ปักหมุดร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์ทรอปิคอลโฮมมี่แสนน่ารักน้องใหม่ ย่านชิดลม Dolcetto Italian Cafe Bangkok อีกหนึ่งผลงานของเชฟ Alessandro Frau เชฟชาวอิตาเลียนผู้รังสรรค์อาหารให้กับร้าน Acqua Restaurant Bangkok and Phuket ที่การันตีความอร่อยทั้งเรื่องรสชาติและการคัดเลือกวัตถุดิบว่าไม่เป็นสองรองใครแน่นอน ตัวร้านมาพร้อมกับความสดใสมีชีวิตชีวาจากผลเลมอนที่ใช้ประดับตกแต่งอยู่ทั่วร้าน เสริมความความอบอุ่นเป็นกันเองด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเบจ โดยสามารถเลือกนั่งชิลได้ทั้งโซนอินดอร์ห้องแอร์เย็นฉ่ำและโซนเอาต์ดอร์ใต้ร่มไม้บรรยากาศร่มรื่น เริ่มกันที่  White Pizza (280.-) พิซซ่าแป้งฟูเหนียวนุ่ม เสิร์ฟมาแบบเครื่องแน่นๆ ทั้งชีสและไส้กรอกอิตาลี รสชาติครีมมี่กินได้เพลินๆ Sandwich Ciabatta (250.-) แซนด์วิชชิ้นโตจากขนมปังเชียบัตต้าสัมผัสกรอบนอก ภายในนุ่มเหนียวหนึบ สอดไส้ผักกริลล์ มะเขือเทศอบแห้งและชีสสคามอร์ซา ในส่วนของเบเกอรี่แนะนำ Maritozzo with Cream (120.-) ขนมขึ้นชื่อของชาวอิตาลีเนื้อขนมปังนุ่มฟูสอดไส้ครีมสดรสพิสตาชิโอ เพิ่มความกรุบกรอบด้วยถั่วพิสตาชิโอบดด้านบนให้เคี้ยวเพลินๆ จับคู่กับ Dirty Hazelnut (150.-) ความเข้มข้นของเอสเปรสโซช็อตผสานมากับไซรัปเฮเซลนัตสุดหอมหวน เพิ่มความละมุนด้วยนมสดเย็น ดื่มง่ายอร่อยลงตัว

เปิดตัวอย่างเป็นทางการให้คนรักเบเกอรีได้ชื่นใจสักที สำหรับ “Blue by Alain Ducasse Bakery Boutique” ร้านเบเกอรีสไตล์ฝรั่งเศสดั้งเดิมเครือ Blue by Alain Ducasse ร้านอาหารฝรั่งเศสมิชลินสตาร์เลื่องชื่อ ตั้งอยู่ชั้นบน G ในไอคอนสยาม ตัวร้านโดนเด่นด้วยโทนสีเบจสบายตาและสีส้มแซลมอนสดใส แต่งแต้มด้วยสีน้ำเงินสด ซึ่งเป็นสีซิกเนเจอร์ของทางร้าน ลิ้มลองขนมอบโฮมเมดที่ทำจากวัตถุดิบชั้นเลิศนำเข้าประเทศฝรั่งเศส อาทิ แป้ง เนย น้ำตาล ผลไม้ประจำฤดูกาล และช็อกโกแลตที่ส่งตรงมาจากกรุงปารีสแดนไกล ฝีมือเชฟคริสตอฟ กรีโล เชฟขนมหวานมากพรสวรรค์ ที่สั่งสมประสบการณ์การทำของหวานจากโรงแรมห้าดาวทั่วโลก เริ่มชิมจาก 75% AD Chocolate Hazelnut Brioche ขนมปังเนยสไตล์ฝรั่งเศสเนื้อนุ่มฟู เข้ากันดีกับช็อกโกแลตรสเข้มข้นนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ห้ามพลาด Sausage Roll แป้งขนมปังกรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นเนย ห่อไส้กรอกสไตล์โฮมเมดรสเค็มกลมกล่อม คนรักขนมปังต้องลอง 48-Hour Fermented Sourdough ซาวโดวจ์สูตรเด็ดของทางร้าน ที่ทำจากยีสต์ธรรมชาติ 14 ปีของเชฟคริสตอฟ Classic Croissant ก็เข้าที ครัวซองต์โฮมเมดชิ้นอวบอ้วน กินคู่เนย หรือแยมผลไม้ ยิ่งฟินเข้าไปใหญ่ Almond Croissant หนึ่งในขนมอบซิกเนเจอร์ประจำร้าน ครัวซองต์ที่เรารัก สอดไส้ครีมอัลมอนด์รสหวานมันกำลังดี ท็อปด้วยอัลมอนด์กรุบกรอบ Pain au Chocolate ครัวซองต์ช็อกโกแลต ที่ถูกใจสายหวานหลายๆ คน ผิวนอกกรอบแต่ภายในยังคงนุ่มชุ่มฉ่ำ เคล้าซอสช็อกโกแลตรสกลมกล่อม นอกจากนี้ยังมี Strawberry Danish รสเปรี้ยวอมหวาน และ Panettone เมนูซิกเนเจอร์ของเชฟคริสตอฟอีกด้วย แวะไปชิมช็อกโกแลตเย็นก่อนกลับรับรองฟินเวอร์

ใครเป็นแฟนคลับ  “The Siam Tea Room” ร้านอาหารไทยโมเดิร์นและเบเกอรี่ชื่อดังจากโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ต้องปลื้มใจ เพราะตอนนี้ทางร้านได้ขยายสาขาใหม่ไปที่โครงการ Asiatique The Riverfront บ้านสีขาวสไตล์เฮอริเทจหลังงามติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในโอ่อ่าด้วยผนังสีขาวและกระจกใส ชั้นสองเป็นห้องรับรองที่มีทั้งพื้นที่จัดงานเลี้ยง ห้องไพรเวทส่วนตัว และโต๊ะนั่งริมระเบียงที่มองเห็นวิวปังๆ ทั้งสวนสวยร่มรื่นและแม่น้ำเจ้าพระยาทอดยาว ในส่วนของอาหาร The Siam Tea Room สาขา เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ ได้ เชฟอ้น - อนุกูล พูลพิพัฒน์ หัวหน้าเชฟแผนกอาหารไทยประจำโรงแรมฯ ที่มีประสบการณ์ทำอาหารไทยมากว่า 10 ปี มานำทีมความอร่อย โดยเชฟจะใช้วัตดุดิบท้องถิ่นของไทย บวกกับสูตรอาหารประจำบ้านของตัวเอง ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นคุณยาย ดัดแปลงเป็นสไตล์ของเชฟอ้อน จนกลายเป็นอาหารไทยโมเดิร์นรสอร่อยและหน้าตาดีในที่สุด เรียกน้ำย่อยด้วยของกินเล่นขายดีอย่าง เปาะเปี๊ยะทอดสอดไส้กุ้ง ทอดร้อนจี๋ ได้รสชาติความหวานของกุ้งตัวอวบ บวกกับแป้งปอเปี๊ยะกรุบกรอบ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มบ๊วยรสหวาน หมูสะเต๊ะ ของว่างสไตล์ไทยที่ใครๆ ต่างก็หลงรัก หมูเนื้อนุ่มหอมกลิ่นขมิ้นอ่อนๆ กินกับน้ำจิ้มอาจาด และขนมปังปิ้ง ต่อด้วย ยำส้มฉุนปลาสลิดฟู ยำส้มฉุนสูตรคุณยายรสเปรี้ยวอมหวาน เสิร์ฟเคียงปลาสลิดฟูกรุบกรอบ ไม่อมน้ำมันแต่อย่างใด และหมูหวานรสกลมกล่อม ต้มยำปลากะพงน้ำใส ก็เข้าที่ ปลากะพงเนื้อสดแน่น อยู่ในน้ำซุปต้มยำรสเปรี้ยวเผ็ด เสิร์ฟมาในห้อไฟร้อนฉ่า ข้าวซอยปูนิ่ม หนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน เส้นสดเหนียวนุ่ม เข้ากันดีกับน้ำแกงข้าวซอยรสเข้มข้น ได้ความหอมมันจากหัวกะทิชั้นดี ท็อปด้วยเนื้อปูชิ้นใหญ่ และปูนิ่มกรอบนอกนุ่มใน ตัดเลี่ยนด้วยเครื่องเคียงแสนอร่อย ซี่โครงหมูอบข้าวคั่วน้ำจิ้มแจ่ว ซี่โครงหมูชิ้นโตๆ เนื้อนุ่มร่อนเพราะผ่านการอบอย่างดี ทาด้วยซอสสูตรเฉพาะรสเค็มเผ็ดเล็กๆ จิ้มน้ำจิ้มแจ่วมะขาวรสจัดจ้านพอดี ของหวานเราสั่ง ขนมปังสังขยาใบเตย ขนมปังหนานุ่มปิ้งให้หอม ราดสังขยาใบเตยสูตรเฉพาะของทางร้าน รสหวานมันแบบจุใจ ตกแต่งด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน และ กล้วยไข่ไอศกรีมชาไทย กล้วยไข่ชุบแป้งทอด ไปด้วยกันได้ดีกับไอศกรีมชาไทยรสสดชื่น และซอสคาราเมล ไว้คราวหน้าจะมาลองเมนูใหม่ๆ อีกแน่นอน

