ช่วงนี้ขนมปังจิ๋วมาแรงไม่ไหว G&C ก็ไม่รอช้าแจกสูตรให้ลูกเพจนำไปทำตามทำขายกันเลย   ส่วนผสมขนมปัง แป้งขนมปัง 1 ถ้วย แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย น้ำตาลเบเกอรี่ 2 ช้อนโต๊ะ ยีสต์ผง 2 1/4 ช้อนชา เกลือป่น 1/8 ช้อนชา ไข่ไก่ 1 ฟอง น้ำอุ่น 1/3 ถ้วย เนยสดเค็ม 3 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมสังขยาใบเตย ไข่แดง 2 ฟอง น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย เกลือ 1/4 ช้อนชา แป้งข้าวโพด 1/4 ถ้วย กะทิ 2/3 ถ้วย วิธีทำ ผสมแป้งขนมปัง แป้งสาลี น้ำตาล ยีสต์ และเกลือ คนให้เข้ากัน ผสมไข่ไก่กับน้ำอุ่นให้เข้ากัน เทใส่ส่วนผสมแป้ง คนให้เข้ากัน ใส่เนย นวดให้เข้ากันจนแป้งเนียน พักแป้งไว้ 1 ชั่วโมงจนขึ้นเป็น 2 เท่า ขณะพักแป้งขนมปัง ทำสังขยาโดยผสมไข่แดง น้ำตาลทราย และเกลือ คนให้เข้ากัน ใส่แป้งข้าวโพด คนให้เข้ากัน ใส่น้ำใบเตย และกะทิ คนต่อให้เข้ากัน ตุ๋นสังขยาบนน้ำร้อน คนเรื่อยๆ จนส่วนผสมสุกข้น ยกลง พักไว้ นำแป้งขนมปังที่พักได้ที่แล้วมาไล่อากาศ แบ่งเป็นก้อนละ 15 กรัม คลึงเป็นก้อนรีๆ เรียงใส่ถาดอบ พักแป้งไว้ 10 นาทีจนแป้งขึ้นฟู ทาหน้าขนมปังด้วยนมสด นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 165 องศาเซลเซียส เวลา 20 นาทีจนสุก ทาหน้าขนมปังด้วยเนยสด พักไว้ จัดเสิร์ฟโดยผ่าขนมปังตามยาว ตักสังขยาใส่ตรงกลาง ใส่จานเสิร์ฟ

ของกินเล่นทำง่ายจากแป้งเปาะเปี๊ยะ สอดไส้ทูน่าไข่และชีส ทอดจนเหลืองกรอบ กินเพลินๆ   ส่วนผสม ปลาทูน่ากระป๋องในน้ำแร่ 1 กระป๋อง ไข่ไก่เบอร์สาม 2 ฟอง แครอตสับ 1/4 ถ้วย หอมหัวใหญ่สับ 1/4 ถ้วย ต้นหอมซอย 1 ต้น แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ ชีสมอซซาเรลลาขูด 1/4 ถ้วย แป้งเปาะเปี๊ยะ น้ำมันสำหรับทอด วิธีทำ เทน้ำแร่ออกจากเนื้อปลาทูน่า ใส่ชามผสมไว้ ใส่แครอต หอมหัวใหญ่ ต้นหอมซอย แป้งข้าวโพด ผสมให้เข้ากัน ใส่ไข่ไก่และชีส คลุกให้เข้ากัน ตัดแป้งเปาะเปี๊ยะให้เป็นแผ่นขนาด 3×8 นิ้ว แผ่แป้งเปาะเปี๊ยะ ใส่ส่วนผสมทูน่าแล้วม้วนให้แน่น ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่เปาะเปี๊ยะลงทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน เสิร์ฟกับน้ำจิ้ม

ส่วนผสมส่วนฐาน (สำหรับ 10 ชิ้น) อัลมอนด์ 1 ถ้วย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 ถ้วย วอลนัต 1/2 ถ้วย แมกคาเดเมีย 1/2 ถ้วย เกล็ดมะพร้าวอบแห้ง 1 ถ้วย ผงมาคา (Maca Powder) 2 ช้อนโต๊ะ ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ เนื้ออินทผลัมแช่น้ำจนนิ่ม 1 ถ้วย เนยถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ นมอัลมอนด์ 2-3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่น (ยกเว้นนมอัลมอนด์) ปั่นให้พอเข้ากัน จากนั้นค่อยๆ ใส่นมอัลมอนด์ ปั่นต่อให้ส่วนผสมพอเข้ากัน  ตักใส่ถาดที่รองด้วยกระดาษไข นำไปแช่ในตู้เย็นจนเซ็ตตัว ส่วนผสมบนหน้า ราสป์เบอร์รีแช่แข็ง 2 ถ้วย ผงอาซาอิ (Acai Powder) 2 ช้อนโต๊ะ เมเปิลไซรัป 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ เกล็ดมะพร้าวอบแห้ง 3/4 ถ้วย เมล็ดเจีย 1/4 ถ้วย เนยถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1/2 ถ้วย กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา ถั่วและธัญพืชสำหรับตกแต่งตามชอบ วิธีทำ ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันจนเนื้อเนียนและข้นขึ้นเล็กน้อย  เทใส่บนหน้าถั่ว (ส่วนฐาน) ใช้สปาตูลาเกลี่ยให้เรียบ ตกแต่งด้วยถั่วและเมล็ดธัญพืชต่างๆ ให้สวยงาม นำไปแช่ช่องแช่แข็งนาน 2 ชั่วโมง หรือจนเซ็ตตัว ตัดให้เป็นชิ้นพอดีคำ เสิร์ฟทันที

