความหอมมันและหวานเล็กน้อย เพิ่มรสชาติด้วยซอสสตรอว์เบอร์รีรสเปรี้ยวอมหวาน อร่อยจนวางช้อนไม่ลง Soft Serve Thai Tea ไอศกรีมชาไทยเนื้อเนียนละเอียด ได้กลิ่นหอมของชาชัดเจน รสหวานไม่มาก แถมติดขมที่ปลายลิ้น บอกเลยว่าเข้มข้นสุดๆ ให้กินหมดถ้วยคนเดียวก็ไหว กินเสร็จแล้วอย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ที่ Photo Booth กันนะ

แม้เพียงเดินผ่านก็คงต้องสะดุดตากับตุ๊กตาหลากสีสันยอดฮิตที่นั่งเรียงกันเป็นแถวบนชั้นวางกว่า 20 คาแรกเตอร์ และพี่หมีใหญ่ Love-a-Lot Bear Standy ที่ยืนแจกความสดใสอยู่หน้าร้าน Care Bears Cafe คาเฟ่คาแรกเตอร์น้องหมีที่จะทำให้คุณ 'ยิ้มกว้าง' ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็พบเจอแต่เจ้าหมีแคร์แบร์ที่ยกขบวนมาต้อนรับเรากันแน่นร้าน และยังมาพร้อมกับสินค้า Care Bears ลิขสิทธิ์แท้อีกหลากรูปแบบ มีให้เลือกช้อปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หมอนผ้าห่ม เคสโทรศัพท์ เครื่องเขียน พวงกุญแจ กระเป๋า และสินค้า Exclusive Merchandise ที่ผลิตขึ้นเพื่อวางจำหน่ายเฉพาะ Care Bears Cafe เท่านั้น นอกจากนี้ทางคาเฟ่ยังมีพื้นที่ที่สามารถนั่งรับประทานของหวานได้อีกด้วย แนะนำเป็น Soft Serve Ice Cream Cone รส Strawberry Yogurt ให้รสหวานอมเปรี้ยว สดชื่นมาก ต่อด้วย Hokkaido Milk เนื้อไอศกรีมเนียนนุ่ม มีความหอมละมุนลิ้น รสชาติหวานกำลังดีเลย เครื่องดื่มก็มีให้ลองทั้ง Thai Milk Tea ชาไทยรสเข้มข้น หอมกลิ่นชา ท็อปด้วยฟองนมและคุกกี้หน้าหมีน้อย และ Caramel Milk รสชาติหวานละมุน หอมกลิ่นคาราเมล กินคู่คุกกี้รูปหมีและวิปครีม อร่อยไม่แพ้กัน อย่าช้อปเพลินจนลืมสั่งกันนะ  

คาเฟ่ฮอปเปอร์ที่ตระเวนเช็คอินมาแล้วทั่วทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่ยังไม่เจอคาเฟ่ที่ได้บรรยากาศของป่าเขา เราแนะนำ Kenora Park n Play คาเฟ่ย่านติวานนท์ที่จำลองบรรยากาศสดชื่นของเขาใหญ่มาไว้ชานเมือง บริเวณร้านกว้างขวางรองรับลูกค้าได้จำนวนมากแบบไม่แออัด เหมาะกับการพักผ่อนของทุกคนในครอบครัว จากทางเข้าด้านหน้าจะมุ่งสู่ตัวอาคารชั้นเดียวที่เป็นทั้งส่วนต้อนรับและศูนย์รวมความอร่อย ดีไซน์โดดเด่นทรงเอเฟรม กรุกระจกให้มองเห็นพื้นที่สีเขียวด้านนอก เสมือนกระท่อมน้อยในป่าใหญ่ ส่วนการตกแต่งด้านในเน้นความโปร่งโล่ง โทนสีอบอุ่นเพื่อให้ล้อไปกับธรรมชาติที่รายล้อม