ได้คะแนนเต็มจากคนรักติ่มซำไปแบบล้นพ้นจริงๆ สำหรับ Dim Sum Afternoon Tea ชุดน้ำชายามบ่ายติ่มซำแสนอร่อยจาก HEI YIN ร้านอาหารจีนกวางตุ้งขนานแท้ ณ Gaysorn Village ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากจีนกวางตุ้งโบราณ ซึ่งถือกำเนิดมาจากเมืองกวางโจวที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งวัตถุดิบชั้นเลิศอย่าง ซีฟู้ด และผัก-ผลไม้ตามฤดูกาล ผู้นำความอร่อยคือเชฟแจ็คกี้ ชาน เชฟชาวฮ่องกงเจ้าของประสบการณ์การทำอาหารกว่า 40 ปี พร้อมให้คุณดื่มด่ำกับชุดน้ำชายามบ่ายที่ประกอบด้วยติ่มซำโฮมเมด (ทั้งคาวและหวาน) เสิร์ฟพร้อมชาจีนพรีเมี่ยม 8 ชนิด หรือจะเปลี่ยนเป็นค็อกเทลหรือม็อกเทลตามฤดูกาลก็อร่อยไม่แพ้กัน  ขอเริ่มจาก ซุปเกี๊ยวเซี้ยงไฮ้กุ้งหมูกังป๋วย เกี๊ยวตัวอ้วนแป้งบางกริบ สอดไส้หมูและกุ้งเนื้อเด้ง อยู่ในน้ำแกงกังป๋วยรสนุ่มนวลกินเพลิน ตามด้วย ถ้วยทองฟรุ๊ตสลัด แป้งปอเปี๊ยะสีเหลืองทองกรุบกรอบ เข้ากับดีกับสลัดผลไม้รสครีมมีสดชื่น ท็อปด้วยกุ้งตัวโต เผือกทอดทะเล ที่ทำเป็นรูปหงษ์สีขาวสง่างาม เผือกเนื้อแน่นเนียน ผสมกับซีฟู้ดสดเด้ง ราดน้ำจิ้มบ๊วยรสหวานเข้ากัน เราชอบ พายทุเรียน มากมาย แป้งพัฟเพสทรีสีชมพู สอดไส้ทุเรียนกวนโฮมเมดรสหวาน กลิ่นหอม ใครได้ลองเป็นอันติดใจ ซาลาเปาลูกเกดแอปเปิ้ล รูปลูกท้อน่าลิ้มลองเป็นที่สุด ซาลาเปาแป้งนิ่ม เข้ากันดีกับรสเปรี้ยวอมหวานของแอปเปิ้ลและลูกเกด คนรักติ่มซำถูกใจ สาหร่ายม้วน ติ่มซำลูกใหญ่ที่ทำจากกุ้งเนื้อแน่น เข้าคู่ปลาเก๋าเนื้อสด ปิดท้ายด้วย ฮะเก๋าปลาทองนำโชค ฮะเก๋ารูปปลาทองตัวอ้วน น่ารักน่ากิน ไส้กุ้งข้างในทั้งนิ่มทั้งเด้ง จิบคู่ชาจีนพรเมี่ยม 8 ชนิดที่ครั้งนี้เราเลือกเป็น ชาทิกวนอิม รสนุ่มนวลจิบง่าย หอมกลิ่นดอกไม้ปลายลิ้น หรือสายดื่มจะเลือกเป็นค็อกเทลหรือม็อกเทลก็ย่อมได้

หลังจากปักหมุดที่เยาวราชได้ไม่นาน “Claypot King” ร้านอาหารจีนโฮมคุกเปิดใหม่แกะกล่องก็ขยายโลเคชั่นมาที่ เดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์ เอาใจชาวฝั่งธนฯ กันบ้าง ตัวร้านตกแต่งสไตล์จีนโมเดิร์นที่เน้นจากใช้สีมงคลของเมืองจีนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสีแดงที่สื่อถึงความโชคดีมีความสุข และสีเขียว อันหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ รุ่งเรืองและร่มเย็น บวกกับไวบ์สว่างไสวที่ได้จากแสงธรรมชาติอันส่องผ่านกระจกใส ยิ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นเสมือนได้กินของอร่อยที่บ้าน ในส่วนของอาหาร Claypot King ถือคติ ‘อาหารคือยา’ รสชาติเชงเชงไร้ผงชูรส กลมกล่อมและมีประโยชน์ที่ได้มาจากสูตรเด็ดกว่า 30 ปีของอาม่า จานอร่อยสไตล์จีนที่ต้องเสิร์ฟร้อนๆ อย่าง ซุปตุ๋นเครื่องยาจีนซึ่งใช้เวลาเคี่ยวนาน 6 ชั่วโมง หรือจะเป็นข้าวอบหม้อดิน ที่ทำจากธัญพืช 5 สี และข้าวหอมมะลิหุงน้ำสต็อกไก่ ทำสดใหม่หม้อต่อหม้อ เรียกได้ว่าเป็นอาหารโฮมคุกที่กินง่าย และเหมาะสำหรับทุกวัย จากแรกเราสั่ง แฮ่กึ๊น สีเหลืองทองทอดร้อนจี๋ ได้สัมผัสเด้งนุ่มของกุ้งเนื้อหวาน กินคู่น้ำจิ้มบ๊วย ต่อด้วยหนึ่งในเมนูขายดี ข้าวไก่อบหม้อดิน ที่โดดเด่นด้วยข้าวหอมมะลิหุงน้ำสต๊อกไก่รสกลมกล่อม ท็อปด้วยเนื้อไก่ส่วนสะโพกเนื้อแน่นนุ่ม หมักอย่างดีเป็นเวลากว่า 1 วัน ด้วยน้ำซอสสูตรพิเศษที่ทำจากขิงและน้ำตาลมะพร้าว ยังมีกุนเชียงหมูมันน้อย และเห็ดหอมตุ๋นที่อร่อยไม่แพ้กัน ตามมาติดๆ กับ ข้าวซี่โครงหมูอบซอส โดยทางร้านใช้ซี่โครงหมูชิ้นโต หมักกับซอสสูตรเด็ดรสหวานละมุน ตุ๋นจนเนื้อซี่โครงนุ่มร่อน ซดน้ำซุปร้อนๆ กับ ไก่ดำตุ๋นยาจีน ไก่ดำทั้งตัวตุ๋นกับเครื่องยาจีนที่ช่วยบำรุงกำลัง รสชาติเชงเชงเหมาะแก่การเยี่ยมไข้เป็นอย่างยิ่ง ยังมี ไก่ตุ๋นโสม เมนูบำรุงร่างกายสไตล์จีนที่ใช้ไก่บ้านตัวอ้วนๆ เนื้อนุ่มฉ่ำ อยู่ในน้ำแกงโสมรสนุ่มนวล ซดได้เพลินๆ หลายคนชอบ กระเพาะหมูตุ๋นพริกไทย กระเพาะหมูใบใหญ่ที่ล้างจนสะอาด เข้ากันดีกับน้ำแกงกระดูกหมูเคี่ยวอย่างดี ก่อนเติมพริกไทยดำที่คุณสามารถเลือกความเผ็ดร้อนได้อย่างตามใจ หรือจะลอง หูฉลามเป๋าฮื้อน้ำแดงตุ๋นหม้อดิน จานอร่อยเลอค่าที่อยู่คู่กับภัตตาคารจีนมาเนิ่นนาน เอ็นจอยกับหูฉลามพรีเมี่ยมที่เรารัก เพิ่มเติมความฟินด้วยเป๋าฮื้อตัวใหญ่เนื้อหนึบ เข้ากันกับรสเปรี้ยวกลมกล่อมของจิ๊กโฉ่ว   สายหวานห้ามพลาด โอนีแปะก๊วย ขนมมงคลของชาวจีนรสหวานละมุนที่ ประกอบด้วยเผือกกวนโฮมเมดเนื้อเนียน แปะก๊วยมากประโยชน์ และพุทราจีนรสหวาน ส่วนเครื่องดื่มต้องนี่ เห่งหยิ๊ง นมอัลมอนสไตล์จีนที่รสชาติไม่เหมือนใคร ปิดท้ายด้วย ชาหอมหมื่นลี้ ชาร้อนรสนุ่ม มีกลิ่นหอมละมุนของดอกไม้อ่อนๆ นอกจากช่วยตัดเลี่ยนและซดคล่องคอแล้ว ยังช่วยลดไขมันอีกด้วย อร่อยมีประโยชน์ กินแล้วอบอุ่นหัวใจ

เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานก็กลายเป็นหนึ่งในลิสต์ที่สายฟู้ด (โดยเฉพาะคนรักอาหารจีน) ต้องไปลิ้มลองกันให้ได้สำหรับ “K by Vicky Cheng” ร้านอาหารจีนเปิดใหม่ของเชฟวิกกี้ เชง หัวหน้าเชฟและเจ้าของร้าน VEA ร้านอาหารระดับมิชลิน 1 ดาวในเกาะฮ่องกง ที่ครั้งนี้จะพานักชิมเพลิดเพลินคอนเซ็ปต์ The Harvest of Kilin ด้วยแรงบรรดาลใจจาก ‘กิเลน’ สัตว์มงคงของเมืองจีนที่โดดเด่นเรื่องการเปลี่ยนสิ่งชั่วร้ายให้เป็นสิ่งที่ดีงาม คงความซื่อสัตย์ และอวยพรให้ผู้คนสุขภาพแข็งแรง เฉกเช่นเดียวกับตัวร้านที่ตั้งอยู่บนชั้น 56 ของ EA Rooftop at The Empire เน้นการตกแต่งด้วยสีทองหรูหราและเฟอร์นิเจอสีแดงเข้ม เสมือนกับสีเกล็ดแวววาวของกิเลนที่บินอยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า เสิร์ฟพร้อมอาหารกวางตุ้งและแต้จิ๋วต้นตำรับ ซึ่งครั้งนี้เราได้มาชิม ‘Lunch Set Menu’ ที่ประกอบด้วย ออเดิร์ฟหรือติ่มซำ 2 ที่ จานหลักและของหวานอย่างละ 1 ที่ ในราคาเพียง 780++ บาทต่อท่าน หรือ 980++ บาทต่อท่าน (รวมซุป) ถือว่าเป็นเซ็ตอาหารเลอค่าสุดคุ้มแห่งยุคจริงๆ มาดูเมนูเรียกน้ำย่อยกันก่อน ไข่ลวกดองรมควัน ไข่ดองรสกลมกล่อม ด้านในมีไข่แดงเยิ้มๆ สุดฟิน ตามด้วย สลัดมะเขือเทศและมะเขือม่วง จานอร่อยสไตล์วีแกนที่ทำเราติดใจ มะเขือเทศรสเปรี้ยวและมะเขือยาวรสหวานธรรมชาติ คลุกเคล้าน้ำสลัดรสเปรี้ยวสดชื่น เรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี หรือจะเป็นติ่มซำโฮมเมดสูตรของเชฟ Vicky Cheng ได้แก่ ขนมจีบเป๋าฮื้อ ลูกโตๆ แป้งบางๆ ไส้แน่นเต็มคำ แถมด้านบนยังท็อปด้วยเป๋าฮื้อเนื้อหวานและหนึบ พายไส้หมูแดง สไตล์ฮ่องกงที่แป้งข้างนอกกรอบ ข้างในนุ่มชุ่มฉ่ำ สอดไส้หมูแดงรสหวานละมุน กินเพลินสุดๆ ต้อด้วย เผือกทอดไส้เป็ด เผือกทอดรสหวานเนื้อแน่นฟู เข้ากันดีกับไส้อกเป็ดรมควันเนื้อนุ่ม รสเค็มได้ที่ สุดท้ายเป็น ฮั่มสุยก๊อเนื้อพริกไทยดำ หนึ่งในติ่มซำที่หลายคนชอบ ข้าวเหนียวทอดผิวกรอบหนึบ เคล้าไส้เนื้อฉ่ำๆ รสเค็มพอเหมาะ หอมกลิ่นพริกไทยดำ ก่อนไปบรรจบกับคาราวานจานหลักอย่าง หมูดำไอเบริโกย่างซอสฮ่องกงเสิร์ฟพร้อมไข่ดาว หนึ่งในจานดาวเด่นประจำห้องอาหาร หมูดำสเปนเนื้อนุ่มอาบน้ำซอสสไตล์ฮ่องกงรสหวานฉ่ำ (ไม่เลี่ยน) เสิร์ฟเคียงไข่ดาวเยิ้มๆ อิ่มเอม คนรักเนื้อต้องลอง ซี่โครงเนื้อตุ๋นซอสจูโห่ว ซี่โครงเนื้อไทยชิ้นอวบๆ ตุ๋นกับซอสสูตรลับรสชาติเค็มละมุนจนเนื้อนุ่มร่อน กุ้งแม่น้ำผัดพริกเสฉวน เหมาะมากสำหรับคนรักซีฟู้ด กุ้งแม่น้ำเนื้อหวานเด้ง ได้รสเผ็ดจัดจ้านของพริกเสฉวนร้อนแรง กินคู่ข้าวสวยร้อนๆ เข้ากัน ซดน้ำซุปกันบ้างดีกว่า ซุปปูสไตล์ฮ่องกง ปูเนื้อหวานกินอร่อย อยู่ในน้ำแกงรสเปรี้ยวสไตล์ฮ่องกงร้อนๆ ใครชอบรสเชงเชงต้องสั่ง ซุปปูไข่ขาว รสนุ่มละมุน ซดเพลินๆ ใครยังไม่อิ่มจะสั่งจานอะลาคาร์ตมาเสริมด้วยก็ไม่เกี่ยง เราเลือกเป็น K’s Singanature Crab with Chinese Black Olive and Galice หนึ่งในจานเด็ดของเชฟ Vicky Cheng ปูตัวใหญ่ผัดสไตล์ฮ่องกงที่ใส่ทั้งกระเทียม ใบหนำเลี้ยบ เพิ่มรสเค็มกลมกล่อมด้วยเต้าเจี้ยว บอกเลยอร่อยลืม ล้างปากด้วยของหวานฟินๆ ไอศกรีมมะพร้าวราดซอสมะม่วง ไอศกรีมมะพร้ามโฮมเมดรสหวานมัน เพิ่มรสหวานฉ่ำด้วยซอสมะม่วง ตัดด้วยรสเปรี้ยวของส้มโอ ยังมีสาคูเนื้อนุ่มกินไม่เบื่อ และ บัวลอยเผือก เสิร์ฟมาร้อนๆ แป้งบัวลอยเผือกเนื้อหนึบนุ่มรสหวาน ไปด้วยกันได้ดีกับน้ำกะทิรสครีมมี ที่มีความเค็มเล็กๆ จิบคู่ชาดีๆ อย่าง Four Season Taiwan Oolong ชาอู่หลงที่ปลูกจากเมืองเชียงราย รสนุ่มดื่มง่าย หรือใครชอบเครื่องดื่มเย็นๆ ต้องนี่ Peach Oolong Fizz น้ำลูกพีชรสหวานหอม มิ๊กซ์กับชาอู่หลงรสนุ่ม และน้ำโซดาซาบซ่า กินมื้ออร่อยแล้วมีแรงกลับไปทำงาน

Purple Laurel ร้านอาหารจีนผสมผสานสไตล์กวางตุ้งและเจียงหนาน โดยเชฟอิ๋วปิน เชฟจีนฝีมือเยี่ยม ผู้มีประสบการณ์ในร้านอาหารมิชลินชื่อดังที่ประเทศจีนมาหลายปี ปัจจุบันมาเปิดร้านอาหารแห่งแรกในประเทศไทยที่ตึก Gaysorn Amarin ชั้น 4 ภายในร้านดีไซน์เหมือนคฤหาสน์จีนแบบผสมผสาน ที่ถูกเนรมิตและประดับด้วยภาพวาดสวยงาม แสดงถึงความอ่อนช้อยได้อย่างลึกซึ้ง จากฝีมือศิลปินจีนที่บินมาวาดโดยเฉพาะ รวมไปถึงเก้าอี้ไม้แกะสลัก ระแนงกั้น และจานชามที่เพนต์ลายได้อย่างสวยงาม ชื่อร้าน Purple Laurel ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านเกิดของเชฟที่หางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน  “Laurel” เป็นดอกไม้ประจำเมือง ส่วน “Purple” หรือสีม่วง อ้างอิงถึงโรงแรมหรู Seven Villas Hangzhou ที่เคยทำงานเป็นเชฟใหญ่ นำมาเล่าเรื่องผ่านอาหารแบบสมัยใหม่ของอาหารเจียงหนานและอาหารกวางตุ้งไว้ได้อย่างลงตัว สำหรับเมนูไฮไลต์ที่เราเริ่มด้วย เป็ดปักกิ่ง เป็ดหนังฟูกรอบแยกชั้นเนื้อกับหนังกำลังดี เสิร์ฟมา 3 แบบ คำแรกเสิร์ฟบนหมั่นโถวท็อปด้วยคาเวียร์ คำต่อมาหนังเป็ดติดเนื้อบางๆ เสิร์ฟพร้อมแผ่นแป้ง ซอส และผัก และคำสุดท้ายนำเนื้อเป็ดไปคั่วพริกเกลือช่วยตัดเลี่ยนได้อย่างดี ซุปปลากับถั่วลันเตาสไตล์หางโจว บอกเลยว่าแม้หน้าตาจะดูธรรมดาแต่รสชาติล้ำลึกมาก เชฟขูดเนื้อปลาจนฟูแล้วปั้นคล้ายกับลูกชิ้นเนื้อเนียน เสิร์ฟพร้อมน้ำสต๊อกถั่วลันเตาที่เคี่ยวมาจากถั่วหลายกิโลกรัม มีถั่วลันเตากรอบๆ ให้เคี้ยวเพลิน เมนูต่อมา สำหรับเมนูแชร์ริงที่มาแล้วต้องสั่ง ปูม้านึ่ง ปูม้าตัวโตนึ่งพร้อมกับหมูสับปรุงรสผสมแห้วและไวน์จีน เนื้อปูหวานฉ่ำเข้ากันกับเนื้อหมูสับปรุงรส ปิดท้ายด้วยขนมหวาน พุดดิงปลาคาร์ป พุดดิงเนื้อเนียนหอมกลิ่นเสาวรสเปรี้ยวหวานกำลังดี ตกแต่งด้วยรูปปลาคาร์ปแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ ของประเทศจีนได้อย่างสวยงาม ทั้งบรรยากาศที่หรูหราและรสชาติอาหารแบบจีนสมัยใหม่ที่ควรไปลิ้มลอง

