ร้านซูชิ ไซโตะ (Sushi Saito) ร้านซูชิระดับมิชลิน 3 ดาวจากญี่ปุ่นซึ่งขึ้นชื่อว่าจองยากมาก ได้ลดดีกรีความยากลงหน่อยแล้วเพราะทางร้านได้นำพาความอร่อยแบบต้นตำรับมาถึงถิ่นนักกินชาวไทยที่ โรงแรม โฟร์ซีซันส์ กรุงเทพฯ (Four Seasons Bangkok) ย่านเจริญกรุงนี่เอง ร้านซูชิ ไซโตะ ประเทศไทย (Sushi Saito Thailand) ดูแลโดยเชฟมารุยามะ ผู้ซึ่งเคยทำงานที่ซูชิ ไซโตะ สาขาต้นตำรับที่โตเกียวและยังเคยดูแลสาขามาเลเซียมาก่อนจะมาประจำที่สาขาประเทศไทยแห่งนี้ ทางเข้าร้าน Sushi Saito Thailand ต้องเข้าจากฝั่งทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อผ่านประตูสไตล์ญี่ปุ่นเข้าไปจะพบห้องโถงใหญ่ที่มีบาร์เครื่องดื่มไว้คอยต้อนรับ ทางร้านให้บริการเป็นรอบ ได้แก่ มื้อกลางวันเวลา 12:00น. และมื้อเย็นเวลา 18:00น. และ 20:00น. เมื่อถึงรอบประตูเลื่อนแบบญี่ปุ่นจะเปิดออกเผยให้เห็นเคาน์เตอร์ไม้ยาวขนาด 8 ที่นั่งและเชฟมารุยามะซึ่งกำลังเตรียมเมนูอาหารอย่างตั้งใจ คอร์สโอมากาเสะเริ่มต้นด้วยจานเรียกน้ำย่อยที่นำเสนอวัตถุดิบสดใหม่ที่คัดสรรมาจากวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ละวัน รอบที่เราได้ลิ้มลองจานแรกเป็น ปูขนญี่ปุ่น นึ่งเนื้อหวานละมุน ตามด้วย หมึกกล้วยญี่ปุ่น ไข่เต็มท้องตุ๋นจนนุ่ม กัดเบาๆ ก็ขาด และ หอยเชลล์ฮอกไกโด เนื้อสดหวานย่างจนผิวตึงห่อด้วยสาหร่ายกรอบๆ จิ้มพริกป่นญี่ปุ่นเพิ่มรสชาติ เคี้ยวเพลิน จานเรียกน้ำย่อยยังไม่หมด เชฟเสิร์ฟ ตับปลาอังกิโมะ ราดซอสที่ทั้งหวานละมุนและนุ่มละลายในปาก ตามด้วย โนโดกุโระ ปลาคอดำหรือปลากะพงสีชมพู ที่มีไขมันชุ่มฉ่ำย่างจนผิวกรอบและเนื้อในระอุ เสิร์ฟกับไชเท้าฝนและโชยุ ครบทั้งต้ม ตุ๋น นึ่ง ย่าง ปูทางสู่คอร์สหลักที่เรารอคอย คอร์สหลักเป็นซูชิสไตล์เอโดะมาเอะเน้นรสชาติที่สดใหม่ของวัตถุดิบจากท้องทะเล เริ่มด้วยปลาเนื้อขาวซึ่งมีรสอ่อนก่อนจะไล่ระดับความเข้มข้นขึ้นไปในแต่ละคำ ฮิราเมะ คินเมะได และ โคะฮะดะ หรือปลาตะเพียนญี่ปุ่น เชฟมารุยะมะมีความพิถีพิถันในการรักษาอุณหภูมิอย่างมาก ข้าวอุ่นๆ และคำไม่ใหญ่ทำให้ได้รสชาติและสัมผัสที่ต่างกันของเนื้อปลาชัดเจน จากนั้นจึงเป็นมากุโระ หรือปลาทูน่า ไล่ระดับตั้งแต่ อะกะมิ ส่วนเนื้อแดงที่ไม่มีไขมัน ชูโทโระ ส่วนท้องสีชมพูมีมันแทรก และโอโทโระ เนื้อท้องส่วนหน้าที่มันที่สุด เนื้อปลาให้สัมผัสเนียนละเอียดและไต่ระดับความนุ่มนวลจนมาถึงโอโทโระที่แทบจะละลายในปากเลยทีเดียว จากนั้นเชฟกระชับรสสัมผัสด้วย สุมิอิกะ หรือหมึกกระดองเนื้อเด้งกรอบที่ชวนสดชื่น ตามด้วย คุรุมะเอบิ กุ้งลายเสือต้มเนื้อหวานนุ่มชุ่มฉ่ำ และ อะจิ มาเบรกความหวานก่อนเข้าสู่เมนูพิเศษ (หากต้องการเมนูนี้ต้องบวกราคาเพิ่มจากคอร์สปกติ สามารถแจ้งได้ตั้งแต่ขั้นตอนการจองร้าน) เมนูพิเศษที่ว่าก็คือ อูนิ สายพันธุ์บาฟุนเกรดพิเศษเนื้อหวานนวลเนียนและฉ่ำอวลในปาก ปิดท้ายด้วย อะนะโกะ ปลาไหลทะเลย่างซอสเนื้อนุ่มฟู เสิร์ฟตอนที่กำลังอุ่นๆ พิถีพิถันในทุกคำจริงๆ เข้าสู่ช่วงท้ายของคอร์สด้วย โทโระทะคุอัน ข้าวห่อสาหร่ายไส้โทโร่สับกับไชเท้าดองกรุบกรอบ เสิร์ฟกับซุปมิโสะรสกลมกล่อม ปิดท้ายด้วย ทะมะโกะยากิ หรือไข่หวานเนื้อเนียนคล้ายคัสตาร์ด และ ซอร์เบต์ส้มไดไดกับเจลลี รสเปรี้ยวหวานเป็นการล้างปากอย่างสดชื่น เรียกว่าเป็นประสบการณ์กินซูชิที่ละเมียดละไมและเพลิดเพลินสมการรอคอยเลยล่ะ

ห้วยขวางก็ยังคงเป็นย่านขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย มีร้านอาหารมากมายตามตรอกซอกซอยต่างๆ ให้เราไปแวะเวียนตระเวนกินอยู่บ่อยๆ และบ้านสวยบนถนนประชาอุทิศแห่งนี้คือ Rakuzen Time ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสดใหม่ของวัตถุดิบเกรดพรีเมียมที่ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น มาสู่จานอาหารโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ ถึงจะเป็นร้านลับๆ แต่ก็เป็นร้านที่ยืนหยัดและอยู่คู่หมู่บ้านรัชดานิเวศน์มานานกว่า 4 ปี ด้วยความอร่อยจากความพิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบเพื่อนำมาประกอบอาหารแบบญี่ปุ่นขนานแท้ และยังมีบางเมนูที่ปรุงแบบฟิวชัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายของรสชาติและรสสัมผัส ภายในร้านดีไซน์ให้เป็นเหมือนบ้านเพื่อนชาวญี่ปุ่น ที่มีเชฟคอยรังสรรค์อาหารให้รับประทาน พร้อมนั่งดูปลาคราฟแหวกว่ายไปมาในบ่อกลางบ้าน มื้อนี้เริ่มกันที่ Madai Sliced Ponzu ปลามาไดสไลซ์บาง จัดเสิร์ฟเป็นรูปดอกกุหลาบได้อย่างสวยงาม เคียงข้างมาด้วยซอสเจลาตินญี่ปุ่นสูตรเฉพาะของร้าน มีรสเปรี้ยวช่วยเพิ่มรสชาติ หรือจะจิ้มซอสพอนสึที่เข้ากันได้ดีกับปลาเนื้อขาวก็อร่อยไม่แพ้กัน ลองมากินเมนูแบบสุ่มกันบ้างกับ Special Roll โรลที่รวมปลาหลากชนิดมาให้ในคำเดียว ซึ่งจะมีวัตถุดิบพิเศษที่เชฟแอบใส่ไว้ด้วย และที่เราได้คือเนื้อปลามาไดรสหวานฉ่ำ ท็อปด้วยโฮตาเตะเบิร์นไฟ มีงาขาวโรยด้านบนและได้รสเผ็ดนิดๆ จากซอสพริกสูตรลับของเชฟ ถัดมาคือ Ebi Tempura กุ้งเทมปุระกรอบนอกหนึบใน เนื้อกุ้งสดและเด้ง ให้รสหวานเล็กน้อย อร่อยได้โดยไม่ต้องจิ้ม ต่อด้วย Saga Wagyu Steak เนื้อวากิวส่วนติดมันจากซากะ ย่างมาให้ในระดับมีเดียมแรร์ มีความนุ่มและหอมกลิ่นย่าง กินคู่ผักย่างอร่อยเลิศ เพิ่มความอิ่มท้องด้วยเมนู ซูชิ จากเนื้อปลาสดทั้ง โอโทโร ชูโทโร และอาคามิ ตัดรสด้วยวาซาบิดองสูตรของ Rakuzen Time ยังอยู่กันที่เมนูซูชิอย่าง Hotate โฮตาเตะเนื้อขาวอวบ ท็อปมาด้วยไข่ปลาแซลมอน ได้รสหวานละมุนนุ่มลิ้นจากเนื้อหอยที่สดมากๆ ตามด้วย Uni ข้าวปั้นอูนิ ได้รสหวานฉ่ำและไม่มีกลิ่นคาว ตัดกับรสชาติของวาซาบิดอง อร่อยกลมกล่อม เมนูฟิวชันที่อยากแนะนำได้แก่ Pasta Sashimi ด้านในเป็นพาสตาเส้นสด โปะมาด้วยเนื้อปลามาได ทูน่า แซลมอน และฮามาจิ ที่คลุกเคล้ากับซอสสูตรเด็ด ให้ความสดชื่นด้วยรสเปรี้ยวและเผ็ด แนะนำให้กินรวมกันทุกองค์ประกอบทั้งยำสาหร่าย หอมญี่ปุ่นซอย และสาหร่าย รับรองถูกใจ แค่คำว่า “อร่อย” จากเราคงไม่พอ ทุกคนต้องลองไปชิมด้วยตัวเอง :)