รวมถึงมีสเปซให้ยืดแขนขาได้สบายๆ แต่ส่วนใหญ่ลูกค้ามักจับจองโซนเอาท์ดอร์ที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ มีสนามเด็กเล่นให้น้องๆ หนูๆ ได้ปล่อยพลัง รวมถึงใครอยากนั่งพักเอนกายริมลำธาร ฟังเสียงน้ำไหลเซาะโขดหิน ก็ชาร์ตพลังได้อย่างไม่รู้ตัวเลยล่ะ เพราะเป็นคาเฟ่ของทุกคนในครอบครัว อาหารจานเด็ดจึงเน้นที่กินง่ายถูกปากทุกเจนเนอเรชั่น อาทิ Spaghetti Creamy Shrimp Sauce สปาเก็ตตีครีมซอสไข่กุ้ง เส้นสปาเก็ตตี้ลวกได้นุ่มหนึบ คลุกเคล้ากับซอสไข่กุ้งที่มีความครีมมี่ หอมมันและเข้มข้น มีเนื้อสัมผัสจากน้ำสต๊อกที่ทำจากเปลือกกุ้งสูตรลับของร้าน เสิร์ฟพร้อมขนมปังกระเทียมอบร้อนๆ รสเค็มๆ นัวๆ หอมกลิ่นกระเทียม ถัดมาเป็น ไก่กรอบซอสหัวหอม ไก่ทอดสูตรเด็ดที่เด็กปลื้ม กรอบนอกนุ่มใน ไร้ความมันส่วนเกิน ราดด้วยซอสหัวหอมเพิ่มความเข้มข้นไปอีกขั้น ถ้ารู้สึกว่าเลี่ยนเกินไปก็มีเลมอนให้บีบตัดรสชาติ ส่วนอาหารจานเดียวยอดนิยมยกให้ Chilli and Garlic Pork Belly with Omurice ข้าวไข่ข้นหมูสามชั้นคั่วพริกเกลือ รสชาติกลมกล่อมเจือเผ็ดปลายลิ้น กินแล้วคิดถึงรสมือแม่ที่คุ้นเคย อาหารของร้านอาจไม่ได้มีวาไรตี้ให้เลือกมาก เพราะคัดมาแล้วว่าดีต่อใจที่สุด จะสั่งเมนูไหนก็ไม่ผิดหวัง นอกจากอาหารที่ควรค่ากับการฝากท้อง ที่นี่ยังเด่นเรื่องเครื่องดื่มที่มีทั้งชา กาแฟ น้ำผลไม้ให้สั่งได้อย่างจุใจ ร้านสวย ฟีลธรรมชาติ ไม่ต้องขับรถไกล ก็ได้เพลินใจ แถมสบายพุง  

เมื่อนึกถึงร้านโดนัทรสชาติดีสักร้าน อย่างไรซะก็จะมองข้าม “Brassica bkk” ไปเสียไม่ได้ ร้านโดนัทสไตล์อังกฤษลูกโตๆ เนื้อนุ่มหนึบของคุณเมย์ – วรนุช เตชะธนะชื่น และชอง เหวิน (Cong Wen) เชฟฝีมือดีจากประเทศสิงค์โปร์  ที่ครั้งนี้ขยายโลเคชั่นใหม่มาที่ Emsphere (BTS พร้อมพงษ์) ตัวร้านโดดเด่นด้วยสีไวน์แดง เพื่อลิ้งก์กับสาขาแรกที่นางลิ้นจี่ พร้อมให้คุณลิ้มลองโดนัทโฮมเมดทอดใหม่สดๆ ร้อนๆ ก่อนนำไปคลุกน้ำตาลให้ทั่ว สอดไส้กวนเองรสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นครีมวานิลลา แยมสตรอว์เบอร์รี เนยถั่ว ช็อกโกแลต (ไส้มีให้เลือกเยอะมาก) ที่ทางร้านเขาจะบีบสดใหม่ ไม่ทำไว้รอลูกค้าเพื่อสัมผัสที่ดีของโดนัท แถมสาขานี้ยังมีโดนัทไส้คาวอย่างไก่ทอด เอาไว้เอาใจสายฟู้ดอีกด้วย เริ่มชิมจาก Fried Chicken Nanban San Doughnut ไก่ทอดกรอบนอกนุ่มในร้อนจี๋ เข้ากันดีกับแป้งโดนัทเนื้อเหนียวนุ่ม หอมกลิ่นเบิร์นไฟอ่อนๆ และซอสนัมบังรสครีมมีเข้มข้น ได้รสเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศหอมๆ เต็มพิกัด ตามด้วยเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Leche Flan Doughnut Sandwich คัสตาร์ดคาราเมลเนื้อเนียนนิ่ม เปี่ยมไปด้วยรสหวานของคาราเมล กัดพร้อมแป้งนัทเนื้อฟูๆ มีความหนึบเล็กๆ ก่อนเสิร์ฟเบิร์นไฟเล็กน้อย Creme Brulee Doughnut เมนูดาวเด่นประจำร้านตลอดกาล โดนัทลูกใหญ่ๆ แป้งนุ่มนิ่ม สอดไส้ครีมวานิลลาคัสตาร์ดที่ทำมาจากฝักวานิลลาแห่งเกาะมาดากัสการ์ รสหวานมันสุดฟิน ตัวนี้ยังไม่เคยลอง Pistachio & Raspberry Doughnut โดดเด่นด้วยครีมพิตตาชิโอรสครีมมี ตัดด้วยรสเปรี้ยวอมหวานของแยมราสป์เบอร์รีรสเปรี้ยว ต่อด้วย Lemon Cheesecake Doughnut ที่เรารัก เพลิดเพลินกับเลมอนเคิร์ดรสเปรี้ยวกลมกล่อม ไปด้วยกันได้ดีกับครีมวานิลลาคัสตาร์ดหวานมัน และแป้งโดนัทเนื้อนิ่ม Kaya Butter Brulee Doughnut แป้งโดนัทโฮมเมดเบิร์นไฟ ประกบสังขยาใบเตยทำเองรสหวานพอเหมาะ หอมกลิ่นใบเตยละมุน และเนยเค็มนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ส่วนเครื่องดื่มเราแนะนำ HK Tea ชานำเข้าจากประเทศฮ่องกง กลิ่นหอมชวนลิ้มลอง ผสานกับมะนาวและน้ำผึ้ง ปิดท้ายด้วย Root Beer ซาบซ่าชื่นใจ โดนัทแบบไม่มีไส้ก็มีขายนะ

เหมือนหลุดไปในอาณาจักรขนมหวาน Scene Bangkok ร้านสวยบนถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ด้านหน้าเป็นร้านเบเกอรี่ที่ดีไซน์แบบโมเดิร์นแฝงด้วยด้วยกลิ่นอายฝรั่งเศส มีชั้นลอยที่เมื่อมองลงมาจะเห็นบาร์เปิดแบบ 360 องศา รายล้อมด้วยขนมที่ทั้งอร่อยและน่ารักตามแบบฉบับของทางร้าน ด้านนอกเป็น Scene Secret Garden และบ้านฮอบบิท ที่นี่รวมเมนูซิกเนเจอร์ของ Scene Bangkok เอาไว้ด้วยกัน ทั้ง Abstract มูสเค้กสีสวยที่ได้แรงบันดาลใจจากงานศิลปะ ได้ทั้งรสชาติสดชื่นจากยูซุและรสเปรี้ยวอมหวานจากสตรอว์เบอร์รี มีเมล็ดฟักทองกรุบกรอบมาเพิ่มรสสัมผัส Leche Flan Danish ขนมปังครัวซองต์กรอบๆ สอดไส้ครีมนมสดรสละมุน ท็อปด้วยครีมคาราเมลหอมหวาน Macadamia & Almond Salted Caramel Croissant แป้งครัวซองต์ทำเป็นรูปเรือชิ้นยาว ท็อปด้วยแมกคาเดเมีย อัลมอนด์ และซอสคาราเมลสูตรพิเศษ รวมถึงครัวซองต์แป้งกรอบฉ่ำเนยก็ยังคงเป็นไฮไลต์ นอกจากขนมจะดีงาม เมนูคาวก็ห้ามพลาด