สาวกติ่มซำห้ามพลาด “All You Can Eat Yum Cha” บุฟเฟต์ติ่มซำสไตล์โฮมเมดที่ Asiatique Ancient Tea House ร้านอาหารจีนกวางตุ้งในบ้านเก่าร้อยปี ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ ที่ครั้งนี้จัดเต็มต้อนรับตรุษจีนปี 2025 ให้สายฟู้ดอิ่มอร่อยกับติ่มซำลูกโตๆ นึ่งสด และเมนูซิกเนเจอร์กว่า 30 รายการ ให้คุณได้เอ็นจอยกว่า1 ชั่วโมง 30 นาที พร้อมเสิร์ฟแล้วตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย 68 เท่านั้น แน่นอนว่าต้องเริ่มด้วยคาราวานติ่มซำต่างๆ เมนูแรกเป็น ฮะเก๋ากุ้ง ที่ใครเห็นเป็นต้องร้องว้าว! เพราะตัวแป้งจีบเป็นรูปปลาน้อยน่ารัก สอดไส้กุ้งเนื้อหวานเด้ง ต่อด้วย ขนมจีบหมู เมนูอร่อยคอมฟอร์ดฟู้ด ที่ทางร้านใส่ทั้งหมูเนื้อนุ่ม กุ้งและเห็ดหอม ทีเด็ดต้องนี่ ขนมจีบปูอลาสก้าและกุ้ง แป้งขนมจีบสีชมพูหวาน เข้ากันดีกับเนื้อปูอลาสก้าผสมกุ้งเต็มคำ ฝั๋นโก๋ผัก ก็ดีงาม ติ่มซำที่ให้ความกรุบกรอบจากผักนานาชนิด หอมกลิ่นทรัฟเฟิลอ่อนๆ เกี๊ยวกุ้งในซอสเสฉวน รสร้อนแรงของซอสเสฉวน ไปด้วยกันได้ดีกับเกี๊ยวกุ้งลูกใหญ่เนื้อแน่น ตามด้วยของทอดอย่าง พายกุ้งพาร์มาแฮมไส้ฟัวกราส์ แป้งพายหอมกลิ่นเนยฟุ้ง สอดไส้ตับห่านหอมมัน เสริมรสเข้มข้นด้วยพาร์มาร์แฮมชั้นดี ใครๆ ก็เลิฟ ยำแมงกะพรุน แมงกะพรุ่นเนื้อกรุบเด้งมิ๊กซ์น้ำมันงาหอมๆ กินเพลิน สะดุดตากับ มันม่วงทอดไส้กุ้งและหมู รูปหงษ์สีม่วงสง่างาม ได้รสหวานธรรมชาติของมันม่วงเนื้อเนียนและกุ้ง ห้ามพลาด ขนมผักกาดซอสเอ็กซ์โอ หนึ่งในเมนูดาวเด่นประจำร้าน ขนมผักกาดโฮมเมดเนื้อแน่นนุ่ม ได้รสเค็มกลมกล่อม ผัดพร้อมซอสเอ็กซ์โอสูตรเด็ดรสจัดจ้าน เติมความอิ่มเอมด้วย ข้าวผัดหมูแดง ความอร่อยอยู่ที่หมูแดงรสหวานเนื้อนุ่ม และข้าวสวยหอมกลิ่นกระทะเป็นที่สุด ซด ซุปเสฉวนทะเล ร้อนๆ กันดีกว่า รสเปรี้ยวปนหวานธรรมชาติที่ได้ซีฟู้ดสดเด้งอย่าง กุ้งตัวอวบ และหอยเชลล์หัวใหญ่ ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้กุ้ง ก็น่าสนใจ แป้งสีแดงเนื้อนุ่ม ห่อกุ้งทอดกรอบๆ เนื้อแน่นเด้ง ราดน้ำจิ้มสูตรเด็ดรสเปรี้ยวปนหวาน ยังมี ปลาเก๋าผัดซอสพริกไทยดำ ปลาเก๋าเนื้อสด ผัดพร้อมซอสพริกไทยดำรสร้อนแรงเข้มข้น สายฟู้ดต้องลอง กุ้งลายเสือผัดเปรี้ยวหวาน กุ้งลายเสือตัวบิ๊กเบิ้ม มิ๊กซ์กับซอสเปรี้ยวหวานกินง่ายที่ใครๆ ก็ชอบ ก่อนไปต่อกับ เต้าหู้ทอดกระเทียมและพริก เต้าหู้โฮมเมดเนื้อนิ่ม กินพร้อมกระเทียมและพริกรสร้อนแรง จบด้วยของหวาน สาคูแคนตาลูป หวานเย็นชื่นใจ และ แปะก๊วยครีมฟักทอง แปะก๊วยมากประโยชน์ อยู่ในครีมฟักทองรสหวานมัน กลมกล่อมกำลังดี จิบคู่ Milk Oolong ชาอู่หลงหอมกลิ่นชานมละมุน สวรรค์ของคนรักอาหารจีน

ใครตื่นเช้าแล้วอยากกินติ่มซำร้อนๆ ตอนนี้ที่ Hong Bao สาขาใหม่ Nirnava PORCH กรุงเทพกรีฑา มีเมนูอาหารเช้าพร้อมเสิร์ฟให้อุ่นท้องตั้งแต่ 07.30 น. เลือกได้ทั้งแบบ Morning Meal Set และแบบอะลาคาร์ต มาถึงหงเปาทั้งที แน่นอนว่าติ่มซำปั้นสดยังเป็นเมนูไฮไลต์ โดยเฉพาะขนมจีบกุ้ง เมนูขายดีแบบอันดับไม่ตก  นอกจากปั้นลูกใหญ่ให้อร่อยเต็มคำ ยังใช้กุ้งทะเลทั้งตัวผสมกับหมูสับ ด้านบนโรยไข่กุ้งเพิ่มรสสัมผัส ซาลาเปาไส้ครีมคัสตาร์ด ก็ห้ามพลาด ซาลาเปาลายก้นหอยซึ่งเกิดจากทำลวดลายด้วยมือแบบหงเปา บิแล้วเจอไส้ครีมคัสตาร์ดหอมหวานด้านใน เสิร์ฟเมนูเช้าทั้งทีไม่มีโจ๊กฮ่องกงคงไม่ครบสูตร โจ๊กหมูเส้น โจ๊กนื้อเนียนนุ่ม รสกลมกล่อมจากน้ำซุปไก่และผัก เสริมรสด้วยเนื้อหมูฉีกเป็นเส้นๆ เสิร์ฟพร้อมปาท่องโก๋ชิ้นเล็กไว้กินคู่กัน หากยังไม่จุใจสั่ง ปาท่องโก๋หงเปา ตัวยาวที่ทั้งกรอบและนุ่ม จับคู่ซอสไข่เค็มลาวา รสนุ่มนวลเข้ากันดี นอกจากนี้ยังมีเมนูห้ามพลาดอย่าง ซุปปลาผักกาดดองสไตล์ฉงชิ่ง รสเผ็ดร้อนสดชื่นจากน้ำซุปที่ได้จากกระดูกปลาตุ๋นนาน 3-4 ชั่วโมงมาเจอกับผักกาดดองส่งตรงจากเมืองจีน และกลิ่นรสของเครื่องเทศแบบจัดเต็มทั้งหม่าล่าและพริกแห้ง เข้ากับเนื้อปลาเก๋าแดง ใครยังอิน Culinary Class Wars จาก Netflix ที่นี่มี หมูสามชั้นตงโป สูตรดั้งเดิมที่ทางร้านต้มหมูสามชั้น 2 ครั้ง ครั้งแรกต้มใส่ขิง ต้นหอม พริกไทย เพื่อไล่เลือด ก่อนจะนำมาทอดและตุ๋นอีกครั้งในซีอิ๊วดำ เหล้าจีน ฯลฯ จนได้หมูสามชั้นชิ้นหนาที่นุ่มเด้ง อร่อยแบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มสีสวยอย่าง เก็กฮวยหิมะ ที่ใส่วุ้นเก๋ากี้ด้วย หรือ มะนาวหิมะวุ้นอัญชัน ความสดชื่นของน้ำมะนาวสดปั่น ใส่วุ้นอัญชันเคี้ยวเพลิน Morning Meal Set (07.30-10.30 น.) เซ็ต A : โจ๊กฮ่องกง + มินิปาท่องโก๋ เซ็ต B : โจ๊กฮ่องกง +มินิปาท่องโก๋+ติ่มซำ ( 1 เมนู) เซ็ต C : โจ๊กฮ่องกง +มินิปาท่องโก๋+ติ่มซำ+ซาลาเปา (1เมนู)