 “Akimitsu Tendon” ร้านเทนด้งสุดเก๋าที่มีประวัติอันยาวนานกว่า 135 ปีแห่งเมืองโตเกียวการันตีความอร่อยด้วยรางวัลเหรียญทองชนะเลิศ ‘ราชาแห่งเทมปุระ ดงบุริ 8 สมัยซ้อน’ เจ้าของชื่อ ทานิฮาระ อะคิมิซึซัง หรือที่ใครๆ ต่างรู้จักในฉายาเทมปุระ มาสเตอร์รุ่นที่ 5 และทายาทร้านเทมปุระในตำนานที่เสิร์ฟความอร่อยมาตั้งแต่ยุคซามูไร ปัจจุบัน Akimitsu Tendon ขยายสาขาไปแล้วหลายประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ เกาหลี ไต้หวัน ออสเตรเลีย และเมืองไทยที่ ‘ไอคอนสยาม’ ห้างฯ ใหญ่ขวัญใจชาวฝั่นธนนั่นเอง ใครอยากลองชิมให้เดินตรงดิ่งมาที่ชั้น G ได้เลย จานแรกเราสั่ง Chicken Salad สลัดไก่ย่างชามใหญ่นี้ประกอบไปด้วย ไก่ย่างเนื้อแน่นหอมๆ ผักสดนานาชนิด ราดน้ำสลัดงาสไตล์ญี่ปุ่นรสสดชื่น ถือเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยได้ดี ตามด้วย Sashimi Mori Luxe เซ็ตซาชิมิเนื้อสดเด้งที่ให้คุณฟินไปกับ แซลมอน เนื้อหวาน มากุโระ ละลายในปาก ชิเมะ ซาบะ ปลาซาบะดองน้ำส้มสายชูไร้กลิ่นคาว ฮามาจิ เนื้อสด โฮตาเตะ เนื้อเด้ง อากะเอมิ กุ้งหวานอาร์เจนติน่ากินเพลิน และ อิคุระ ไข่แซลมอนรสเค็มกลมกล่อม เอาใจคนรักซูชิกันอย่างต่อเนื่องด้วย Salmon Lava Roll แซลมอนเบิร์นไฟ กินพร้อมซอสสไปซี่รสเข้มข้น ท็อปด้วยไข่กุ้งกรุบๆ และไข่แซลมอนที่เรารัก Akimitsu Signature Tendon ข้าวด้งซิกเนเจอร์ประจำร้าน อิ่มเอมกับอากาโกะ ปลาเนื้อขาวทอดอย่างดี เทมปุระ กรอบนอกนุ่มใน และผักชุบแป้งทอดต่างๆ เข้ากันดีกับน้ำซอสสูตรลับรสเค็มหวานที่ส่งต่อความอร่อยมานานกว่า 135 ปี หรือใครเลิฟซีฟู้ดเราแนะนำ Seafood Tempura เลย กุ้งเทมปุระทอดร้อนจี๋ แป้งกรอบฟูน่ากิน โฮตาเตะเนื้อหวานชุบแป้งทอด ทาโกะ ปลาหมึกยักษเนื้อหนึบ และปูนิ่มทอดหอมๆ ที่หลายคนชอบ เสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่นหุงร้อนๆ และผักดองตัดเลี่ยน Kiwami Tendon เซ็ตข้าวด้งชุดจัมโบ้จุใจสายกิน ที่มีทั้งปลาอานาโกะทอดร้อนๆ ซาวาระ ปลาแมคเคอเรลสเปนญี่ปุ่นเนื้อเด้ง ปลาฮามาจิ กุ้งเทมปุระ โฮตาเตะ ปูนิ่ม และผักต่างๆ อย่าง มะเขือม่วง รากบัว ข้าวโพดอ่อน เห็ดชิเมจิและฟักทอง ตบท้ายด้วย Ume Jelly เจลลี่บ๊วยเนื้อเด้งดึ๋งรสหอมหวาน แช่เย็นๆ กินชื่นใจ  

ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านโปรดของสาวกอาหารญี่ปุ่นจริงๆ สำหรับ “Hacco Labo & Koji Bijin Café” แหล่งรวมสินค้าปังๆ จากแบรนด์มิโซะอันดับ 1 แห่งประเทศญี่ปุ่น ที่มีให้คุณเลือกช็อปปิ้งกว่าร้อยรายการ ได้แก่ มิโซะสด ซุปมิโซะสำเร็จรูป แป้งจากถั่วเหลือง ซอสสำหรับหมักเนื้อ โปรตีนเกษตรจากถั่วเหลือง อะมาสาเก และสินค้าอื่นๆอีกมากมายจากมิโซะ ถั่วเหลืองและโคจิ ใครอยากมีของอร่อยติดบ้านปักหมุดร้านนี้ไว้เลย ป.ล เรามาที่สาขา DONKI Mall Thonglor (บริเวณชั้น 2 นะ) เดินเข้าไปแล้วเราตรงดิ่งไปที่สินค้าขายดีก่อนเลย Ikkyu San Miso 1KG มิโซะสดแพ็คใหญ่สุดคุ้มนี้มีส่วนผสมของซุปดาชิจากสาหร่ายคอมบุและปลาคัตสึโอะ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ร้านอาหารญี่ปุ่นมากมาย Instant Miso Soup 8 Serves ซุปมิโซะสำเร็จรูป แพ็ค 8 เสิร์ฟ ทำได้ถึง 8 ถ้วยที่มาพร้อมกับ 3 ท็อปปิ้งให้คุณเลือกอร่อยคือ เต้าหู้ขาว สาหร่ายวากาเมะ และเต้าหู้ทอด นอกจากนี้ยังมีสูตรสำหรับชาววีแกนอีกด้วยนะ Plus Koji Amazake 1000ml ก็น่าสนใจ อะมาสาเก หรือที่เรารู้จักกันในชื่อน้ำข้าวหมักโคจิ เครื่องดื่มคลาสสิกของประเทศญี่ปุ่นที่เกิดจากการหมักข้าวกับโคจิ ปราศจากน้ำตาลและแอลกอฮอล์ ให้รสหวานธรรมชาติ จิบเพลินๆ แถมดีต่อสุขภาพ ตามด้วย Dried Daizulabo Soymeat โปรตีนเกษตรจากถั่วเหลือง ที่ทางแบรนด์คัดสรรแต่ถั่วเหลืองที่ไม่มีการตัดแต่งพันธุกรรม (Non GMO) ให้สารอาหารโปรตีนและไฟเบอร์สูง Daizulabo Soy Flour แป้งถั่วเหลือง สูตรกลูเตนฟรีที่ให้โปรตีนและไฟเบอร์สูง แถมยังสามารถใช้ครีเอทเมนูต่างๆ แทนแป้งสาลีได้อีกด้วย ความพิเศษยังไม่หมดแค่นี้เพราะทาง Hacco Labo & Koji Bijin Cafe ยังจัด ‘Nagano Food Fair 2023 งานรวมของดีของอร่อยจากจังหวัดนากาโน่ ที่จัดตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม – 12 มีนาคม 2023  มาไว้ให้คุณได้ช็อปปิ้งแบบไม่ต้องบินไปไกลถึงประเทศญี่ปุ่น สายฟู้ดตัวจริงนี่ห้ามพลาดเลยเพราะสินค้ามีจำนวนจำกัด! หันมองโซนสินค้าจากจังหวัดนากาโน่เรารีบหยิบ Banri Fumi ผักดองสไตล์ญี่ปุ่นรสชาติดี ที่มีส่วนผสมของหอยเชลล์คุณภาพจากจังหวัดฮอกไกโด นำไปครีเอทเมนูอะไรก็เพลิน Hon Wasabi วาซาบิสดรสเผ็ดพอดีที่มาในรูปแบบหลอดบีบ หนึ่งในสินค้าขายดีแห่งจังหวัดนากาโน่ ชิ้นนี้ก็น่าสอย Shichimi Togarashi พริกป่นสัญชาติญี่ปุ่นขวัญใจคนไทยจาก Yawataya Isogoro ผู้ผลิตพริกอันดับ 1 แห่งจังหวัดนากาโน่ ที่ครีเอทมาจากพริกป่นคุณภาพผสานกับ 6 สมุนไพรและเครื่องเทศนานาพันธุ์จนได้รสเผ็ดร้อนหอมกรุ่น Shinshu Jyuwari Soba เส้นโซบะแป้งบัควีทแท้ 100% จาก Obinata ให้สัมผัสเหนียวนุ่มซู้ดเพลิน Ichida Kaki หนึ่งในสินค้าสุดป็อปประจำร้าน ลูกพลับอบแห้งระดับพรีเมี่ยมในแบบฉบับดั้งเดิมของดินแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งถูกคัดสรรมาจากสวนท้องถิ่นคุณภาพในจังหวัดนากาโน่ Shinshu Azumino Apple Juice น้ำแอปเปิ้ลสายพันธุ์ฟูจิแท้ 100% ที่รังสรรค์มาจากแอปเปิ้ลแถบอะซุมิโน ชินชู จังหวัดนากาโน่ ได้รสเข้นมันหวานหอมากธรรมชาติ จิบกี่คราก็เพลิน นอกจากสินค้าแบรนด์มารุโคเมะ และไอเท็มปังๆ ที่นำเข้าจากจังหวัดนานากาโน่แล้ว ทางร้านยังมีโซน ‘Koji Bijin Café’ คาเฟ่ที่เสิร์ฟขนมโฮมเมดน่าหม่ำ ซึ่งทำมาจากแป้งถั่วเหลืองของแบรนด์มารุโคเมะ จิบพร้อมเครื่องดื่มสดชื่นที่ทำมาจากอะมาสาเกอีกด้วยนะ ไม่ว่าจะสายฟู้ดหรือสายหวานมาเช็คอินร้านนี้ก็ฟินมากมาย