ส่วนผสม (สำหรับ 10-12 ชิ้น) อินทผลัมแกะเม็ด 1 ถ้วย เมเปิลไซรัป 2 ช้อนโต๊ะ ข้าวโอ๊ตบดหยาบ 1/2 ถ้วย กล้วยตากหั่นเต๋า 1/2 ถ้วย พิสตาชิโอ 1/2 ถ้วย ควินัวพัฟส์ 1/3 ถ้วย อัลมอนด์ 1/2 ถ้วย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1/2 ถ้วย พิสตาชิโอสับ 1/2 ถ้วย      วิธีทำ แช่เนื้ออินทผลัมในน้ำอุ่นประมาณ 30 นาที พักไว้จนเนื้อนิ่ม ปั่นเนื้ออินทผลัมและกล้วยตากกับเมเปิลไซรัปพอหยาบ ใส่ข้าวโอ๊ต ปั่นต่อสักครู่ ใส่ถั่วต่างๆ และเมล็ดควินัวพัฟส์ คลุกให้พอเข้ากัน ตักใส่ถาดที่รองด้วยกระดาษไข นำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมงจนเซ็ตตัว ตัดเสิร์ฟให้เป็นชิ้นขนาดตามชอบ

ส่วนผสม (สำหรับ 10-12 ชิ้น) แอปริคอตแห้ง 200 กรัม เมเปิลไซรัป 4 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะพร้าว 100 กรัม ข้าวโอ๊ต 200 กรัม ขิงขูด 2 ช้อนโต๊ะ เฮเซลนัตสับ 60 กรัม พิสตาชิโอสับ 60 กรัม เมล็ดฟักทอง 45 กรัม  ดาร์กช็อกโกแลต (ละลาย) 80 กรัม วิธีทำ ปั่นแอปริคอต เมเปิลไซรัป และน้ำมันมะพร้าวให้พอหยาบ ใส่ข้าวโอ๊ตและขิงขูด ปั่นต่อสักครู่พอเข้ากัน เทใส่ชามผสม ใส่เฮเซลนัต พิสตาชิโอ และเมล็ดฟักทอง คลุกผสมให้ทั่ว ตักใส่ถาดสี่เหลี่ยมขนาด 8×8 นิ้วที่รองด้วยกระดาษไข เกลี่ยแล้วกดให้แน่นจนทั่ว ตกแต่งด้วยแอปริคอตและถั่วต่างๆ แช่ไว้ในตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมงจนเซ็ตตัว นำออกจากตู้เย็น ตัดให้เป็นแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้า เคลือบส่วนปลายขนมด้วยดาร์กช็อกโกแลตละลาย แช่ในตู้เย็นไว้จนช็อกโกแลตเซ็ตตัว จัดใส่จานเสิร์ฟ

ของกินเล่นที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสตูล ไส้ทำจากเนื้อปลานำมาผัดปรุงรสจนแห้ง ห่อกับแป้งเปาะเปี๊ยะด้วยการผูกให้เป็นปม นำไปทอดจนเหลืองกรอบ   ส่วนผสม ปลาทูนึ่งแกะเอาแต่เนื้อ 2 ตัว เครื่องพริกแกงเผ็ด 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1/4 ช้อนชา น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย น้ำมันพืชสำหรับผัด 1 1/2 ช้อนโต๊ะ แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะ น้ำมันสำหรับทอด วิธีทำ เตรียมไส้ปลาโดยผัดเครื่องพริกแกงเผ็ดกับน้ำมันให้หอม ใส่เนื้อปลาทู น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำเปล่า ผัดให้เข้ากันจนส่วนผสมแห้งล่อนออกจากกระทะ พักไว้ ตัดแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะให้มีขนาด 3.5×8 เซนติเมตร ใส่ไส้ปลาผัดตรงกลางเล็กน้อย พับแล้วผูกเป็นปม ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่ขนมผูกรักลงทอดให้สุกเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน 