ลืมภาพกุ๊กช็อปรสนุ่มนวลไปได้เลยเพราะบัดนี้  “Ang Morr (อั้งม้อ)” กลายเป็นร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งรสจัดจ้าน ที่น่าจะถูกปากถูกใจคนไทยยิ่งนัก มาพร้อมกับไซส์ที่เหมาะกับกลุ่มครอบครัว แน่นอนว่าโลเคชั่นยังอยู่ที่เดิมในซอยสุขุมวิท 38 อันแสนสงบ ตัวร้านสีขาวสะอาดตาตัดกับต้นไม้น้อยใหญ่เขียวขจีที่ให้ความรู้สึกร่มรื่นเป็นอย่างดี ในร้านจะพบกับห้องไพรเวทกว้างขวางที่ที่ตกแต่งโทนสว่างให้มู้ดสบายๆ น่านั่ง แถมด้วยวิวสวนสวยข้างนอก ส่วนข้างบนจะแตกต่างจากข้างล่างอย่างสิ้นเชิงด้วยบรรยากาศคลาสสิกของภัตตาคารจีนสมัยก่อน ไฟสลัวๆ บวกกับแสงแดดธรรมชาติที่สาดลงลงมาจากหน้าต่างวงกลมบานใหญ่ เข้ากันกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ และโซฟาหนานุ่มสีเขียวเข้ม เพิ่มความน่าค้นหาของร้านได้เป็นเท่าตัว ด้านเมนูอร่อยตำรับกวางตุ้ง เริ่มต้นที่ของกินเล่นยอดนิยมอย่าง เต้าหู้คินุทอดกรอบกุ้งแห้งพริกเกลือ เต้าหู้คินุเนื้อนิ่มผิวนอกกรอบ เข้ากันได้ดีกับกุ้งแห้งพริกเกลือรสจัดจ้าน และขอเอาใจคนรักเต้าหู้อย่างต่อเนื่องด้วย เต้าหู้ซอสเอ็กซ์โอ เต้าหู้โฮมเมดเนื้อแน่นแต่นิ่มนวล ผัดกับซอสเอ็กซ์โอรสเข้มข้นเผ็ดร้อน ตามด้วย ซุปเสฉวน ชามนี้ที่หลายคนเลิฟ กับซุปที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องเคราแบบจัดเต็ม ปรุงรสเปรี้ยวได้ที่ชิมแล้วติดใจ ตามด้วย ซุปผักปวยเล้งและไข่ 3 ชนิด ผสานรสหวานและเค็มมันอย่างลงตัว จากผัดป๋วยเล้งที่มากประโยชน์ และไข่ 3 ชนิด ไข่แดงเค็ม ไข่เยี่ยวม้าสีทอง และไข่ขาว สายเส้นต้องสั่ง บะหมี่กระเพาะปลาน้ำแดงจักรพรรดิ บะหมี่เส้นสดให้สัมผัสเหนียวนุ่ม ทอปด้วยกระเพาะปลาสดสุดพรีเมียมเนื้อนุ่มหนึบ เคล้าซอสรสเข้มข้นอูมามิ จานต่อมามีตเลิฟเวอร์ห้ามพลาด เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ผัดซอสไวน์แดง สเต็กเนื้อสันในฉ่ำๆ ย่างสไตล์จีนกับซอสไวน์แดงรสชาติดี สลับชั้นกับไข่ดาว และเบิร์นไฟให้หอมและร้อนระอุด้วยวิสกี้ ถัดมาเป็นของหวานที่เรารอคอย จะมีอะไรจะดีไปกว่า นมสดทอด สีเหลืองทองอร่ามน่าอร่อยเป็นที่สุด กินคู่นมข้นหวานสุดฟิน ต่อด้วย เต้าฮวย เซ็ตเต้าฮวย DIY ที่ประกอบด้วย เต้าฮวยโฮมเมดเนื้อเนียนนุ่ม แปะก๊วย เกาลัด น้ำตาลทรายแดง และน้ำขิงรสเผ็ดร้อน ปิดท้ายมื้อมื้อได้อย่างลงตัว จิบคู่กับเครื่องดื่มสุดซาบซ่าอย่าง โค้กบ๊วย บ๊วยเกล็ดน้ำแข็งรสเปรี้ยวอมหวานราดด้วยโคลาชวนชื่นใจ หรือจะเป็น ชาอั้งม้อ ที่ได้รสหวานฉ่ำจากผลไม้ตระกูลส้มผสมกับความหอมของสมุนไพรอย่างป๋วยกั๊กและอบเชย ของอร่อยร้านนี้ยังมีอีกเยอะ เป็นมื้อพิเศษของครอบครัวที่มาได้ไม่มีเบื่อ

เรียกว่าเสิร์ฟความอร่อยกันมาอย่างยาวนานจริงๆ สำหรับ “The Emporia Restaurant” ร้านอาหารจีนกวางตุ้งเก่าแก่กว่า 20 ปี (ขวัญใจสายฟู้ดทุกรุ่น) ตัวร้านอยู่บนชั้น EL ของโรงแรม Emporium Suites by Chatrium (BTS พร้อมพงษ์) ตัวร้านโดดเด่นด้วยวิวเมืองใจกลางกรุงฯ มองเพลิน เข้ากันดีกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ โซฟาหนานุ่มสีน้ำเงิน และฉากกั้นสีทองที่ใครมาก็ต้องตระการตา เอ็นจอยกับอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งจากเชฟมากประสบการณ์ ที่มีทั้งติ่มซำนึ่งสด บุฟเฟต์ All You Can Eat ที่พร้อมให้คุณลิ้มลองจานอร่อยกว่า 45 เมนู (2 ชั่วโมง) เฉพาะวันศุกร์ – วันอาทิตย์เท่านั้น ส่วนใครอยากชิมเมนูอะลาคาร์ตเฉพาะจานที่ชอบก็แวะมาได้ทุกวัน เรียกน้ำย่อยด้วยคาราวานติ่มซำโฮมเมด อย่าง ฮะเก๋า ลูกใหญ่ๆ แป้งบางกริบ ห่อไส้กุ้งเนื้อหวานเต็มคำ ขนมจีบกุ้ง ได้รสหวานของเนื้อกุ้งสดเด้ง จิ้มจิ๊กโฉ่วรสเปรี้ยวกลมกล่อม แซลมอนนึ่งพริกไทยดำ ก็น่าสนใจ แซลมอนฉ่ำๆ เข้ากันดีกับซอสพริกไทยดำรสร้อนแรง สาหร่ายห่อกุ้งน้ำแดง เนื้อแน่นๆ โดนใจคนรักติ่มซำ ได้รสนุ่มนวลของน้ำแดงสูตรเฉพาะ ขาไก่เต้าซี่ เนื้อนิ่มๆ กินเพลินแทบละลายในปาก เผือกทอด ที่เสิร์ฟเป็นรูปหงษ์สง่างาม ได้รสหวานมันที่เรารัก ตามด้วย ปอเปี๊ยะสายไหม แป้งปอเปี๊ยะกรุบกรอบ สอดไส้กุ้งเนื้อเนียนรสหวาน เข้าคู่น้ำจิ้มบ๊วย ลูกชิ้นกุ้งทอด ลูกชิ้นกุ้งโฮมเมดกรอบนอกฉ่ำใน เข้ากันดีกับน้ำจิ้มบ๊วยรสหวาน กุ้งทอดครีมสลัด ก็ดีงาม กุ้งทอดสีเหลืองทองร้อนจี๋ คลุกเคล้าครีมสลัดรสหวานมัน แต่ไม่เลี่ยน ต่อด้วยเมนูที่หลายคนเลิฟ เป็ดย่างหนังกรอบ เป็ดตัวอ้วนย่างอย่างดีจนได้หนังกรอบๆ แต่เนื้อยังคงฉ่ำใน ราดน้ำซอสสูตรเด็ดที่ได้รสหวานจากน้ำสต๊อกเป็ด ปลาเก๋าหมอดิน ปลาเก๋าเนื้อเด้ง มิ๊กซ์กับน้ำซอสรสเข้มข้น ได้ความเผ็ดร้อนจากพริกไทยดำ ซดน้ำซุปร้อนๆ กับ ไข่เยี่ยวม้าหม้อดิน ได้ทั้งรสหวานของผักโขม ผสานความเค็มนัวของไข่เค็ม ความกรุบกรอบของหมูแผ่น และความนุ่มเด้งของไข่เยี่ยวม้า ใครไม่อิ่มสั่ง ข้าวผัดหยางโจว ข้าวเรียงเม็ดสวย หอมกลิ่นกระทะที่ใส่ทั้งเนื้อกุ้งหั่นชิ้นพอดีคำ กุนเชียง และผักกะหล่ำ ก่อนล้างปากด้วย บัวลอยน้ำขิง ของหวานสไตล์จีนเลื่องชื่อ บัวลอยลูกอวบอ้วนเนื้อนิ่ม สอดไส้งาดำรสหวานมัน กินพร้อมน้ำขิงร้อนๆ และ สาคูแคนตาลูป รสหวานหอม ชื่นใจเป็นที่สุด

อีกหนึ่งร้านอาหารลุคอบอุ่นที่หากมองผิวเผิน หลายคนอาจจะนึกว่าเป็นเพียงคาเฟ่แห่งหนึ่งในซอยเจริญนคร 10 แต่จริงๆ แล้วร้าน Baobei (เป่าเป้ย) นั้นเสิร์ฟเมนูอาหารจีนคอมฟอร์ตฟู้ดที่กินง่าย รวดเร็ว ในราคาสบายกระเป๋า ซึ่งมีเมนูเด่น คือบันหน้าเปิด ซาลาเปา และข้าวหน้าต่างๆ ที่กินแล้วต้องติดใจในรสชาติสุดเข้มข้นกลมกล่อม เมนูแรก Crispy Chicken Bun (119.-) แป้งบันเนื้อนุ่มสไตบ์หมั่นโถวสอดไส้เนื้อสัตว์อย่าง ไก่เกาหลีฉ่ำซอสโคชูจังที่สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ตามความชอบ ออนท็อปอีกชั้นด้วยผักดอง หรือจะเลือกเป็น Crispy Pork Bun หรือบันหมูกรอบเคลือบซอสเป็ดปักกิ่งและซอสเผ็ดก็อร่อยไม่แพ้กัน ต่อด้วยเมนูอิ่มท้อง Chiness Pork Belly Rice (269.-) หมูสามชั้น เต้าหู้ ที่ตุ๋นจนเปื่อยนุ่มกับซุปเครื่องเทศ เสิร์ฟบนข้าวสวยร้อนๆ กินกับผักกาดดองโฮมเมด กลมกล่อมเข้ากันดีทุกองค์ประกอบ สำหรับของกินเล่นแนะนำ Spicy Shrimp Wonton (129.-) เกี๊ยวกุ้งแป้งบางสอดไส้เนื้อกุ้งเต็มคำราดด้วยซอสสูตรเฉพาะและน้ำมันพริก และ Baobei Fries (89.-) ที่ดัดแปลงจากมันฝรั่งเป็นมะเขือชุบกับแป้งทอดกรอบ ตามด้วยเคลือบกับซอสหวาน กินเล่นกินเพลินสุดๆ ทางร้านยังมีเมนูเครื่องดื่มจำพวกชาอย่าง ชาไต้หวัน ชานมให้สั่งมาจับคู่ได้อีกด้วย ใครที่มองหาร้านอร่อยเส้นเจริญนคร ที่เป็นอาหารแนวคอมฟอร์ตฟู้ดทำไว กินไว อย่าพลาดที่จะลองแวะมาเช็คอินที่ Baobei ล่ะ!

