Wachu Hounoki ร้านอาหารจีน-ญี่ปุ่นไฟน์ไดนิงในย่านสุขุมวิท 63 ที่ผสมผสานทั้งเทคนิคของญี่ปุ่นและจีนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยเชฟ Hounoki เชฟมากฝีมือชาวญี่ปุ่น ดีกรีประสบการณ์ทำงานที่ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ชื่อดังอย่าง Itsuka ในกรุงโตเกียวก่อนที่จะมาประจำที่ร้านอาหารนี้ เพราะชื่นชอบเทคนิคและหลงใหลความดุดันของอาหารจีน-ญี่ปุ่น เชฟจึงเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และเคารพในวัตถุดิบโดยนำมาปรุงอย่างพิถีพิถันในสไตล์จีน เช่น การใช้กระทะเหล็กผัดด้วยไฟแรงเพื่อให้อาหารมีกลิ่นหอมกระทะ แล้วนำมาจัดเสิร์ฟด้วยความประณีตสวยงามตามวิถีของคนญี่ปุ่น ครั้งนี้เราได้ลิ้มลองเมนูทั้งหมด 12 คอร์ส โดยเชฟจะเปลี่ยนเมนูทุกเดือน แต่บอกได้เลยว่าจัดเต็มทุกเมนู เริ่มจากจานสุดประทับใจ Chinese Sake เมนูเรียกน้ำย่อยที่เชฟใช้ปลาโอโทโรหมักกับเหล้าจีน คลุกกับเจลลีส้มยูซุ แล้วท็อปด้วยอูนิ รสชาติสดชื่นบ่งบอกถึงการผสมผสานระหว่างจีนและญี่ปุ่นอย่างลงตัว จานถัดไปมา Sweet & Sour หมูดำไอเบอริโกตุ๋นกับซีอิ๊วดำและน้ำส้มสายชูญี่ปุ่น ท็อปด้วยบ๊วยดองกับมิโซะ ได้รสเปรี้ยว หวาน และเค็มครบรส เข้ากันได้ดีกับเนื้อหมูดำไอเบอริโก หลังจากจัดเต็มมาเรื่อยๆ ก็มาตกหลุมรักกับ Noodles จานนี้สุดฟิน บะหมี่เย็นเสิร์ฟในน้ำซุปที่ทำเป็นเจลาติน หอมกลิ่นใบมิโสะท็อปด้วยกุ้งอามะเอบิ ที่เชฟปรุงรสมาแบบสดชื่น ได้ความเผ็ดและชาอ่อนๆ จากน้ำมันพริกหม่าล่าสูตรเด็ดของเชฟ เป็นการผสานความเป็นจีนและญี่ปุ่นได้อย่างสวยงาม สำหรับอารหานจีนคงขาดไม่ได้กับ Shark Fin หรือเมนูหูลามที่เชฟเคี่ยวน้ำซุปจากซี่โครงไก่และสมุนไพรต่างๆ ชูโรงรสชาติของเนื้อหูฉลามออกมาได้อย่างคุ้มค่า แบ่งเสิร์ฟในถ้วยพอดีคำ ถัดมาเป็น Lobster อีกหนึ่งเมนูที่เด็ดไม่แพ้กับจานไหนๆ กุ้งล็อบสเตอร์ผัดกับซอสเสฉวนสูตรพิเศษของเชฟ สัมผัสเนื้อกุ้งเด้งและกรอบ ปรุงออกมาได้สุกกำลังดี ได้รสเผ็ดอ่อนๆ หอมกลิ่นเครื่องเทศและสมุนไพรจีน ส่วนพระเอกของงานนี้ต้องยกให้กับ Chashu Honey (ต้องสั่งเพิ่ม) หมูดำไอเบอริโกและหมูคุโรบูตะ หมักกับซอสสุตรพิเศษหมักจนเข้าเนื้อแล้วนำไปย่างจนหอมกลิ่นสโมค สัมผัสเนื้อด้านในนุ่มและชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟคู่กับน้ำผึ้งขาว (White Honey ได้รสชาติหวานๆ นวลๆ ต่างจากน้ำผึ้งปกติ รสชาติเข้มข้นอร่อยทั้งจิ้มและไม่จิ้ม ปิดท้ายด้วยของหวาน Cold Tofu พุดดิงเต้าหู้เสิร์ฟกับผลไม้สด ราดด้วยพอร์ตไวน์ทั้งหอมและเข้มข้น

ชวนสายกินไปลิ้มลองมื้อกลางวันที่  “Xin Tian Di” ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง บนชั้น 22 ของโรงแรมคราวน์ พลาซ่า กรุงเทพฯ ลุมพินี พาร์ค ซึ่งกำลังจัดโปรโมชั่น บุฟเฟ่ต์ติ่มซำ (All You Can Eat Dim Sum)’ เอาใจฟู้ดดี้คนรักติ่มซำกันแบบยาวๆ ด้วยเมนูอร่อยกว่า 20 รายการ พร้อมให้คุณเอ็นจอยกับบรรยากาศหรูหราที่แฝงไปด้วยความเรียบง่ายของผนังสีขาวซึ่งเข้ากันดีกับเฟอร์นิเจอร์สีเขียวขี้ม้า ด้านบนตกแต่งด้วยโคมแดงมงคลในแบบจีนห้อยระย้า เสมือนได้กินจานอร่อยในเมืองจีนอย่างไรอย่างนั้น เริ่มกันที่ เต้าหู้ผัดพริกเกลือ เต้าหู้นุ่มนิ่ม ผัดพร้อมพริกสดเผ็ดร้อน และกระเทียมหอมฟุ้ง โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย อร่อยไม่เบา ป๋วยเล้งผัดน้ำมันหอย ได้รสหวานธรรมชาติจากผักป๋วยเล้งมากประโยชน์ ตามด้วย หมูทอดซอสพิเศษ จานนี้รสชาติเด็ดดวง หมูหั่นชิ้นพอดีคำ หมักด้วยซอสสูตรลับรสเค็มหวาน ทอดร้อนจี๋ส่งกลิ่นหอมน่าลิ้มลอง ผัดหมี่ฮกเกี้ยน เส้นบะหมี่เหนียวนุ่มกินเพลินๆ ได้รสเผ็ดพอเหมาะ กุยช่ายทอด แป้งบางพอดี กรอบนอกนุ่มใน สอดไส้ผักเต็มคำ ราดน้ำจิ้มรสเปรี้ยวอมหวาน ขนมจีบทอดซอสวาซาบิ ขนมจีบหมูผสมกุ้งเนื้อหวานลูกใหญ่ที่เราคุ้นเคย ทอดอย่างดีจนแป้งมีความกรอบ เคลือบซอสวาซาบิรสครีมมี มีความเผ็ดซ่านิดๆ ขนมผักกาด แป้งนิ่มนุ่ม ได้สัมผัสเครื่องเคราเต็มคำ ฟองเต้าหู้ทอด ภายในสอดไส้เนื้อปูและเนื้อกุ้งแน่นๆ จิ้มน้ำจิ้มหวานเข้ากัน ซุปกระเพาะปลา ร้อนๆ รสเค็มพอดี เผือกและมันทอด เนื้อแน่นฟู ได้รสหวานกลมกล่อม กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ ก๋วยเตี๋ยวหลอด ยัดไส้วาไรตี้ ได้รสเค็มเผ็ดเล็กๆ กินง่าย   ตามด้วยขบวนติ่มซำนึ่งสดอย่าง สาหร่ายห่อกุ้ง เนื้อแน่นๆ ให้รสหวานของกุ้งคุณภาพ ฮะเก๋า ของโปรดแฟนคลับติ่มซำ แป้งบางกริบสอดไส้เนื้อกุ้งเต็มคำ ซาลาเปาไส้ครีม ลูกใหญ่ขาวอวบ กัดพร้อมไส้ครีมรสหวานพอดี ซาลาเปาไส้ลาวาไข่เค็ม สีส้มสดใส สะดุดตาน่าชิม ภายในสอดไส้ไข่เค็มลาวารสเค็มนัว ซาลาเปาพุทราจีน ลูกทรงน่ารักสีเขียว เข้ากันดีกับไส้พุทราจีนรสหวานฉ่ำ ซาลาเปาทอด เปลี่ยนจากซาลาเปานึ่งที่คุ้นเคยมาเป็นซาลาเปาทอดไม่อมน้ำมันบ้างดีกว่า ภายในมีไส้ครีมหอมมันที่คุณรักอยู่ด้วย ข้าวห่อใบบัว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบบัว เคล้าไปกับข้าวเรียงเม็ดสวยรสกลมกล่อม สุดท้ายต้องไม่ลืมสั่งเมนู เป็ดปักกิ่ง เลื่องชื่อมาลิ้มลอง เป็ดตัวใหญ่ปรุงอย่างดีจนได้หนังกรุบกรอบ ห่อพร้อมแป้งนิ่มๆ เครื่องเครา และน้ำจิ้มสูตรเด็ดรสหวานพอเหมาะ และเค็มปลายลิ้นเล็กๆ โปรฯ เดียวกินคุ้มเลย