ชวนทำเมนูกินเล่นจากเฟรนช์ฟรายส์ หอมมันด้วยชีสและวิปปิงครีม อร่อยเพลินได้ทุกวัน   ส่วนผสม ชีสเชดดาร์ขูด 1/2 ถ้วย ชีสมอซซาเรลลาขูด 1/2 ถ้วย เบคอนทอดกรอบ 1/2 ถ้วย ต้นหอมซอย 1 ต้น ไข่ไก่ 2 ฟอง วิปปิงครีม 1/2 ถ้วย เกลือป่น 1/4 ช้อนชา พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา เฟรนช์ฟรายส์ตามชอบ วิธีทำ เตรียมส่วนผสมไข่โดยผสมไข่ไก่กับวิปปิงครีม ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย คนให้เข้ากัน พักไว้ ตัดและเรียงเฟรนช์ฟรายส์รอบๆ ถาดพิมพ์มัฟฟิน และใส่เฟรนช์ฟรายส์หั่นเต๋า   ใส่ชีสและเบคอนโดยใส่สลับชั้นกันให้เต็ม ใส่ส่วนผสมไข่ โรยต้นหอม นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส เวลา 20 นาทีจนส่วนผสมสุก   นำเฟรนช์ฟรายส์ออกจากพิมพ์ จัดใส่จานเสิร์ฟกับซอสตามชอบ

เบือทอด สูตรนี้ดัดแปลงจากหญ้าช้องมาใช้เป็นใบชะพลูที่หาได้ง่ายกว่า ความกรอบของแป้งมาจากส่วนผสมของแป้งข้าวเจ้าและน้ำปูนใส ปกติจะใช้กุ้งฝอย แต่ปัจจุบันหาซื้อยาก จึงปรับมาใช้เป็นกุ้งขาวตัวเล็กแทน   ส่วนผสม ใบชะพลู 20 ใบ กุ้งขาว 20 ตัว แป้งข้าวเจ้า 85 กรัม แป้งสาลีอเนกประสงค์ 35 กรัม พริกแกงใต้ 2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปูนใส 100 มิลลิลิตร น้ำสะอาด 65 มิลลิลิตร ใบมะกรูด (ซอย) 5 ใบ น้ำมันพืชสำหรับทอด น้ำจิ้ม   น้ำจิ้มไก่ 1/2 ถ้วย ผักชี 2 ช้อนโต๊ะ พริกจินดา 1 เม็ด ถั่วลิสง (คั่ว) สำหรับเสิร์ฟ พริกชี้ฟ้า (ซอย) สำหรับเสิร์ฟ  วิธีทำ ละลายแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลี พริกแกงใต้ น้ำตาลทราย และน้ำปลากับน้ำสะอาด ค่อยๆ ใส่น้ำปูนใสตามลงไป พัก 10 นาที ตั้งน้ำมันสำหรับทอดที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใส่ใบมะกรูดซอยลงในแป้งชุบทอด นำใบชะพลูลงชุบในแป้งบางๆ ใส่ลงในน้ำมัน ชุบกุ้งในแป้งแล้ววางลงบนใบชะพลู สักครู่ก็พลิกกลับด้าน ทอดให้สุกและกรอบดี สะเด็ดน้ำมัน พักไว้ ปั่นน้ำจิ้มไก่กับผักชีและพริกจินดา จัดเสิร์ฟเบือ โรยหน้าด้วยพริกชี้ฟ้า รับประทานกับน้ำจิ้ม โรยหน้าด้วยถั่วลิสง

เมนูของกินเล่นที่นำเอาแป้งชูร์โรสมาพันรอบไส้กรอกแล้วทอดให้เหลือง คลุกกับน้ำตาลผสมอบเชยป่น หรือกินกับซอสก็อร่อยถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่   ส่วนผสม เนยสดรสเค็ม 3/4 ถ้วย น้ำเปล่า 1 1/2 ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 1/2 ถ้วย เกลือป่น 1/4 ช้อนชา ไข่ไก่เบอร์สอง 3 ฟอง ไส้กรอกยาว 4 นิ้ว 15 ชิ้น        น้ำมันพืชสำหรับทอด วิธีทำ ใส่น้ำเปล่า เนยสด เกลือ และน้ำตาลทรายลงในหม้อ ตั้งไฟให้เดือดและเนยละลายหมด ใส่แป้งสาลี คนเร็วๆ ให้เข้ากัน ยกลง คนแป้งต่อให้คลายความร้อน ใส่ไข่ทีละฟอง คนให้เข้ากัน ตักแป้งใส่ถุงบีบ เตรียมไว้ นำไส้กรอกเสียบไม้ เตรียมไว้ ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำแป้งมาบีบบนไส้กรอกแล้ววนให้รอบจนพันไส้กรอก ใส่ลงทอดในน้ำมันร้อน จนสุกเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน ผสมน้ำตาลกับผงอบเชยเข้าด้วยกัน นำไส้กรอกชูร์โรสคลุกให้ทั่ว จัดใส่จาน หรือถ้าไม่คลุกกับน้ำตาล จัดเสิร์ฟกับซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศได้ตามชอบ