อีกไม่กี่วันจะเข้าสู่ศักราชใหม่แล้ว ช่วงเวลาแบบนี้ต้องปาร์ตี้เท่านั้น!   เรามีร้านลับๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในโครงการ Galile Oasis โอเอซิสกลางเมืองสุดร่มรื่นและยังเป็นอาร์ตสเปซของคนรักงานศิลป์ที่หมุนเวียนกันมาจัดกิจกรรม ทำให้ที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก เดินเล่นเพลินๆ แล้วค่อยมารวมตัวกันที่ Cilantro Bangkok ร้านอาหารอิตาเลียนที่บรรยากาศสบายๆ มีโซนอินดอร์และเอาท์ดอร์ให้นั่งเมาท์มอยกับเพื่อน อาหาร เครื่องดื่มมีครบ สนุกไม่ต้องลุกย้ายร้าน ส่วนเมนูอิตาเลียนสไตล์โฮมเมด เชฟบอกว่าทำด้วยใจอยากให้กินแล้วมีความสุข  อาทิ Pumpkin Kale Salad รวมวัตถุดิบสุดเฮลท์ตี้ที่อร่อยและกินง่ายอย่างฟักทอง ผักเคล แรดิช ราดด้วยน้ำสลัดรสเปรี้ยวสดชื่น Mussels Mariniere หอยแมลงภู่ผัดกับน้ำมันมะกอก ตามด้วยกระเทียม หอมแดง เซเลอรี ผิวเลมอน และใบไทม์จนมีกลิ่นหอม เสริมรสด้วยไวท์ไวน์และเนย จากนั้นนำไปอบจนได้ที่ก่อนเสิร์ฟพร้อมขนมปังซาวโดวจ์โฮมเมด Parma Walnuts & Honey ขนมปังซาวโดวจ์ท็อปด้วยไข่คน ผักโขม พาร์มาแฮม วอลนัท และน้ำผึ้ง ตัดกินพร้อมกันในคำเดียวจะได้ครบทั้งรสหวานฉ่ำของน้ำผึ้ง ตัดด้วยรสเค็มมันของพาร์มาแฮม แทรกด้วยเทกเจอร์กรุบๆ มันๆ ของวอลนัท และความนุ่มเหนียวเคี้ยวเพลินของขนมปัง Espellete Pasta พาสต้าผัดกับกุ้ง กระเทียม และไวท์ไวน์ เพิ่มรสเผ็ดร้อนนิดๆ ด้วยพริกแห้งฝรั่งเศส จากนั้นโรยอิตาเลียนพาสลีย์หอมๆ ก็พร้อมเสิร์ฟ   ขึ้นชื่อว่าอาหารอิตาเลียนต้องจับคู่กับไวน์ชั้นดี เพียงเท่านี้ก็เปอร์เฟ็ค์สุดๆ แล้ว!

Tag:

เป็นหนึ่งในร้านเบเกอรี่เก่าแก่ของเมืองไทยไปแล้วจริงๆ สำหรับ “Paris Mikki” ร้านขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสของเชฟแครอล บุษบา ศิษย์เก่าคนเก่งจาก Le Cordon Bleu Paris ที่สะสมประสบการณ์การอบขนม ณ กรุงปารีสมานานกว่า 10 ปี ก่อนจะมาเปิดร้านของตนเองที่เมืองไทย แถมเธอยังเป็นเจ้าของรางวัล Best Pastry Chef 2017 ด้วย เพลิดเพลินกับเบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศสโฮมเมดต่างๆ เช่น ครัวซองต์ คาเนเล่ ทาร์ต สอดไส้ซอสผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งครึ้งนี้เราแวะมาที่สาขา Central Embassy ในส่วนของ Take Away บริเวณชั้น 2 ตัวร้านสีขาวโมเดิร์นสะดุดตามาแต่ไกล ชิ้นแรกเราลอง Madagascar Vanilla Custard ฐานล่างเป็นครัมเบิ้ลกรุบกรอบ ตักกินพร้อมคัสตาร์ดเนื้อนิ่มรสหวาน หอมกลิ่นน้ำตาลเบิร์นไฟเบาๆ ตามด้วย Chateau Raffle Apple พายแอปเปิ้ลสไตล์ฝรั่งเศส แป้งพายโฮมเมด สอดไส้ซอสแอปเปิ้ลสูตรเฉพาะรสหวานอมเปรี้ยว แถมมีเนื้อแอปเปิ้ลเคี้ยวเพลินมาให้ด้วย Croissant Vanilla ครัวซองต์กรอบนอกนุ่มในชิ้นโต ละมุนด้วยกลิ่นเนยสด เข้ากันดีกับครีมสดวานิลลารสหวานมันที่ทำมาจากฝักวานิลลาจากเกาะมาดากัสก้า สุดท้ายห้ามพลาด Croissant Strawberry & Cream แยมสตรอว์เบอร์รีโฮมเมดรสเปรี้ยวอมหวาน และครีมสด บวกกับเนื้อสัมผัสนุ่มๆ ของครัวซองต์โฮมเมด ยิ่งถูกใจสายหวาน

เป็นอีกครั้งที่เรารู้สึกว่า ‘คุณโอ๊ต’ และ ‘คุณโอ๊ตซึ’ แห่ง Drop by Dough อินเรื่องโดนัทมากๆ ล่าสุดเปิดตัว Donut Disturb ร้านโดนัทบอมโบโลนี (Bomboloni) ในโครงการ GUMP’s Ari ซึ่งทั้ง 2 คนนิยามว่าเป็นเหมือนน้องสาวของ Drop By Dough ที่เต็มไปด้วยความสนุก สดใส และเข้าถึงง่าย ไอเดียการตกแต่งร้านมาจาก Bauhaus ที่เบอร์ลิน ซึ่งเราจะเห็นผ่านเฟอร์นิเจอร์ที่ทั้งคู่เลือกมาใช้ แต่เพิ่มความสนุกด้วยสีสดใสอย่างสีคอรัล ฟ้า เขียว ไปด้วยกันได้ดีกับลักษณะเด่นของโดนัทบอมโบโลนี แป้งฟูนุ่มคลุกน้ำตาล ไส้เบาและละมุนจากวัตถุดิบที่คัดสรรอย่างดี อาทิ Hokkaido Milk, Thai Milk Tea , Hojicha, Lemon Cream ฯลฯ ให้กินเพลินๆ ได้หลายชิ้น นอกจากโดนัทบอมโบโลนี ที่ร้านยังมาพร้อมคู่หูดูโออย่าง Slushy เครื่องดื่มเกล็ดหิมะที่ได้เครื่องทำมาจากอิตาลี แต่ละแก้วเนื้อเนียนละเอียดเกือบเทียบเท่าซอฟต์เสิร์ฟ เลือกได้ทั้ง Vanilla Milk, ชานม, Lemonade และแตงโม รวมถึงมีกาแฟไว้จับคู่กับโดนัทอีกด้วย ในอนาคต คุณโอ๊ตและคุณโอ๊ตซึบอกว่าอยากเห็น Donut Disturb ไปปักหมุดอีกหลายแห่ง คนรักโดนัทโปรดติดตามให้ดี