ไม่บ่อยครั้งนักที่จะเจอร้านอาหารจีนโมเดิร์นที่ยังคงรักษารสชาติความเป็นจีนไว้ได้อย่างล้ำลึก แม้จะเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาอาหารไปหมด จนเราลืมภาพของอาหารจีนแบบเดิมๆ และ Cross คือร้านที่เรากำลังพูดถึง Cross ร้านอาหารจีนแบบ Fine Dining ที่เสิร์ฟในสไตล์ Chef's Table โดยการนำเทคนิคแบบฝรั่งเศสมารังสรรค์อาหารให้ออกมามีหน้าตาที่ทันสมัย แต่ผสานความคลาสสิกของรสชาติอาหารจีนไว้ได้อย่างลงตัว โดย เชฟไอซ์ ศิวพล ปลื้มธีรวงศ์ และ เชฟกุณ กุณฑิกา ปลื้มธีรวงศ์ สองพี่น้องทายาทรุ่นที่ 3 ของ 'รื่นรส' ภัตตาคารอาหารจีนแต้จิ๋วสูตรโบราณ ย่านพระราม 3 การนำเสนอเมนูของ Cross จะเสิร์ฟเป็นอาหารจีนทั้งหมด 11 คอร์ส จากวัตถุดิบพรีเมียมที่มีทั้ง หูฉลาม หอยเป๋าฮื้อ กระเพาะปลาสด กุ้งลายเสือ ตับห่าน คาเวียร์ และรังนก รังสรรค์ผ่านกรรมวิธีการปรุงแบบฝรั่งเศสของเชฟกุลที่ผสานเข้ากับประสบการณ์ด้านอาหารจีนของเชฟไอซ์ เกิดเป็นความ Cross กันอย่างลงตัว และเป็นมิติใหม่แห่งการกินในบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง โดยด้านหน้าเป็นพื้นที่ของเคาน์เตอร์บาร์ รองรับได้ 10 - 12 ที่นั่ง ส่วนด้านในเป็นห้องไพรเวตสำหรับการเหมาห้องจำนวน 4 – 8 ที่นั่ง เพื่อดื่มด่ำรสชาติได้อย่างเป็นส่วนตัว ซึ่งวันนี้ขอยกเมนูสุดประทับใจมาบอกต่อ เริ่มจาก หอยหลอดอบเหล้าเกาเหลียงและขนมปังบริออช ได้กลิ่นและรสจากเหล้าเกาเหลียงชัดเจน อีกทั้งยังช่วยเสริมรสให้หอยหลอดเนื้อหนึบได้เป็นอย่างดี กินหนึ่งคำพร้อมขนมปังบริออชอบและชีส Comté จากฝรั่งเศส ได้รสเค็มมัน อร่อยลงตัว ถัดมาเป็น ตับห่านครีมหนำเลี๊ยบ ซอสทับทิมจีน เมนูที่ผสมผสานวัตถุดิบจีนกับฝรั่งเศสได้อย่างน่าสนใจ เป็นตับห่านชิ้นใหญ่วางท็อปบนซอสครีมหนำเลี้ยบรสเค็มเล็กน้อย ตัดรสด้วยซอสทับทิมจีนและเกี้ยมไฉ่ที่นำไปดองกับหนำเลี้ยบ มีความเปรี้ยวหวานตัดเลี่ยนได้ดี ซุปไก่แก่กระเพาะปลาสด มองครั้งแรกอาจเหมือนซุปแนวยุโรป แต่เมื่อซดน้ำร้อนๆ ได้กลิ่นและรสชาติของอาหารจีนแท้ๆ จากไก่ที่นำไปต้มในน้ำเดือดพร้อมกับกังป๋วยหรือหอยเชลล์แห้งและเกลือ 12 ชั่วโมง จนเปื่อย แล้วกรองเอาน้ำที่ได้มาทำเป็นซุป มีกระเพาะปลาสด ฮ่วยซัวหรือสมุนไพรจีน กังป๋วยและเก๋ากี้ ให้เคี้ยว อร่อยกลมกล่อม สมกับที่อยู่คู่ Cross มาตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน ต่อด้วย ปลาเก๋าแดงทอดซอสไวต์ไวน์ซีอิ๊ว เชฟใช้ปลาเก๋าแดงหรือที่บ้านเราเรียกปลากะรังจุดฟ้าแบบไม่ถอดเกล็ด นำมาราดด้วยน้ำมันร้อนๆ จนเนื้อปลาเป็นเพอร์เฟ็กต์คุกและเกล็ดกรุบกรอบ เพิ่มรสชาติด้วยปวยเล้งกับซอสไวต์ไวน์แบบฝรั่งเศสที่ผสมด้วยซีอิ๊วของจีนได้อย่างลงตัว แผ่นกรอบสีแดงคือพริกชี้ฟ้าแดงบดจนเป็นน้ำแล้วนำน้ำที่ได้ไปทอด ออนท็อปด้วยคาเวียร์สีดำขลับชวนกินไม่น้อย และสุดท้าย สะเต๊ะกุ้งย่างกับเจลสับปะรด เมนูที่ได้แรงบันดาลใจจากการเที่ยวชมเมืองสิงคโปร์ยามค่ำคืนบนถนนสะเต๊ะสตรีท เชฟจึงนำความประทับใจครั้งนี้มารังสรรค์เป็นกุ้งตัวอวบย่างกับซอสสะเต๊ะ ด้านข้างเคียงมาด้วยซอสถั่ว เจลสับปะรด แตงกวาดองและน้ำอาจาด อร่อยครบรส เป็นการรับประทานอาหารจีนแบบที่ไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อนอย่างแน่นอน

Laoteng 楼顶 (เหล่าเต๊ง) ภัตตาคารอาหารจีนเจ้าดังย่านเยาวราช ได้ขยายสาขาใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม ณ ชั้น 2 ของโรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ ซึ่งโดดเด่นตั้งแต่ประตูทางเข้าร้าน เมื่อมองลอดผ่านกระจกจะเห็นสวนเซนคอยต้อนรับทุกคนที่มาเยือน ภายในตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นผสมผสานความเป็นจีนโมเดิร์น โดยเน้นความสงบ เรียบง่าย สามารถพาครอบครัวและเพื่อนฝูงมาเอนจอยมื้ออร่อยด้วยกันได้ตลอดทั้งวัน สำหรับเมนูอาหารเป็นแบบจีนกวางตุ้ง ที่แฝงกลิ่นอายความเป็นแต้จิ๋วเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว รังสรรค์โดยเชฟชาวฮ่องกงที่ถนัดอาหารจีนแต้จิ๋วเป็นพิเศษ เริ่มต้นมื้อนี้ด้วย ฮั่มสุ่ยก๋อง เป็นขนมปังแป้งข้าวเหนียวทอด ด้านในสอดไส้ไก่ผัดเครื่องเทศ อร่อยกลมกล่อม ถัดมาคือ ซาลาเปาหิมะไส้หมูแดง แป้งซาลาเปาบาง กรอบ ตัดด้วยรสหวานจากเนื้อหมูแดงฉ่ำๆ หอม อร่อยมาก ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้กุ้งทอด เสิร์ฟพร้อมซีอิ๊วรสชาติกลมกล่อม เส้นก๋วยเตี๋ยวหนึบกำลังดี มีกุ้งทอดกรอบๆ ด้านในช่วยเพิ่มเท็กซ์เจอร์ได้เป็นอย่างดี จานหลักที่ไม่ควรพลาด แนะนำเป็น เป็ดปักกิ่ง ย่างจนหนังกรอบ กินคู่กับแผ่นแป้งและเครื่องเคียง ห่อเป็นคำเดียวแล้วราดด้วยน้ำจิ้มหวานรสชาติดี ส่วนเนื้อเป็ดนำไปผัดเปรี้ยวหวานและทอดกระเทียม อร่อยสมคำร่ำลือ ต่อด้วยเมนูติ่มซำอันเลื่องชื่อทั้ง ขนมจีบกุ้ง นึ่งมาร้อนๆ อร่อยเต็มคำ ฮะเก๋า แป้งไม่หนา ราดด้วยซอสติ่มซำ หรือจะกินเปล่าๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน และ สาหร่ายพันหอยเชลล์ ไส้แน่น เคี้ยวหนึบ รสชาติกลมกล่อม ปิดท้ายความอร่อยด้วย ทาร์ตไข่ ขนาดพอดีคำ รสชาติหวานละมุน เคี้ยวสนุกด้วยแป้งทาร์ตกรอบๆ หอมกลิ่นคัสตาร์ด ใครที่เป็นแฟนตัวยงของเหล่าเต๊งเยาวราช ก็ไม่ควรพลาดสาขานี้เช่นกัน

ย่านเยาวราชยังคงเต็มไปด้วยร้านอร่อยหน้าใหม่ที่ชวนให้เราเข้าไปค้นหาอยู่เสมอ Hor fun (หอฝัน) ก็เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารจีนฟิวชั่นน้องใหม่บนถนนพาดสาย ที่เกิดจากความตั้งใจของ เชฟปิ๊ก - สรมย์เวท และ คุณณาต - ภัทรรีนันท์ คู่รักผู้มีแพชชั่นในอาหารโฮมคุกและอยากแบ่งปันรสชาติอาหารสูตรโบราณของครอบครัวที่นำมาครีเอตเป็นเมนูใหม่ๆ ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ตัวร้านรีโนเวทมาจากตึกเก่าอายุกว่า 100 ปี ให้กลายเป็นร้านโทนสีน้ำเงินเรียบหรูบรรยากาศสบายๆ โดดเด่นด้วยภาพวาดแคนวาสรูปเสือตัวใหญ่บนฝาผนัง และโคมไฟไม้ไผ่สานมือ ที่ช่วยเสริมกลิ่นอายความอบอุ่นสไตล์จีนคลาสสิกได้เป็นอย่างดี โดยบนชั้นสองของร้านยังเปิดให้บริการคอร์สเมนูอาหารแบบ Chef’s Table ที่เชฟปิ๊กตั้งใจรังสรรค์ทุกเมนูด้วยความประณีต เสิร์ฟความอร่อยแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ได้ความเป็นส่วนตัว เริ่มด้วยเมนูซิกเนเจอร์อย่าง ก๋วยเตี๋ยวหลอด ที่เราสามารถเลือกท็อปปิ้งได้ตามความชอบ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวหลอดหมูคุโรบูตะ (98.-) เส้นใหญ่เหนียวนุ่มหนึบ คลุกเคล้ามากับน้ำซุปที่ผ่านการเคี่ยวจนรสกลมกล่อม ท็อปด้วยหมูคุโรบุตะหมักซอสสูตรพิเศษ กุ้งแห้งเกรดคุณภาพ ไชโป้วคั่วหอมกระทะ ถั่วงอกลวก ต้นหอมผักชี และกากหมูให้เคี้ยวกรุบๆ ก๋วยเตี๋ยวหลอดวากิวพ่นไฟ (368.-) โดดเด่นด้วยเนื้อวากิวสไลซ์บาง ที่ก่อนทานเชฟจะเบิรน์ไฟให้เนื้อนุ่มฉ่ำละลายในปาก หรือจะเลือกเป็น ก๋วยเตี๋ยวหลอดแซลมอน (188.-) โดยเลือกใช้เป็นแซลมอนแทสบาเนียนชิ้นโต เนื้อสัมผัสแน่นนุ่ม แถมไร้กลิ่นคาว ปรุงรสด้วยพริกป่น มะนาว ช่วยตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี อีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด หม้อไฟเนื้อ (368.-) เนื้อวากิวสไสซ์บางจุ่มลงในน้ำซุปที่ตุ๋นมากับแก้มวัวจนเข้มข้น หอมมัน ซดแล้วคล่องคอเป็นที่สุด ล้างปากด้วย Ganase’ Salad (158.-) เมนูสลัดสไตล์อิตาลี ที่กินแล้วจะได้ความสดชื่นจากมะเขือเทศ มอซซาเรลล่าชีส คลุกเคล้ามากับน้ำมันมะกอกและบัลซามิก โดยเชฟปิ๊กได้หยิบเอาวัตถุดิบขึ้นชื่อในย่านเยาวราชอย่าง กานาฉ่าย มาเพิ่มความแปลกใหม่ให้จานนี้ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีเมนูกินเล่น Why not fried (138.-) ติ่มซำทอดหอมกรอบ ประกอบไปด้วย ฮะเก๋า ซาลาเปา ขนมจีบปู เกี๊ยวซ่า สาหร่ายห่อกุ้ง กินพร้อมซอสกำเจือง น้ำจิ้มสูตรเมืองตรัง รสเผ็ดเปรี้ยว และ French Fries Mala (138.-) เฟรนช์ฟรายส์คลุกผงหม่าล่าหอมอ่อนๆ ลิ้นชาเบาๆ โรยด้วยกุนเชียงหั่นเต๋า เพิ่มสีสันและรสชาติให้เมนูนี้ได้เป็นอย่างดี  

ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่ไม่ว่าแวะไปชิมกี่คราก็ติดใจสำหรับ “Chef Pom Chinese Cuisine By TODD” ร้านอาหารจีนตำรับกวางตุ้งประจำย่านพระราม 3 นำทีมความอร่อยโดยเชฟป้อม - ธนรักษ์ ชูโต พ่อครัวอาหารจีนหาตัวจับยาก และ คุณต๊อด - ปิติ ภิรมย์ภักดี แฟนคลับอาหารจีนตัวยง ที่ครั้งนี้ทางร้านได้ฤกษ์ดีเปลี่ยนเมนูใหม่ (ทั้งร้าน) แต่ยังคงไว้ซึ่งคอนเซ็ปต์ ‘The Artisan of Chinese Cuisine’ เน้นการใช้วัตถุดิบชั้นดี ครีเอทออกมาเป็นจานอร่อยที่เสิร์ฟอย่างอลังการเช่นเคย จานแรกเราสั่งเป็น ติ่มซำจตุรมิตร ติ่มซำสไตล์โฮมเมดเสิร์ฟร้อนๆ ให้คุณเลือกอร่อยได้ถึง 4 อย่าง อาทิ เสี่ยวหลงเปา ที่ชุ่มไปด้วยน้ำสต๊อก ทับทิมกุ้งชาเขียว รูปถุงทองน่ารัก หอมกลิ่นชาเขียวอ่อนๆ ฮะเก๋าชาเขียววาซาบิ แป้งนิ่มๆ สีเขียวมรกตที่ผสมกับวาซาบิรสเผ็ดซ่า ห่อไส้กุ้งเต็มคำ และขนมจีบกุ้ง ลูกโตรสหวาน ท็อปด้วยคาเวียร์เลอค่า ตามด้วย หอยเซลล์ซอสไข่เค็ม หอยเชลล์อวบอ้วนรสหวาน คลุกเคล้ากับผลไม้รสสดชื่นต่างๆ และซอสไข่เค็มรสหวานมัน โรยด้วยใบกระหรี่ทอดที่เรารัก มาถึงเมนูดาวเด่นของเชฟป้อมอย่าง เนื้อสันบานไม่รู้โรย เนื้อหมูสันคอชิ้นบิ๊กเบิ้ม หมักซอสบาร์บีคิวสูตรเฉพาะของทางร้าน รสหวานผสานไปกับความเผ็ดเล็กๆ เสิร์ฟเคียงผักย่าง จานหลักต้องนี่เลย เป็ดปักกิ่ง ที่เสิร์ฟมาอย่างสวยงามเช่นเคย หนังเป็ดกรอบๆ กินพร้อมแป้งโรตีทำเอง ผักต่างๆ และผลไม้หวานฉ่ำอย่าง มะม่วงสุก ราดซอสรสหวานสูตรลับ ในส่วนของเนื้อเป็ดเราเลือกเป็นเมนู เป็ดผัดพริกเกลือ เป็ดเนื้อแน่น หั่นชิ้นพอดีคำ คั่วกระเทียมหอมๆ และพริกเผ็ดร้อน รสเค็มกลมกล่อม กินอร่อย หันไปซดน้ำซุปร้อนๆ กันบ้างกับ ซุปเยื่อไผ่กังป๋วยเห็ดหอมในลำไม้ไผ่ ซุปเยื่อไผ่รสนุ่มนวล ซดเพลินๆ เสิร์ฟมาในลำไม้ไผ่ถูกใจสายโซเชียล (ถ่ายรูปสนุก) ปิดด้วยใบบัว คนรักเส้นถูกใจ ตันตันเหมี่ยน หรือที่หลายคนเรียกว่าหมี่เสฉวน เส้นหมี่สดเหนียวนุ่ม ซู้ดเพลินๆ คลุกเคล้ากับซอสตันตันเหมี่ยน รสเค็มกลมกล่อมมิ๊กซ์กับน้ำมันพริกจีนรสเผ็ดพอดี หอมกลิ่นน้ำมันงา เสิร์ฟคู่ซอสรสหวาน ข้าวผัดไข่ขาวฟัวกราส์เนื้อปู เนื้อปูก้อนโตแน่นๆ รสหวาน ผัดพร้อมไข่ขาว ท็อปด้วยตับห่านและไข่ปลาแซลมอน ของหวานเราสั่ง โอนีแปะก๊วย ขนมมงคลสไตล์จีนที่เชฟนำเสนอออกมาในรูปแบบใหม่ ช็อกโกแลตบอลแปะแผ่นทองคำเปลวที่ทำจากช็อกโกแลตเมืองเชียงใหม่ ห่อเผือกกวนเนื้อเนียนและข้าวเหนียวมูนหวานมัน ราดน้ำเชื่อมร้อนๆ เข้ากันดี และ สมูทตีมะม่วงสาคูส้มโอ สมูทตีมะม่วงสุกหวานฉ่ำเนื้อเนียนๆ เคล้ากับสาคูหนึบๆ และส้มโอรสเปรี้ยวอมหวานสดชื่น

หลายวันก่อนขับรถผ่านไปแถวถนนโชคชัย 4 สังเกตเห็นร้าน ดอกท้อ ติ่มซำ ซึ่งเป็นชื่อร้านที่สะดุดตาและจำง่าย จึงกลับไปค้นใน Google พบว่าร้านนี้กำลังโด่งดังในโลกออนไลน์เลยทีเดียว วันต่อมาจึงตัดสินใจไปลิ้มลอง ซึ่งภายในร้านออกแบบอย่างเรียบง่าย เน้นใช้สีขาว ดูสบายตา ส่วนเมนูติ่มซำเป็นสูตรฮ่องกงดั้งเดิม ปั้น นึ่ง สดใหม่ทุกวัน หัวใจหลักอยู่ที่ตัววัตถุดิบคุณภาพ ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี คำว่า 桃花 (เถาฮวา) หรือดอกท้อ มาจากดอกไม้มงคลที่มีความหมายว่า ความเจริญ มั่งคั่ง และอายุยืนยาว เหมาะสำหรับการตั้งชื่อร้าน พร้อมกับเปิดตัวเมนูแรกด้วย ซิ่วท้อไส้ครีม (29 บาท) ปั้นแป้งเป็นรูปซิ่วท้อ ด้านในสอดไส้ครีม รสชาติหวานเล็กน้อย ส่วนเนื้อแป้งนั้นนุ่มสุดๆ คนรักซาลาเปาต้องลอง เปาไข่เค็มลาวา (32 บาท) แป้งนุ่มๆ ไส้ลาวาเยิ้มๆ เปาไส้ครีมคัสตาร์ด (29 บาท) เนื้อครีมเนียนนุ่ม กลิ่นหอมชวนน่ากิน และ เปาหมูแดงอบน้ำผึ้ง (32 บาท) เนื้อหมูแดงฉ่ำๆ ได้รสหวานและมีกลิ่นหอมจากน้ำผึ้ง ต่อกันที่ จีบกุ้งจักรพรรดิ (69 บาท) ด้านในมีเนื้อกุ้งโอคักชิ้นใหญ่ เคี้ยวหนึบๆ อร่อยมาก ตามด้วย ฮะเก๋ากุ้ง (79 บาท) กินคู่พริกเซี่ยงไฮ้เข้ากันสุดๆ ฝั่นโก๋ (59 บาท) หน้าตาอาจคล้ายฮะเก๋า แต่ก็อร่อยไม่แพ้กันเลย ด้านในของฝั่นโก๋ เป็นไส้กุ้งผัดกับเซเลรี อร่อยกลมกล่อมสุดๆ สาหร่ายห่อกุ้ง (69 บาท) อร่อยทั้งเนื้อกุ้งและน้ำซุป ที่รสชาติกลมกล่อมมาก ขาไก่นึ่งเต้าซี่ (65 บาท) ขาไก่เนื้ออวบอ้วนดูน่ากิน มาพร้อมรสชาติที่เข้มข้น เค็มนิดๆ ได้รสเผ็ดเล็กน้อย อร่อยมาก หมวดของรสแซ่บๆ ก็มี ทั้ง ปลากะพงนึ่งมะนาว (89 บาท) เนื้อปลาสด เสิร์ฟชิ้นใหญ่มาให้ และ กุ้งจักรพรรดินึ่งมะนาว (89 บาท) เนื้อกุ้งสุกกำลังดี มาพร้อมกับรสชาติที่แซ่บถึงใจ ที่ดอกท้อติ่มซำมีเมนูทอดซึ่งอร่อยไม่แพ้กัน เราลอง เผือกทอด (32 บาท) เป็นเผือกผสมกับแป้ง นำไปทอดให้ฟู ส่วนไส้ข้างในรสชาติคล้ายกะหรี่ปั๊บ ซึ่งมีส่วนผสมของผงกะหรี่ กุ้ง หมูและผัก ถัดมาคือ ข้าวเหนียวพุทราทอด (20 บาท) ด้านในเป็นไส้พุทรา ได้กลิ่นหอม มีรสหวานมัน ขนมผักกาดทอด (55 บาท) ประกอบด้วยหมูสามชั้นฮ่องกง กุ้งแห้ง กินคู่กับซีอิ๊วหวาน อร่อยสุดๆ มาต่อกันที่เมนูซิกเนเจอร์ ฮ่อยจ๊อปู (139 บาท) ฮ่อยจ๊อลูกใหญ่ที่อัดแน่นด้วยเนื้อปูเต็มคำ ขนมปังหน้ากุ้ง (109 บาท) มีความกรอบอร่อย ทอดมาแบบไม่อมน้ำมัน กินเพลินสุดๆ ในส่วนของเครื่องดื่ม เราแนะนำ Matcha Latte (110 บาท) หอมกลิ่นชา รสหวานไม่มาก คนรักชาเขียวต้องชอบ เก๊กฮวยเย็น (30 บาท) มีรสหวานน้อย ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ชุ่มคอ ดับร้อนได้ดีจริงๆ Sakura Blossom (75 บาท) ไซรัปพีชผสมโซดา ได้รสหวานและหอมจากพีช มอบความสดชื่นสุดๆ แก้วสุดท้ายคือเมนูสเปเชียล Doktoh Special Milk Tea (85 บาท) เป็นสูตรเฉพาะของร้าน ใช้ผงชาโฮจิฉะ นำเข้าจากญี่ปุ่น อร่อยกลมกล่อมมาก หากผ่านไปย่านโชคชัย 4 อย่าลืมแวะชิมความอร่อยกันที่ดอกท้อ ติ่มซำนะ