ถูกใจคนทำอาหารอย่างแน่นอนเพราะงานนี้เราจะพาไปช็อปของอร่อยที่ต้องมีติดบ้าน (คนรักอาหารญี่ปุ่นต้องปลื้ม) อย่าง ‘มิโซะ’ ที่ “Kuranoya” ร้านมิโซะสดสไตล์ดั้งเดิมจากประเทศญี่ปุ่นที่สาขาแรกในเมืองไทย ซึ่งตั้งอยู่ในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ บริเวณชั้น 3 โซน Japan Avenue แหล่งรวมของอร่อยจากประเทศญี่ปุ่นสุดปัง ฝั่งเดียวกับ Nippon Market นั่นเอง ที่ร้าน Kuranoya คุณจะพบกับมิโซะสดชั้นดีที่มาจากแหล่งวัตถุดิบคุณภาพอย่าง เมืองฮอกไกโด เมืองคาโกชิม่า เมืองนากาโน่ และเมืองไอจิแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย มีทั้งมิโซะข้าว มิโซะถั่วที่เราคุ้นเคย และมิโซะข้าวบาร์เลย์น่าชิม รวมทั้งหมด 6 ชนิด อาทิ มิโซะฮัตโจ มิโซะถั่วเหลืองสีดำสนิทจากจังหวัดไอจิ ที่ผ่านการหมักบ่มอย่างพิถีพิถันทางธรรมชาติในถังไม้ใหญ่นานกว่า 2 ปี ได้รสเค็มจากเกลือคุณภาพ มาที่มิโซะข้าวกันบ้างกับ มิโซะฮอกไกโด หนึ่งในความภูมิในของจังหวัดฮอกไกโด ครีเอทจากถั่วเหลืองญี่ปุ่นและข้าว หมักกับน้ำแร่จากบ่อน้ำพุร้อนชิโคทสึภายในโรงกลั่นชิโตเสะนั่นเอง ซัตสึมะมิโซะ มิโซะข้าวบาร์เลย์แห่งคาโกชิม่าที่มีรสหวานเป็นเอกลักษณ์ ต่อด้วย ชินชูโคจิมิโซะ เป็นมิโซะข้าวรสชาติหลายมิตินี้ได้จากการหมักอย่างดี และส่วนผสมคุณภาพจากจังหวัดนากาโน่ อย่างข้าว ถั่วเหลือง เกลือและแอลกอฮอล์ ยังอยู่กับมิโซะข้าวจากเมืองนากาโน่อีกเช่นเคย ชินชูมิอาสะมิโซะ ที่พิเศษสุดโดยการหมักบ่มบนเทือกเขาแอลป์ทางตอนเหนือที่มีความสูงกว่า 1,000 ฟุตมานานกว่า 2 ปีรสได้เป็นรสชาติที่ล้ำลึก ตบท้ายด้วยวัตถุดิบธรรมดาที่ไม่ธรรมดาอย่า มิโซะขาว เป็นมิโซะข้าวเนื้อเนียนละเอียดที่เหมาะแก่ปรุงอาหารอย่างยิ่ง (ขวัญใจแม่บ้านสุดๆ ) รวมมิโซะของดีจากประเทศญี่ปุ่นไว้ที่นี่แล้วจริงๆ ป.ล สามารถสั่งผ่านเดลิเวอรีได้นะ

‘Happiness with Bread’ ถ้าขนมปังคือความสุขของคุณ เราชี้เป้าให้ไปเช็คอินที่ “Foobreca” ร้านขนมปังโฮมเมดของเชฟชาวโอซากา ที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 36 (BTS ทองหล่อ) พิกัดหาง่ายเพราะอยู่ตรงข้ามร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังอย่าง L'OLIVA Ristorante Italiano & Wine Bar ตัวร้าน Foobreca นั้นโดดเด่นด้วยขนมปังสไตล์ญี่ปุ่นสูตร 30 ปีที่หมุนเวียนเปลี่ยนเมนูกันไป แถมยังราคาไม่แรงเหมาะสำหรับหนุ่ม-สาวออฟฟิตซื้อเป็นมื้อเช้าเริ่มต้นวันใหม่ในทุกๆ วัน ต้อนรับด้วยขนมปังขายดีของร้านอย่าง Salt Butter ขนมปังโรลโฮมเมด ผิวนอกขนมปังกรอบเล็กๆ แต่ภายในนั้นแสนนุ่มนิ่ม ได้รสเค็มนิดๆ ของเกลือ ตามด้วย Honey Cream Cheese ขนมปังก้อนกลม สอดไส้ครีมชีสหอมมัน ได้รสหวานละมุนของน้ำผึ้งหอมๆ สายหวานอย่างเรานี่ปลื้มปลิ่ม สำหรับใครชอบแบบดั้งเดิมเราแนะนำ Raisin Crumble ขนมปังลูกเกดเนื้อนิ่ม มีสัมผัสเหนียวหนึบเล็กๆ เต็มไปด้วยลูกเกดรสหวาน ท็อปด้วยครัมเบิ้ลโฮมเมดกรุบกรอบ หรือจะเป็น Kurumi Anpan ขนมปังถั่วแดงทำเอง ได้รสหวานมันของถั่วแดงกวน เคล้าไปกับขนมปังเนื้อเหนียวนุ่ม ที่ทางร้านเพิ่มเติมถั่ววอลนัตเคี้ยวเพลินลงไปด้วย เราชอบ Arabiki Sausages Bread ขนมปังแป้งนิ่มฟู และชีสมอซซาเรลล่าห่อไส้กรอกหมูบดอย่างดี ราดซอสมะเขือเทศเข้ากัน ปิดท้ายด้วย Cinnamon Roll ซินนามอนโรลชิ้นใหญ่ๆ เพิ่งออกจากเตา ราดด้วยน้ำเชื่อมน้ำตาลไอซิงสูตรของทางร้านโดยเฉพาะ รสหวานละมุน แถมยังหอมกลิ่นซินนามอนแบบไม่แรงจนเกินไป

รสดีเด็ด Izakaya” จุดรวมพลของสายแฮงก์เอาท์ย่านบรรทัดทอง ร้านมาในคอนเซ็ปต์อิซากายะหรือร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของตึกรสดีเด็ด ตรงหัวมุมแยกสะพานอ่อน ถนนบรรทัดทอง บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ยิ่งดึกยิ่งคึกคัก ด้านหนึ่งของร้านเป็นครัวเปิดที่เราจะได้เห็นมูฟเมนต์ของการปิ้งย่างอาหารเสียบไม้ตลอดเวลา และความพิเศษของอิซากายะร้านนี้ที่ไม่เหมือนร้านไหน คือให้บริการแบบบุฟเฟ่ต์ที่เลือกได้ 2 ราคา ได้แก่ 199 บาท และ 399 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่ม) อิ่มจุกๆ กับหลากหลายเมนูได้นานถึง  2 ชั่วโมง เมนูกินเล่น อาทิ ไก่ทอดซอสนัมบัง, ไก่คาราเกะ, ไก่ทอดซอสเผ็ด และยำไก่ย่าง เมนูเสียบไม้ย่างอาทิ สะโพกไก่เสียบไม้ย่าง, หมูสามชั้นเสียบไม้ย่าง, เนื้อย่างเสียบไม้, ท้องปลาแซลมอนเสียบไม้ย่าง เมนูไฮไลท์ยกให้สเต๊กเนื้อแองกัส เนื้อนุ่มฉ่ำแทบละลายในปาก ตามด้วย เสือร้องไห้ ได้รสชาติของเนื้อฉ่ำๆ ชัดเจน เต็มปากเต็มคำ และสเต๊กหมูคุโรบูตะ หมูนุ่มเคี้ยวง่ายหอมพริกไทยขึ้นจมูก ส่วนเมนูข้าวลองข้าวผัดกระเทียม, หมูสามชั้นผัดซอสญี่ปุ่น, ข้าวหน้าเนื้อ, ข้าวหน้าหมู ปิดท้ายด้วยโอเด้งร้อนๆ ซดคล่องคอ แฮงก์เอาท์ครั้งต่อไป ปักหมุดไว้ที่ “รสดีเด็ด Izakaya” บรรทัดทอง