หอมกรอบอร่อยด้วยเมนู พริกหยวกสอดไส้หมูทอด ทำง่ายกินเพลิน   ส่วนผสม พริกหยวกหรือพริกยำ 7-8 ลูก หมูบดติดมัน 200 กรัม รากผักชี กระเทียม พริกไทยตำละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม 2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา แป้งชุบทอด 1 ถ้วย น้ำเย็น 1 ถ้วย น้ำมันสำหรับทอด       วิธีทำ หั่นพริกเป็นแว่น คว้านเมล็ดออก เรียงใส่จาน ผสมเนื้อหมูบดกับรากผักชี กระเทียม พริกไทยตำละเอียด ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม และน้ำตาลทราย ผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถุงบีบ บีบส่วนผสมหมูบดใส่ตรงกลางพริก ผสมแป้งชุบทอดกับน้ำเย็น คนให้เข้ากัน นำพริกใส่ไส้หมูลงชุบแป้ง ใส่ลงทอดในน้ำมันร้อนจนสุกเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน   จัดพริกทอดใส่จาน เสิร์ฟกับน้ำจิ้มไก่ 

อาหารประเภทสตรีทฟู้ดในสหรัฐอเมริกาและในยุโรปมักเป็นพวกขนมทั้งหวานและเค็ม ซึ่งจะเห็นขายกันในช่วงเทศกาลสำคัญตามสวนสนุกและงานแฟร์ (Country Fair) ในสหรัฐอเมริกาสตรีทฟู้ดที่มีขายในงานแน่นอนคือ Corn Dog ซึ่งทำง่ายมาก มีไม้เสียบไว้ให้ถือทาน ส่วนมากจะทอดในน้ำมันร้อนท่วม ปัจจุบันผู้คนรักษาสุขภาพกันมากขึ้นจึงใช้วิธีอบในหม้อ Air Fryer เพราะเร็วและขนย้ายอุปกรณ์สะดวก ถึงแม้สีจะไม่สวยเท่าทอดในน้ำมัน   นอกจาก Corn Dog ของที่วางขายคู่กันคือ Funnel Cake Fries ขนมนี้เป็นเค้กทอดที่เทแป้งผ่านกรวย (ซึ่งเรียกว่า Funnel) มีทั้งบีบเป็นเส้นเล็ก เส้นใหญ่ตามขนาดของกรวย บางร้านก็เส้นหนาใหญ่ ปัจจุบันส่วนมากจะบีบจากถุงบีบ เมื่อทอดจะมีกลิ่นหอมกระจายไปทั่วจนเรียกคนเข้าไปต่อคิวซื้อกันยาว   ขนมนี้ผิวนอกกรอบนิดๆ เนื้อในนุ่ม จะใส่ส่วนผสมเป็นรสตามชอบก็ได้ พอทอดเสร็จก็โรยน้ำตาลไอซิง หรือจิ้ม Caramel Sauce หรือ Marshmallow Fluff ที่ใส่ในกระทงกระดาษ ปัจจุบันมีพิมพ์ Corn Dog ชนิดไฟฟ้าแบบเดียวกับพิมพ์วัฟเฟิลที่สะดวกกว่าการอบหรือทอดหลายเท่า   ถ้าใครจัดงานนึกสนุกอยากลองทำดูก็ได้   Corn Dog & Funnel Cake Fries ส่วนผสม Corn Dog แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม แป้งข้าวโพดบดหยาบ (Cornmeal) 100 กรัม ผงฟู 2 ช้อนชา เบกกิงโซดา 1/2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา เกลือ 1/2 ช้อนชา บัตเตอร์มิลก์ (Buttermilk) 3/4 ถ้วย ไข่เบอร์ 0 2 ฟอง แป้งสาลีและขนมปังป่นสำหรับคลุก Cooking Spray สำหรับฉีดหม้อทอดเพื่อไม่ให้แป้งติด ไส้กรอกแท่งยาวตามชอบ วิธีทำ ตีไข่กับบัตเตอร์มิลก์ พักไว้ ผสมแป้งสาลี แป้งข้าวโพดบดหยาบ ผงฟู เบกกิงโซดา น้ำตาลทราย และเกลือ กับส่วนผสมบัตเตอร์มิลก์ให้เข้ากัน เทใส่ชามหรือกระบอกทรงสูง (เพื่อให้แป้งติดไส้กรอกได้ทั่ว) นำไส้กรอกเสียบไม้ คลุกแป้งสาลีบางๆ และชุบลงในส่วนผสมแป้งให้เคลือบไส้กรอกทั่วชิ้น คลุกขนมปังป่น วางลงในหม้อ Air Fryer ที่ฉีดน้ำมันเพื่อไม่ให้ติด อบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส นาน 8-9 นาที พออบได้ครึ่งเวลากลับด้านและฉีดน้ำมันอีกครั้ง ถ้าทอดในน้ำมันไม่ต้องคลุกขนมปังป่นก็ได้ ชุบแป้งแล้วทอดได้เลย ถ้าใช้พิมพ์ไฟฟ้า หยอดส่วนผสมลงในพิมพ์ วางไส้กรอกที่เสียบไม้ ปิดฝาเครื่อง เวลาที่ใช้ปิ้งแล้วแต่เครื่อง ส่วนผสม Funnel Cake Fries แป้งสาลีอเนกประสงค์ 260 กรัม ผงฟู 1 ช้อนชา เกลือ 1/2 ช้อนชา ไข่เบอร์ 0 2 ฟอง น้ำตาลทราย 50 กรัม นม 190 กรัม วานิลลา 1 ช้อนชา วิธีทำ ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ และน้ำตาลทราย พักไว้ ตีไข่กับนมให้พอเข้ากัน ผสมส่วนแป้งและส่วนนมให้เข้ากัน เติมวานิลลา เทใส่กรวย หยอดลงทอดในน้ำมันอุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส พอเหลืองกลับด้าน พอทอดเสร็จโรยน้ำตาลไอซิง และจิ้ม Caramel Sauce หรือ Marshmallow Fluff ส่วนผสม Caramel Sauce น้ำตาลทราย 200 กรัม เนย 90 กรัม  วิปปิงครีม 120 กรัม เกลือตามชอบ วิธีทำ ใส่น้ำตาลในหม้อก้นหนา ตั้งไฟปานกลางจนน้ำตาลละลายและเป็นสีน้ำตาลอ่อน (เขย่าหม้อได้แต่ห้ามคน) ยกหม้อลงจากเตา ใส่วิปปิงครีม ใช้ตะกร้อมือคนจนเข้ากันดี เติมเนย คนให้ทั่วและตั้งไฟอีกครั้งจนเนยเข้ากับน้ำตาลเป็นเนื้อเดียวกัน ต้องคนตลอด ปิดไฟ เติมเกลือ