เพราะทางร้านมีเซ็ตเฉลิมฉลองเทศกาลอย่าง“CHRISTMAS SPECIAL SET A” ในเซ็ตมี Onion Soup, Caesar Salad และ Mediterranean Sea Bass สเต๊กปลากระพงสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน และ CHRISTMAS SPECIAL SET B” ที่มีทั้ง Truffle Soup, Scene Garden Salad และจานหลักที่เลือกได้ระหว่าง Flat Iron with Lobster Sauce และ Pork Chops with Mushroom Sauce แต่ใครไม่อยากกินครบทั้งเซ็ตก็เลือกสั่งเมนูอะลาคาร์ตได้เลย คุ้มค่ากับการขับรถมาไกล

High Tea by Pickaboo แทบจะไม่ใช่คาเฟ่แล้ว แต่เป็นโลกคู่ขนานระหว่างความวุ่นวายบนถนนอโศกมนตรีกับความเป็นส่วนตัวด้านใน ที่มีเพียงคนรู้ใจมารวมตัวกัน การตกแต่งในร้านเน้นเฉดสีที่หลากหลายให้อารมณ์เหมือนมาปาร์ตี้ลับ บรรยากาศสนุกๆ ปลุกความมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นลวดลายบนพื้น ผนัง หรือแม้แต่บนเพดานก็ทำให้เราต้องหยุดมองด้วยความตื่นตาตื่นใจ สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือบรรดาของสะสมแปลกตาที่เดินทางมาจากทั่วโลก รวมถึง “ท่านเคาท์พิกาบู” กระต่ายมาดเท่ เซเลบประจำร้าน ที่น่ารักน่าหยิกที่สุด ชื่อร้านบ่งบอกในตัวว่าไฮไลท์จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก High Tea อาทิ Oriental Set ชุดขนมไทย ประกอบด้วย ช่อม่วง ข้าวเหนียวหน้าปลาแห้ง ลูกชุบ อาลัว เสน์ห์จันทร์ จ่ามงกุฎ ขนมไส่ใส้ และเมนูสแตนดาร์ดอย่างสคอน เลมอนพาย ปังโอช็อค และครัวซองต์ เสิร์ฟพร้อมแยมมิกซ์เบอร์รี่ จากนั้นเลือกชาได้ตามชอบไม่ว่าจะเป็นชาขาว ชาวเขียว หรือชาอู่หลงก็ได้ Continental Set ชุดนี้ไม่มีขนมไทย เปลี่ยนมาจัดเต็มเค้กและเบเกอร์รี่แทน ประกอบด้วย มินิเบอร์เกอร์พาร์มาร์  ชีสนอร์ดินี บลูเบอร์รี่พาย เรดเวลเวต อัลมอนด์ช็อก สคอน เลมอนพาย ปังโอช็อค ครัวซองต์ เสิร์ฟพร้อมแยมมิกซ์เบอร์รี่ และเลือกชาได้ตามชอบเช่นเดียวกัน ใครอยากลองเครื่องดื่มชนิดอื่น ก็มีให้เลือกสั่งทั้งกาแฟ โกโก้ และม็อกเทล พลิกดูเมนูแล้วอาจเลือกไม่ถูก เราขอแนะนำ 2 แก้วที่ห้ามพลาด ได้แก่ Rose Trip ชาขาวกับลิ้นจี่ ราสเบอร์รี และดอกกุหลาบ รสหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ และ Green Geisha ชาเขียวน้ำผึ้งมะนาวผสมผสานกับผลไม้หลายชนิด ก็ให้ความรู้สึกสดชื่นไม่แพ้กัน มาถึงร้านทั้งที เรายังมีเรื่องดีๆ มาบอกต่อ ที่นี่เค้ามีห้องลับสำหรับใครที่อยากดูไพ่ยิปซี บรรยากาศสุดขลังฟังแล้วฟินมาก แต่บุ่มบ่ามไม่ได้นะ ต้องนัดเวลาก่อน แม่หมอเค้าคิวแน่นจริงๆ