'กิ๋น-ก่อ' ไม่ได้เป็นแค่ชื่อร้าน แต่เป็นคำเชิญชวนด้วยใจที่อยากให้เพื่อนๆ ทุกคนได้รับประทานอาหารเหนือฝีมือคุณแม่ของเจ้าของร้าน รังสรรค์จากวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างประณีตก่อนส่งตรงเข้ามายังเมืองกรุง ในซอยสวนหลวง 1 หรือ ซอยจุฬา 12 กลิ่นอายของภาคเหนือไม่ได้ถูกถ่ายทอดผ่านเมนูอาหารเท่านั้น เพราะบรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติ เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้เพื่อมอบความอบอุ่นให้แก่แขกของลูกชาย(เจ้าของร้าน) ให้สัมผัสได้ถึงความเป็นอยู่ภายใต้ความสงบและเป็นกันเอง เหมือนได้ไปเที่ยวที่บ้านเพื่อนชาวเหนือ ส่วนรายการอาหารล้วนเป็นเมนูพื้นบ้านสูตรเฉพาะของครอบครัว ทุกจานเสิร์ฟพอชชันใหญ่ ให้รสชาติเข้มข้น และอัดแน่นไปด้วยเครื่องแบบไม่มีกั๊ก เพราะทางร้านถือคติที่ว่า 'ทุกคนที่เข้ามากินข้าวในบ้านเรา จะต้องอิ่มท้องกลับไป' แนะนำ ขนมจีนน้ำเงี้ยว มีความหอมเป็นเอกลักษณ์จากเครื่องเทศ ให้รสชาติเค็ม เผ็ด และเปรี้ยว เสิร์ฟมาพร้อมท็อปปิงแบบไม่ยั้ง ข้าวซอยไก่เส้นอุด้ง น้ำแกงสีเหลืองสวยจากพริกแกงเหลือง ให้เนื้อสัมผัสเนียนละเอียดแต่มีรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นกะทิอบอวลในปาก กินคู่น่องไก่ชิ้นใหญ่และเส้นอุด้งเหนียวนุ่ม และ ข้าวซอยผัดแห้งเนื้อวากิว เส้นชาโคลราดน้ำข้าวซอยพอขลุกขลิก ท็อปด้วยเนื้อวากิวและไข่กุ้ง ได้ความหอมมันจากโฟมกะทิ และเพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้วยบะหมี่กรอบให้เคี้ยวเพลินๆ ตัดเลี่ยนด้วย น้ำลิ้นจี่โซดา และ ยูซุโซดา มีความหอม หวาน และเปรี้ยว เติมความสดชื่นได้ดีมาก บอกเลยว่ามื้อนี้ลำขนาด!

Oakland Cafe x Restaurant ร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์มินิมอลโทนสีขาวไม้แสนอบอุ่นสบายตา มาพร้อมอาหารหลากสัญชาติ เหมาะแก่การไปฝากท้องยามหิวและปล่อยให้ธรรมชาติช่วยฮีลใจ ด้วยตัวร้านที่ตั้งอยู่กลางพื้นที่สีเขียว สามารถพาครอบครัวไปนั่งชิลเอาต์ใต้ร่มไม้ในบรรยากาศของการจำลองสวนป่าแบบทรอปิคัล โดยที่นี่แบ่งสัดส่วนร้านออกเป็น 2 โซน เริ่มจากด้านหน้าเป็นพื้นที่ของคาเฟ่ มีเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่ที่เรียงรายด้วยเบเกอรี่โฮมเมด อีกทั้งยังมีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกสรรอีกเพียบ หากเดินลึกเข้าไปในร้านจะพบกับโซนร้านอาหาร มีให้เลือกนั่งได้ทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์ นอกจากนี้ทางร้านได้เซ็ตมุมแคมป์ปิ้งไว้ให้เหล่าคาเฟ่ฮอปเปอร์ได้เก็บภาพสวยๆ คู่กับอาหารจานเด็ด ขอแนะนำเมนูซิกเนเจอร์อย่าง พิซซาโอ๊กแลนด์ แป้งสูตรพิเศษมีสัมผัสนุ่ม ฟู และกรอบ แต่งหน้าด้วยเนื้อหมูไอเบอริโก ได้รสเค็มมันจากมอซซาเรลลาชีสและมาสคาร์โปเนชีส ต่อด้วย ขาหมูเยอรมัน เป็นขาหมูคุโรบุตะเนื้อนุ่มชุ่มลิ้น มีกลิ่นหอมเครื่องเทศอ่อนๆ แต่หนังข้างนอกกรอบสุดๆ กินคู่มันบด ผักดอง ซีอิ๊วหวาน และน้ำจิ้มซีฟู้ด และอย่าพลาด ปลากะพงทอดยำสมุนไพร เนื้อปลาทอดกรอบคลุกเคล้าน้ำยำรสจัดจ้าน มีสมุนไพรหลากชนิดให้เคี้ยว นอกจากจะอิ่มท้องแล้ว การมาที่นี่ยังเหมือนได้ใช้เวลากับธรรมชาติบำบัดแม้จะอยู่ในเมืองก็ตาม

ในที่สุด Suki Masa” ร้านสุกียากี้สไตล์คันไซขนานแท้ก็ได้บุกเบิกสาขาใหม่สักที ครั้งนี้ทางร้านเลือกปักหมุดตึก Erawan Bangkok (ชั้น LG) ใจกลางเมืองแสนสะดวกให้นักชิมได้อร่อยกันง่ายๆ ร่มรื่มย์กับบรรยากาศป่าไผ่อาราชิยามะช่วงฤดูใบไม้ร่วง ตัวร้านตกแต่งด้วยโทนสีดำขลับให้มู้ดแอนด์โทนหรูหราทันสมัย ตัดกับสีส้มอมเหลืองของงานอาร์ตผืนผ้าใบรูปพระอาทิตย์ตกดิน ของแม่น้ำโฮซูกาวะแสนโรแมนติกเข้ากันดีกับ Arashiyama Autumn Maple Tree Art รูปปั้นต้นเมเปิ้ลช่วงฤดูใบไม้ร่วงอลังการ ที่โดดเด่นอยู่กลางร้าน ประเดิมด้วยเมนูใหม่ Suki Masa Yaki ยากินิกุตำรับดั้งเดิม อร่อยกับ Zabuton A4 เนื้อส่วนสันไหล่ที่เต็มไปด้วยคอลลาเจน ย่างพร้อมต้นหอมญี่ปุ่น ก่อนเทซอสยากินิกุสูตรเฉพาะลงไป กินคู่ไข่ไก่ออร์แกนิก ซอสน้ำมันงาพริก ซิกเนเจอร์เจอร์ของทางร้าน หรือซอสยากินิกุรสหวานก็ตามใจ ตามด้วย Sukiyaki Set เซ็ตสุกียากี้สไตล์คันไซขวัญใจสายฟู้ด ประกอบด้วยเนื้อสัตว์ต่างๆ อย่าง Kuroge Wagyu Beef เนื้อวากิวชั้นที่ได้จากวัวสายพันธุ์ญี่ปุ่นขนดำ ให้สัมผัสนุ่มชุ่มฉ่ำ ส่วนใครที่ไม่กินเนื้อต้องนี่ Kurobuta Pork หมูคุโรบุตะคุณภาพ กินไม่มีเบื่อ นอกจากนี้ยังมีชุดผักสด และน้ำจิ้ม ได้แก่ ซอสพอนสึ รสเปรี้ยวกลมกล่อมอีกด้วย Seafood Nabe หม้อไฟสไตล์ญี่ปุ่นที่เราเลือกน้ำซุป Akakara Nabe Soup รสเผ็ดได้ที่ เข้ากันดีกับซีฟู้ดสดเด้งอย่าง หอยเชลล์โฮตาเตะเนื้อหวาน กุ้งตัวโต แซลมอน และปลาหมึกหนึบหนับ เสิร์ฟพร้อมเซ็ตผักสด ข้าวสวย จิ้มซอสพอนสึ หรือซอสงาก็เข้าที ยังไม่อิ่มต้องนี่ Rainbow Sashimi Roll ซูชิโรลที่เปลี่ยนจากข้าวญี่ปุ่นมาเป็นไชเท่าญี่ปุ่นกรุบกรอบ ห่อเนื้อบลูฟินทูน่า แซลมอน ปลาฮามาจิและอากามิ โรยหน้าด้วยปลาแห้งหอมๆ จิ้มโชยุ และวาซาบิรสเผ็ดซ่า ขนมหวานห้ามพลาด Kuzukiri ขนมโบราณแห่งอินแดนอาทิตย์อุทัยประจำเมืองโตเกียว ที่ผู้คนส่วนใหญ่มักนิยมกินในช่วงฤดูร้อน วุ้นเส้นสไตล์ญี่ปุ่นโฮมเมดที่ทำจากแป้งรากไม้ แช่อยู่ในน้ำแข็งชื่นใจ ก่อนกินให้คลุกเคล้ากับน้ำตาลทรายแดงเคี่ยวรสหวานฉ่ำ และผงถั่วคินาโกะลงไป เพิ่มกลิ่นหอมด้วยขิงขูดก็สมบูรณ์แบบ เป็นร้านที่ประทับใจทุกครั้งไป