ไชเท้าทอดกรอบ เข้าไปดูคนจีนนึ่งหัวไชเท้าแล้วรู้สึกว่าอยากกิน แต่เป็นคนชอบของกินกรอบๆ ก็เลยเอามาคลุกเกล็ดขนมปังทอดอร่อยดีค่ะ   ส่วนผสม หัวไชเท้าแบบไม่ขื่นประมาณ 800 กรัม (ฝนเป็นเส้น) แครอตฝนประมาณ 100 กรัม (ฝนเป็นเส้น) เกลือ 1 ช้อนชา ไข่ 1 ฟอง แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น ส่วนผสมสำหรับผัด ต้นหอม 2 ต้น (ซอยสั้นๆ) ผักชี 1 ต้น (ซอยสั้นๆ) กระเทียมจีน 3 กลีบ (สับ) เห็ดหอมแห้ง 2-3 ดอก (แช่น้ำให้นิ่ม หั่นฝอย) ขิงประมาณ 10 กรัม (หั่นฝอย) กุ้งแห้งฝอย 2 ช้อนโต๊ะ (ล้างน้ำแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ถ้ากุ้งแห้งตัวใหญ่ให้แช่น้ำแล้วสับ) หมูสับ 100 กรัม (หมักกับซีอิ๊วฉูปัง 2 ช้อนชา ซอสหอยนางรม 1 ช้อนชา และพริกไทยนิดหน่อย ขยำให้เข้ากัน หมักไว้สักครู่) น้ำมันหมู 1 1/2 ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม 2 ช้อนชา ฉูปัง หรือซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา เหล้าจีน 2 ช้อนชา น้ำมันงา 2 ช้อนชา ส่วนผสมสำหรับทอด แป้งทอดกรอบ ไข่ (ตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน) เกล็ดขนมปังขนาดเล็ก น้ำมันพืชสำหรับทอด วิธีทำ หมักหมูสับ พักไว้ คลุกไชเท้าและแครอตกับเกลือ หมักให้คายน้ำ เตรียมผัดเครื่องให้สุกหอมโดยผัดเห็ดหอมและขิงกับน้ำมันหมูให้มีกลิ่นหอม ใส่กระเทียมลงไปผัดพอเหลือง ใส่หมูสับที่หมักไว้ลงไป ผัดพอสุก ใส่กุ้งแห้งฝอย ปรุงรสและกลิ่นด้วยฉูปังหรือซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย เหล้าจีน และน้ำมันงา ผัดให้เข้ากัน ใส่ต้นหอมผักชี ปิดไฟ พักไว้ บีบน้ำออกจากไชเท้าและแครอต กดแน่นๆ แต่ไม่ต้องขยำ ใส่แป้งทั้ง 2 ชนิด ไข่ไก่ พริกไทยป่น และเครื่องผัด นวดจนเป็นเนื้อแน่น แบ่งเป็นก้อนเล็กๆ แล้วจี่ในกระทะ ชิมรสให้อร่อย ปรุงรสตามชอบนะคะ จากนั้นปั้นเป็นก้อนกลมๆ เล็กกว่าลูกปิงปองนิดหน่อย วางบนถาดที่ทาน้ำมันบางๆ นึ่งพอสุก ถ้าชอบกินแบบนึ่งก็เอาไปจิ้มซีอิ๊วปรุงรสได้เลยค่ะ แต่ถ้าชอบแบบทอดก็มาจัดการขั้นต่อไป คลุก Radish Balls กับแป้งทอดกรอบบางๆ นำไปชุบไข่แล้วคลุกกับเกล็ดขนมปัง วางเรียงไว้ ใส่น้ำมันพืชปริมาณมากๆ ลงในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อนประมาณอุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส (ทดลองเอาตะเกียบไม้จุ่ม จะมีฟองมาเกาะ หรือเอาเกล็ดขนมปังผสมไข่หย่อนลงไป ถ้าลงไปถึงก้นกระทะแปลว่าน้ำมันยังไม่ร้อนพอ ถ้าลงไปครึ่งหนึ่งแล้วเด้งขึ้นมาแปลว่าพอดี) ทอด Radish Balls ให้แป้งเหลืองกรอบ สูตรนี้จิ้มกับน้ำจิ้มไก่อร่อยดีค่ะ