ไม่ต้องรอให้ถึงวันหยุดก็สามารถชวนชาวแก็งค์ไปกินขนม เอนจอยกับเครื่องดื่มรสละมุนได้ที่ร้านโทสต์สุดคิวท์ตาแป๊วชื่อน่ารัก “ลูกเล็กเด็กแดง” ซึ่งตั้งอยู่ในโลเคชั่นสุดป๊อปบนถนนบรรทัดทอง โดยตกแต่งมาด้วยมู้ดแอนด์โทนชวนสดใสอบอุ่นอย่าง สีแดงและขาว ที่ใครได้เดินผ่านเป็นต้องอยากเข้าไปสัมผัสความน่ารักด้านใน ทางร้านเน้นเสิร์ฟเป็นโทสต์หน้าคาวหวานคู่กับเครื่องดื่มนมและ โซดาให้อิ่มท้องเพลินใจควบคู่ไปกับเสียงเพลงเพราะๆ จากดนตรีสดที่มีให้ฟังทุกคืนวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ มาแล้วต้องลอง ครีมทรัฟเฟิลชีสโทสต์ (169.-) ชีสโทสต์เนื้อเหนียวนุ่มราดครีมทรัฟเฟิลหอมมัน ด้านบนโรยด้วยเบคอนกรุบกรอบ เสิร์ฟพร้อมซอสเทาซันไอแลนด์เข้มข้น เข้ากันอย่างลงตัว ต่อด้วย บิสคอฟฮันนี่โยเกิร์ตโทสต์ (139.-) เนื้อขนมปังเหนียวนุ่มหอมเนยราดด้วยคาราเมลและครีมโยเกิร์ต เพิ่มความหวานด้วยบิสคอฟป่นด้านบน เสิร์ฟคู่ไอศกรีมวานิลลาและครัมเบิลกรุบกรอบ หวานตัดเปรี้ยวกินแล้วไม่เลี่ยนเลย ใครชอบเมนูสไตล์ไทยสั่ง สังขยาชาไทยใบเตยโทสต์ (89.-) ขนมปังโทสต์เนยรสเค็มนิดๆ สีเหลืองนวลน่าอร่อย จุ่มกับดิปสังขยาชาไทยและใบเตย แนะนำให้จับคู่กับเครื่องดื่มอย่าง ชาเย็นหรือโกโก้ ชงแบบเข้มข้นหวานมันถูกใจสายหวานแน่นอน

LOULOU Cafe & Restaurant คาเฟ่ vibe ดีที่เปิดตัวได้ไม่นานแต่กลับมีคิวยาวเป็นหางว่าว ด้วยไอเดียการดีไซน์ร้านที่ถูกใจชาวคาเฟ่ฮอปเปอร์ แถมยัง 'ใส่ใจสิ่งแวดล้อม’ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sustainable Eco Friendly โดยตัวร้านได้หยิบยกวัสดุรีไซเคิลมาใช้ออกแบบพร้อมตกแต่งจนกลายเป็นคาเฟ่สุดเก๋ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ กระเบื้อง หรือแม้กระทั่งภาชนะบรรจุเครื่องดื่มแบบ Take Away ที่กลายเป็นกิมมิกของร้าน ออกแบบโดย Loulou BKK X Studio Cantalove ก็ล้วนเน้นเรื่อง Reduce - Reuse - Recycle 100% รู้แบบนี้แล้วบอกเลยว่าช่วยเพิ่มฟีลให้อยากเข้าไปอุดหนุนมากขึ้นเป็นกอง! นอกจากจะใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้ว อาหารของที่ร้านก็ยังได้รับการรังสรรค์จากเชฟมากฝีมือเช่นกัน เพราะคำว่า “Lou Lou” ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “อร่อย” ฉะนั้นแต่ละเมนูจึงปรุงด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี ก่อนปรับเปลี่ยนสูตรให้ถูกปากคนไทย โดยเน้นเสิร์ฟเป็นอาหารสไตล์คอมฟอร์ตฟู้ดแบบ All Dat Dining ทั้งบรันช์ สเต๊ก และพาสตา ที่นี่ยังมีเครื่องดื่มแบบ Coffee, Non-Coffee และไวน์ดีๆ ในมื้อค่ำให้ดื่มด่ำควบคู่ไปกับอาหารอีกด้วย เริ่มต้นที่ LOU LOU Pasta เส้นพาสตาผัดกับกาลิกออยล์ ปรุงรสอย่างเบามือ มีความหอมมันและเผ็ดเล็กน้อยจากพริกแห้ง กินคู่กุ้งตัวโต เพิ่มความสนุกให้การเคี้ยวด้วยไข่กุ้ง อร่อยสมกับเป็นเมนูซิกเนเจอร์ ต่อด้วย Waffle & Chicken สะโพกไก่ชิ้นใหญ่ทอดจนกรอบนอกแต่ข้างในยังฉ่ำ เสิร์ฟคู่แพนเค้กโฮมเมดเนื้อนุ่มฟู ก่อนกินแนะนำให้ราดเมเปิลไซรัปรสหวานหอมลงบนไก่หรือแพนเค้ก รับรองว่าจะติดใจ ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง Hamming Bird เป็นเค้กกล้วยผสมสับปะรดสลับเลเยอร์กับครีมชีสรสหวานละมุน เพิ่มเท็กซ์เจอร์ความกรุบกรับด้วยพิสตาชิโอและวอลนัตด้านบน และ Matcha Yuzu Soda เครื่องดื่มแสนสดชื่นด้วยน้ำยูซุผสมโซดา ให้รสเปรี้ยวๆ หวานๆ ท็อปด้วยมัตฉะรสเข้มข้น เข้ากันได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเป็นร้านที่อิ่มท้องพร้อมอิ่มใจสุดๆ

สายหวานต้องมาลอง “Coco Walk Café” คาเฟ่มะพร้าวออร์แกนิกส์ที่ตั้งอยู่ในไอคอนสยาม (บริเวณชั้น 4 ) เสิร์ฟเครื่องดื่มครีเอทจากมะพร้าวน้ำหอมออร์แกนิกส์แห่งอำเภอบ้านแพ้ว ของดีประจำจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าของคือคุณจิน-บุญศรี หาญเกียรติกล้า อดีตพีอาร์และนักการตลาดประสบการณ์กว่า10 ปี ที่ชื่นชอบการดื่มน้ำมะพร้าวจนได้แรงบันดาลใจเปิดแบรนด์นี้ในที่สุด จุดเด่นของ Coco Walk Café คือน้ำมะพร้าวมีความหวานที่คงที่ทุกแก้วทุกกระป๋อง เพราะที่ร้านใช้ “เครื่องวัดความหวาน” ได้มาตรฐานมาใช้ตรวจสอบอย่างเข้มงวด ก่อนใช้ชงเครื่องดื่มเสิร์ฟให้ลูกค้า แถมยังมีเบเกอรีอบสดใหม่เข้าคู่ไปด้วยกัน ต้อนรับด้วย มะพร้าวน้ำหอมวังชา เครื่องดื่มรสอร่อยที่เป็นการรวมตัวกันของน้ำมะพร้าวน้ำหอมรสหวานฉ่ำ นมสด และชาไทยหอมฟุ้ง ท็อปด้วยฝอยทองล้นๆ มะพร้าวน้ำหอมน้ำผึ้ง พายแอปเปิ้ล เบสเป็นตัวน้ำมะพร้าวน้ำหอมผสานนมสดครีมมีเช่นเคย เพิ่มเติมคือสดชื่นจากแอปเปิ้ลและความกรุบกรอบของครัมเบิ้ล ต่อด้วย มะพร้าวน้ำหอมนมสดลอดช่อง เอาใจคนรักขนมไทยด้วยเฉพาะ ลอดช่องโฮมเมดแป้งนุ่ม เข้ากันดีกับน้ำมะพร้าวมิ๊กซ์นมสดรสกลมกล่อม นอกจากนี้ที่ร้านยังมี มะพร้าวน้ำหอมในรูปแบบกระป๋อง รสหวานสดชื่น สำหรับสายหวานที่อยากหิ้วกลับไปกินที่บ้าน