ถือเป็นหนึ่งในร้านอาหารจีนในตำนานก็ว่าได้สำหรับ “The Emperor” ห้องอาหารจีนกวางตุ้งรุ่นเก๋าที่ตั้งอยู่บนชั้น 4 โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ บรรยากาศคลาสสิกสไตล์ครอบครัว พื้นไม้สีน้ำตาลแก่เข้ากันกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจ มีห้องไพรเวทสำหรับแขกที่อยากได้ความเป็นส่วนตัว ลิ้มรสอาหารจีนกวางตุ้งทั้งในแบบอะลาคาร์ตและบุฟเฟต์ เคล้าไปกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ดูเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ สายกินอย่างเราต้องชิมบุฟเฟต์อย่างแน่นอน จานแรกขอลองเป็น สลัดกุ้งทอด กุ้งตัวโตเนื้อหวานทอดร้อนจี๋ กินกับสลัดผักกรุบกรอบราดน้ำสลัดครีม ตามด้วย ยำแมงกะพรุน กรุบๆ รสเผ็ดพอดี หอมกลิ่นน้ำมันงาอ่อนๆ ขนมผักกาด ทอดก็อร่อย เนื้อนุ่ม รสเค็มพอเหมาะ จิ้มน้ำจิ้มหวานเข้ากัน เกี๊ยวกุ้งวาซาบิ นี่เราชอบมาก ได้รสเผ็ดซ่าโดนใจ ถุงเงินไข่กุ้ง ใบโตๆ เต็มคำ จิ้มจิ๊กโฉ่ยิ่งรสชาติดี ซาลาเปาลาวา ลูกขาวอวบ สอดไส้ไข่เค็มลาวาเยิ้มๆ ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้งทอด เมนูขายดี เส้นก๋วยเตี๋ยวหลอดเหนียวนุ่มห่อกุ้งทอดรสหวาน ราดน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ กระเพาะปลาผัด กระเพาะปลาเนื้อเด้งผัดพร้อมไข่ไก่และเครื่องเคราต่างๆ ต่อด้วย หมูกรอบ ของโปรดสายฟู้ด ชิ้นพอดีคำ หนังกรอบเนื้อนุ่ม  ยังมี เป็ดย่าง เนื้อแน่นๆ ใครได้ชิมต้องติดใจ และ หมูแดง รสหวานหอม ตบท้ายด้วยซีรีส์ของหวานปังๆ อย่าง แปะก๊วยร้อนในน้ำลำไย แปะก๊วยมากประโยชน์ อยู่ในน้ำลำไยร้อนรสหวานหอม บัวลอยน้ำขิง บัวลอยลูกอ้วนๆ สอดไส้งาดำ กินพร้อมน้ำขิงรสเผ็ดเบาๆ สาคูแคนตาลูป สาคูเนื้อนิ่มเด้ง ท็อปด้วยไอศกรีมแคนตาลูปชื่นใจ และ พุทราจีนทอด ขนมหวานสไตล์จีนยอดนิยม รสหวาน จิบคู่ชาร้อนพอดีกัน ละลานตาจนเลือกกินไม่ถูกเลย

เป็นที่น่าดีใจสำหรับสายฟู้ดเสียจริงๆ ที่ “Mott 32” ร้านอาหารจีนกวางตุ้งสไตล์โมเดิร์น มาเสิร์ฟความอร่อยที่เมืองไทย โดยโลเคชั่นตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของโรงแรมน้องใหม่มาแรงอย่าง The Standard Bangkok Mahanakhon (Bts ช่องนนทรี) สายฟู้ดคนไหนอยากมาชิมต้องรีบจอง เพราะตอนนี้คิวเขายาวนำไป 2 เดือนแล้ว มาทำความรู้จักกับร้านกันก่อนดีกว่า Mott 32 ชื่อนี้มาจากถนนเส้นหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านสะดวกซื้อสัญชาติจีนแห่งแรกของเมืองนิวยอร์ก Mott 32 ยังเป็นร้านอาหารจีนในตำนานที่สามารถขยายสาขาจากฝั่งตะวันออกมายังฝั่งตะวันตก (ปัจจุบันมีสาขาที่แวนคูเวอร์ ลาสเวกัส โซล สิงคโปร์ กรุงเทพฯ และเซบู) ให้คุณอร่อยกับเมนูจีนกวางตุ้งสไตล์โมเดิร์นที่เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากกรุงปักกิ่งและเสฉวน ซึ่งรังสรรค์มาจากวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมจากทั่วโลก โดยสาขาที่กรุงเทพฯ นี้ได้เชฟฮานหลงฮัว เชฟชาวฮ่องกงมากฝีมือมาเป็น Executive Chef นำทีมจานอร่อยใน Mot 32 Bangkok ทุกเมนู ขอเริ่มความฟินด้วย เจลลี่กระเพาะปลา เจลลี่ทรงสีเหลี่ยมเด้งดึ๋งที่ทำจากน้ำซุปสมุนไพรจีนรสนุ่มนวล ชิ้นพอดีคำ ภายในสอดไส้กระเพาะปลาที่เรารัก จิ้มจิ๊กโฉ่วรสเปรี้ยวเข้ากัน ใครอยากกินต้องจองล่วงหน้านะสำหรับ หมูแดงบาร์บีคิวไอเบอริโก้ หนึ่งในเมนูดาวเด่นประจำร้านที่เสิร์ฟแค่วันละ 10 จานเท่านั้น หมูไอเบอริโก้คุณภาพจากประเทศสเปน หมักกับน้ำผึ้งหอมหวาน ผ่านกรรมวิธีสูตรเฉพาะของเชฟ จนได้เนื้อสัมผัสนุ่มกินเพลิน ขนมจีบหมูไส้ไข่นกกระทาและทรัฟเฟิล ก็อร่อย ขนมจีบหมูลูกโตๆ สอดไส้ไข่นกกระทาอิ่มเอม หอมกลิ่นทรัฟเฟิลอ่อนๆ เสี่ยวหลงเปาซุปเสฉวน เสี่ยวหลงเปาสีส้มสดใส แป้งนุ่มๆ ที่ชุ่มไปด้วยซุปเสฉวนรสเผ็ดร้อนพอดี หลายคนเลิฟ ซาลาเปาหมูแดง เพราะที่นี่เขาทำไม่เหมือนใคร ผิวนอกให้สัมผัสกรอบนิดๆ กัดพร้อมไส้หมูแดงรสหวานเค็มที่ทำจากหมูไอเบอริโก้ มาถึงอย่างไรก็ต้องสั่ง หอยเป๋าฮื้อทอดกรอบ หอยเป๋าฮื้อตัวอวบๆ เนื้อเด้ง ชุบแป้งทอดร้อนจี๋ ส่งกลิ่นหอมชวนชิม ปลาหมึกคั่วพริกเกลือ ปลาหมึกชุบแป้งทอดสีเหลืองทอง เนื้อหนึบๆ เคี้ยวเพลิน คลุกเคล้ากับกระเทียม ต้นหอม และพริกต่างๆ รสชาติเผ็ดร้อนโดนใจ เดินทางมาถึงจานหลักกันแล้ว ปลาคอดรมควัน นี่แหละถูกใจสายฟู้ด ปลาคอดดำเนื้อแน่น ทาซอสสูตรลับของทางร้าน รสเค็มหวาน รมควันให้หอมฟุ้ง ซุปเสฉวน เนื้อปลาชั้นดี และเส้นมันซู้ดอร่อยอยู่ในน้ำซุปรสนุ่มนวลลื่นคอ ที่เคี่ยวกระดูกปลาจนได้ที่ รสชาติแฝงไปด้วยความเผ็ดร้อนของพริกเสฉวน ซดกี่ทีก็เพลิน ปูอบวุ้นเส้น เมนูป็อปของทางร้าน วุ้นเส้นเหนียวนุ่ม ไปด้วยกันได้ดีกับปูเนื้อหวานที่ทางร้านให้มาในปริมาณมหาศาล เสิร์ฟมาในหม้อดินเก็บความร้อน ถึงตาพระเอกออกโรงแล้วสำหรับ เป็ดปักกิ่ง ที่เชฟมาหั่นเป็ดตัวอ้วนสดๆ โชว์ให้สายฟู้ดแชะรูปลงโซเชียล ตัวเป็ดผ่านกรรมวิธีดรายเอจ 42 วัน ก่อนนำไปรมควันด้วยไม้แอปเปิ้ลหอมๆ หนังเป็ดกรอบๆ เชฟแนะนำให้จิ้มกับน้ำทรายแดงรสหวานละมุน ส่วนตัวหนังติดเนื้อกินคู่กับแผ่นแป้งโฮมเมด ผักสด และซอสรสหวาน คนชอบกินผักถูกใจ ผัดมะเขือ มะเขือยาวรสหวาน หั่นเป็นชิ้นพอเหมาะ ผัดพร้อมหมูสับและพริกสด รสเค็มเผ็ดจัดจ้าน และ ข้าวผัดล็อบสเตอร์ ข้าวเรียงเม็ดสวย มิ๊กซ์ไปกับล็อบสเตอร์เนื้อแน่นหวาน และซอสสีส้มรสเค็มพอเหมาะ ล้างปากกับของหวานอย่าง ทาร์ตช็อกโกแลตงา รสหวานหอมของไวต์ช็อกโกแล็ตและงาดำ ภายในสอดไส้เจลลี่มะนาวรสเปรี้ยว ท็อปด้วยถั่วทอดกรุบกรอบ และ นมสดฝรั่งชมพู นมสดครีมมีผสมกับฝรั่งสีชมพู ส้มโอรสเปรี้ยวอมหวาน สาคูเคี้ยวเพลิน ใส่น้ำแข็งเย็นฉ่ำ กินแล้วชื่นใจ