Tag:

ให้ทุกวันเป็นวันอาทิตย์ที่ Always Sunday Cafeteria คาเฟ่เปิดใหม่ย่านอารีย์ของ เชฟเอก เชฟโอนเนอร์ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกามาก่อน เมนูของที่ร้านเป็นเมนูโฮมคุ้กทั้งเวสเทิร์นและเอเชีย กินแล้วอิ่มท้องอิ่มใจ ส่วนช่วงค่ำจะเพิ่มสีสันด้วยไวน์และเมนูที่จับคู่กันได้ดี เพราะเคยทำงานเกี่ยวกับดนตรีก่อนไปเรียนเชฟอย่างจริงจัง การตกแต่งร้านจึงสะท้อนถึงตัวตนของเชฟด้วยบรรยากาศผ่อนคลายคลอด้วยเสียงเพลง รวมถึงมีมุมแผ่นเสียงหายากให้นักสะสมเลือกซื้อกลับบ้านได้อีกด้วย เรียกน้ำย่อยด้วย Shrimp Scampi with Toast กุ้งผัดซอสไวน์ขาว หอมกลิ่นเนย เสิร์ฟพร้อมขนมปังปิ้ง French Onion Soup ซุปหัวหอมอุ่นๆ เบสจากน้ำสต๊อกเนื้อ เสิร์ฟขนมปังอบชีสให้ดิปได้ หรือจะเริ่มต้นวันด้วย Croque Monsieur แซนด์วิชแฮมชีสสไตล์ฝรั่งเศสจากขนมปังซาวร์โดว์อบใหม่ทุกเช้าก็เพิ่มพลังได้เป็นอย่างดี ส่วนจานหลัก มีทั้ง Slow Cooker Beef Stew served on Mashed Potato สตูแก้มวัวตุ๋นในน้ำสต๊อกเนื้อนาน 4 ชั่วโมงจนนุ่ม เสิร์ฟพร้อมมันบดเนื้อเนียนนุ่ม Linguini with Spicy Chiangmai Sausage จานนี้เราชอบมาก พาสตาเส้นลิงกวีนีผัดกับไส้อั่วหนักเครื่องสมุนไพรจากร้านป้าต้อย (ซึ่งเป็นคุณป้าของเชฟเอง) ส่งตรงจากเชียงใหม่ จานนี้รสจัดแบบไทย ใส่พริกคั่ว มะแขว่น กินแล้วเจริญอาหารเป็นพิเศษ และพลาดไม่ได้กับ Duck Confit with Mashed Potato เป็ดกงฟีเสิร์ฟพร้อมมันบดและซอสเรดไวน์บลูเบอร์รีรสเปรี้ยวอมหวานที่บาลานซ์รสหนักและเค็มเล็กๆ ของเป็ดได้ดี

ต้นถนนสาธุประดิษฐ์เป็นที่ตั้งของ BK SALON (บี เค ซาลอน) ร้านใหม่ของ เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ที่ไม่อยากให้ที่นี่เป็นแค่ร้านอาหารธรรมดา แต่เป็น Community Restaurant และ “ห้องนั่งเล่น” แห่งใหม่ ให้ผู้คนได้มาแบ่งปันบทสนทนา ทั้งเรื่องอาหาร เครื่องดื่ม หรือจะใช้สำหรับจัดเวิร์คชอปต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ก็เป็นเรื่องที่เชฟต้นและทีมอยากให้เกิดขึ้น การดีไซน์ร้านได้ไอเดียจากกระติ๊บข้าวเหนียว ภาชนะที่แม้จะจิ๋วแต่ทรงพลัง นอกจากจะใช้ใส่ข้าวเหนียว ของโปรดของคนทุกชนชั้น ยังทำจากวัสดุจากธรรมชาติล้อไปกับไอเดียเรื่องความยั่งยืนที่เชฟให้ความสำคัญ อาหารของที่ร้านดูแลโดยเชฟเจน เป็นคอมฟอร์ตฟู้ดจากวัตถุดิบที่ดี สร้างสรรค์ และเข้าใจง่าย อิ่มตั้งแต่มื้อเช้าจรดค่ำ Morning Set เซ็ตอาหารเช้าในถาดไม้ มีทั้งครัวซองต์ เบคอน ไข่ อะโวคาโด และน้ำส้มเรียกความสดชื่น Chicken Waffle วัฟเฟิลท็อปไก่ทอดแล้วราดด้วยซอสศรีราชาแบรนด์ดังที่ขายเฉพาะที่ตำบลบางพระ ชลบุรี เราชอบเมนูไทยๆ อย่าง ก้อยมะนาวสไบนาง ทาร์ทาร์เนื้อที่ได้ไอเดียจากก้อยเนื้อรสเด็ด แต่มาในพรีเซนต์เทชั่นแบบไฟน์ไดนิ่ง รวมถึง ยำชะครามคลองโคนกุ้งสด และ ต้มแซ่บมะเฟืองปลาช่อนอย่างเก๋า แต่ที่ได้ใจเราไปเต็มๆ คือเมนูฟู่ฟ่าอลังการอย่าง ข้าวห่อใบบัว เสิร์ฟใหญ่โตไว้แชร์กับแก๊ง ข้าวห่อใบบัวโคตรปู นอกจากเนื้อปูสดหวาน ไข่ปูเลิศ ตัวข้าวอบยังอร่อยมาก หอมและกลมกล่อม แต่พอราดน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจี๊ดจ๊าดลงไปจะได้อีกอารมณ์ ส่วน ข้าวห่อใบบัวหอยนางรมไข่ข้น ข้าวรสออกหวานกว่านิดหน่อย หอยนางรมดี และไข่ข้นเท็กซ์เจอร์นุ่มนิ่ม แล้วจบคืนนี้ด้วย มาม่าหม้อไฟ เดือดปุด สำหรับสายดื่ม นอกจากจานคาวแล้วที่นี่ยังมีขนมหวานไว้ล้างปาก อาทิ นุ่มนิ่มมะม่วงโฉมใหม่ พานนาคอตต้ามะม่วงหอมหวาน และ โทสต์ชาโคลเกาลัด ที่กินเพลินดี รวมถึงเมนูกาแฟที่เป็นที่แรกในไทยที่ใช้เมล็ดกาแฟ ARAKU ของอินเดียซึ่งปลูกในป่าดิบชื้นโดยไม่ทำลายดิน