เรียกได้ว่าเปิดสาขากันแบบรัวๆ ไม่พักจนสาวกราเมนอย่างเราตามไปเช็คอินไม่ทันจริงๆ สำหรับ Ebisu Ramen” ร้านราเมนเส้นสดสไตล์ยาไต ซึ่งครั้งนี้เราแวะมาลิ้มลองที่สาขาดั้งเดิม (บางแค) ร้านราเมนแนวสตรีทฟู้ดสบายๆ สไตล์ยาไตแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย ที่มีคอนเซ็ปต์ว่า "ราเมนไม่ใช่อาหารชั้นสูง ทุกคนมีสิทธิ์ได้ทานราเมนอร่อยในราคายุติธรรม" โดยราคาเริ่มต้นเพียง 88 บาทเท่านั้น ถูกใจหนุ่ม-สาวออฟฟิตเสียนี่กระไร นอกจากราคาดีงามแล้วจุดเด่นของที่ร้านเลยคือเส้นสดสไตล์เส้นฮากาตะ เป็นเส้นเรียวเล็กเหนียวนุ่มที่แฟนคลับราเมนหลายคนปลื้ม แถมเอบิสึ ราเมน ยังมีเมนูข้าวหน้าต่างๆ ให้สายฟู้ดได้ชิมอีกด้วย เรียกน้ำย่อยด้วย ปีกไก่ทอดนาโกย่า ปีกไก่ไซส์อวบๆ ทอดสีเหลืองทองร้อนจี๋ ราดซอสสูตรเฉพาะรสเค็มๆ หวานๆ ต่อกันที่ ทาโกะวาซาบิ เมนูสุดป๊อปของสายดื่ม ปลาหมึกเนื้อหนึบหนับ คลุกเคล้ากับซอสวาซาบิรสเผ็ดซ่า ตามด้วยจานเด่นประจำร้านอย่าง ทงคตซึ ราเมน เส้นสดไซส์เล็กสไตล์ฮากาตะ ให้สัมผัสเหนียวนุ่มซู้ดเพลิน อยู่ในน้ำแกงกระดูกหมูที่เคี่ยวนานหลายชั่วโมง ได้รสเข้มข้น หอมมัน ท็อปด้วยหมูชาชูชิ้นโตๆ และไข่อิ่มเอม ยังมี โชยุ ราเมน น้ำซุปโชยุรสเค็มนุ่มนวล เข้ากันดีกับราเมนโฮมเมดในแบบฉบับฮากาตะ พร้อมอร่อยกับหมูชาชูนุ่มๆ แทบละลายในปาก และไข่ฟองใหญ่

Shoko Omakase ร้านโอมากาเสะในบรรยากาศสบายๆ ย่านสนามเป้า ที่คัดสรรวัตถุดิบและปรุงอย่างพิถีพิถันในสไตล์ฟิวชั่น แต่สำหรับมื้อนี้จะเป็น New Autumn Menu Platinum Course มีทั้งหมด 17 รายการ (รวมซุปและของหวาน 3 รายการ) เน้นเสิร์ฟวัตถุดิบสุดพรีเมียมแห่งฤดูใบไม้ร่วง รังสรรค์อย่างประณีตโดยเชฟมากฝีมือในราคาเอื้อมถึง เมื่อเดินเข้ามาในร้านจะพบบาร์ทรงโค้งขนาดใหญ่ไว้ต้อนรับผู้มาเยือนได้มากถึง 20 ที่นั่ง บรรยากาศรอบๆ ดีไซน์ได้อย่างสวยงาม พร้อมดึงดูดสายตาด้วยการตกแต่งที่แฝงกลิ่นอายของฤดูใบไม้ร่วงประเทศญี่ปุ่น ด้านข้างมีมุมไพรเวตแยกไว้ ส่วนด้านหลังและชั้นบนจัดเป็นห้องไพรเวตขนาดใหญ่ โดยมีเชฟรังสรรค์เมนูอย่างใกล้ชิด มาเริ่มคอร์สกันที่เมนู Chawan Foie Gras ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนละเอียด ท็อปด้วยฟัวกราส์ ไข่คาเวียร์ ไข่ปลาแซลมอน และทองคำเปลว Hamachi Jalapeno Trio ซาชิมิฮามาจิ ด้านล่างประกอบด้วยใบโอบะและหัวหอม ท็อปด้วยฮามาจิและไข่ปลาแซลมอน ตัดรสด้วยซอสรสเปรี้ยวเล็กน้อย กินพร้อมกันในคำเดียวอร่อยมาก Kinmedai Sushi ราชากะพงแดงหรือคินเมะได ท็อปด้วยไข่คาเวียร์ ได้รสชาติหวานของปลา ตัดกับรสวาซาบิและซอสโชยุ อร่อยกลมกล่อม ต่อด้วย Kanpachi Iwanori ซูชิปลาคัมปาจิ ออนท็อปด้วยอิวาโนริซอสสาหร่าย โรยด้วยงาเจ็ดสีญี่ปุ่นและราดซอสโชยุ พร้อมเสริมรสด้วยวาซาบิ เนื้อปลาของร้านนี้สดใหม่และหวานฉ่ำมาก Shima Aji Sushi ปลาชิมาอาจิ ท็อปด้วยยูซุโคโช ได้ความหอมจากผิวส้มยูซุที่หมักกับกระเทียมและก้านพริกไทย และเข้ากันได้ดีกับเนื้อปลา ถัดมาเป็น Chutoro Sushi ชูโทโร่ เนื้อที่ติดกับสันหลังและส่วนท้องของทูน่า มีความมันปานกลาง โรยหน้าด้วยผงทองคำเปลว Akami Sushi ข้าวเนื้อแดงอากามิ เป็นส่วนเนื้อแดงที่ไม่มีไขมัน เข้ากันได้ดีกับวาซาบิ Otoro Sushi โอโทโร่ส่วนติดมันของทูน่าบลูฟิน ท็อปด้วยอูนิและวาซาบิ ตัดรสชาติด้วย Mini Teppan Kani Miso ข้าวหน้าเนื้อปูหิมะ ท็อปด้วยไข่ปลาแซลมอน แนะนำให้คนให้เข้ากันก่อนตักกิน เพื่อให้ได้รสชาติครบทุกองค์ประกอบ ตามด้วย Unagi Yaki ปลาไหลย่างซีอิ๊ว โรยด้วยพริกไทย เกลือและข้าวพองญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มเท็กซ์เจอร์ คำนี้ได้รสหวานและหอมจากซอสที่ย่างเข้าเนื้อปลา กินคู่สาหร่ายอร่อยเต็มคำ ต่อมาคือ Uni Toro Shoyu Yaki Shokupan โชกุปังออนท็อปด้วยสาหร่าย โชโทโร่และอูนิ เนื้อแป้งกรอบๆ ตัดรสด้วยความหวานของอูนิ เพิ่มความอร่อยด้วยวาซาบิด้านบน คำนี้อร่อยจริงๆ ประทับใจไม่รู้จบด้วย Hotate Yaki หอยเชลล์ชิ้นโตที่ย่างสุกกำลังดี เนื้อฉ่ำหวาน กินคู่กับไข่ปลาแซลมอนและสาหร่าย เข้ากันอย่างลงตัว จบคอร์สของคาวด้วย Beef Jumbo เนื้อส่วนริบอายที่นุ่มละมุน ละลายในปาก ราดด้วยซอสรสหวานช่วยชูรสชาติได้ดีเยี่ยม และ Soup ซุปมิโซะที่มีกลิ่นหอมของดาชิญี่ปุ่น สาหร่ายและปลาคัตสึโอะ ซดร้อนๆ ช่วยล้างปากได้ดีมาก ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวาน Ice Cream ไอศกรีมยูซุ รสเปรี้ยวปี๊ด กินคู่กับ Tamago Bate ขนมปังรสนุ่มนวล ข้างๆ เป็น Chestnut เกาลัดรสหวานกำลังดี และสุดท้าย Shoko Birthday Cookie คุกกี้รูปเค้กแสนน่ารักฉลองครบรอบ 1 ปีของ Shoko Omakase เป็นอีกหนึ่งร้านโอมากาเสะที่ควรไปลิ้มลอง

ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น ก็ฟินกับ “คาเรปัง” ได้แค่กดสั่ง Baboobun ร้านขนมปังทอดไส้แกงกะหรี่โฮมเมดเดลิเวอรี่ ที่ทำแบบสดใหม่ตามออเดอร์ จุดเด่นคือตัวแป้งหอมกรอบไม่อมน้ำมัน และไส้แกงกะหรี่เนื้อแน่นเต็มคำ รสเข้มข้นฉ่ำลิ้น โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 รสชาติ คือ Beef Curry เนื้อโคขุนบดเคี่ยวมากับซอสเนื้อจนฉ่ำวาว ห่อด้วยแป้งขนมปังญี่ปุ่นไม่ขัดสี และนำไปทอดด้วยน้ำมันรำข้าวจนเหลืองกรอบ ซึ่งหากใครไม่กินเนื้อก็สามารถเลือกเป็น Pork Curry เนื้อหมูนุ่มๆ ฉ่ำไปด้วยซอสรสหวานหอมจากผลไม้ ช่วยชูรสชาติของแกงกะหรี่ได้เป็นอย่างดี Shank Beef Curry Cube โดดเด่นด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยม สอดไส้เนื้อน่องลายคั่วกระทะที่นำไปตุ๋นจนเปื่อยนุ่ม คลุกเคล้ามากับซอสแกงกะหรี่มะเขือเทศ Chicken Cream Stew สันในไก่ไขมันต่ำ ผัดคั่วมากับเห็ดแชมปิญอง ก่อนนำไปตุ๋นกับนมสดที่ผสมด้วยครีมซอสหอมละมุน กินพร้อมแป้งขนมปังทอดอร่อยลงตัว สั่งซื้อหรือสอบถามเพิ่มเติม ราคา: 55 – 115 บาท Line: @Baboo.bun หรือ https://lin.ee/qvAvNOJ Line my shop: https://shop.line.me/@baboo.bun

ฮิโตริ ชาบู (HITORI SHABU) ร้านชาบูชาบูแห่งใหม่ที่จะพาเราไปสัมผัสประสบการณ์การกินชาบูชาบูและสุกี้ยากี้ในหมู่บ้านโบราณจำลองของญี่ปุ่นที่อวลไปด้วยกลิ่นหอมของน้ำซุปที่ผ่านการเคี่ยวอย่างพิถีพิถันและวัตถุดิบนำเข้าชั้นเลิศผ่าน “วัฒนธรรมการกินคนเดียว” หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Ohitorisama เพราะเชื่อว่าการนั่งกินคนเดียวก็สร้างความสุขได้แบบไม่เคอะเขิน สำหรับชาบูชาบู ทางร้านมีซุปน่าสนใจอยู่หลายแบบ แต่ที่ไม่ควรพลาดคือ Shabu Shabu Set : HITORI Soup – Akita A5 น้ำซุปฮิโตริรสหวานกลมกล่อม หอมกลิ่นหัวไชเท้า เหมาะสำหรับเนื้อที่มีมันแทรกสูงอย่างเนื้ออิคะตะ A5 เนื้อวากิวจากเมืองอะคิตะที่ถูกเลี้ยงด้วยอาหารชั้นดี รสสัมผัสนุ่มฉ่ำและมีไขมันแทรกเป็นลวดลายหินอ่อน เสิร์ฟพร้อมชุดผัก ข้าวญี่ปุ่นโคชิฮิคาริ กินคู่น้ำจิ้มงาสูตรทางร้าน มีรสเผ็ดเล็กๆ หอมกลิ่นยูซุและน้ำจิ้มพอนสึที่ช่วยตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี ส่วนสุกี้ยากี้ของที่ร้านเป็นสุกี้ยากี้ดั้งเดิมแบบคันไซ แนะนำ Sukiyaki Set : HITORI Signature A5 Cutting Set เซ็ตเนื้อวากิว A5 3 ส่วน ทั้ง Jyou Rousu A5 Tokusen Rousu A5 และ Karubi A5 ซึ่งมีเนื้อสัมผัสและรสชาติที่แตกต่างรวมไว้ในจานเดียว เข้ากับน้ำซุปดำรสเค็มหวาน จิ้มกับไข่ไก่สดโมริทามะ เสิร์ฟพร้อมชุดผัก ข้าวญี่ปุ่นโคชิฮิคาริ ทั้ง 2 เซ็ตยังเลือก Add On เพิ่มเนื้อสัตว์ได้ อยากให้ลอง Kuroge Wagyu เนื้อออสเตรเลียนวากิวสีแดงสวย รสเนื้อชัดเจน และ Iberico Pork หมูไอเบริโกจากสเปนที่ได้ชื่อว่ารสชาติยอดเยี่ยมและเนื้อนุ่มอร่อย ปิดท้ายด้วย ไอศกรีมชาเขียว หอมเข้มข้นรสมัทฉะ ประทับใจจนอยากกลับมาอีกครั้ง

ห่างหายจากอาหารญี่ปุ่นไปนานพอควร วันนี้ฤกษ์ดีมีโอกาสชิม Sushi Cyu” ร้านซูชิพรีเมี่ยมรสดั้งเดิมขวัญใจคนรักอาหารญี่ปุ่นที่เสิร์ฟความฟินตั้งแต่ปี 2005  แถมยังเป็นร้านซูชิแห่งแรกของเมืองไทยที่เสิร์ฟ ‘โอมากาเสะ’ เปิดประสบการณ์การกินซูชิอย่างมีระดับ คำว่า ‘Cyu (ซู)’ ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง ‘ความซื่อสัตย์’ อันเป็นแนวความคิดของร้านที่เสิร์ฟจานอร่อยจากวัตถุดิบสดใหม่ ให้ลูกค้าลิ้มรสซูชิพรีเมี่ยมอย่างคุ้มค่า สั่งของกินเล่นมาเรียกน้ำย่อยกันก่อน Ohebi Tempura กุ้งเทมปุระตัวโตๆ ชุบแป้งทอดสีเหลืองทองร้อนจี๋ เสิร์ฟพร้อมผักทอดกรอบกินอร่อย และน้ำจิ้มสูตรพิเศษรสเค็มหวานนุ่มนวล ตามด้วย Dragon Roll ซูชิโรลเต็มคำที่ประกอบด้วย เนื้อทูน่าสดหวาน ไข่หวานนุ่มนิ่ม ปูอัด แตงกวา ท็อปด้วยอะโวคาโด ครีมมีและไข่กุ้งกรุบๆ ยังมี Jyou Bara Sushi ซิกเนเจอร์ประจำร้าน ข้าวหน้าปลาดิบชามใหญ่ ที่รวมความอร่อยไว้ในที่เดียว มีทั้งมากุโระส่วนท้อง หอยเชลล์ฮอกไกโด ทูน่าสดหวาน อูนิเลอค่า ไข่แซลมอนรสเค็ม ไข่กุ้ง ไข่หวานโฮมเมด แตงกวา ก่อนกินคลุกเคล้ากับโชยุและวาซาบิรสเผ็ดซ่าเข้ากันดี สายซูชิต้องนี่เลย Tokujyou Nigiri เซ็ตซูชิพรีเมียมที่ให้คุณฟินไปกับ ซูชิโอโทโร่ เนื้อสด ซูชิมากุโระ เต็มคำ ซูชิโรลทูน่า อิ่มเอม ซูชิอุนางิ เนื้อเด้ง รสหวานพอดี ไข่หวาน นุ่มนิ่ม และซูชิไข่แซลมอน

ไตรมาสสุดท้ายของปีคือช่วงเวลาดีๆ แห่งการสังสรรค์ แนะนำ Matchibako หรือกล่องไม้ขีดไฟ ร้านแฮงก์เอาท์เปิดใหม่ย่านทองหล่อที่เหมาะกับการดื่มกิน ความแปลกใหม่ของร้านคือตกแต่งฉีกลุคอิซากายะ หรือร้านเหล้าญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่หลายคนคุ้นเคยมาในสไตล์บิสโทร คุมโทนด้วยสีแดงส้ม ตั้งแต่ผนังอิฐ เสากลมกลางร้าน พื้น และเฟอร์นิเจอร์ สีส้มยังสื่อถึงรสชาติและช่วยกระตุ้นให้เราเจริญอาหารอีกด้วย อาหารของร้านนำเสนอสไตล์อิตาเลียนและยุโรป ปรุงจากวัตถุดิบอิมพอร์ตจากญี่ปุ่น เน้นพอชชั่นไม่ใหญ่มาก เหมาะกินเป็นกับแกล้มเบาๆ แบบร้านอิซากายะ อาทิ Brie บรีชีสเสิร์ฟพร้อมสาหร่ายอบแห้ง โชยุ แผ่นเกี๊ยวซ่ากรอบ และวาซาบิ เป็นเมนูที่เข้าคู่ได้กับไวน์ทุกแก้ว Chicken Liver Pâté ตับไก่เนื้อเนียน อบอวลด้วยกลิ่นหอมของสมุนไพรและได้รสหวานกลมกล่อมจากหอมใหญ่ผัด เวลากินตักปาดบนขนมปังฟอร์กาเซียหนึบๆ เหนียวๆ เคี้ยวเพลิน Sakana Tartare ทาร์ทาร์ปลาดิบ 3 ชนิด ได้แก่ ฮามาจิ แซลมอน และทูน่า ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำมันมะกอก พริกไทย น้ำมะนาว เสิร์ฟกับอะโวคาโด คาเวียร์ และขนมปังฟอร์กาเซีย เป็นเมนูที่กินแล้วสดชื่น ช่วยให้กระปรี้กระเปร่า มีชีวิตชีวา หลังเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวัน เช่นเดียวกับ Burrata Salad บูราต้าชีสเสิร์ฟกับซัลซ่าผลไม้ ฟักทอง มะเขือเทศพิวเร่ และบัลซามิก อิ่ม อร่อย สบายท้อง Tsukune Aioli เนื้อไก่บดผสมเนื้อหมูกับกระดูกอ่อนปั้นเป็นลูกกลมพอดีคำ  กินกับซอสกระเทียมแบบอิตาเลียน   หากเริ่มหิวและมองหาจานหลักหนักท้องสั่ง New York Strip สเต๊กเนื้อแองกัสขนาด 300 กรัม เสิร์ฟกับซอสสไตล์ญี่ปุ่นกลิ่นหอมอ่อนๆ เค็มปลายลิ้นเล็กน้อย กินกับสลัดผักสดและผักย่าง ถ้าชอบเมนูเส้นแนะนำ Pappardelle with Pork Cheek Ragu Burrata เส้นปัปปาร์เดลเลเหนียวนุ่ม ท็อปด้วยรากูแก้มหมูที่ตุ๋นนาน 4 ชั่วโมง รสชาติกลมกล่อมแทบละลายในปาก ปิดท้ายด้วยของหวานโฮมเมด Panna Cotta หรือ Lisbon Chocolate Cake เป็นร้านที่เปิดตัวได้ไม่นาน ก็เป็นที่รวมของคนรักการดื่มกินไปแล้ว!