แวะเวียนมาทางฝั่งธนฯ ทั้งทีก็ต้องไปชิม “ฮ้อเจี๊ยะ ติ่มซำนึ่งสด” หนึ่งในร้านอร่อยที่อยู่ใกล้ Bts บางหว้า (ทางออก 3) โดดเด่นด้วยติ่มซำสไตล์โฮมเมดนึ่งสดๆ เสิร์ฟร้อนๆ ทำสดใหม่วันต่อวัน จิ้มกับจิ๊กโฉ่วแบบดั้งเดิม หรือน้ำจิ้มติ่มซำสูตรเด็ดประจำร้าน รสชาติออกเปรี้ยว นอกจากนั้นยังมีเมนูอาหารจีนและคอมฟอร์ดฟู้ดอย่าง กระเพาะปลาน้ำแดง ข้าวต้มกุ้ง  บักกุดเต๊ เกี๊ยวน้ำปู ที่ราคาสบายกระเป๋าเหมาะกับสายฟู้ดอย่างเราจริงๆ เมนูแรกของลองเป็น หมูห่อไข่นกกระทา หมูเนื้อแน่น ได้กลิ่นพริกไทยอ่อนๆ ท็อปด้วยไข่นกกระทาอิ่มเอม สาหร่ายห่อกุ้ง ขวัญใจสาวกติ่มซำ กุ้งเนื้อหวานเข้ากันดีกับสาหร่าย จิ้มจิ๊กโฉ่ว ฮะเก๋า ก็กินเพลิน แป้งบางๆ ห่อกุ้งเนื้อเด้ง หมูหน้าข้าวโพด หมูก้อนนุ่มๆ เข้ากันดีกับข้าวโพดหวาน เต้าหู้ไข่หน้ากุ้ง เต้าหู้ไข่ที่เรารัก กินพร้อมเนื้อกุ้งบดปั้นเป็นก้อน ผสมข้าวโพด ขนมจีบปู ลูกขนาดกำลังกิน ได้รสหวานของเนื้อปูเต็มคำ ซด กระเพาะปลาน้ำแดงเนื้อปู ให้คล่องคอกันดีกว่า กระเพาะปลาคุณภาพและเนื้อปูชั้นดี อยู่ในน้ำซุปรสเค็มกล่อม หอมกลิ่นพริกไทย ยิ่งเติมจิ๊กโฉ่วรสเปรี้ยวยิ่งลงตัว เผือกทอด ที่เพิ่งขึ้นมาจากเตาร้อนๆ ลูกอวบอ้วนน่าชิม เข้ากันดีกับน้ำจิ้มบ๊วย ห้ามพลาดกับ ฟองเต้าหู้ห่อกุ้งทอด ของดีประจำร้าน ฟองน้ำหู้แผ่นบาง สอดไส้เนื้อกุ้งรสหวาน กินคู่น้ำจิ้มบ๊วยดั้งเดิม และ เสี่ยวหลงเปา มาเสิร์ฟร้อนๆ ชวนชิม ได้รสหวานธรรมชาติจากน้ำสต๊อกภายในแป้ง เคล้าไปกับหมูเนื้อแน่น บักกุดเต๊ ที่นี่ก็น่าลองนะ

ไม่ได้แวะเวียนมาชิมหลายปี วันนี้มีโอกาสมาเช็คอินที่ Pagoda Chinese Restaurant กันสักหน่อย ห้องอาหารจีนกวางตุ้งร่วมสมัยแห่งโรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen's Park (Bts พร้อมพงษ์) รื่นรมย์ไปกับบรรยากาศสไตล์จีนโบราณ ที่ทางร้านจำลองมาจากเจดีย์สมัยก่อนของประเทศจีน อันสื่อถึงความมั่นคงและมั่งมี พร้อมกับตกแต่งด้วยลายมังกรยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี อุดมสมบูรณ์ Pagoda เสิร์ฟอาหารจีนกวางตุ้งร่วมสมัย ที่รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นดีในเมืองไทยและนำเข้าจากฮ่องกงและประเทศจีน ผ่านฝีมือเชฟใหญ่ชาวฮ่องกงอย่าง เชฟออสการ์ ปัน ที่มีประสบการณ์การทำอาหารกว่า 14 ปี เขาเคยร่วมงานกับห้องอาหารในเครือ ไหล่ การ์เดน และห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ในเมืองปักกิ่งและประเทศสิงคโปร์มากมาย เรียกได้ว่าสายฟู้ดคนไหนอยากลิ้มลองอาหารจีนขึ้นมา ร้านพาโกด้า ไชนีส เรสเตอรองท์ ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยเลย ต้อนรับด้วยขบวนติ่มซำอย่าง ขนมจีบกุ้ง ลูกโตๆ จุใจไปกับไส้กุ้งเนื้อหวาน จิ้มจิ๊กโฉ่วเข้ากัน ฮะเก๋า น่าอร่อย แป้งบางๆ ห่อไส้กุ้งเต็มคำ เสือโคร่งไส้กุ้ง ฮะเก๋ารูปเสือโคร่งน่ารัก สายโซเชียลนี่ถ่ายรูปรัวๆ มันม่วงทอดไส้หมูและกุ้ง เมนูนี้ก็ถ่ายรูปสวย ห่านสีม่วงสวยงามทำจากมันม่วง สอดไส้หมูและกุ้งรสเค็มกลมกล่อม ซาลาเปาเห็ด ก็แสนคิวท์ ซาลาเปานุ่มฟูรูปเห็ด กัดพร้อมไส้เห็ดนานาชนิดรสเข้มข้น ใครเป็นสายหวานต้องชอบ ซาลาเปาช็อกโกแลต ไส้ช็อกโกแลตรสเข้มข้นเยิ้มๆ มาที่เมนูขายดีอย่าง ก๋วยเตี๋ยวหลอดปอเปี๊ยะกุ้งทอด กันบ้าง แป้งก๋วยเตี๋ยวหลอดกินพร้อมแป้งปอเปี๊ยะกรอบ สอดไส้กุ้งเนื้อเด้ง ราดน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ ขนมผักกาดผัดซอสเอ็กซ์โอ ขนมผักกาดชิ้นพอดีคำ เข้ากันกับซอสเอ็กซ์โอรสเค็มเผ็ด มาถึงจานซิกเนเจอร์อย่าง หมูกรอบฮ่องกง หนังกรอบเคี้ยวเพลิน ส่วนเนื้อนุ่มกินอร่อย จิ้มกับมาสตาร์ดรสเผ็ด หมูแดงอบน้ำผึ้ง หลายคนชอบ หมูแดงรสหวาน หอมกลิ่นน้ำผึ้งอ่อนๆ ยังมี บะหมี่เป๋าฮื้อทะเลรวมอบยอดซุป เส้นหมี่สไตล์โฮมเมดให้สัมผัสเหนียวนุ่ม อยู่ในน้ำแกงรสเค็มนุ่มนวล มาพร้อมกุ้งตัวอวบอ้วน และหอยเชลล์เนื้อหวาน ทางด้านซุปก็น่าสนใจ ซุปผักโขมรวมมิตรทะเล ชามนี้ไม่ลองไม่ได้ ผักโขมกินง่ายผสมกับเนื้อปูล้วนๆ ซุปเสฉวนทะเล รสเปรี้ยวเล็กๆ มีเครื่องทะเลสดอร่อยมากมาย ล้างปากด้วยของหวานน่าลิ้มลอง แปะก๊วยฟักทองในลูกมะพร้าว ซุปฟักทองหอมๆ เคล้าไปกับแปะก๋วยเนื้อหนึบ เสิร์ฟมาในลูกมะพร้าว พุดดิ้งมะม่วง รสหวานฉ่ำนี้ได้มาจากมะม่วงสุก เทนมสดครีมมีลงไปยิ่งทวีความฟิน และ พุทราจีนทอด รสหวานพอเหมาะของพุทราบวกกับแป้งกรุบกรอบยิ่งลงตัว มากินกี่คราก็อร่อยเหมือนเดิม

Hei Yin (เฮยยิน) จุดนัดพบใหม่ของคนรักอาหารจีนตำรับกวางตุ้ง จุดเด่นคือรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ให้บริการทั้งติ่มซำและอาหารจีนสูตรต้นตำรับ ครีเอทโดยเชฟแจ็คกี้ ชาน เชฟฝีมือฉกาจจากฮ่องกง นอกจากรสชาติของอาหารที่มีความพิเศษแล้ว บรรยากาศยังชวนผ่อนคลาย ตกแต่งเรียบหรูในโทนสีเขียวและทอง การจัดโต๊ะยังเน้นระยะห่างอย่างเหมาะสมตอบโจทย์ยุคนิวนอร์มอล จึงเอนจอยได้อย่างออกรสแบบไม่รบกวนกัน         ช่วง Soft Opening เชฟเอาใจคนรักติ่มซำยกขบวนเมนูสุดครีเอทมาให้ลิ้มลองอย่างจุใจ เริ่มต้นที่ราคาเมนูละ 150 บาท เสิร์ฟไซส์ใหญ่ให้แชร์กันได้หลายคน อาทิ หมูกรอบย่างสไตล์ฮ่องกง หมูกรอบที่ย่างถึง 3 ครั้งจนไร้ความมันเลี่ยน หั่นชิ้นหนาให้เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับรสสัมผัสที่แตกต่าง ทั้งจากส่วนของเนื้อหมูสุดนุ่ม ผสานความกรอบเด้งเคี้ยวสู้ฟันของชั้นมันหมู จบด้วยผิวนอกที่กรอบเกรียมนิดๆ แตะเนยถั่วนิดหน่อยเพิ่มรสชาติความอร่อยแบบทวีคูณ     หมูแดงคุโรบูตะย่างน้ำผึ้ง หมูคุโรบูตะไร้มันย่างตามแบบฉบับกวางตุ้ง เน้นสุกกำลังดี รสหวานละมุนจากน้ำผึ้ง แม้ไม่จุ่มซอสก็ยังกลมกล่อมดีต่อใจ     ต่อด้วย เป็ดย่าง ทีเด็ดขายดีอยู่ที่เนื้อนุ่มหนังกรอบตึง กินเคียงกับถั่วลิสงกรุบๆ หอมมัน     ก๋วยเตี๋ยวหลอดห่อปอเปี๊ยะไส้กุ้ง เมนูเขียวสดใสที่ใครเห็นก็หิว ด้านนอกเป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดห่อปอเปี๊ยะไส้กุ้งทอดไว้ด้านใน เคี้ยวสนุกเพราะทั้งกรอบ นุ่ม หนึบในคำเดียว     ถ้วยทองฟรุ๊ตสลัดทะเล แผ่นเกี๊ยวอย่างดีนำไปทอดร้อนๆ รูปร่างเหมือนถ้วยทอง ใส่ฟรุ๊ตสลัดรสเปรี้ยวสดชื่นไว้ด้านใน     ส่วนคนรักติ่มซำมาถูกที่เพราะมีฮะเก๋ากุ้งรสชาติดีไว้บริการ แป้งบางห่อไส้กุ้งแน่นๆ เคี้ยวสู้ฟัน ต่อด้วยเสี่ยวหลงเป่ามันปู แป้งบางห่อไส้สุดนุ่มที่มีส่วนผสมของมันปูที่หอมมันและฉ่ำน้ำซุป อย่าลืมอ้าปากกว้างๆ เพื่อลิ้มรสความหวานฉ่ำแบบเต็มปากเต็มคำ ขนมจีบกุ้งหมูกังป๋วย ขนมจีบกุ้งและหมู ใส่กังป๋วยหรือหอยนางรมอบแห้งชั้นดี เพิ่มดีกรีความฟินแบบคูณสอง       อีกเมนูไฮไลท์ ได้แก่ ห่ามสุ่ยเกาะ ติ่มซำสไตล์ฮ่องกง ทำจากแป้งข้าวเหนียวด้านในเป็นไส้หมูสับ กุ้งและเห็ดผัดจนหอมกรุ่น นำไปทอดให้พองฟูเปรียบเสมือนนกตัวอ้วนที่อุ้มไข่ใบน้อยๆ ไว้ด้านใน     แนะนำเบาๆ เพราะสิบปากว่าไม่เท่าตามไปกินด้วยตัวเอง หากมากลุ่มใหญ่และต้องการความเป็นส่วนตัวมีห้องวีไอพีให้เลือก 4 ห้อง ได้แก่ Moutain สำหรับ 16 คน, Sea และ Sun ห้องละ 10 คน และ Earth 8 คน         ไม่อยากพลาดประสบการณ์ความอร่อย กริ๊งกร๊างจองโต๊ะไว้ก่อนดีที่สุด