Tag:

ยิ่งกินยิ่งชื่นใจไอศกรีมโฮมเมดพรีเมียม The Sweet Chaos ที่มาพร้อมกับความสดชื่นของไอศกรีม 9 รสชาติใหม่อันเอกลักษณ์ ปรับสูตรเติมรสชาติจนกลมกล่อมลงตัวยิ่งกว่าเดิม แบ่งเป็น ‘Every Day Ice Cream 5 Flavors’  เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าของผักผลไม้กว่า 40% ใน 1 กระปุก รสชาตินุ่มนวลกลมกล่อมเป็นมิตรกับคนไม่ทานผัก อาทิ New Golden Ticket  เจลาโต้ดาร์คช็อกโกแลต สูตรเข้มข้นชั้นดีสัญชาติอิตาเลียนแท้ โรยด้วยฮาเซลนัตกรุบกรอบ New Crazy Bunny ไอศกรีม 2 รสชาติในหนึ่งถ้วย ระหว่างเจลาโต้แครอตเนื้อครีมมี่และพีแคนอบรสนัวหวานมัน  Corn’n Crisp รสชาติของซุปข้าวโพดหวานมันเข้ากับเบคอนกรอบสุดๆ French Roasted Americano Sorbet ซอร์เบต์อเมริกาโน่จากเมล็ดกาแฟคั่วกลางจังหวัดเชียงใหม่ และ One More Please รสคราฟต์ช็อกโกแลต และโกโก้นิบส์ฝีมือคนไทยที่กินคำเดียวไม่พอ! ‘Every Night Ice Cream’ ค็อกเทลเจลาโต้ที่จะทำให้ทุกค่ำคืนผ่อนคลาย แม้ไม่ถนัดดริ๊งค์ก็สามารถทานได้ อาทิ One more’s Cacao Juice with Awamori ผสานรสชาติของน้ำสกัดผสมโกโก้ของไทย และอะวาโมริเข้มข้นจากญี่ปุ่น Summer Night Fever สดชื่นด้วยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่และจินสีชมพู  Mr. Rogue Hazelnut Beer คราฟต์เบียร์กลิ่นหอมจากมอลต์ที่เพิ่มความกรุบกรอบด้วยฮาเซลนัต และ My Own Private ชั้นล่างเป็นเจลาโต้เสาวรสผสมกับสก๊อตวิสกี้ แทรกด้วยซอสไวน์แดงอบเฉยที่ผ่านกาาเคี่ยวจนได้ที่ บอกเลย! อร่อยทุกรสชื่นใจทุกสูตร   สอบถามและสั่งซื้อ Facebook : The Sweet Chaos  Instagram : the_sweet_chaos Tel : 096-915-6429

Tag:

นับเป็นหนึ่งในร้านอร่อยฝั่งธนฯ เลยก็ว่าได้สำหรับ “เล่อขาหมูทรงเครื่อง” ร้านขาหมูรสชาติดีราคาน่ารัก ที่ตั้งอยู่หน้าโรงพยาบาลพญาไท 3 (MRT บางไผ่) เจ้าของคือ เชฟเทียน - เทียนชัย พีรพงศธร เชฟหนุ่มหล่อดีกรีเชฟทีมชาติของเมืองไทย และหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรายการ TOP CHEF Thailand SEASON 2 ที่สายฟู้ดคุ้นหน้าคุ้นตากันดี   ทีเด็ดของร้านเล่อขาหมูทรงเครื่องเลยคือเป็นขาหมูที่รสเค็มหวานเข้มข้น ไขมันน้อยเพราะเป็นสูตรอร่อยของคุณพ่อ ผสมกับการปรุงอาหารสไตล์ตะวันตกของเชฟเทียน โดยจะใช้ขาหมูส่วนหน้าที่มีมันน้อย เผาไฟอย่างดีและนำไปอบเพื่อไล่น้ำมันออก ก่อนนำไปต้มที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียสกับเครื่องยาจีนหอมๆ กว่า 9 ชนิดจนได้เนื้อที่นุ่มเปื่อย ใครมากินก็เลิฟ   เอาใจเด็กอ้วนก่อนเลยกับ ข้าวขาหมูขากิ เนื้อนุ่มแทบละลายในปาก เพราะผ่านกระบวนการตุ๋นยาจีนนานถึง 12 ชั่วโมง รสหวานอมเค็ม กินคู่พริกน้ำส้มโฮมเมดเข้ากันดี ตามด้วยหนึ่งจานซิกเนเจอร์อย่าง ข้าวแกงกะหรี่หมูกุนเชียง สันคอหมูกินอร่อย อยู่ในน้ำแกงกะหรี่สไตล์จีนรสกลมกล่อม ผสานความหอมของผงขมิ้นอินเดีย เสิร์ฟเคียงกุนเชียงหมูรสหวาน และพริกชี้ฟ้า เราเพิ่มหมูทอดกรอบนอกนุ่มในมากด้วย   ปิดท้ายกับ ก๋วยเตี๋ยวเป็ด เราเลือกเป็นเส้นหมี่เหนียวนุ่ม ไปด้วยกันได้ดีกับน้ำซุปรสเค็มเล็กๆ หอมกลิ่นยาจีน ท็อปด้วยเนื้อเป็ดพะโล้แน่นๆ   ไม่เจอเชฟเทียนแต่เจอป๊ะป๋าก็ยังดี

ถือเป็นข่าวดีของคนรักอาหารเหนือเมื่อ ‘ฮ้านถึงเจียงใหม่’ ร้านอาหารเหนือพื้นเมืองที่ได้รับรางวัล “บิบ กรูมองต์” จากคู่มือมิชลินไกด์ ประจำประเทศไทย 4 ปีซ้อน มาเปิดสาขาล่าสุดในกรุงเทพย่านอารีย์ โดยมาพร้อมกับร้านขนาดกะทัดรัดให้กลิ่นอายความน่ารักอบอุ่น ยกทัพเมนูอร่อยที่รังสรรค์ขึ้นด้วยวัตถุดิบส่งตรงจากสาขาต้นตำรับมาให้ได้ลิ้มลองแบบไม่ต้องไปแอ่วเหนือกันเลย เริ่มด้วย ออร์เดิฟเมือง (299.-) จัดเต็มทั้งน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แกงฮังเล รสกลมกล่อมเคียงมาด้วยเครื่องเคราอย่าง ผักต้ม ไข่ต้ม และแคปหมู เลือกกินเลือกจิ้มได้อย่างสนุกสนาน ต่อด้วย ข้าวซอยไก่ (79.-) โดดเด่นด้วยน้ำซุปหอมมันกะทิซึมเข้าเส้นข้าวซอยนุ่มหนึบ และน่องไก่ชิ้นโต เสิร์ฟมาแบบน้ำคลุกขลิกเข้มข้น พร้อมเครื่องเคียงอย่างผักกาดดอง หอมแดง พริก และมะนาว ที่สามารถปรุงรสได้ตามชอบ สายเนื้อห้ามพลาด จิ้นนึ่งพริกข่า (99.-) เนื้อน่องลายตุ๋นเตาถ่านจนเปื่อยนุ่ม กินพร้อมน้ำพริกข่าเผ็ดร้อนสูตรเด็ดของร้าน ต่อด้วยอีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่ห้ามพลาด ปูอ่อง (79.-) มันปูนาผสมกับไข่แดงและแป้งเล็กน้อย ก่อนจะนึ่งให้สุกหอม จิ้มกินกับข้าวเหนียวหุงสุก บอกเลยคำนี้ลำแต้แต้ ปิดท้ายด้วย คั่วเห็ดลม (89.-) อาหารพื้นบ้านจากเห็ดป่าที่นำไปคั่วพริกกระเทียมจนหอมกรุ่น สัมผัสหนึบหนับเคี้ยวเพลิน