โฮว ยู (HOU YUU) เปิดสาขาใหม่ล่าสุด ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่มาพร้อมเมนูใหม่ ภายใต้บรรยากาศอบอุ่นควบคู่ไปกับการรังสรรค์ทุกเมนูด้วยความละเมียดละไม แต่ยังคงรสชาติตามแบบฉบับของญี่ปุ่นแท้ๆ ด้วยวัตถุดิบที่ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น นำมาปรุงแต่งและจัดเสิร์ฟอย่างประณีต ภายในร้านกว้างขวาง ดูโปร่งโล่งสบายด้วยโทนสีขาวไม้และกระจกเต็มบาน สร้างบรรยากาศด้วยการจำลองสวนหินญี่ปุ่น และสามารถมองเห็นวิวทะเลสาบของสวนเบญจกิติ โดย โฮว ยู สาขานี้พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ที่ครบครัน ใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมียม มีอาหารให้เลือกหลากหลาย ทั้งเมนูอะลาคาร์ต หรือเซ็ตเมนูพิเศษอย่าง “โกเซ็น” และ “ไคเซกิ” คอร์สอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม ซึ่งคอร์สไคเซกิจะมีห้องรับรองพิเศษแยกไว้ให้ด้านใน เริ่มกันที่เมนูแรก Jo Sashimi Mori ซาชิมิรวม ประกอบไปด้วย อะคามิ ฮามาจิ แซลมอน ปลากะพงขาวญี่ปุ่นและปลาหมึก ต่อด้วย Shirauo Salad ผักสลัดสดใหม่ที่เข้ากันได้ดีกับปลาเงินทอดกรอบ ราดด้วยน้ำสลัดสูตรเฉพาะ ที่ช่วยให้ความสดชื่น Una Ju ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่นย่างซีอิ๊ว เสิร์ฟด้วยปลาไหลชิ้นโต มาพร้อมความหอมกรุ่นของซีอิ๊ว ที่ให้รสชาติเค็มๆ หวานๆ กินคู่ข้าวสวยร้อนๆ อร่อยจุใจ ถัดมาเป็น Beef Steak สเต๊กเนื้อที่ย่างมาแบบสุกกำลังดี รสชาติกลมกล่อม เสริมด้วยชุดเซ็ตซึ่งประกอบไปด้วย ข้าวผัดกระเทียม ซุปใส และของหวานอย่าง โมจิคินาโกะคุโรมิตสึ อิ่มอร่อยได้ในเซ็ตเดียว และเมนูชุดพิเศษนี้คือ Gozen Nigiri เซ็ตอาหารญี่ปุ่นเกรดพรีเมียม จัดเต็มทั้งอาหารเรียกน้ำย่อยอย่าง ซาบะต้มซีอิ๊ว คินพิระรากบัว สลัดแตงกวา ไข่ตุ๋นญี่ปุ่นเอบิและคิคุระ จานหลักเป็นชุดรวมนิกิริซูชิ ประกอบด้วย ชูโทโร่ เอ็นกาวะ ฮามาจิ แซลมมอน ปลากะพงขาวญี่ปุ่น เอบิ ไข่หวานญี่ปุ่น และมากิโมโนหัวไชเท้าดองญี่ปุ่น ยังมีสลัดผักรวมเสิร์ฟคู่น้ำสลัดงา ซดน้ำร้อนๆ ด้วยซุปอาคาดาชิหรือซุปมิโซะแดง และของหวานจะเป็นเมลอนญี่ปุ่นท็อปด้วยฮันนี่เจลลี มาถึงคอร์สไคเซกิ ที่มีให้เลือกทั้งหมด 5 คอร์ส คือ Nama Anago, Gindara Grilled, Kurobuta Hoba Grilled,  Tempura, A4 Wagyu Hoba Grilled สำหรับใครที่อยากเปิดประสบการณ์แนะนำให้จองเข้ามาเลือกคอร์สที่ชอบก่อน รับรองความอร่อย แต่ชุดที่เราได้ลิ้มลองเป็นชุด Kaiseki Kurobuta Hoba Grilled ไคเซกิหมูคุโรบูตะย่างใบโฮบะ เริ่มด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง หอยนางรมที่ส่งตรงจากญี่ปุ่น สดใหม่มาก กินแล้วชื่นใจ ข้างๆ เป็น ชูโทโร่ ฮามาจิ แซลมอน ยังมีไข่ตุ๋นหอยเชลล์ญี่ปุ่น เอบิ และอิคุระ อาหารจานหลักคือ คุโรบูตะย่างบนใบโอบะ เนื้อหมูสุกกำลังพอดีมาพร้อมกลิ่นหอมๆ จากใบโอบะ เคียงด้วย เอบิเทมปุระ ใบโอบะเทมปุระ ปลาห่อใบโอบะเทมปุระ เสิร์ฟพร้อมซุปกาหรือซุปปลาแห้งร้อนๆ เพิ่มความอิ่มท้องด้วยข้าวหน้าแซลมอนและอิคุระ ปลาบุรีต้มหัวไชเท้าญี่ปุ่น และผักต้ม กินแนมกับผักดอง และของหวานอย่าง Fruit With Jelly เมลอนญี่ปุ่นท็อปด้วยเจลลียูซุน้ำผึ้ง ยกช็อตยูซุซอร์เบต์ ช่วยปิดท้ายมื้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อมาที่นี่รับรองว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ใหม่กลับบ้านอย่างแน่นอน

หนึ่งในร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องความพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศต้องยกให้ Uraki ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือ Kouen เสิร์ฟอาหารสไตล์ Edomae (เอโดะมาเอะ) แบบดั้งเดิม พร้อมนำเสนอทั้งในรูปแบบ Omakase และ A La Carte ที่ชั้น 3 ตึก All Season Place บรรยากาศภายในร้านใช้โทนสีขาวตัดกับสีไม้ ตกแต่งด้วยสวนหินตลอดทางเดิน ดูเรียบ สะอาดและสบายตา ให้ความรู้สึกอบอุ่นใจตามสไตล์ญี่ปุ่น ด้านหน้าเป็นพื้นที่ของโอมากาเสะ เดินเข้าไปด้านในจะพบห้องไพรเวตสำหรับเสิร์ฟเมนูอะลาคาร์ต อย่างเมนูแรกที่ได้ลอง Kaki Furai หอยนางรมชุบเกล็ดขนมปังทอดเสิร์ฟคู่ผักสลัด แนะนำให้จิ้มวาซาบิและตามด้วยซอสสูตรเฉพาะของร้าน กินภายในคำเดียว สัมผัสความกรอบนอกฉ่ำในของหอยนางรม อร่อยลงตัวมากๆ Hagi Sashimi เมนูซาซิมิรวมประกอบไปด้วย Chutoro, Akami, Hotate, Salmon, Tako, Amaebi, Kampachi เสิร์ฟอย่างละ 2 ชิ้น ร้านรักษารสชาติและคงความสดเอาไว้ได้ดีจริงๆ ถัดมาคือ Uraki Maki อูรากิมากิเป็นเมนูซิกเนเจอร์ มีส่วนผสมของ ไข่หวาน คัมเปียว ปลาไหลทะเล และแตงกวา ตามด้วย Jyo Nigiri ชุดพิเศษที่รวมข้าวปั้นซูชิมาให้ โดยใช้กรรมวิธีการถนอมอาหารและเตรียมวัตถุดิบตามแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิม ให้คงความหวานมันของเนื้อปลาไว้ และสุดท้าย SanShumori Don ด้านล่างเป็นข้าวท็อปด้วยแซลมอน โฮตาเตะ เนกิโทโร่ ไข่หวาน ผักดอง วาซาบิ โรยด้วยต้นหอมซอยและใบโอบะ ที่สำคัญยังให้ความสำคัญเรื่องอุณหภูมิข้าว เพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุดิบแต่ละชนิด ปิดท้ายด้วย ขนมโมจิชาเขียว แป้งนุ่มหนุบหนับ หอมกลิ่นชาเขียว และดื่มชาเขียวร้อนๆ ช่วยให้มื้อนี้สมบูรณ์แบบ