ดีงามพระรามเก้า LT FISH RESTAURANT ร้านอาหารจีนเสฉวนสูตรต้นตำรับพร้อมต้อนรับเหล่านักกินกับสาขาใหม่ที่ชั้น 7 เซ็นทรัล พลาซ่า แกรนด์ พระราม 9 ในรูปแบบ Flagship Store ยกครัวและทีมเชฟมาไว้ที่นี่             สำหรับบรรยากาศร้านก็สะดุดตาสะดุดใจตั้งแต่แรกเห็นด้วยสีฟ้าสดใสเหมาะกับการถ่ายรูปอัปลงโซเชียล ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากปลากับท้องทะเลที่ต้องอยู่คู่กันเสมอ ส่วนเมนูซิกเนเจอร์ทางร้านก็ขนมาครบถ้วน เริ่มด้วยจานกินเล่น ไต้ฝุ่นรูทโลตัส รากบัวชุบแป้งทอดแล้วคั่วกับกระเทียม เนื้อปลากะพง และเกล็ดขนมปังกรุบกรอบกินเพลิน สไปซี่ไก่ ไก่ผัดพริกแห้งรสเผ็ดร้อนและชาเบาๆ ก็เด็ดไม่แพ้กัน ตามด้วยยำหูหมู ทางร้านนำไปผัดกับซอสเสฉวนและล่าเจียว เคี้ยวสนุกถูกปาก           มาถึงไฮไลต์อย่างต้มปลาผักกาดดอง เนื้อปลากะพงสดหวานไร้ก้างในน้ำซุปสีขาวนวลหอมกรุ่นที่ผ่านการเคี่ยวนานกว่า 12 ชั่วโมงแล้วใส่ผักกาดดองลงไปด้วย เสิร์ฟมาพร้อมพริก ซดร้อนๆ แล้วสดชื่น ได้ทั้งรสเปรี้ยว เผ็ด ตามด้วยรสเค็มเล็กน้อย จับคู่กับข้าวผัดผักกาดดองรสเค็มมันแล้วดีเชียว         นอกจากนี้ยังมีมะเขือกระทะร้อนเสิร์ฟร้อนแบบควันฉุย (อย่าลืมเป่าก่อนกินนะ) รวมถึงเมนูหมูสามชั้นที่มีทั้ง หมูสามชั้นผัดซอสเสฉวน หมูตุ๋นเมารักที่ตุ๋นจนเปื่อยนุ่มละลายในปาก และไต้ฝุ่นซี่โครงหมู ซี่โครงหมูทอดเคล้าด้วยเนื้อปลากะพงสับและเกล็ดขนมปังกรอบก็หาชิมได้ที่นี่         เห็นทีว่าต้องกลับมาบ่อยๆ แล้ว

ใครที่กำลังมองหาสถานที่แฮงก์เอาต์ สำหรับสังสรรค์หลังเลิกงาน ขอแนะนำ Hoi - Chinese Izakaya  ร้านอิซากายะสไตล์จีนน้องใหม่บนถนนสุขุมวิท ที่นอกจากสไตล์ของร้านจะเท่ชวนดึงดูดแล้ว ภายในยังซุกซ่อนความอร่อยจากอาหารจีนรสเข้มข้นเอาไว้อีกมากมาย       ภายในเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สีดำเข้ากันได้ดีกับผนังปูนเปลือยสไตล์ลอฟต์ โดดเด่นด้วยกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติในเวลากลางวัน ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง เสริมความเท่ดูน่าค้นหาในเวลากลางคืนด้วยไฟโทนสีส้มสลัว ตอบโจทย์คนที่ต้องการมาดื่มด่ำอาหารรสเลิศ จิบเบียร์ชิลๆ ท่ามกลางบรรยากาศสุดผ่อนคลาย       ทางร้านเน้นคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีมาจากหลากหลายแหล่ง เริ่มด้วยเมนูกินเล่นอย่าง แปะก๊วยคั่วเกลือ (118.-) รสชาติเค็มมัน อร่อยเคี้ยวเพลิน     ต่อด้วย สลัดมะเขือเทศโทฟู (168.-) สลัดเต้าหู้ชุปแป้งทอดกินกับมะเขือเทศราชินีคลุกเคล้ามากับน้ำสลัดสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้ง มะขามและโชยุ ได้รสชาติเปรี้ยมอมหวาน     จานถัดไปเป็น กุ้งซอสสิงคโปร์ (198.-) โดดเด่นด้วยซอสหมักสูตรพิเศษที่นำไปผัดกับไข่ก่อนจะนำมาราดบนกุ้งทอดตัวโตเนื้อเด้ง รสชาติเข้มข้น หอมมันกลมกล่อม     ที่พลาดไม่ได้ คือ เนื้อน่องลายตุ๋นแห้ง (198.-) เนื้อน่องลายแทรกมันตุ๋นข้ามคืนจนนุ่ม ชุ่มฉ่ำละลายในปาก หรือจะเลือกเป็น ราดหน้ากรอบเนื้อเต้าซี่ (198.-) ราดหน้าผักสามสีและเนื้อสันใน เสิร์ฟมาพร้อมเส้นใหญ่ทอดกรอบกำลังดี กินด้วยกันแล้วอร่อยลงตัวเป็นที่สุด       สุดท้าย ไก่แช่เหล้า (168.-) ไก่หมักเหล้าจีนหนังกรอบ เนื้อนุ่ม นึ่งมาจนได้ความสุกกำลังดี กินคู่น้ำจิ้มรสเด็ด ปิดท้ายมื้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์  

ชวนคนรักอาหารจีนหรือหลงใหลในขนมหวานฮ่องกงมาเช็คอิน ชิมของอร่อย ที่ GingerBowl Cafe คาเฟ่สไตล์จีนร่วมสมัยบนถนนบรรทัดทอง ที่จะพาคุณดื่มด่ำไปกับบรรยากาศและกลิ่นอายความเป็นจีน ตั้งแต่การตกแต่งร้านไปจนถึงเมนูอาหาร ขนมและเครื่องดื่มที่มีให้เลือกกันแบบจุใจ       ตัวร้านออกแบบมาให้ดูเหมือนตึกแถวฮ่องกงสุดคลาสสิกที่แฝงกลิ่นอายความเป็นลอฟท์ด้วยผนังปูนเปลือย ภายในเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งนำเข้าจากประเทศจีน ทำให้หน้าตาและลวดลายดูมีเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ที่ทางร้านจัดแบ่งสัดส่วนพื้นที่ไว้ได้อย่างลงตัว           ทางร้านเน้นเสิร์ฟอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง ที่นำมาปรับเปลี่ยนรสชาติให้เข้มข้นถูกปากคนไทยมากขึ้น เริ่มด้วย ก๋วยเตี๋ยวหลอดปาท่องโก๋-ไข่ (100. -) ปาท่องโก๋ทอดจนเหลืองกรอบห่อด้วยไข่และเส้นก๋วยเตี๋ยวหลอดแป้งบาง ราดด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้าน รสชาติหวานกลมกล่อม ถูกปากเราเป็นที่สุด       ต่อไป ขนมจีบกุ้ง (95.-) ขนมจีบสอดไส้กุ้งตัวโตเนื้อแน่นและมันแกวกรอบ กินกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้าน       ข้าวต้มปลาบะเต็งไก่ (180.-) จุดเด่นของน้ำซุปอยู่ที่การใช้ หัวกุ้ง ปลาแห้ง และสมุนไพรต่างๆ นำมาเคี่ยวอย่างพิถีพิถัน ปรุงจนได้รสชาติสุดกลมกล่อม หอมเตะจมูก กินคู่กับเนื้อปลากระพงชิ้นโตและบะเต็งไก่ เข้ากันได้เป็นอย่างดี       จบมื้อนี้ด้วยของหวานอย่าง เต้าฮวยซุปงาดำ (120.-) เต้าฮวยเนื้อเนียนนุ่ม ราดซุปงาดำหอมๆ ได้รสหวานกำลังดี หรือจะเลือกเป็น บัวลอยน้ำขิง (75.-) บัวลอยแป้งบางไส้ถั่วตัดและงาดำเสิร์ฟมาในน้ำขิงร้อนๆ เผ็ดน้อย กินง่าย  