แคบหมูป๊อปชิ้นขนาดพอคำ สูตรไม่ต้องแช่หนังหมูในน้ำมัน หนังฟูกรอบเคี้ยวเพลิน กินกับอะไรก็อร่อย ทั้งส้มตำ ทำกินกับยำมะม่วง หรือนำไปทำเป็นน้ำพริกคลุกข้าวร้อนๆ ก็อร่อย    ส่วนผสม หนังหมูติดมัน 1,250 กรัม น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 2 ช้อนชา วิธีทำ หั่นหนังหมูติดมันเป็นชิ้นขนาด 1/2 นิ้ว ใส่ลงในชามผสม ใส่น้ำส้มสายชู และเกลือ คลุกให้เข้ากัน ตั้งกระทะใส่หนังหมูติดมันลงเจียวให้หอมและน้ำมันออก จนกากหมูเป็นสีน้ำตาลอ่อน ตักกากหมูขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน พักไว้ให้เย็น ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ตั้งน้ำมันให้ร้อนอีกครั้ง ใส่กากหมูที่พักไว้ลงทอดให้หนังหมูพองกรอบและเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน นำแคบหมูใส่ชามผสม โรยเกลือเล็กน้อย คลุกให้เข้ากัน 

ชิกเกนชอป เป็นส่วนน่องสะโพกไก่ ชุบเกล็ดขนมปังแล้วทอด เป็นอาหารที่นิยมในมาเลเซีย อย่างในซูเปอร์มาร์เก็ตจะมีชิกเกนชอปในรูปแบบแช่แข็งขายมากมาย นิยมรับประทานกับซอสข้นๆ พร้อมกับข้าว หรือมันทอดแล้วแต่ความชอบ สำหรับสูตรนี้เสิร์ฟชิกเกนชอปมากับผัดหอมหัวใหญ่และพริกหวานผัด ซอสที่หวานด้วยรสของมะเขือเทศ   ส่วนผสมชิกเกนชอป เนื้อสะโพกไก่ 400 กรัม เกลือ 1/2 ช้อนชา ไข่ไก่ 1 ฟอง แป้งข้าวโพด 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา เกล็ดขนมปังป่น 80 กรัม น้ำมันพืชสำหรับทอด ส่วนผสมซอสหอมหัวใหญ่พริกหวาน น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมซอย 1 กลีบ พริกหวานแดงซอย 1 ลูก หอมหัวใหญ่ซอย 100 กรัม มะเขือเทศหั่นชิ้น 2 ผล ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ ซอสวูสเตอร์ 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศ 4 ช้อนโต๊ะ ซอสพริก 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา เกลือ 1/4 ช้อนชา น้ำสะอาด 100 มิลลิลิตร วิธีทำ ตีไข่ไก่กับเกลือ แป้งข้าวโพด และน้ำมันงา นำไปหมักชิ้นไก่ไว้ 1 ชั่วโมง ตั้งน้ำมันที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส นำชิ้นไก่ลงชุบเกล็ดขนมปังลงทอดจนสุกดี ประมาณ 6-8 นาที สะเด็ดน้ำมัน พักไว้ ทำซอสโดยผสมซอสหอยนางรม ซอสวูสเตอร์ ซีอิ๊วขาว ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก พริกไทยดำ เกลือ และน้ำสะอาด เตรียมไว้ ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ผัดหอมหัวใหญ่ พริกหวาน และกระเทียมประมาณ 5 นาทีจนหอมนุ่ม ใส่ส่วนผสมซอส และมะเขือเทศลงไป เคี่ยวต่อจนผักนุ่มและซอสข้นดี หั่นชิ้นไก่ จัดเสิร์ฟใส่จาน ราดซอสที่เตรียมไว้