ชวนไปพักผ่อนเติมความผ่อนคลายสบายใจที่ The Neighborwood ร้านอาหารและคาเฟ่ในโครงการ Sansiri Backyard T77 Community ซึ่งโดดเด่นด้วยร้านโทนสีเขียวสดชื่นเสริมความอบอุ่นด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่รับกับแสงธรรมชาติ และเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มสร้างความกลมกลืนไปกับสวนสไตล์ยุโรปภายนอกที่จัดขึ้นด้วยความตั้งใจ เพื่อเติมเต็มคอมมูนิตี้แห่งนี้ให้สมบูรณ์แบบ ทางร้านเน้นเสิร์ฟเมนูคอมฟอร์ตฟู้ดทั้งไทยและอิตาเลียน พร้อมกับเบเกอรี่และเครื่องดื่มหลากหลายเมนู ที่สามารถแวะมาเอนจอยกันได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น เริ่มด้วยเมนูเด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดีอย่าง ข้าวซี่โครงอ่อนพะโล้ขลุกขลิก ซี่โครงหมูอบจนเนื้อเปื่อยนุ่ม ฉ่ำด้วยซอสรสเข้มข้นหอมกลิ่นเครื่องพะโล้ กินพร้อมข้าวสวยร้อนๆ เข้ากันดีเป็นที่สุด ต่อกันที่ แกงเหลืองปลากะพง น้ำแกงสุดเข้มข้นจากเครื่องแกงสูตรเฉพาะของร้าน ซึมเข้าเนื้อปลากะพงชิ้นโตและมะละกอ เปรี้ยวเผ็ดหวานครบรส ต่อด้วย ยำวุ้นเส้นโบราณ เผ็ดเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด ทางร้านจัดเต็มด้วยเครื่องแน่นๆ ทั้ง หมูสับ กุ้งแห้ง หอมเจียว และถั่วลิสง Parma Ham Burata Pizza พิซซาแป้งบางขอบกรอบหน้าพาร์มาแฮมและชีสบูร์ราตา ทีเด็ดอยู่ที่มะเขือเทศญี่ปุ่นดองซอสสูตรเฉพาะของร้าน ที่ทำให้เมนูนี้อร่อยลงตัวยิ่งขึ้น พลาดไม่ได้กับ สตูไก่ น้ำซุปรสกลมกล่อมไปได้ดีกับเนื้อไก่ส่วนสะโพกที่ตุ๋นจนเปื่อยนุ่ม เสิร์ฟพร้อมขนมปังโทสต์เนยโฮมเมดรสหวานนิดเค็มหน่อย อร่อยเกินต้าน

Tag:

บุกโลเคชั่นใหม่เอาใจฟู้ดดี้แบบรัวๆ เลยทีเดียวสำหรับ Shabu Baru ร้านชาบู-สุกียากี้สไตล์ญี่ปุ่นหม้อเดี่ยวมาคนเดียวก็อร่อยได้ ที่ครั้งนี้นำเสนอในเวอร์ชั่น “Shabu Baru Mini” ตั้งอยู่บนชั้น 7 ของเซ็นทรัลเวิลด์ (BTS ชิดลม) ฟินกับชาบูและสุกียากี้รสชาติดีในราคาน่ารัก  มาพร้อมกับคาราวานเนื้อต่างๆ อย่าง A4 Mini Cut มันน้อย วากิว F1 Kagoshima ฉ่ำลิ้น A4 Iwate ชั้นเลิศ และ A5 Yonezawa เนื้อนุ่มแทบละลายในปาก นอกจากนี้ยังมีเมนูใหม่ทีเด็ดอย่าง สุกียากี้เนื้อและนาเบะ เข้าคู่ ‘Baru Ruyu’ น้ำมันพริกโฮมเมดตัวดังของทางร้าน ใช้จิ้มกับอะไรก็อร่อย ต้อนรับด้วย เซ็ตชาบู สุดอิ่มเอมที่ประกอบด้วย น้ำซุปคอมบุรสอูมามิปราศจากผงชูรส จับคู่กับเนื้อสัตว์คุณภาพที่ครั้งนี้เราเลือก Pork Set หมูสามชั้นกินเพลินส่งตรงจากเกาะคิวชูแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย ชุดผักสดกรุบกรอบ น้ำจิ้มงา ที่ทำมาจากงาทองสัญชาติญี่ปุ่น และซอสพอนซึ รสเปรี้ยวกลมกล่อม หอมกลิ่นยุซุ ตามด้วยเมนูที่ Beef Sukiyaki สุกียากี้รสเข้มข้น ที่คุณสามารถเลือกอร่อยกับ เนื้อวากิว F1 เนื้อ A4 Mini Cut (ที่เราสั่ง) และหมูสามชั้นจากเกาะคิวชู เสิร์ฟพร้อมไข่ไก่ออร์แกนิก โมจิย่างหอมๆ และข้าวสวยถ้วยใหญ่ ห้ามพลาด Spicy Miso Pork Nabe นาเบะที่เอาใจคนรักการกินเผ็ดด้วยน้ำซุปรสแซ่บร้อนแรง ใส่ผักนานาชนิดเต้าหู้นุ่มนิ่ม และพระเอกอย่างลูกชิ้นหมูเด้งโฮมเมดเนื้อแน่น เพิ่มพลังงานด้วยเส้นราเมนทำเอง ที่ให้สัมผัสเหนียวนุ่มอย่าบอกใคร ยังไม่อิ่มสั่ง Hata Fish ปลาเก๋าญี่ปุ่นเนื้อสดเด้ง มาเพิ่มหน่อยก็ไม่เสียหาย   เป็นความอร่อยที่ไม่มินิเลย