แม้จะเพิ่งเปิดร้านได้ไม่นาน แต่ Shiko Udon Bar บาร์อูด้งเส้นสดร้านเล็กๆ ในซอยหลังสวนก็กลายเป็นร้านคิวยาวไปเป็นที่เรียบร้อย จุดเด่นของที่นี่คือการทำอูด้งเส้นสด บริเวณหน้าร้านจึงดีไซน์เป็นห้องกระจกใสให้มองเห็นขั้นตอนการนวดแป้งและลวกเส้นกันชัดๆ นอกจากเนื้อสัมผัสที่นุ่มหนึบแล้ว เส้นอูด้งของ Shiko ยังเป็นเส้นแบนและใหญ่หรือที่เรียกว่าเส้น “คิชิเมน” อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนาโกย่า มีทั้งเส้นแบบเย็นและแบบร้อน เริ่มด้วยเมนูอุ่นท้อง Niku เส้นอูด้งร้อนไปด้วยกันได้ดีกับน้ำซุปใส รสชาติบางเบาและหอมกลิ่นปลาแห้ง ท็อปด้วยเนื้อสันนอกออสเตรเลียนุ่มลิ้น ต่อด้วย Hiyashi Niku เส้นแบบเย็นเสิร์ฟคู่กับซอสโชยุดาชิ แล้วเติมความสดชื่นด้วยวาซาบิ ต้นหอมญี่ปุ่น และขิงขูด ส่วนคนไม่กินเนื้อวัว ลองสั่ง Kurobuta Hiya Atsu ที่นำหมูคุโรบูตะสับผัดซอสมิโซะและไข่แดงดิบ มาวางบนเส้นอูด้งก่อนกินคลุกเคล้าให้เข้ากันเสิร์ฟพร้อมน้ำซุปร้อนให้ซดตาม อีกเมนูห้ามพลาด Mentaiko อูด้งแบบแห้ง เด็ดที่ซอสรสเข้มข้นและครีมมีซึ่งได้จากซอสไข่แดงผสมกับเมนไทโกะรสเค็มอ่อนๆ วางด้านบนด้วยไข่ออนเซ็น โรยแป้งเทมปุระทอดกรอบ ปิดท้ายด้วย Zaru Goma Dare เส้นอูด้งแบบเย็นจุ่มในซอสงาหอมและข้น รสออกหวานเล็กน้อย นอกจากนี้เรายังเลือกเครื่องเคียงเพิ่มได้ตามชอบ ไม่ว่าจะเป็นไข่ออนเซ็น กุ้งเทมปุระ ตับปลาอังกิโมะ และKaiso Salad สลัดสาหร่ายหลากสีเคี้ยวสนุก รวมถึงมีเมนูตามฤดูกาลที่จะทยอยมาโชว์โฉมอีกหลายเมนู คุ้มค่ากับการรอคิว

Terroir ร้านอาหารญี่ปุ่นแนว ไคเซกิ โพรเกรสซีฟ บนชั้น 2 ของโครงการ Acmen Complex เอกมัย ซึ่งต่อยอดจาก Terroir Expression ไวน์บาร์ที่อยู่ชั้นล่าง คำว่า Terroir เป็นศัพท์ภาษาฝรั่งเศส ซึ่งไม่ได้มีความหมายตรงตัว แต่แปลได้คร่าวๆ คือ ดิน ฟ้า อากาศ ที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อคุณภาพไวน์หรือแชมเปญ ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของร้านคือ ไวน์และวัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้นั้นจะคัดสรรจากแหล่งเพาะปลูกที่ดีที่สุด เพราะแม้จะเป็นสายพันธุ์เดียวกันแต่มาจากคนละแหล่งปลูก รสชาติที่ได้ก็ต่างกัน ตามสภาพดินฟ้าอากาศ สิ่งนี้จึงเป็นจุดเด่นที่ทำให้รสชาติอาหารและเครื่องดื่มของ Terroir แตกต่างจากร้านอื่น และกลายเป็นแนวคิดในการตั้งชื่อร้านด้วย ก่อนจะถึงเวลาอาหารมื้อค่ำ แนะนำให้แวะมาเรียกน้ำย่อยกันที่ Terroir Expression  ซึ่งอยู่ชั้นล่างของอาคารเดียวกัน ผลักประตูซุ้มโค้งบานใหญ่เข้าไปจะพบบรรยากาศคลังเก็บไวน์ขนาดย่อม ให้เลือกดื่มด่ำไปกับไวน์หลากสัญชาติจากทั่วโลก เรียกน้ำย่อยกันพอประมาณก็ถึงเวลามื้ออร่อยที่ Terroir  ซึ่งอยู่บนชั้น 2 ภายในร้านตกแต่งสไตล์มินิมอล เรียบ สะอาด และอบอุ่น ครัวเปิดโล่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ให้บรรยากาศเป็นกันเองราวกับมากินอาหารที่บ้านเชฟ เชฟรังสรรค์ทุกเมนูโดยใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า ให้เหลือเศษอาหารทิ้งน้อยที่สุด เช่น นำส่วนที่ไม่ใช้ไปหมักดองหรือดัดแปลงให้เป็นวัตถุดิบและเครื่องปรุงใหม่ นอกจากนั้นเชฟยังทำงานควบคู่กับซอมเมอลิเยร์ คิดค้นสูตรอาหารให้เข้ากับไวน์ เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษให้ทุกคนที่มาได้สัมผัส ขอแนะนำจานแรกด้วยซิกเนเจอร์อย่าง Tomato จานนี้ทั้งรูปรสกลิ่นมีส่วนประกอบของมะเขือเทศทั้งหมด ใช้เปลือกมะเขือเทศทำเป็นเกลือ โรยบนตัวมะเขือเทศตรงกลาง ได้รสเค็มแต่อูมามิมาก น้ำซุปเป็นดาชิญี่ปุ่นมีคัตสึโอะบุชิ น้ำมันคอมบุและมะเขือเทศเป็นส่วนประกอบ มีรสเปรี้ยว ช่วยกระตุ้นให้อยากกินจานต่อไป Eggplant นำมะเขือไปเผาให้มีกลิ่นหอมก่อนนำไปตุ๋นกับดาชิโฮมเมดที่ทำจากคอมบุฮอกไกโด เสิร์ฟในชามท็อปด้วยหอยฮามากุริจากชิบะและผิวยูซุ ถัดมาคือ Kinmedai เนื้อปลาคินเมะไดที่สุกกำลังดี มีเกล็ดปลาด้านบนเพิ่มความกรุบกรับในปาก แนมด้วยกระทงทองช่วยเพิ่มเท็กซ์เจอร์ในการกินที่ดีมาก เมนูอาหารคาวจานสุดท้ายที่อยากแนะนำเป็น Abalone เสน่ห์ในจานนี้คือหอยเป๋าฮื้อจากชิบะตุ๋น แต่คงความเคี้ยวสนุกเนื้อเด้งสู้ฟัน ซอสทำจากตับเป๋าฮื้อ มีรสชาติเปรี้ยวไม่มาก ส่วนเครื่องเคียงจะเปลี่ยนตามฤดูกาล ตบท้ายด้วย Aonori ใช้สาหร่ายอาโอโนริอินฟิวส์ในนมทำเป็นไอศกรีม เสิร์ฟคู่คอมบุออยและข้าวพอง ราดด้วยฟูจิมัตฉะจากเกียวโต ถึงแม้ว่าการจัดจานจะดูมินิมอล แต่ทุกจานมีรายละเอียดแน่นมาก ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ กรรมวิธีการทํา จนถึงมือผู้กิน อีกจุดเด่นของร้านนี้ก็คือตลอด 20 คอร์ส ไม่มีความน่าเบื่อเลย ดึงจานร้อนสลับกลับมาเย็น ที่สำคัญแนะนำให้ดื่มไวน์ควบคู่ไปด้วย ไวน์จะช่วยชูรสชาติอาหารยิ่งขึ้น ใครที่รับประทานอาหารเสร็จแล้ว อยากลงไปต่อไวน์บาร์ก็ได้เช่นกัน