ส่วนผสมสำหรับหมักเนื้อ (สำหรับ 2-4 ที่) เนื้อวากิว 250 กรัม หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยขาว 1 ช้อนชา  น้ำปลา 1 ช้อนชา แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนโต๊ะ ใบชะพลู 15-20 ใบ เมล็ดพริกไทยสด                                   ส่วนผสมน้ำจิ้ม น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2  ช้อนโต๊ะ ซอสพริก 4 ช้อนชา ถั่วลิสงคั่วสับใส่ตามชอบ   วิธีทำ ตำหอมแดง ตะไคร้ และเมล็ดพริกไทยขาวรวมกันพอหยาบ นำไปคลุกกับเนื้อวากิวหั่นชิ้นยาวพอดีคำให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่แป้งมันสำปะหลัง คลุกให้เข้ากันดี หมักไว้ประมาณ 30 นาที ห่อเนื้อที่หมักไว้ด้วยใบชะพลู ใส่เมล็ดพริกไทยสดประมาณ 5-7 เมล็ด แล้วม้วนให้แน่น ทำน้ำจิ้มโดยผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ชิมรส ปรุงรสตามชอบ ย่างเนื้อโดยทาน้ำมันเล็กน้อยบนใบชะพลู นำไปย่างบนกระทะด้วยไฟปานกลางให้สุก ยกลงเสียบไม้ เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มและผักสด  

ลองเปลี่ยนจากเมนูฟักทองนึ่งเป็นฟักทองอบจนสุกเหลืองกำลังดี ให้ทั้งกลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสเหนียวหนึบ ราดด้วยซอสโยเกิร์ตผสมกับกระเทียมและผักชีลาว (Dill) ให้ความรู้สึกสดชื่น พร้อมเนื้อกรุบกรอบและรสมันๆ ของไพน์นัต   ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) ฟักทอง 1/2 ผล น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเลและพริกไทยดำเล็กน้อย ไพน์นัตคั่ว และผักชีลาวสำหรับโรยตกแต่งเล็กน้อย ส่วนผสมซอสโยเกิร์ต โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย ผักชีลาวสับ 1 ช้อนชา กระเทียมสับ 1 ช้อนชา น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเลสำหรับปรุงรสเล็กน้อย น้ำมันมะกอกสำหรับโรยหน้าเล็กน้อย วิธีทำ หั่นฟักทองติดเปลือก (ไม่เอาเมล็ด) ตามยาว หนาประมาณ 3 เซนติเมตร เรียงใส่ถาดที่รองด้วยกระดาษรองอบ พรมน้ำมันมะกอกเล็กน้อย โรยเกลือและพริกไทยดำ คลุกให้ทั่ว นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 25-30 นาทีจนสุกเหลืองสวย แล้วพักให้เย็น ลอกเปลือกฟักทองออก หั่นให้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ ทำซอสโยเกิร์ตโดยผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยน้ำเลมอน ชิมรส นำเนื้อฟักทองใส่จานเสิร์ฟ ราดซอสโยเกิร์ต โรยไพน์นัตคั่วและน้ำมันมะกอกเล็กน้อย ตกแต่งด้วยผักชีลาวให้สวยงาม

เมนูกินเล่น ทำง่าย ที่ได้นอกจากจะอร่อยแล้วยังได้ประโยชน์จากผักกาดขาวอีกด้วย ตอบโจทย์น้องๆ หนูๆ ที่ไม่ชอบกินผักแน่นอน   ส่วนผสม (10 ชิ้น) ผักกาดขาวแกะใบใหญ่ๆ 10 ใบ        มันฝรั่งต้มสุกบด 1 หัวใหญ่ เนื้อไก่ต้มฉีก 1 ถ้วย แครอตขูดเส้น 1/4 ถ้วย ต้นหอมซอย 1 ต้น เกลือป่น 1/2 ช้อนชา พริกไทยป่น 1 ช้อนชา ชีสมอซซาเรลลาขูด 1 ถ้วย เกล็ดขนมปังป่น 1 1/2 ถ้วย ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน 2 ฟอง น้ำมันสำหรับทอด   วิธีทำ ใส่ผักกาดขาวในชามใหญ่ เทน้ำเดือดใส่ แล้วแช่ไว้จนผักนิ่ม ผสมมันบด เนื้อไก่ฉีก ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย คลุกให้เข้ากัน ใส่แครอตซอย ต้นหอมซอย ชีสมอซซาเรลลา คลุกอีกครั้งให้เข้ากัน นำผักกาดขาวขึ้นจากน้ำร้อน ตัดก้านสีขาวของผักกาดขาวออกเล็กน้อย ตักส่วนผสมมันบดใส่ตรงกลาง ห่อให้มิด พักไว้ ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อน นำผักกาดขาวที่ห่อไส้แล้วมาชุบไข่และคลุกเกล็ดขนมปังให้ติดทั่ว ใส่ลงทอดให้สุกเหลือง ตักขึ้น พักไว้ จัดใส่จานเสิร์ฟกับมายองเนสผสมซอสมะเขือเทศ 