เชื่อว่าสายหวานทั้งหลายน่าจะเคยลิ้มลอง "ชานมเสือพ่นไฟ" จากร้าน "Fire Tiger" หรือที่เรามักเรียกติดปากกันว่า "โรงเตี๊ยมเสือพ่นไฟ" ของ "คุณเกศ - ชุติมา เปรื่องเมธางกูร" และ "คุณแนท - นันทนัช เอื้อศิริทรัพย์" จนติดอกติดใจกันมาแล้ว ครั้งนี้พิเศษหน่อยเพราะ G&C จะพาคุณไปบุก "Fire tiger by Seoulcial Club" โรงเตี๊ยมเสือพ่นไฟ สาขาใหม่ในไอคอนสยาม ชั้น G โซน Veranda     Fire tiger by Seoulcial Club นี้ไม่ได้มีดีแค่ชานมเสือพ่นไฟ ที่ผู้ก่อตั้งได้แรงบันดาลใจจากชานมไข่มุกสัญชาติไต้หวัน ผสมผสานกับครีมบูเล่ ขนมฝรั่งเศสที่ต้องเบิร์นไฟก่อนเสิร์ฟเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเมนูอาหารจีนสไตล์โมเดิร์ลที่เสริมรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ เข้าไปด้วย อาทิ หม่าล่า ชุดข้าวต้มใบเตย หรือจะเป็นขนมหวานอย่าง พุดดิ้ง บิงซู ไข่นกกระทา เป็นต้น ให้สายฟู้ดได้ชิมได้ที่สาขานี้ที่เดียวเท่านั้น!       บรรยากาศร้านจำลองเป็นโรงเตี๊ยมแบบจีนสวยงาม น่าแชะรูปเป็นที่สุด สีแดงสดและสีทอง ซึ่งเป็นสีมงคลของชาวจีนถูกเลือกมาเป็นโทนสีหลักในการตกแต่ง รอบๆ ประดับด้วยโคมเต็งลั้ง (โคมไฟสไตล์จีนสีแดงที่เรามักเห็นในเทศกาลตรุษจีน) ส่วนภายนอกก็มีวิวแม่น้ำเจ้าพระยาผืนใหญ่งดงามให้ชื่นชม พื้นที่มี 2 ชั้นกว้างขวาง ไม่แออัด สามารถนั่งชิลเสพบรรยากาศพร้อมละเลียดความอร่อยได้เต็มที่     จานแรกลองชิม สะโพกเป็ดตุ๋นผัดพริกกระเทียม สะโพกเป็ดเนื้อแน่น ชิ้นพอดีคำ ตุ๋นอย่างดีจนได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มฉ่ำใน คลุกเคล้ากับพริกขี้หนูเผ็ดร้อน และกระเทียมหอมฉุย หมูกรอบซอสน้ำตาลดำเสือพ่นไฟ หมูกรอบที่เรารัก ไม่อมน้ำมัน จิ้มกับซอสบราวชูก้า สูตรลับฉบับเสือพ่นไฟ รสหวานกลมกล่อม       ตามด้วยเมนูเด็ดอย่าง ก๋วยเตี๋ยวเซี้ยงไฮ้ เส้นเซี้ยงไฮ้ลวกสุกพอเหมาะ คลุกเคล้ากับน้ำยำรสจัดจ้าน อย่าลืมกินหมูติดมันสไลซ์แสนอร่อยด้วยนะ ขนมจีบ 3 จักรพรรดิ ก็ขายดี เซ็ตขนมจีบลูกโตๆ ไส้แน่น อาทิ ไส้ปู ไส้หอยเชลล์ และไส้กุ้ง กินคู่กับ ซอสสูตรพิเศษรสเปรี้ยวเล็กๆ เค็มหน่อยๆ แกมเผ็ดนิดๆ       เอาใจสายเนื้อด้วย เฝอเนื้อวากิว ก๋วยเตี๋ยวสไตล์เวียดนามเครื่องเน้นๆ มีพระเอกเป็นเนื้อวากิวคุณภาพ ราดด้วยน้ำซุปรสกลมกล่อมร้อนๆ กินกับซอสรสเผ็ดเปรี้ยว ข้าวอบเผือกหน้าไก่ทรัฟเฟิล เนื้อไก่สับละเอียดผัดพร้อมทรัฟเฟิลหอมๆ ตักกินพร้อมข้าวสวยอิ่มเอม       เดินทางมาถึงจานซิกเนเจอร์อย่าง หม่าล่าพ้นไฟ เราเลือก เนื้อห่มพริก เนื้อวากิวนุ่มฉ่ำลิ้น ที่ปกคลุกด้วยพริกป่น ช่วยเพิ่มดีกรีให้ความแซ่บทวีขึ้นอีกแรง ซดพร้อมน้ำแกงหม่าล่าสูตรลับรสเผ็ดเป่าปาก เส้นหมี่ฮ่องกง ผักนานาชนิด และน้ำจิ้มพอนซึรสเปรี้ยวสดชื่น     ชุดข้าวต้มเสือพ่นไฟ แสนน่ากิน เซ็ตนี้ประกอบไปด้วย ข้าวต้มใบเตยหอมๆ ยำไข่เค็มเกี้ยมฉ่ายรสเผ็ดเปรี้ยว หมูสับหนำเลี๊ยบกินเพลิน ไชโป๊วผัดไข่ ที่เราคุ้นเคย กุนเชียงทอด มันน้อย และ หมูสับต้มเกี๊ยมบ๊วยรสนุ่มนวล     ล้างปากกันกับคาราวานของหวานอย่าง บัวลอยชานมเสือพ่นไฟ บัวลอยลูกใหญ่ๆ 5 รส ได้แก่ ไข่เค็ม เผือก มันม่วง มันเทศ และงาดำ  ไปด้วยกันได้ดีกับชานมเสือพ้นไฟอุ่นๆ รสไม่หวานมาก โรยหน้าด้วยน้ำตาลก่อนเบิร์นไฟให้หอมฟุ้ง พุดดิ้งนมเสือน้ำลำไย ชามนี้อร่อยมาก พุดดิ้งเนื้อนิ่มเด้ง รสครีมมีนวลเนียน ราดด้วยน้ำลำไยแห้งหวานละมุน       พุดดิ้งน้ำเต้าหู้ ไม่หวานเกิน หอมกลิ่นน้ำนมถั่วเหลือง ไข่เสือมันม่วง  ขนมไข่นกกระทาที่ทำจากมันม่วงสีสวย เนื้อเหนียวนุ่มหนึบหนับ ไม่อมน้ำมัน กินชิ้นต่อชิ้นแบบเพลินๆ       กรานิต้าพุดดิ้งมะม่วง พุดดิ้งรสหอมมัน ปกคลุมด้วยเกล็ดน้ำแข็งสไตล์อิตาเลียน มะม่วงสุกหวานฉ่ำ สตรอว์เบอร์รีรสเปรี้ยวอมหวาน และ ไข่มุกบุกกรุบๆ น้ำแข็งไส ชานมเสือพ่นไฟ เกล็ดน้ำแข็งนุ่มลิ้น หอมกลิ่นชาอ่อนๆ เข้าปากพร้อมวิปครีมนุ่มละมุน ไข่มุก ไข่มุกบุก และเกล็ดน้ำตาลหวานๆ    

ร้านสวยที่ตกแต่งอบอุ่นชวนนั่งแห่งนี้มีเจ้าของเป็นสาวชาวจีนชื่อ Xi Ya ที่หลงเสน่ห์เมืองไทยและอยากนำอาหารจีนสไตล์เสฉวนมาให้คนไทยได้ลองชิม และเชื่อว่าแค่ได้ลองครั้งแรกก็จะติดอกติดใจในรสชาติที่ทั้งอร่อยและเข้าถึงง่าย โดยไม่ต้องห่วงเรื่องรสเค็มมันเพราะทางร้านปรับระดับลงให้ถูกปากคนไทยแล้ว           เริ่มด้วยเครื่องดื่มหอมหวานชื่นใจอย่างชาฟักเขียว และน้ำหวังเหล่าจี๋ สมุนไพรจีนที่ดีต่อสุขภาพ แล้วต่อด้วยไต้ฝุ่นรูทโลตัส รากบัวสอดไส้หมูสับโรยเกล็ดขนมปังทอด เคี้ยวกรุบกรอบ รสชาติเค็ม ๆ มัน ๆ เพิ่มสีสันและรสเผ็ดนิด ๆ ด้วยพริกหวาน 2 สีสับละเอียด อร่อยแบบไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้ม       ต่อด้วยต้มปลาผักกาดดองซิกเนเจอร์ที่หลายคนยกให้เป็นรักแรกพบ ทีเด็ดอยู่ที่ปลากระพงไร้ก้างหั่นชิ้นใหญ่ให้เคี้ยวเต็มคำกับผักกาดดองคัดอย่างดี ในน้ำซุปหอมกรุ่นเคี่ยวจากกระดูกปลานานกว่า 12 ชั่วโมง รสชาติเปรี้ยวหวาน แซมเผ็ดและเค็มเล็กน้อย โรยต้นหอม กระเทียมเจียว และกลีบดอกเบญจมาศเพิ่มสีสันและกลิ่นหอมชวนกิน อร่อยครบรสทั้งน้ำและเนื้อ อย่าลืมสั่งข้าวผัดผักกาดดอง ข้าวผัดรสชาติเค็มมัน จับคู่กับเมนูต้มปลาผักกาดดองได้อย่างลงตัว         ยำหูหมู เมนูนี้ไม่ต้องห่วงว่าจะเหนียวเพราะเคี้ยวนุ่มมาก ทางร้านหั่นชิ้นบางแล้วนำไปผัดกับซอสเสฉวนและล่าเจียวหรือน้ำมันพริกเผา เหยาะเครื่องปรุงรสเล็กน้อย รสชาติกลมกล่อมถูกปาก       ปิดท้ายด้วยมะเขือกระทะร้อน มะเขือม่วงสอดไส้หมูสับ ปรุงรสเค็มหวาน เสิร์ฟในกระทะร้อนพร้อมเสียงฉ่าควันฉุย ตักกินกับข้าวสวย อร่อยแก้มตุ่ยทีเดียว!     ยกให้เป็นร้านอาหารจีนในท็อปลิสต์เลย!