บิสโทร เดอ ลา แมร์ (Bistrot de la Mer) ห้องอาหารน้องใหม่บนชั้น 19 ของโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพ ที่มาพร้อมกลิ่นอายสไตล์ French Mediterranean ในบรรยากาศสบายๆ ผ่อนคลายด้วยผนังสีขาวประดับภาพวาดสวยเก๋ เพิ่มความสดใสให้ห้องอาหารด้วยพื้นกระเบื้องโมเสคสีฟ้าขาว แซมด้วยสีน้ำตาลสลับเทาเพื่อสร้างความกลมกลืนไปกับโต๊ะไม้ พร้อมเก้าอี้หนังสีน้ำตาล และเก้าอี้ผ้าสีเทาคลาสสิก ปล่อยใจให้รื่นรมย์ไปกับวิวสวนสีเขียวผ่านกระจกใสบานใหญ่ ซึ่งเป็นมุมมองสุดสดชื่นของสวนลุมพินี พร้อมลิ้มรสอาหารฝีมือเชฟ Slawomir Kowalik เชฟประจำห้องอาหารที่คร่ำหวอดในแวดวงร้านอาหารจากโรงแรม 5 ดาวในยุโรป และร้านมิชลินสตาร์ 2 ดาวจากสวิตเซอร์แลนด์ เชฟ Slawomir คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี มานำเสนอเป็นเมนูโปรดที่น่าประทับใจมากมาย อาทิ  Nicoise Salad สลัดนีซัวร์เสิร์ฟกับปลาทูน่าหางเหลือง ที่เชฟจะปรุงให้แขกทุกคนรับประทานกันถึงโต๊ะ Riviera Crab Salad สลัดปูริเวียร่าที่ใช้เนื้อปู Tourteau นำเข้าจากฝรั่งเศส คลุกเคล้าน้ำสลัดสูตรพิเศษ ท็อปด้วยสลัดผลไม้เกรปฟรุตผสมส้มโอ และออนท็อปด้วยผักอองไดรฟ เจลลีแอปเปิล และแอปเปิลเขียวสไลซ์ สร้างความสดชื่นในบรรยากาศริเวียร่า ชายทะเลตอนใต้ของฝรั่งเศส หากชื่นชอบอาหารทะเลสดๆ แนะนำให้สั่ง Fruits de Mer Set Royale ที่ประกอบด้วยล็อบสเตอร์ครึ่งตัว (Half Maine Lobster) หอยนางรมจีราโด (Gillardeau Oysters) ซึ่งเป็นหอยนางรมชื่อดังจากฝรั่งเศส และหอยนางรมทซัสคาญ่า (Tsarskaya Oysters) อย่างละ 3 ตัว  กุ้งลายเสืออีก 4 ตัว (Tiger Prawns) หอยเชลล์เซวิเชเนื้อหวาน (Scallops Ceviche) และหอยไม้ไผ่หมักและปรุงรสได้อร่อยถูกใจ (Marinated Razor Clams) ภายในเซ็ตมีซอสให้ได้เลือกอร่อยทั้ง ซอส Mignonette ซอสค็อกเทล ซอสพริกอาโอลีกระเทียมย่างและเลมอน หรือจะลอง Beef Tartare ที่เสิร์ฟมาในภาชนะพิเศษคล้ายกระดูกวัวกินคู่กับขนมปังซาวโด ตัวบีฟทาร์ทาร์ ปรุงจากเนื้อเทนเดอร์ลอยน์สับ คลุกเคล้ากับซอสสไตล์ฝรั่งเศส ไข่แดงรมควัน เมล็ดมัสตาร์ด และโอลีฟออยคาร์เวียร์ ใครได้ชิมต้องติดใจ อีกเมนูอร่อยไม่ควรพลาด Escargot Provencal หอยทากทะเลอบเนยที่เชฟคัดสรรหอยทากทะเลจากฝรั่งเศสขนาดพอดีคำ อบพร้อมเนยกระเทียมผสมพาสลีย์สูตรเข้มข้นส่งกลิ่นหอมโชยมาก่อน แนะนำว่าพลาดไม่ได้จริงๆ เมนูซุปแนะนำซุปยอดนิยมอย่าง Bouillabaisse ซุปทะเลบูยาเบสที่มีต้นกำเนิดจากเมือง Marseille ที่มีทั้งปลาทะเล หอย กุ้ง และปลาหมึก รสชาติละมุนลิ้น หรือจะลองซุปใส French Onion Soup ซุปหัวหอมสุดคลาสสิก ออนท็อปด้วยชีสแบบเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมขนมปังบาร์แก็ต เป็นอีกหนึ่งเมนูที่จะทำให้คุณนึกถึงประเทศฝรั่งเศส เมนูจานหลักที่เชฟภูมิใจนำเสนอ Baked Turbot on The Bone ปลาเทอร์บอทชิ้นใหญ่ย่างสุกกำลังดีกลิ่นหอมชวนหิว เนื้อปลาหนานุ่มสดหวานกินพร้อมซอสเบอร์เนสและเครื่องเคียงอย่าง Potato Gratin มันฝรั่งอบชีส และ Baby Broccolini บล็อกโคลลินีนำเข้าผัดน้ำมันมะกอก หรือเลือกอิ่มอร่อยกับ Lobster Thermidor ที่นำล็อบสเตอร์ปรุงกับซอสคอนญักผสมผสานจนเป็นเมนูที่ทุกคนชื่นชอบ สเต็กเนื้อวากิว ทั้งแบบริบอายหรือฟิลเล่ย์ และเมนูมังสวิรัติอย่าง สเต็กมะเขือม่วงย่างเสิร์ฟคู่กับซอสเห็ด ปิดท้ายมื้อพิเศษด้วยของหวานสุดคลาสสิกอย่าง Tarte Tatin ทาร์ตแอปเปิลอบร้อนๆ เสิร์ฟกับไอศกรีมวานิลลาและซอสคาราเมล ยังมีมุมไวน์เซล่าที่มีไวน์ชั้นดีจากทั่วทุกมุมโลก และเคาน์เตอร์บาร์ไว้บริการเครื่องดื่มเย็นๆ ให้กับแขกทุกท่านอีกด้วย ห้องอาหารบิสโทร เดอ ลา แมร์ (Bistrot De La Mer) พร้อมบริการมื้อกลางวันตั้งแต่ 12.00-15.00 น. และมื้อค่ำ ตั้งแต่ 17.00-22.00 น. ทุกวัน   รายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร. 0-2095-9999 อีเมล์ fb.sindhorn@kempinski.com

Tag:

ถือเป็นการต่อยอดที่ประสบความสำเร็จมากจริงๆ สำหรับ “Nose Tea Thailand” ร้านชานมจมูกเขียวจากแบรนด์ Lively Nose ผลิตภัณฑ์ลอกสิวเสี้ยนชื่อดังของเมืองไทย เจ้าของคือคุณไผ่และคุณกฤษณ์ ที่หลงใหลชานมสไตล์ไต้หวันและจีนจากการไปท่องเที่ยวเสียจนอยากสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง โดยเริ่มจากการคิดสูตรอร่อยกว่า 1 ปีจนได้รสชาติชานมที่ตนเองตามหา ความโดดเด่นของ Nose Tea Thailand อยู่ที่ชาผลไม้ โดยทางร้านจะใช้ผลไม้สดแถมยังตักเนื้อผลไม้ให้แบบล้นๆ จุใจสายหวานดีจริงๆ นอกจากนี้ยังมีดาวเด่นที่ลืมไม่ลงอย่าง ‘ครีมชีส’ โฮมเมดสูตรเด็ดของทางร้าน เนื้อเนียนนุ่มรสหอมมัน ผสมความเค็มนิดๆ จิบคู่กับชาตัวไหนก็ฟิน ครั้งนี้เรามาชิมที่สาขาสยามเซ็นเตอร์ แม้จะคนเยอะแค่ไหนแต่ใจก็สู้ไม่ถอย     แก้วแรกเราสั่ง Nose Tea Signature ชานมสไตล์ไต้หวันเกล็ดหิมะรสหวานมันพอดี ท็อปด้วยครีมชีสสูตรเฉพาะรสเค็มนัว เนื้อเนียนนุ่ม เพิ่มสัมผัสเคี้ยวสนุกด้วยไข่มุกเม็ดเล็กๆ ตามด้วย Mandarin Orange Green Tea ชาส้มแมนดารินรสเปรี้ยวอมหวานจิบแล้วชื่นใจ มีเนื้อส้มแมนดารินกินสนุกมาให้ด้วย เข้าคู่ครีมชีสตัวดังของทางร้าน และอีกเมนูที่ขายดี Lychee Earl Grey ชาเอิร์ลเกรย์รสนุ่มที่เราคุ้นเคย ผสานรสหวานฉ่ำของลิ้นจี่สดลูกโตๆ เพิ่มความมันนัวด้วยครีมชีสสไตล์โฮมเมด ก่อนจิบอย่าลืมแชะรูปลงโซเชียลนะ