เมนูสตรีทฟู้ดยอดฮิต หอมมันกะทิ ทำกินง่ายทำขายคล่อง  ส่วนผสมแป้งขนมครก แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ กะทิ 3/4 ถ้วย เกลือป่น 1/8 ช้อนชา ส่วนผสมหน้ากะทิ แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ หัวกะทิ 1/2 ถ้วย น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1/8 ช้อนชา ต้นหอมซอย ข้าวโพดต้มสุก วิธีทำ ทำแป้งขนมครกโดยผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลี เกลือ น้ำตาลทราย และกะทิ คนให้เข้ากัน พักไว้ ทำหน้ากะทิโดยผสมแป้งข้าวเจ้า เกลือ น้ำตาลทราย และหัวกะทิ คนให้เข้ากัน ตั้งกระทะเทฟลอนทาน้ำมันเล็กน้อย แล้วหยอดแป้งขนมครกลงในกระทะ พอแป้งเริ่มสุก หยอดหน้ากะทิ โรยต้นหอมซอย เม็ดข้าวโพดต้มสุก พอแป้งเริ่มสุก ม้วนขนม ตัดใส่จาน เสิร์ฟ

สายชีสต้องร้องว้าวกับเมนูนี้ เนื้อขนมปังมันฝรั่งนุ่มๆ นวลละมุนหอมมันเข้ากับชีสเยิ้มๆ ด้านใน กินเพลินจนหยุดไม่อยู่ ส่วนผสม มันฝรั่งหัวใหญ่ 2 หัว แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 1/2 ถ้วย น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมไส้ มันฝรั่งหัวใหญ่ 1 หัว มายองเนส 2 ช้อนโต๊ะ ชีสมอซซาเรลลา 1 1/2 ถ้วย วิธีทำ หั่นมันฝรั่งทั้ง 2 ส่วน เป็นชิ้นใหญ่ นำไปต้มให้สุก ตักมันฝรั่งต้มสุก 2 หัว ใส่ชามผสม บดให้ละเอียด ใส่แป้งสาลี นวดให้เข้ากัน พักไว้ เตรียมไส้โดยบดมันฝรั่งต้มที่เหลือให้ละเอียด ใส่มายองเนส ผสมให้เข้ากัน นำส่วนผสมแป้งมารีดให้เป็นแผ่น ใส่ชีส ตามด้วยส่วนผสมมันบด แล้วโรยชีสอีกครั้ง รวบแป้งปิดไส้ให้มิด กลับเอาด้านที่รวบแป้งลง กดให้แบน แล้วใช้ไม้รีดแป้งรีดให้แบน ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน ทาน้ำมันบางๆ ใส่ขนมปังลงทอดให้สุกเหลือง กลับอีกด้านลงทอดให้สุกเหลือง ตัดเป็นชิ้นใส่จาน โรยพาร์สลีย์ เสิร์ฟร้อนๆ

เคยกินแต่กุยช่ายแป้งหนานุ่ม ลองเปลี่ยนมากินแบบแผ่นบางกรอบ จิ้มน้ำจิ้มสูตรเด็ด รับรองว่ากินเพลินถูกใจแน่นอน ส่วนผสม กุยช่าย 180 กรัม แป้งข้าวเหนียว 3 ช้อนโต๊ะ แป้งมัน 1/4 ถ้วย แป้งข้าวเจ้า 3/4 ถ้วย เกลือป่น 1/4 ช้อนชา น้ำมันรำข้าว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด 3/4 ถ้วย วิธีทำ หั่นต้นกุยช่ายยาว 1 เซนติเมตร ใส่ชามผสมไว้ ใส่เกลือและน้ำมันรำข้าว คลุกให้เข้ากัน ขยำให้ผักช้ำ พักไว้ ผสมแป้งข้าวเหนียว แป้งมัน แป้งข้าวเจ้า และน้ำสะอาด คนให้เข้ากัน ใส่กุยช่าย คนให้เข้ากัน เทใส่ถาดที่ทาน้ำมัน นำไปนึ่งในน้ำเดือดจนสุก ตัดเป็นชิ้น ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อน ใส่กุยช่ายนึ่งลงทอดจนเหลืองกรอบ ตักใส่จาน เสิร์ฟกับน้ำจิ้ม