หลังจาก Banpuku Yokocho ยกตรอกอิซากายะมาคว้าใจสายตี้ชาวไทยที่สาขาแรกย่านพระรามเก้าไปแล้ว ก็ได้เวลากระชับพื้นที่หัวใจชาวเอกมัยกันบ้าง สาขานี้ตกแต่งบรรยากาศให้ดูอบอุ่นมากยิ่งขึ้นเพื่อเอาใจลูกค้ากลุ่มครอบครัว แต่ไม่ทิ้งกลิ่นอายร้านกินดื่มสนุกๆ ภายในกว้างขวางสร้างสรรค์พื้นที่ให้นั่งชิลได้ 2 ชั้น ชั้นล่างออกแบบโต๊ะนั่งห้อยขาสไตล์ญี่ปุ่น กรุกระจกไว้รอบด้านให้เราผ่อนคลายสายตากับวิวสวนญี่ปุ่นด้านนอก หรือจะชมเชฟที่กำลังปรุงอาหารอยู่ด้านหลังซุ้มอาหารก็เพลินตาเพลินใจ         ชั้น 2 จะแบ่งเป็นห้องย่อยหลายห้อง เหมาะกับการแองก์เอาท์ได้แบบไม่รบกวนกัน โต๊ะเก้าอี้รวมถึงภาพติดผนังยังชวนให้รู้สึกถึงความคึกคักมีชีวิตชีวาเหมือนอยู่ในตรอกอิซากายะจริงๆ         ประเดิมเมนูแรกด้วย ไข่แซลมอนกับมันปูย่าง ปลุกน้ำย่อยให้ตื่นตัวกับกลิ่นหอมๆ และความครีมมี่ของมันปูจากฮอกไกโด สมทบด้วยเนื้อปู อิคุระ และไข่แดง เสิร์ฟในกระดองปูที่วางบนเตาย่างดินเผาสไตล์ญี่ปุ่น ความหอมของดินขณะย่างช่วยชูกลิ่นหอมของมันปูให้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว     ต่อด้วย เสียบไม้ย่างรวม เสิร์ฟสไตล์โอมากาเสะหรือเมนูตามใจเชฟ วัตถุดิบจะเปลี่ยนไปทุกวัน แต่รับรองเคี้ยวเพลินจนอยากสั่งเพิ่มเรื่อยๆ     ยังมี หอยนางรมย่าง ตัวใหญ่ไซส์พิเศษที่ส่งตรงความสดจากเมืองฮิโรชิมา เชฟปรุงให้ชิม  2 สไตล์ ได้แก่ ย่างเนยหอมๆ และราดซอสพอนสึรสเปรี้ยวสดชื่น     หมูผัดซอสขิง เนื้อหมูนุ่มเนียนลิ้น หอมกลิ่นขิงทุกคำที่ตักเข้าปาก     แต่ถ้าอยากซดน้ำซุปร้อนๆ สั่งกิมจินาเบะ หม้อร้อนที่อัดแน่นด้วยเครื่องเครา ทีเด็ดยังอยู่ที่น้ำซุป ซดเพลินจนถึงกับต้องตะแคงหม้อ       ปิดท้ายด้วยซาชิมิกับซูชิ 10 อย่าง เสิร์ฟคำโตให้เคี้ยวได้เพลินๆ    

ทำเอาแฟนคลับราเมนดีอกดีใจกันไปไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับ Tsuta Japanese Soba Noodles ร้านราเมนรสอร่อยเจ้าแรกของโลกที่ได้ติดดาวมิชลิน มาเปิดสาขาใหม่เอาใจคนขี้เกียจเข้าเมืองโดยปักหมุดอยู่ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว (บริเวณชั้น 3) เจ้าของร้านคือ Yuki Onishi เชฟมากฝีมือที่หลงรักราเมนในแบบธรรมชาติ โดยราเมนของเขาทุกชามต้องรสชาติดีโดยปราศจากผงชูรส       Yuki Onishi ศึกษาเคล็ดลับความอร่อยจากพ่อผู้เป็นเจ้าของร้านราเมน เขาปรับปรุงและพัฒนาสูตรเป็นของตนเองและตัดสินใจเปิด Tsuta Japanese Soba Noodles ในเมืองโตเกียวในปี 2012 เดิมทีแรกเริ่มยังเป็นเพียงร้านเล็กๆ เท่านั้น แต่ด้วยความตั้งใจและใส่ใจจึงทำให้ร้านแห่งนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากฟู้ดดี้ทั้งหลาย จนขยายสาขามาเมืองไทยได้ในที่สุด       เริ่มด้วยการสั่งของกินเล่นอร่อยๆ อย่าง Yaki Gyoza (120 บาท) มากินก่อนไปพรางๆ เกี๊ยวซ่าแป้งบาง ห่อเนื้อหมูแน่นๆ ทอดอย่างดีไม่อมน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมน้ำพริกเผาทำเอง รสเผ็ดกำลังดี และโชยุสูตรพิเศษเฉพาะของทางร้าน     ตามด้วย Tsuta’s Signature Shoyu Soba with Truffle Slice (680 บาท) เมนูอร่อยที่ทำให้คว้ารับรางวัลมิชลินสตาร์มาประดับบารมี เส้นราเมนสไตล์โฮมเมดเนื้อเหนียวนุ่ม กินอร่อย (จริงๆ ) อยู่ในน้ำแกงรสอร่อยที่เป็นการรวมตัวกันระหว่างซุปถั่วเหลืองแห่งเมืองวากายามะ ซุปดาชิ ซุปไก่ ซุปปลา และซุปหอม เคล้าไปกับบัลซามิก แบล็กทรัฟเฟิลชั้นดี ซอสฟิก และซอสครีมเห็ดหอมมัน โรยทรัฟเฟิลสดสไลซ์ ท็อปด้วยหมูคุโรบูตะเนื้อนุ่ม หมูชาชูที่เรารัก หมูสันคอ และไข่ต้มซีอิ๊วญี่ปุ่นสุดอิ่มเอม     ยังไม่อิ่มขอต่อ Tsuta Signature Shio Ramen (370 บาท) น้ำซุปซีฟู้ดรสเค็มนุ่มนวล ครีเอทมาจากซุปไก่ ซุปปลา และซุปหอย ปรุงรสด้วยเกลือคุณภาพจากเมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ผสานไปกับเกลือของมองโกเลีย ได้ความหอมกรุ่นจากน้ำมันไวต์ทรัฟเฟิล เข้าปากพร้อมเส้นราเมนทำเองแสนอร่อย ไข่ต้มซีอิ๊วญี่ปุ่น หมูชาชู และหมูคุโรบูตะ     วันไหนว่างๆ จะแวะมาอีก

ใครชอบอาหารญี่ปุ่นต้องโดนใจ Sushi Seki ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมเป็นแน่ เพราะเขาขึ้นชื่อเรื่องวัตถุดิบสดใหม่ ทั้งเอนกาวะ โฮตาเตะ แซลมอน และฟัวกราส์ ที่ส่งตรงมาจากดินแดนอาทิตย์อุทัย ผ่านฝีมือเชฟขั้นเทพ ที่รังสรรค์จานอร่อยอย่างเมนูย่างหอมๆ ซูชิคำโตๆ ซาชิมิเนื้อสด โรลกินเพลิน แถมตอนนี้ทางร้านยังมีเมนูซีอิ๊วเกาหลีดองรสเด็ดดวงอีกด้วยนะ       ทางร้านมีหลายสาขา แต่ครั้งนี้เราเลือกมาชิมที่ถิ่นเก่าอย่าง เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เอาใจชาวฝั่งธนฯ กันสักหน่อย สายฟู้ดคนไหนอยากลิ้มลองก็ตรงดิ่งมาที่ชั้น G ได้เลย       มาเริ่มต้นเรียกน้ำย่อยกันก่อนกับ Salmon Avocado Salad สลัดผักชามโตที่ประกอบไปด้วยผักสดกรุบได้รสเปรี้ยวสดชื่นจากมะเขือเทศ ท็อปด้วยเนื้อแซลมอนคุณภาพสดหวาน อะโวคาโดมากประโยชน์ ไข่ปลาแซลมอนที่หลายคนเลิฟ ราดด้วยน้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่นรสกลมกล่อม หอมกลิ่นน้ำมันงา     ต่อด้วยเมนูอลังการงานสร้างอย่าง Ocean's 8 เซ็ตซาซิมิเนื้อสดที่ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับปลาฮามาจิกินอร่อย แซลมอนส่วนต่างๆ อาทิ ส่วนท้องพอดีคำ และส่วนเนื้อที่คุ้นเคย หอยเชลลฮ์อกไกโดเนื้อเด้ง บีบเลมอนรสเปรี้ยวเข้ากัน เอ็นกาวะ คลีบปลาตาเดียวเลอค่า ซูซูกิ หรือปลากระพงญี่ปุ่น มากุโระเนื้อหวาน และไข่ปลาแซลมอนรสเค็มกลมกล่อม             Hon maguro sushi B ก็ดีงาม ชุดซูชิปลาทูน่ายักษ์ที่เราเทใจให้รัวๆ ให้คุณได้ฟินไปกับซูชิโอโทโร่ รสชาติดีเต็มคำ ชูโทโร่ เนื้อปลาทูน่าบริเวณช่องท้องส่วนกลาง อากามิ เนื้อแดงของปลาทูน่าที่มีไขมันน้อยสุด ข้าวห่อสาหร่ายไส้โอโทโร่สับ และมากิ โรลซูชิที่ด้านในใส่มากุโระเนื้อนุ่มไว้       สายเนื้อต้องสั่ง Wagyu Nama Tamogo Don เนื้อวากิวชั้นดี A4 มีไขมันแทรกเล็กๆ ให้สัมผัสนุ่มฉ่ำลิ้น เบิร์นไฟให้หอมกรุ่น ตักกินพร้อมข้าวญี่ปุ่นอิ่มเอม ไข่แดงครีมมี่ด้านบนตกแต่งด้วยคาเวียร์ และไข่ปลาแซลมอนรสเค็ม     ปิดท้ายด้วยเมนูยอดนิยม Hamachi Marinated Shoyu Set ปลาฮามาจิเนื้อแน่นดองซีอิ๊วเกาหลีรสกลมกล่อม เข้าปากพร้อมข้าวญี่ปุ่น สาหร่าย งาขาวหอมๆ และน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเผ็ดเปรี้ยว ใครที่ชอบรสแซ่บจะใส่พริกสดเพิ่มก็ไม่ว่ากัน       เป็นร้านที่ห้ามพลาดเลยนะ