การเดินทางครั้งใหม่ของจิม ทอมป์สัน ในแบบฉบับของ Jim Thompson Heritage Quarter ได้ทยอยเปิดเผยความพิเศษกันมาเรื่อย ๆ ไม่มีหยุด เปลี่ยมโฉมหน้าของแบรนด์ผ้าไหมไทยเป็นแบรนด์แห่งไลฟ์สไตล์อย่างเต็มตัว รวมถึงร้านอาหารไทยและ O.S.S Room ซึ่งทำหน้าที่เป็นห้องชายามบ่ายในช่วงกลางวันและเปลี่ยนเป็นบาร์สุดหรูหราในยามค่ำคืน O.S.S Room นั้นตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของ Jim Thompson, A Thai Restaurant มาพร้อมความหรูหราตามแบบฉบับของแบรนด์จิม ทอมป์สัน กระจกบานกว้างที่ล้อมรอบอยู่นั้นเปิดกว้างให้เห็นทั้งสวนสีเขียวร่มรื่น หันไปอีกฝั่งก็จะเห็นวิวคลองแสนแสบ แถมยังมาพร้อมด้วยพื้นที่ระเบียงกลางแจ้งที่เหมาะจะออกไปรับลมชมวิวในยามแดดร่มลมตก สำหรับชุดชายามบ่ายของ O.S.S Room นั้น สร้างความประทับใจได้อย่างไม่ยากเย็น ด้วยกล่องบรรจุเมนูของคาวหวานสีแดงสดพร้อมลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของจิม ทอมป์สัน จับคู่มากับตัวเลือกของชาหลากหลายเบลนด์ อย่างเช่น Jim Thompson Exclusive Blend สุดพิเศษเฉพาะที่ O.S.S Room โดยแบรนด์ชาจากผืนป่าทางภาคเหนือของไทย Monsoon Tea ที่ให้กลิ่นอันหอมหวานของดอกไม้ผสมผสานไปด้วยรสชาติจากลิ้นจี่ เมนูคาวหวานที่มาในชุดชายามบ่ายนี้มีทั้งหมด 11 เมนู แนะนำให้เริ่มต้นด้วย Seasonal Fish Ceviche in Kratong Tong เซบิเชปลาดิบในกระทงทองเพื่อให้ความสดชื่นจากเมนูนี้มากระตุ้นต่อมความอยากอาหารกันก่อน แล้วต่อด้วย Moo Paloh Sourdough Tostada แป้งทอสทาดาซาวร์โดท็อปด้วยชิ้นหมูพะโล้ ไข่นกกระทา และพริกดอง Meang Kum - Korat เป็นคำถัดมาในรูปแบบของเมี่ยงคำแบบโคราช ที่ให้รสชาติอันหลากหลายของวัตถุดิบในคำเดียว ต่อด้วยเมนูที่ผสมผสานของคาวและหวานเข้าด้วยกันอย่าง Pate with Sweet Chili Blueberry and Tuile ปาเตตับไก่ที่จับคู่มากับทองม้วน แทนที่จะเป็นสโคนอย่างเช่นชุดชายามบ่ายทั่วไป ที่นี่เลือกหยิบเอาเมนู Cream Biscuit มาทดแทนโดยกินคู่กับ  Rosella Jam และ Clotted Cream เข้าสู่เมนูหวานด้วย Som Jeed Meringue Tart เมอแร็งก์ทาร์ส้มจี๊ด ที่ให้ความเปรี้ยวอมหวานอย่างลงตัว Cashew Nut Financier ให้รสชาติของเม็ดมะม่วงหิมพานต์แบบเต็มปากเต็มคำในสัมผัสที่แปลกใหม่ของฟีน็องซีเอแบบฝรั่งเศส ซึ่งมีความเบาและกรอบ แต่ที่ต้องยกนิ้วให้ในความสร้างสรรค์ คือเมนูนี้ Thai Custard Choux with Silk Mott Crust ชูส์สอดไส้คัสตาร์ดที่เพิ่มความเป็นจิม ทอมป์สันเข้าไปด้วยเปลือกทำจากหนอนไหมเคลือบบริเวณด้านบน Double Formage Cheesecake เป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าตื่นเต้นไม่น้อย เพราะเป็นการนำเอกลักษณ์ของชีสเค้กญี่ปุ่นและชิฟฟ่อนเค้กมารวมกัน จนออกมาเป็นความนุ่มนวลที่ไม่เหมือนใครสุด ๆ Five-Spice Snickerdoodle สนิกเกอร์ดูเดิล หรือ คุกกี้สไตล์อเมริกัน ใส่เครื่องเทศห้าอย่าง เมื่อกินเข้าไปแล้วจะสัมผัสได้ถึงรสชาติความเผ็ดร้อนแทรกมานิด ๆ หน่อย ๆ ปนความความหวาน ปิดท้ายด้วย Bean to Bar Chocolate จาก PARADAi แบรนด์คราฟต์ช็อกโกแลตชั้นนำของเมืองไทย โดยรสชาติจะเปลี่ยนหมุนเวียนไปในแต่ละวัน เป็นอีกประสบการณ์ชายามบ่ายที่แปลกและแตกต่าง แถมยังได้กลิ่นอายของความเป็นไทยและงานคราฟต์สอดแทรกอยู่ในทุก ๆ คำ

เมนูร้อนแรงอันดับต้นๆ ที่เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ของสายกินเวลานี้ คงต้องยกให้เมนูหม่าล่า เสน่ห์ของรสเผ็ดลิ้นชาที่ใครก็อยากลิ้มลอง ความป็อปปูล่าร์ดูได้จากมีร้านหม่าล่าเปิดใหม่ให้เลือกตระเวนกินได้ไม่ซ้ำ แต่ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์ความเผ็ดชาแบบต้นตำรับจากเมืองฉงชิ่ง ขอชี้เป้า Riverside Grilled Fish & Mala ที่พร้อมส่งตรงสูตรลับระดับตำนานที่ใครได้ลองจะต้องยกนิ้วให้ จากชื่อร้านก็รู้ว่าทีเด็ดของที่นี่จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก ปลาย่างสไตล์ฉงชิ่ง ลูกค้าสามารถเลือกชนิดปลาที่ต้องการจากนั้นทางร้านจะนำไปย่างทั้งตัวจนได้หนังกรอบและสุกกำลังดี เนื้อปลาสดหวานเป็นทุนเดิมยิ่งเพิ่มเติมด้วยซอสต้นตำรับก็ยิ่งอร่อยจับใจ ที่นี่มีซอสให้เลือกหลายชนิดแต่ถ้ามาครั้งแรกแนะนำซอสหม่าล่าสูตรเด็ด เพื่อให้รู้สึกเหมือนมาถึงฉงชิ่งแล้วจริงๆ ต่อด้วย หมูสามชั้นทอดกระเทียม หมูสามชั้นสไลซ์เป็นแผ่น เนื้อนุ่มฉ่ำหอมกลิ่นเครื่องเทศ มีรสเผ็ดเล็กน้อย เพิ่มความสดชื่นด้วยแตงกวาซอย อร่อยครบรส ถัดมาคือ ไก่ผัดพริกแห้งสูตรริเวอร์ไซด์ เนื้อไก่ทอดกรอบผัดกับพริกทอด แนะนำให้ตักกินพร้อมกันทั้งไก่และพริกจะได้รสชาติที่เข้มข้นเผ็ดร้อน เค็มปลายลิ้น เคี้ยวกินเล่นได้เพลินๆ หม่าล่าผัด สูตรต้นตำรับที่ลูกค้าสามารถ DIY ได้ตามชอบ ตั้งแต่เลือกวัตถุดิบ ระดับความเผ็ด และความเข้มข้นของหม่าล่า ข้าวไข่และผัก เมนูเรียบๆ ที่พิสูจน์ฝีไม้ลายมือของเชฟได้เป็นอย่างดี ไฟต้องแรง ผัดต้องเร็ว เมล็ดข้าวต้องร่วนไม่ติดกระทะ มีกลิ่นหอมของเครื่องเทศและพริกไทยชัดเจน จบด้วยรสชาติกลมกล่อม ประทับใจทุกคำที่เข้าปาก แนะนำได้เพียงบางส่วน เพราะยังมีอาหารจีนจากเมืองฉงชิ่งอีกหลายเมนูที่ล้วนชูเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ได้แก่ รสชาติเผ็ดร้อน หอมเครื่องเทศ และชาสะท้านลิ้น ควรสั่งมาลองชิมทีละเมนู แล้วจะรู้สึกเหมือนได้ท่องเที่ยวไปในเมืองฉงชิ่งจริงๆ