หากพูดถึงห่านพะโล้ ที่อร่อยจนเป็นที่จดจำ คงจะไม่มีที่ไหนโดดเด่นเท่า ห่านพะโล้ท่าดินแดง ซึ่งร้าน ฉั่วคิมเฮง คือหนึ่งในร้านทายาทเจ้าของฉายา ห่านพะโล้สี่ชั่วอายุคน ที่สืบทอดความอร่อยจากท่าดินแดงสู่คลองตัน จนปัจจุบันขยับขยายร้านไปปักหมุดอยู่ที่กรุงเทพกรีฑาเลียบทางด่วนมอเตอร์เวย์ มาพร้อมบรรยากาศโปร่งโล่งนั่งสบายทั้งครอบครัว ปัจจุบันฉั่วคิมเฮงเดินทางมาสู่รุ่นที่ 4 มีคุณสุรเดช ใช่วิวัฒน์ และคุณสุรินทร์ ใช่วิวัฒน์คอยดูแล คุณสุรินทร์เล่าถึงจุดเริ่มต้นของตำนานห่านพะโล้ท่าดินแดง ว่ามาจากคุณปู่ (ฉั่วเจียบหงี) ที่ได้อพยพย้ายถิ่นฐานมาจากเมืองจีน และรับจ้างแบกหามบริเวณท่าน้ำท่าดินแดง เมื่อเก็บเงินได้จำนวนนึงจึงคิดอยากทำมาขาขาย ตัดสินใจลงทุนซื้อห่านมาต้มกับน้ำพะโล้ด้วยเครื่องเทศหลากชนิด ปรับรสชาติจนได้เป็นน้ำซุปสูตรเด็ดของตระกูลที่ใช้จนมาถึงทุกวันนี้   ความอร่อยที่ถูกบอกเล่ากันปากต่อปากทำให้ห่านพะโล้ตระกูล “ฉั่ว” ท่าดินแดงกลายเป็นขวัญใจมหาชน ซึ่งเหล่าทายานรุ่นใหม่ต่างก็สืบทอดมรดกรสชาติและขยายกิจการต่อกันมา รวมถึงร้าน ฉั่วคิมเฮง ที่หลังจากคุณสุรินทร์ แยกไปเปิดสาขาที่คลองตัน ก็ไปเตะตาเหล่านักชิมด้วยเมนูห่านพะโล้อันเลื่องชื่อ และเมนูใหม่ที่น่าจดจำไม่แพ้กัน นับจากวันแรกถึงตอนนี้ก็มีอายุกว่า 40 ปีแล้ว จุดเด่นที่ทำให้ห่านพะโล้ของร้านเป็นตำนานครองใจวัยเก๋า คือ “สูตรน้ำต้มพะโล้ที่ไม่เคยแห้ง” ซึ่งทางร้านนั้นไม่เคยทิ้งน้ำพะโล้ที่เคี่ยวมาตั้งแต่รุ่นปู่ (รุ่น1) โดยเลือกที่จะเติมน้ำ เครื่องเทศและห่านลงต้มต่อๆ มา เพื่อให้รสชาติยังเข้มข้นคงเดิม ถือเป็นมรดกรสชาติและเคล็ดลับจากจีน ที่กักเก็บความอร่อยไว้ได้ยาวนานจนถึงทุกวันนี้ สำหรับเมนูห่านพะโล้ ทางร้านเลือกใช้ห่านจากฟาร์มเลี้ยงปิดที่ผูกกันมานานเท่านั้น โดยจะเลือกห่านโตเต็มวัยอายุราว 4 เดือน ที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มหนึบกำลังดี ไร้กลิ่นสาบ นำมาตุ๋นกับน้ำพะโล้หอมกลิ่นเครื่องเทศรสเค็มนัว ตัดด้วยความเปรี้ยวของพริกน้ำส้มผสมกระเทียม อร่อยสมคำร่ำลือ อีกเมนูที่อยากให้ลองคือ ขาห่านน้ำแดง ที่เมื่อใช้ตะเกียบคีบเบาๆ เนื้อก็ล่อนติดตะเกียบขึ้นมาอย่างง่ายดาย ตัวซุปก็เหนียวข้นกลมกล่อม แนะนำให้สั่ง เกี๊ยมฉ่ายยำ ที่ทางร้านดองเองมาตัดเลี่ยน น้ำยำรสแซ่บซึมเข้าผักดองทุกอณู กินแล้วฟินจนต้องสั่งกลับบ้าน นอกจากนี้ยังมี ปลาเก๋าดำลวกจิ้ม เนื้อปลาหนึบเด้ง ไม่คาว จิ้มกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวสูตรเด็ด น่าประทับใจ ปัจจุบันทางร้านยังมีเมนูที่น่าลิ้มลองอีกหลายรายการ ที่รสชาติถูกปากจนลูกค้ากลับมาอุดหนุนแบบรุ่นต่อรุ่นกันเลยทีเดียว

Charlie's by Tong Peng ร้านอาหารจีนที่จะพาทุกคนไปรู้จักกับ ‘ ไช่น่าทาว์นอลาวเดอะเวิล์ด ’ โดยคุณชาร์ลี -ชวลิต ทายาทรุ่นสองของร้าน ตงเพ้ง ภัตตาคารอาหารจีนชื่อดังตำนานความอร่อยกว่า 40 ปีย่านโชคชัย 4 ที่ต้องการถ่ายทอดรสชาติอาหารจีนจากประสบการ์ณการเดินทางทั่วโลกผ่านเมนูที่ครีเอตขึ้นอย่างตั้งใจในราคาสบายกระเป๋า ตรงกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศร้านสไตล์หว่องกาไว ทั้งชิคและชิลในคราวเดียวกัน เมนูแนะนำ หยกหิมะ หรือขนมเข่งทอดหอมกรอบในความทรงจำของคุณชาร์ลี ที่ต้องว้าวกับแป้งใบเตยกรอบนอกหนึบใน โรยมะพร้าวขูด กินได้เพลินๆ ต่อด้วย ไก่บ้านแช่เหล้า ไก่บ้านเนื้อแน่นแต่ยังสัมผัสนุ่มหมักมากับเหล้าจีนอย่างดี เสิร์ฟพร้อมแมงกระพรุนกรุบกรอบ จานใหญ่อิ่มได้ทั้งครอบครัว โกยซี่หมี่ หรือราดหน้าสไตล์จีน ตัวเส้นบะหมี่เหนียวนุ่มเคลือบด้วยซุปรสกลมกล่อม ที่มาพร้อมเครื่องหน่อไม้ เห็ด กุยช่ายขาว และเนื้อไก่ รสกลมกล่อม ผัดหมี่โซโห ผัดหมี่แบบแห้งหอมกลิ่นกระทะ คลุกเคล้ามากับกุ้ง แฮม และเห็ดหอม และพลาดไม่ได้กับ เป็ดย่าง เมนูซิกเนเจอร์ที่การันตีรสชาติความอร่อยด้วยร้าน ตงเพ้ง เป็ดเนื้อนุ่มฉ่ำว้าวกับน้ำพะโล้หอมเครื่องเทศ กินคู่กับพริกดอง และผักบุ้ง นอกจากอาหารจานหลักที่ร้านยังมีติ่มซำให้เลือกอีกหลายเมนูทั้ง ขนมจีบกุ้ง สาหร่ายยัดไส้ ขนมจีบหมู ซาลาเปาไส้หมูแดง หรือไข่เค็มลาวา เสิร์ฟมาร้อนๆ นึ่งใหม่ทุกเข่งเลย

อีกร้านหน้าใหม่ของ ‘เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร’ แห่ง Le Du ที่คราวนี้ตั้งใจนำเสนอเป็นร้าน ติ่มซำสไตล์ครอบครัว ซึ่งจะมาฉีกทุกกฏของร้านในเครือเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบรรยากาศที่เข้าถึงง่าย ตกแต่งด้วยโทนสีแดงแบบจีนโมเดิร์น รวมถึงการตั้งราคาที่น่าคบหาแต่ยังใช้เป็นวัตถุดิบประมงพื้นบ้านคุณภาพดี ปรุงรสชาติให้เข้มข้นจัดจ้านสไตล์คนไทย คงมาตราฐานของเชฟระดับมิชลินไว้ได้ดีเช่นเดิม ตัวเมนูมีให้เลือกทั้งติ่มซำพรีเมียมที่ปั้นพร้อมนึ่งสดวันต่อวันอย่าง ขนมจีบพรีเมียม  มีให้เลือกทั้งปูและกุ้งท็อปด้วยอิคุระแบบจัดเต็ม ฮะเก๋าปูพรีเมียม แผ่นแป้งบางสีแดงสวยอัดแน่นด้วยเนื้อปูหวานสด หรือจะเลือกเป็น ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้งกรอบ ราดด้วยน้ำซอสรสกลมกล่อม และไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือ ข้าวอบหม้อดินหมูแดงโกวิน ข้าวเต็มเม็ดอบมาในหม้อดินส่งกลิ่นหอมอบอวล เสิร์ฟพร้อมหมูแดงโฮมเมดเนื้อฉ่ำ เป็นจานหลักชวนว้าวที่กินอร่อยแถมอิ่มท้อง สำหรับติ่มซำชุดปกติก็มีให้สั่งมากกว่า 20 เมนู อาทิ ขาไก่ราดน้ำแดง เนื้อร่วนซุย ปลากระพงนึ่งมะนาว ราดซอสจี๊ดจ๊าด ฮะเก๋าสามสีและฝันโก๋  ที่แป้งบางไส้แน่นแต่มาในราคาแค่หลักสิบ จิ้มกินกับน้ำจิ้มน้ำมันพริกเผาสูตรเชฟต้น ที่ผสานพริกเสฉวนและพริกเผาสไตล์เซี่ยงไฮ้ไว้ด้วยกัน เป็นร้านที่แวะมากินได้บ่อยๆคุ้มกับราคาไม่ผิดหวัง