จะเรียกที่นี่ว่าเป็นบ้านในฝันก็คงไม่เกินไปนัก Peter & Rabbit English Tea Time ฟาร์มคาเฟ่ในสวนสไตล์อังกฤษบนถนนอุทยาน พุทธมณฑล ที่จะทำให้หัวใจทุกคนพองโต ที่นี่มีทั้งบ้านต้นไม้หลังจิ๋วและสนามเด็กเล่นให้น้องๆ ได้เล่นสนุก พร้อมด้วยแก๊งกระต่ายขนปุย น้องเป็ด น้องห่านสุดน่ารักรอทักทายอยู่ แถมเรายังได้เห็นกระต่ายปีเตอร์จากเรื่อง The Tale of Peter Rabbit เป็นกิมมิกภายในร้านด้วย มาถึงเรื่องอาหาร ที่นี่เสิร์ฟทั้งเมนูคาว ขนมหวาน และเครื่องดื่ม เหมาะกับกลุ่มครอบครัว อาทิ สปาเกตตีครีมซอสไข่กุ้ง รสเข้มข้นครีมมีท็อปด้วยไข่กุ้งให้เคี้ยวเพลิน ข้าวผัดมันกุ้ง เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอย่างไข่เค็ม ขิงซอย พริกซอย และมะนาว พลาดไม่ได้กับ Mr.กระพง ปลากระพงทอดหั่นเต๋าเสียบไม้ให้กินง่ายขึ้นราดด้วยเครื่องพริกเกลือที่คั่วแยกต่างหาก ปิดท้ายด้วย Rabbit Cake เค้กรูปน้องกระต่าย ด้านในสอดไส้ซอสสตรอว์เบอร์รี่รสเปรี้ยวสดชื่นด้านล่างเป็นครัมเบิลกรุบกรอบ น่ารักเข้ากับบรรยากาศร้าน

ชวนชาวก๊วนไปปาร์ตี้น้ำชาต้อนรับปีมังกรแบบปังๆ กันที่ Chongdee Teahouse - โรงชาชงดี สาขาใหม่แกะกล่อง @เซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 7 ซึ่งสาขานี้มาพร้อมกับขนมตัวใหม่อย่าง ‘ขนมปังปิ้งโบราณ’ เมนูพิเศษเฉพาะสาขานี้ ชาชงดี เป็นแบรนด์ชาใต้แท้ๆ จากหาดใหญ่ที่กำลังเป็นกระแสอย่างมาก โดยสาขานี้เป็นสาขาแรกที่มีโต๊ะให้นั่งรับประทานชาดีๆ พร้อมกินคู่ขนมสูตรเฉพาะของร้าน ส่วนทางด้านของชาก็มีให้เลือกทั้ง 'ชาชงดี' (ชาใต้ล้วน) และ 'ชาชงร่วม' (ชาใต้ผสมชาไทย) ที่สามารถเลือกดื่มได้ทั้งแบบใส่น้ำแข็งหรือสเลอปี้ ซึ่งทุกแก้วจะเสิร์ฟคู่กับขนมแพริงไซส์พอดีคำ อย่างแก้วแรกนี้จะเป็น ชาชงดี เสิร์ฟคู่ปาท่องโก๋ซิกเนเจอร์ของร้าน และถัดมาคือ สเลอปี้ชาชงดี กินคู่ขนมปังปิ้งสุดพิเศษ อร่อยจนต้องยกให้เป็นตัวชูโรงของสาขาเซ็นทรัลเวิลด์เลย แต่ถ้าใครยังกินขนมไม่หนำใจ ก็สามารถสั่งแยกเป็นเซ็ตได้เช่นกัน แนะนำเป็น 'ขนมปังปิ้งโบราณ' เนื้อกรอบนอกนุ่มใน และฉ่ำไปด้วยเนย ยิ่งดิปกับน้ำตาลโตนดใส่กะทิยิ่งทวีความอร่อยขึ้นเป็นเท่าตัว