ขึ้นชื่อว่าสมบูรณ์โภชนา ร้านอาหารทะเลชื่อดังที่ผสมผสานจุดเด่นของอาหารไทยและอาหารจีนได้อย่างกลมกล่อมลงตัว สั่งเมนูไหนก็ไม่ผิดหวัง ปัจจุบันมีมากถึง 8 สาขา ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น ใครอยู่ย่านใจกลางเมืองที่การเดินทางแสนสะดวกสบายแนะนำสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ การตกแต่งภายในเรียบหรูและมีพื้นที่กว้างขวาง การจัดวางโต๊ะเป็นสัดส่วน เหมาะกับการนั่งคุยกันอย่างออกรสแบบไม่รบกวนใคร           ส่วนเมนูอาหารยกขบวนมาครบครันไม่น้อยหน้าสาขาไหน แต่ถ้ายังลังเลใจเลือกไม่ถูก สั่ง 4 เมนูไฮไลท์มาประเดิมไปพลางๆ ก่อน โดยเริ่มที่ปูผัดผงกะหรี่ สูตรต้นตำรับครองใจลูกค้ามานานกว่า 50 ปี ปูทะเลเนื้อแน่นก้ามโตเสิร์ฟทั้งตัว ระดับความสดเหมือนเพิ่งยกขึ้นจากทะเลจึงไร้กลิ่นกวนใจ ทางร้านยังตั้งใจผัดให้มีน้ำขลุกขลิกจะได้ตักคลุกเคล้ากับข้าวสวยได้กลมกล่อมถึงใจยิ่งขึ้น แถมด้วยกลิ่นหอมรัญจวนใจของผงกะหรี่ อร่อยเพลินหมดจานไม่รู้ตัว         อีกเมนูแรงดีไม่มีตกยกให้ปลากระพงราดน้ำปลา คัดเฉพาะปลาไซส์บิ๊กนำมาทอดจนสุกกรอบ ผิวสีเหลืองทองชวนกิน เสิร์ฟพร้อมน้ำปลาปรุงรสเข้มข้นและมีกลิ่นหอมชวนหิว       ต้มยำกุ้ง แค่เห็นสีสันก็หวั่นไหว เตรียมใจไว้เลยว่าจะต้องแซ่บเวอร์แน่นอน ทางร้านใช้กุ้งก้ามกรามเนื้อเด้งเต็มคำ ส่วนน้ำแกงเข้มข้นสูตรของร้านใส่พริกเผา ไม่ใส่นมหรือกะทิ ซดร้อนๆ คล่องคอชื่นใจ     สุดท้ายคือข้าวผัดปู ถือเป็นเมนูคู่โต๊ะที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เนื้อปูก้อนใหญ่ๆ ใส่มาให้แบบไม่หวง ยังไม่พอเพราะเสริมด้วยเครื่องเคราอย่างกุนเชียงและไข่ จานนี้จับคู่กับเมนูไหนก็อร่อยเข้ากันทั้งนั้น     ขึ้นชื่อว่า “สมบูรณ์โภชนา” จะผ่านมากี่ปีที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง

ใครชอบกินอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง ตรงไปที่ Dà Cuisine (ต้า คูซีน) ได้เลยเป็นร้านเปิดใหม่ที่อาคารแอทธินี ทาวเวอร์ ถนนวิทยุ       ภายในร้านบรรยากาศแสนสบายดูทันสมัยน่าถ่ายรูปทุกมุม ตกแต่งด้วยสไตล์จีนโมเดิร์น มีจุดเด่นด้วยเบาะสีเหลืองลายดอกไม้แสนหวานและผนังสีน้ำเงิน พร้อมกับห้องส่วนตัวและโซฟามุมต่างๆ ให้เลือกนั่ง       จานเด่นอยู่ที่อาหารจีนสไตล์กวางตุ้งสูตรดั้งเดิมกว่า 50 ปี เสิร์ฟบนกระทะร้อนๆ ควันฉุย มีเมนูเด็ดที่ห้ามพลาด คือ ต้ากระทะร้อน (450 บาท) ลูกชิ้นกุ้งห่อด้วยปลาหมึกทอดเสิร์ฟบนกระทะร้อนจี๋ ราดด้วยเครื่องผัดที่ทำจากผักชี ต้นหอม กระเทียม และพริกไทยผัดรวมกันให้กินหอมชวนกิน เนื้อกุ้งแน่นเต็มคำ จิ้มกับซอสมะเขือเทศสูตรลับของทางร้าน และผักดองกรอบๆ ได้รสเปรี้ยวหวานหอมอร่อย     ซี่โครงหมูซอสเต้าหู้ยี้กระทะร้อน (320 บาท) ซี่โครงหมูเนื้อนุ่มผัดกับซอสสีแดงสดใส รสเปรี้ยวหวานหอมกลิ่นของเต้าหู้ยี้ กินกับขนมปังโรลอบก้อนกลมเนื้อนุ่ม ทาด้วยเนยเค็มและแยมส้มอร่อยเข้ากัน     ส่วนใครที่ชอบติ่มซำต้องลองสั่ง ขนมจีบเป๋าฮื้อ (160 บาท) ขนมจีบลูกเบิ้มชิ้นใหญ่เต็มเข่ง เนื้อแน่นทำจากเนื้อกุ้งล้วนเต็มคำ วางหอยเป๋าฮื้อขนาดพอดีคำไว้ด้านบน เคี้ยวพร้อมกันหวานหอมอร่อย     เมนูกินเล่นที่อร่อยไม่ใช่เล่นต้องสั่ง ฟักทองชุบไข่เค็ม (180 บาท) ฟักทองสไลด์แผ่นหนากำลังดี คลุกแป้งแล้วทอดจนผิวกรอบ ผัดเคลือบด้วยซอสไข่เค็ม ให้มีรสเค็มหวานผสานกัน กินแล้วต้องอยากกินอีก     บะหมี่กุ้งพริกเผา (จานเดี่ยว 290 บาท แบบเซต 390 บาท) อาหารจานเดียวที่สั่งเป็นจานเดี่ยวหรือเป็นเซตมื้อกลางวันก็เหมาะ บะหมี่ไข่สีเหลืองนวลเส้นเหนียวนุ่ม เสิร์ฟกับกุ้งตัวโตผัดพริกเผารสหวานเค็มเผ็ด และมีกลิ่นหอม กินจานนี้บอกได้เลยว่าอร่อยเต็มอิ่ม     เป็นร้านที่อร่อยคุ้มค่า แฟนคลับอาหารจีนควรมาลอง

จินหลิง เป็นชื่อเมือง ๆ หนึ่งในประเทศจีน และเป็นชื่อของคาเฟ่น้องใหม่ Jinling BKK ในโครงการซีนสเปซ ทองหล่อ (Seenspace Thonglor) ก็ถูกเนรมิตขึ้นมาให้มีความจีนย้อนยุคราวกับยกเมืองจินหลิงมาตั้งไว้ที่กรุงเทพฯ เลยทีเดียว   นอกจากจะเป็นคาเฟ่บรรยากาศเหมือนโรงเตี๊ยมที่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มในช่วงกลางวันแล้ว เมื่อตะวันลับขอบฟ้า จินหลิงจะเผยอีกโฉมหน้าหนึ่งของร้านจะเผยโฉมออกมาด้วยแทปเบียร์เรียงราย ให้คนเข้ามานั่งจิบเบียร์ได้ในบรรยากาศของหอนางโลมแสนเย้ายวนและมีเสน่ห์     เมนูอาหารของจินหลิง เน้นอะไรที่รับประทานง่าย และมีกลิ่นอายของจีนผสมผสานกับรสชาติที่ถูกปากคนไทย ด้วยคอนเซปต์อาหารเริ่มแรกที่เป็น “จีนปนลาว” เริ่มต้นด้วยอาหารจานหลักของร้านเมนูแรก บะหมี่หมูต้มซีอิ๊ว ความพิเศษอยู่ที่การหมักหมูด้วยเบียร์จนได้เนื้อหมูนุ่มและหอมขึ้น กินพร้อมเส้นบะหมี่นุ่ม ๆ ส่งตรงจากเยาวราช     และอีกเมนูคือ บะหมี่เป๊าะเนื้อแก้มวัวตุ๋น ที่ผ่านกรรมวิธีการตุ๋น 7 นานถึงชั่วโมง จนเนื้อนุ่มละมุนลิ้น ทั้งสองเมนูเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำซุปร้อน ๆ และน้ำจิ้มรสเด็ด     ตามมาด้วยเมนูกินเล่น ได้แก่ ปังปิ้งซี่โครงหมูเสฉวน ที่นำซี่โครงหมูไปย่างแล้วตุ๋นอีกประมาณ 3 ชั่วโมงจนเนื้อนุ่ม ราดด้วยซอสเสฉวนและน้ำผึ้งได้รสชาติความชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟคู่กับขนมปังปิ้ง     หมูทอด 7 ชั้น ได้แรงบันดาลใจในการตั้งชื่อมาจากตึกที่สูงที่สุดในเยาวราช  นำมาหั่นแล้วเอาหนังออก ทอดจนกรอบ จานนี้เลยยกให้เป็นเมนูเคี้ยวเพลินๆ     เมนูสุดท้ายที่ได้รับความนิยมไม่น้อยคือ เกี๊ยวดาวกุ้ง ถึงหน้าตาจะออกจีนแต่ใช้วิธีการห่อเกี๊ยวสไตล์ตะวันตก สอดไส้หมูกับกุ้ง ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยวขาวและเต้าเจี้ยวดำ กับพริกได้รสชาติเผ็ดร้อนแทรกมานิดๆ หน่อยๆ     สำหรับเมนูขนมประจำร้าน  เป็นขนมปังกลม ๆ สไตล์ฮ่องกงที่มีชื่อว่า Jin Bun มีไส้ให้เลือกทั้งรสช็อกโกแลตส้มและรสครีมชีส ท็อปด้วยครัมเบิ้ลให้ได้สัมผัสกรุบกรอบเคี้ยวเพลิน     ถ้าจะให้ดีต้องสั่งน้ำชาฮ่องกงเย็น ๆ ชื่นใจมาจิบคู่กัน เช่น Hongkong Milk Tea ชาฮ่องกงใส่นม ดื่มแล้วได้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของใบชา Miss Jinling ที่ประกอบไปด้วยชาเอร์ลเกรย์ พีชขาว เอลเดอร์ฟลาวเวอร์ น้ำแอปเปิ้ล และน้ำองุ่น ให้ความรู้สึกสดชื่น อีกแก้วหนึ่งคือ Midnight Mandarin เป็นโกโก้ผสมส้มก็ที่ให้รสชาติเปรี้ยว ๆ กับกลิ่นหอมสดชื่นกลมกลืนไปกับความเข้มข้นหวานมันของโกโก้ได้อย่างลงตัว