อัปเดตความอร่อยให้หายคิดถึงอาหารจีนด้วยภัตตาคาร​จีนและติ่มซำชื่อดัง Ah Yat Abalone (อายัทอบาโลน) แต่ครั้งนี้เราไปเยี่ยมเยือนสาขาใหม่บนยอดตึก Column Tower (วิวสวยอลังการมาก!) ที่นี่ยังคงเด่นเรื่องซีฟู้ด ติ่มซำ และอาหารจีนสไตล์ฮ่องกงเหมือนอย่างเคย แต่เชื่อได้เลยว่าไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าไปสาขานี้จะต้องตลึงกับวิวหลักล้านบนชั้นสูงสุดที่สามารถมองเห็นปอดของกรุงเทพฯ อย่าง "สวนป่าเบญจกิติ" ได้อย่างเต็มตาพร้อมเต็มอิ่มไปกับอาหารเลิศรสฝีมือสุดยอดเชฟจากฮ่องกงในบรรยากาศสุดหรูชวนให้นึกถึงร้านในมาเก๊า มีห้องไพรเวตหลายห้องไว้รองรับแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ในมื้อค่ำทางร้านจะจัดโต๊ะอาหารใหม่สำหรับการดินเนอร์ เพื่อสร้างบรรยากาศที่แตกต่างจากเดิม ส่วนเมนูอาหารสามารถสั่งตามเราได้ทั้ง เซ็ตติ่มซำฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็น ขนมจีบหมูกุ้ง ซาลาเปาไส้หมูแดง ฮะเก๊า ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้งทอด เผือกทอด ขนมผักกาดทอด ฟองเต้าหู้ยัดไส้กุ้งทอด หรือจะเป็น อายัทสามสหาย (จานรวมเป็ดย่าง หมูกรอบ และหมูแดง) เมนูชูโรงก็มีทั้ง ซุปหูฉลามน้ำแดงพิเศษหม้อดิน หูฉลามชิ้นใหญ่เสิร์ฟมาในน้ำซุปรสกลมกล่อม ซดร้อนๆ คล่องคอทีเดียว ต่อด้วย เป็ดปักกิ่ง ห่อด้วยแป้งและผัก ราดด้วยน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของร้าน ส่วนเนื้อสามารถนำไปปรุงได้หลายเมนูแนะนำเป็นเมี่ยงเนื้อเป็ดสับห่อด้วยผักกาดแก้วอร่อยทีเดียว เมนูต่อมาคือ ปลาเก๋าแดงหม้อไฟ ความพิเศษอยู่ที่น้ำซุปรสเข้มข้น มีความเค็มเล็กน้อย แต่อบอวลด้วยกลิ่นหอมของสมุนไพร เมื่อลวกปลาเสร็จจิ้มกินกับน้ำจิ้มรสเด็ดบอกเลยว่าไม่ควรพลาด และ เป๋าฮื้อสด ขาห่าน เห็ดญี่ปุ่น เสิร์ฟชามใหญ่กินกับน้ำแดงรสกลมกล่อม นอกจากนี้ทางร้านยังขึ้นชื่อเรื่องการปรุงหอยเป๋าฮื้อ มีให้เลือกทั้งอายัทเป๋าฮื้อสดเม็กซิโกตุ๋น เป๋าฮื้อสดออสเตรเลียน้ำแดง และเป๋าฮื้อสดแอฟริกาน้ำแดง ที่มีความหอมและสัมผัสเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับอายัทอบาโลน ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง เฉาก๊วยสมุนไพรจีน ให้รสขมเล็กน้อยจากผงกระดองเต่า สามารถใส่น้ำผึ้งเพิ่มความหวานได้ และ ข้าวเหนียวดำน้ำฟักทอง มีความหอมและหวานมันจากฟักทองที่เข้ากันได้ดีกับข้าวเหนียวดำ

มาน โฮ บิสโทร ห้องอาหารจีนน้องใหม่ที่ต่อยอดความอร่อยจากห้องอาหารจีนมาน โฮ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ ปักหมุดให้ลิ้มรสอาหารจีนสไตล์โมเดิร์นกันที่ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก พื้นที่ทำเลทองย่านราชประสงค์ใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยดีไซน์และการตกแต่งในบรรยากาศร่วมสมัย มานโฮ บิสโทร จึงเต็มเปี่ยมด้วยคาแร็กเตอร์อันน่าหลงใหล พร้อมต้อนรับด้วยเคาน์เตอร์บาร์ที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สำหรับรับรองผู้ที่มานั่งดื่มระหว่างรอมื้ออาหาร พื้นที่ภายในกว้างขวาง มาพร้อมครัวเปิดที่โชว์การปรุงอาหารของเชฟ เพิ่มความใกล้ชิดและเป็นกันเองยิ่งขึ้น ยังมีห้องรับรองสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสังสรรค์แบบเป็นส่วนตัวอีกด้วย เรื่องความอร่อยเชฟเลสลี่ ดูว์ หัวหน้าเชฟ ห้องอาหารจีน มาน โฮ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ ได้ร่วมกับ เชฟเซีย เย่ว ซาน ผู้ช่วยเชฟอาวุโส และเชฟจาง เว่ย ตง ผู้ช่วยเชฟ ร่วมกันรังสรรค์อาหารจีนสไตล์คอมฟอร์ตฟู้ด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจความอร่อยมาจากอาหารประจำมณฑลเสฉวนและซานตง ที่เชฟเคยลิ้มลองเมื่อครั้งเดินทางไปท่องเที่ยว นำมาสู่เมนูอาหารจีนที่ชูการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและจัดเสิร์ฟแบบจานต่อจาน เพื่อแบ่งปันบนโต๊ะอาหารร่วมกัน นอกจากเมนูอะลาคาร์ตและติ่มซำแล้ว ยังมีเซ็ต Private Dining Menu สำหรับ 10 ท่านในราคา 18,800 ให้เลือกสั่งได้ โดยเซ็ตเมนู A มีเมนูเรียกน้ำย่อย ได้แก่ ไก่เหวินฉางซอสขิง ซึ่งเป็นไก่สายพันธุ์พื้นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย เนื้อแน่นนุ่ม ไข่เยี่ยวม้าและมะเขือยาวซอสพริกเสฉวน เนื้อมะเขือยาวปรุงรสวางมาบนชิ้นไข่เยี่ยวม้าเสริมรสชาติกันได้ดี สลัดแตงกวาญี่ปุ่นและหอยปีกนกซอสกระเทียม จานนี้ได้ทั้งความกลมกล่อมของหอยปีกนกและรสสดชื่นของแตงกวาญี่ปุ่น ขาหมูตุ๋นซีอิ๊วซอสกระเทียม เสิร์ฟมาเป็นโรลคำเล็กๆ โรยหน้าด้วยซอสกระเทียม เมนูซุป เป็นข้าวทอดกรอบซุปกุ้งและหอยสังข์ ที่เสิร์ฟชามข้าวพองพร้อมเนื้อหอยสังข์ทะเล แล้วค่อยๆ รินซุปข้นกุ้งลงไป แนะนำให้กินทันทีจะได้สัมผัสของความกรุบผสมกับรสหวานหอมของซุปกุ้งที่ซึมซับเข้าไปในข้าวพอง ตักกินพร้อมเนื้อหอยสังข์นุ่มๆ เป็ดปักกิ่ง ที่สไลซ์หนังติดเนื้อตามสไตล์ปักกิ่งขนานแท้ พร้อมเครื่องเคียงอย่างแตงกวาและต้นหอม ที่สำคัญต้องมีน้ำตาลและกระเทียมบดเพิ่มด้วย ห่อด้วยแป้งนุ่มๆ ราดซอสรสเค็มหวาน อร่อยติดใจ ปลาหิมะนึ่งซอสซีอิ๊วเต้าซี่และไชเท้าดอง เนื้อปลาหิมะละมุนละไม สด หวาน รสชาติกลมกล่อม กินกับไชเท้าดอง เข้ากัน บะหมี่มันเทศผัดปูไข่ เส้นบะหมี่ทำจากมันเทศผัดกับปูไข่สีสวยชวนกิน รสชาติดีน่าลิ้มลอง กุ้งกังเปาแมคคาเดเมียผัดสไตล์เสฉวน กุ้งชุบแป้งทอดผัดพร้อมแมคคาเดเมียจนซอสเคลือบทุกอณูกุ้ง เต้าหู้โฮมเมดผัดมะเขือยาวซอสพริก เมนูมังสวิรัติที่หอมอร่อยถูกใจคนรักเต้าหู้ ผัดหมี่พิเศษมาน โฮ บิสโทร เส้นบะหมี่ไข่ผัดพร้อมกุ้ง ไข่ เห็ดหอม พริกหวานและหอมใหญ่ ได้กลิ่นหอมกระทะในแบบฉบับจีน ไอศกรีมอะโวคาโด เป็นอาติซานไอศกรีมที่ผสมผสานอัลมอนด์บดและเมล็ดฟักทองบด ห้องอาหารจีนมาน โฮ บิสโทร พร้อมให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.30 – 22.00 น. ณ ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก สำรองที่นั่ง โทร.0-2079-1189

ชวนไปกินอาหารจีนกลิ่นอายฝรั่งเศสที่ MaisonRouge (เมซงรูจ) ร้านอาหารจีนเปิดใหม่ในเครือเมซง เบลอ ของคุณมู่-จักรทอง ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์  'La Chinoiserie Gourmande' หยิบเอาความคลั่งไคล้ในวัฒนธรรมและศิลปะจีนช่วงยุคศตวรรษที่18 ของชาวฝรั่งเศสมาตีความเป็นจานอาหารที่ผสานรสชาติตะวันออกและจีนไว้ด้วยกันอย่างลงตัวไม่เหมือนใคร ทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมที่สอดแทรกความเป็นฝรั่งเศสเข้ามาให้ได้กลิ่นอายเบาๆ ทั้งเมนูคาวและหวาน มาแล้วไม่ควรพลาด Lopster Bisque Xiaolongbao เสี่ยวหลงเปาแป้งหนานุ่มกำลังดีสอดไส้ซุปครีมข้นกุ้งและเอ็กซ์โอซอสกลิ่นหอมรสชาติกลมกล่อม ต่อด้วยไก่แช่เหล้าหน้าตาโมเดิร์นอย่าง “Drunken Chicken” Roulade เนื้อไก่สัมผัสนุ่มที่นำไปม้วนจนสวยงามแช่ด้วยเหล้ากุหลาบและเหล้าจีน พลาดไม่ได้กับ Ispahan Sweet & Sour Pork หมูผัดเปรี้ยวหวานที่ดัดแปลงมาจากอีสปาออง โดยนำความเปรี้ยวหวานหอมของกุหลาบ ลิ้นจี่ และราสป์เบอร์รีมาผสานกับหมูทอดและหอมหัวใหญ่จนได้รสชาติอันน่าหลงใหล และ Barbecue Kurobuta Pork หมูแดงชิ้นพอดีคำ เนื้อฉ่ำวาวรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม ที่เพิ่มความหรูหราด้วยแผ่นทองคำ สำหรับของหวานแนะนำ ไอศกรีมช็อกโกแลตนมทอด หอมอบอวบด้วยกลิ่นของชินนามอน เสิร์ฟพร้อมลูกแพร์ตุ๋นเครื่องเทศ 5 ชนิด หวานมันชื่นใจ

หากอยากกินอาหารจีนสูตรชิงเต่า ไม่ต้องบินไกลไปถึงภาคเหนือของแดนมังกร เพราะทางร้าน วัวทองโภชนา - Wuatong Pochana เขายกเมนูอาหารพื้นถิ่นจากสูตรดั้งเดิมของครอบครัวมาเสิร์ฟในสไตล์โฮมเมดให้เราได้กินจนอิ่มหนำ บอกได้เลยว่ารสชาติตรงตามต้นฉบับเป๊ะๆ ตัวร้านตั้งอยู่ในตึกเก่าย่านเจริญกรุง ด้านล่างเป็นโซน Open Air ใช้กระเบื้องสีเขียวฉาบบนผนัง ช่วยทำให้ภายในร้านดูโดดเด่นขึ้นมา ส่วนพื้นยังคงความคลาสสิกด้วยหินขัด เหมือนบ้านชาวไทยเชื้อสายจีนสมัยก่อน เมื่อขึ้นไปชั้น 2 จะเป็นห้องแอร์ มีมุมให้ถ่ายรูปเก๋ๆ กับผนังที่ตกแต่งด้วยหนังสือพิมพ์และประตูเหล็กยืดสีเขียวที่ตัดกับตัวอักษรภาษาจีนสีแดงได้อย่างพอดิบพอดี ทุกเมนูในร้านรังสรรค์ด้วยวัตถุดิบคุณภาพ เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มรสกับความอร่อยที่สมบูรณ์แบบตามแบบฉบับของเมืองชิงเต่าแห่งแดนมังกร โดดเด่นด้วยเมนูชูโรงอย่าง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวทอง ที่ให้เนื้อเยอะแบบไม่หวง เป็นเนื้อที่ผ่านการตุ๋นนานกว่า 9 ชั่วโมง กินคู่เส้นเมี่ยนเหนียวนุ่ม เสิร์ฟในซุปใสรสกลมกล่อม บอกได้คำเดียว อร่อย! ถัดมาเป็น เนื้อตุ๋นหม่าล่า เนื้อนุ่มละลายในปาก เพิ่มรสด้วยหม่าล่ารสเด็ด โล้วเพ็กหยั่น ลูกชิ้นหัวไชเท้านึ่ง กินคู่น้ำจิ้มรสเปรี้ยวเล็กน้อย อร่อยลงตัว ลิ้นวัวย่าง หอมกลิ่นสโมก ให้รสเค็มเล็กน้อย และเนื้อเด้งสู้ฟัน อย่าพลาด น้ำเต้าหู้ สูตรโฮมเมดแบบออแกนิก รสไม่หวาน มีบุกให้เคี้ยวกรึบ บอกเลยว่าใครที่ผ่านไปมาต้องแวะไปชิมสักครั้ง

มาเยือนฝั่งธนฯ ทั้งทีเลยมีโอกาสดีได้เช็คอิน “Asiatique Ancient Tea House” ร้านอาหารจีนเปิดใหม่เครือ Bangkok Marriott Marquis Queen's Park ที่ตั้งอยู่ในโครงการ Asiatique the Riverfront ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทอดยาว บ้านสีขาวหลังงามเก่าแก่อายุนับร้อยปีถูกรีโนเวทในแบบฉบับจีนคลาสสิกโมเดิร์น โดยจะแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักๆ ด้วยกัน เดินเข้ามาจะพบกับ 1890’s Blend Gallery ห้องแสดงชาที่คุณสามารถมองทีมาสเตอร์ชงชาชั้นดีจากดินแดนมังกรได้อย่างถนัดตา ต่อมาเป็น Hint of Heaven โซนนี้เราชอบมาก เพราะแสงแดดธรรมชาติที่ส่องลงมาจากหลังคาเรือนกระจกทำให้ห้องดูกว้างโล่งสว่างไสว เข้ากันดีกับสวนร่มรื่นสีเขียวด้านนอก ส่วนใครชอบความเป็นส่วนตัวโซน The Blooming ที่อยู่บนชั้นสองนี่เหมาะเพราะมีห้องไพรเวทปาร์ตี้แยกเป็นสัดส่วน  ดื่มด่ำกับความงดงามของผนังกระเบื้องพอร์ซเลนอันเลื่องชื่อที่สะท้อนถึงความเฟื่องฟูของวัฒนธรรมการจิบชา เหมาะกับกับซุ้มประตูรูปเกือกม้ายุคจีนโบราณอย่างยิ่ง พร้อมเสิร์ฟอาหารจีนร้อนฉ่าและติ่มซำนึ่งสดสไตล์ Pagoda Chinese Restaurant ที่สายฟู้ดหลายคนติดใจ เรียกน้ำย่อยกันด้วยติ่มซำโฮมเมดอย่าง ขนมจีบกุ้งหอยเป๋าฮื้อ ขนมจีบกุ้งลูกโตๆ เนื้อแน่นรสหวาน ท็อปด้วยหอยเป๋าฮื้อตัวอวบเนื้อหนึบ ราดซอสสูตรลับรสเค็มปนหวานกำลังดี ตามด้วยเมนูที่น่ารักสุดใจ ขนมจีบปูอลาสก้าและกุ้ง ที่เชฟปั้นเป็นรูปปลาทองตัวอ้วน แป้งบางกริบห่อหุ้มเนื้อปูอลาสก้าชั้นดีและกุ้งเนื้อหวาน จิ้มจิ๊กโฉ่ว เข้ากัน พายกุ้งพาร์มาแฮมไส้ตับฟัวกราส์ ก็ขายดี แป้งพายกรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นเนยสดน่าชิม สอดไส้ตับห่านรสครีมมีผสานกับรสเค้มกลมกล่อมของพาร์มาแฮม และเนื้อกุ้ง ขนมผักกาดซอสเอ็กซ์โอ เมนูนี้เราชอบมาก ขนมผักกาดเนื้อนุ่ม ผิวนอกมีความกรอบเล็กๆ ไปด้วยกันได้ดีกับซอสเอ็กซ์โอรสเค็มเผ็ดเข้มข้น ต่อกันเลยกับ ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้กุ้งทอด แป้งเนื้อนุ่มหนึบสีแดงมงคล ห่อกุ้งทอดร้อนจี๋ ก่อนกินราดซอสสูตรเฉพาะรสเค็มปนเปรี้ยวลงไป (ฟินมากมาย) มันม่วงทอดไส้กุ้งเเละหมู ที่ดึงดูดเราด้วยรูปหงส์สีม่วงสง่างาม แป้งมันม่วงรสหวานธรรมชาติ เคล้าไส้หมูและกุ้งเต็มคำ เสิร์ฟคู่น้ำจิ้มบ๊วยรสหวานหอม บะหมี่อีฟูกุ้งมังกรเเละหอยเชลล์อบยอดซุป อาหารมงคลที่สื่อถึงความอายุยืน เส้นบะหมี่โฮมเมดเหนียวนุ่ม ผัดพร้อมเนื้อกุ้งมังกรแน่นๆ และหอยเชลล์ตัวอ้วนเนื้อหวาน ของหวานเราชี้เป้า พุดดิ้งมะม่วง รูปปลาคราฟเด้งดึ๋งสีทองอร่าม ได้รสหวานฉ่ำของมะม่วงสุกเต็มพิกัด ตัดกับนมสดชั้นดีรสหอมมัน จิบคู่ Milk Oolong ชาจีนรสนุ่ม ที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของชานมไต้หวัน Shui Xian ก็น่าสนใจ ตัวนี้เป็นชาอู่หลงชื่อดังจากมณฑลฝูเจี้ยน แห่งประเทศจีน ใครชอบชาเข้มๆ เราแนะนำนี่ 15 Yo Puer ชาดำที่ผ่านการเก็บรักษามายาวนานถึง 15 ปี นอกจากนี้ยังมีดริ้งก์สำหรับสายจิบอย่าง White ค็อกเทลแสนสวยที่มีส่วนผสมของชาขาว เหล้าจิน กะทิ เพิ่มรสเปรี้ยวซาบซ่าด้วยน้ำมะนาวและน้ำโซดา ก่อนท็อปด้วยโฟอมไข่ขาวนุ่มๆ และม็อกเทลรสสดชื่นอย่าง Roastery ที่โดดเด่นด้วยความหอมของชาข้าวคั่ว น้ำลิ้นจี่รสหวานหอม น้ำส้ม และไซรัปกลิ่นข้าวหอมมะลิ น่าประทับใจไปหมดทุกอย่าง

เปิดแล้ว! ไท่เออร์ (TAI ER 太二 Thailand) ร้านอาหารเสฉวนและหม่าล่าสุดแซ่บ ต้นตำรับ ‘ต้มปลาผักกาดดอง’ ชื่อดังจากแดนมังกร โดยล่าสุดได้ขยายความอร่อยเปิดสาขาแรกในไทยที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ชั้น 7) ไท่เออร์ (TAI ER) มีสาขามากกว่า 540 ทั้งในจีนและอีกหลายประเทศทั่วโลก แต่สำหรับสาขาในไทยทางร้านได้ครีเอตเมนูพิเศษเฉพาะของประเทศไทย กับ 'ไก่ตะไคร้หม่าล่า' รสจัดจ้าน ที่ทำเอาภายในร้านมีกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว รับประกันความอร่อยไม่แพ้เมนูซิกเนเจอร์อย่าง ‘ต้มปลาผักกาดดอง’ เลย เริ่มต้นที่ ต้มปลาผักกาดดอง ซุปผักกาดดองสูตรลับที่ผสานกับรสและกลิ่นจากหม่าล่า มีความเผ็ดร้อนเล็กน้อย กินคู่เนื้อปลาขาวอวบที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน อร่อยลงตัว ตามด้วย ไก่ตะไคร้หม่าล่า เนื้อไก่ทอดจนกรอบนอกนุ่มใน มีรสชาติและรสสัมผัสจากหม่าล่าแทรกซึมอยู่ทุกชิ้น กินคู่ข้าวสวยร้อนๆ เข้ากันได้ดี ถัดมาเป็น เนื้อสไลซ์น้ำมันพริกร้อน เนื้อสไลซ์ชิ้นใหญ่คลุกเคล้าน้ำมันพริก ได้ความหอมมันและเผ็ดเล็กน้อย และ ซุปไก่สูตรพิเศษ เป็นเมนูที่มาช่วยเบรกความเข้มข้นจากหม่าล่า ด้วยน้ำซุปรสกลมกล่อมกินคู่กุ้งและผักกาด นอกจากนี้ทางร้านยังยกเมนูอร่อยสไตล์เสฉวนมาเสิร์ฟอย่างล้มหลาม รับประกันความอร่อยเพราะทุกจานทางร้านใช้วัตถุดิบอิมพอร์ตจากจีนและปรุงรสตรงตามต้นฉบับแท้ๆ

มีเรื่องให้คนรักติ่มซำหวั่นไหวกันอีกแล้ว เพราะ ANG MORR กุ๊ปช็อปร่วมสมัยเครือนารา ไทย คูซีน ครีเอทโปรฯ บุฟเฟต์ติ่มซำโฮมเมด เอาใจสายฟู้ดอย่างเต็มพิกัด เอ็นจอยกับติ่มซำนึ่งสด และอาหารจีนสไตล์โมเดิร์นจานอร่อยกว่า 90 นาที ในบรรยากาศดีๆ ที่ ANG MORR ไม่ว่าจะเป็นสาขาสุขุมวิท 38 สวนเขียวขจีร่มรื่น หรือเซ็นทรัล ชิดลม แสนสะดวกก็ตาม เริ่มต้นที่ กุ้งผีเสื้อ กุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอดร้อนจี๋ เสิร์ฟพร้อมซอสสูตรเด็ด 3 อย่าง ได้แก่ ซอสหม่าล่ามาโย ซอสวาซาบิมาโย และซอสบ๊วยมาโย ตามด้วย เมี่ยงดอกไม้ชมจันทร์ แป้งเวียดนามทอดฟูฟ่องเสมือนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน เข้าคู่กับน้ำจิ้มสูตรลับ ที่มีรสเผ็ดเล็กๆ ปาท่องโก๋ ไส้หมูทรงเครื่อง ปาท่องโก๋ที่เรารัก ห่อหมูทรงเครื่องรสเค็มกลมกล่อม หอมกลิ่นพริกไทยดำอ่อนๆ ขนมจีบกุ้ง ติ่มซำรสดั้งเดิมที่ขาดไปไม่ได้ ได้รสหวานจากเนื้อกุ้งเต็มเปา ซาลาเปาอบไส้หมูแดง ดึงดูดสายตาด้วยรูปส้มน่ารัก ภายในแป้งเต็มไปด้วยไส้หมูแดงรสเข้มข้น เป็ดปักกิ่ง พร้อมอร่อยในคำเดียวเสร็จสรรพ รสหวานพอดีของซอส ไม่เลี่ยนแต่อย่างใด ต่อด้วย ไก่แช่เหล้า ไก่เนื้อแน่นแช่เหล้าจีนอย่างดีจนไร้กลิ่นสาบ แถมยังนุ่มเคี้ยวเพลิน ฮะเก๋าหลากสี ก็น่าสนใจ ฮะเก๋าลูกโตๆ สีสันสดใส ชวนชิมให้ลิ้มลอง คนรักติ่มซำต้องนี่เลย ฮะเก๋าโบโลน่า ฮะเก๋าเนื้อหวาน ท็อปด้วยเบคอน และพริกสดเผ็ดร้อน ยังมี สลัดเต้าหู้เย็น เต้าหู้นุ่มนิ่ม ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน ฮะเก๋าทรัฟเฟิล รูปปลาทองตัวอ้วนน่ารัก หอมกลิ่นทรัฟเฟิลฟุ้ง เอาใจคนรักซีฟู้ดกันบ้างกัน กุ้งหวานซีฟู้ด กุ้งสดเด้ง เข้ากันดีกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเผ็ดเปรี้ยว กรรเชียงปูซอสเปรี้ยวหวาน กรรเชียงปูเนื้อแน่น อาบซอสเปรี้ยวหวานกินอร่อย  เสี่ยวหลงเปา ซุปล็อบสเตอร์ เสี่ยวหลงเปาโฮมเมดร้อนๆ ชุ่มด้วยน้ำซุปล็อบสเตอร์รสหวานกลมกล่อม อิ่มเอมใจแล้วกลับบ้านได้

เมนูร้อนแรงอันดับต้นๆ ที่เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ของสายกินเวลานี้ คงต้องยกให้เมนูหม่าล่า เสน่ห์ของรสเผ็ดลิ้นชาที่ใครก็อยากลิ้มลอง ความป็อปปูล่าร์ดูได้จากมีร้านหม่าล่าเปิดใหม่ให้เลือกตระเวนกินได้ไม่ซ้ำ แต่ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์ความเผ็ดชาแบบต้นตำรับจากเมืองฉงชิ่ง ขอชี้เป้า Riverside Grilled Fish & Mala ที่พร้อมส่งตรงสูตรลับระดับตำนานที่ใครได้ลองจะต้องยกนิ้วให้ จากชื่อร้านก็รู้ว่าทีเด็ดของที่นี่จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก ปลาย่างสไตล์ฉงชิ่ง ลูกค้าสามารถเลือกชนิดปลาที่ต้องการจากนั้นทางร้านจะนำไปย่างทั้งตัวจนได้หนังกรอบและสุกกำลังดี เนื้อปลาสดหวานเป็นทุนเดิมยิ่งเพิ่มเติมด้วยซอสต้นตำรับก็ยิ่งอร่อยจับใจ ที่นี่มีซอสให้เลือกหลายชนิดแต่ถ้ามาครั้งแรกแนะนำซอสหม่าล่าสูตรเด็ด เพื่อให้รู้สึกเหมือนมาถึงฉงชิ่งแล้วจริงๆ ต่อด้วย หมูสามชั้นทอดกระเทียม หมูสามชั้นสไลซ์เป็นแผ่น เนื้อนุ่มฉ่ำหอมกลิ่นเครื่องเทศ มีรสเผ็ดเล็กน้อย เพิ่มความสดชื่นด้วยแตงกวาซอย อร่อยครบรส ถัดมาคือ ไก่ผัดพริกแห้งสูตรริเวอร์ไซด์ เนื้อไก่ทอดกรอบผัดกับพริกทอด แนะนำให้ตักกินพร้อมกันทั้งไก่และพริกจะได้รสชาติที่เข้มข้นเผ็ดร้อน เค็มปลายลิ้น เคี้ยวกินเล่นได้เพลินๆ หม่าล่าผัด สูตรต้นตำรับที่ลูกค้าสามารถ DIY ได้ตามชอบ ตั้งแต่เลือกวัตถุดิบ ระดับความเผ็ด และความเข้มข้นของหม่าล่า ข้าวไข่และผัก เมนูเรียบๆ ที่พิสูจน์ฝีไม้ลายมือของเชฟได้เป็นอย่างดี ไฟต้องแรง ผัดต้องเร็ว เมล็ดข้าวต้องร่วนไม่ติดกระทะ มีกลิ่นหอมของเครื่องเทศและพริกไทยชัดเจน จบด้วยรสชาติกลมกล่อม ประทับใจทุกคำที่เข้าปาก แนะนำได้เพียงบางส่วน เพราะยังมีอาหารจีนจากเมืองฉงชิ่งอีกหลายเมนูที่ล้วนชูเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ได้แก่ รสชาติเผ็ดร้อน หอมเครื่องเทศ และชาสะท้านลิ้น ควรสั่งมาลองชิมทีละเมนู แล้วจะรู้สึกเหมือนได้ท่องเที่ยวไปในเมืองฉงชิ่งจริงๆ